ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

8 ขั้นตอนในการกู้คืนระบบเครือข่ายขององค์กร จากเหตุร้ายที่คุณไม่คาดฝัน!

เริ่มโดย Jenny937, 22:47 น. 13 มี.ค 65

Jenny937

การวางเป้าหมายรองรับเหตุนึกไม่ถึง รวมทั้งภาวะหยุดชะงักสำหรับเพื่อการให้บริการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเนื่องด้วยสายเคเบิลใต้น้ำ, โครงข่ายภาคพื้นดิน, หรือระบบดาวเทียมนั้น จำเป็นมากสำหรับผู้จัดการด้านไอทีในองค์กร การปรับปรุงแผนรับมืออยู่เสมอก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตัวเลือกสำหรับการแบ๊กอัพเพิ่มจากก่อนหน้ามากมาย

อย่างเหตุภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำที่ตัดขาดลิงก์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหนึ่งเดียวไปยังประเทศโคนงก้า ที่เป็นเกาะกลางสมุทรเมื่อเดือนก่อนนั้น ถือเป็นสัญญาณเตือนให้เหล่าผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วทั้งโลกจะต้องหันมาทบทวนแผนแบ๊กอัพแล้วก็กู้คืนระบบกันใหม่ ทั้งด้านองค์ประกอบเบื้องต้นเน็ตเวิร์กและก็วัสดุอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

ไม่ว่าต้นเหตุของเรื่องไม่ประสงค์จะมาจากรถแบ๊กโฮไปตัดโดยสาย, จากอาชญากรรม, หรือเรื่องบังเอิญอื่นที่เดามิได้ หน่วยงานทั้งหลายก็ต้องมีแผนสำหรับการสำรองสำหรับทุกพื้นที่ที่จำเป็นไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็ก อยู่ใกล้หรือกระจัดกระจายทั้งโลก เพื่อลดการสิ้นไปให้สูงที่สุดดังต่อไปนี้

ขั้นที่ 1 กางแผนที่ลิงก์ของผู้ให้บริการดู
ถ้าผู้ให้บริการโครงข่ายของคุณยังไม่เคยให้แผนที่การเชื่อมต่อ รวมทั้งแผนสำรองสำหรับบริการที่คุณใช้อยู่ ก็จำเป็นต้องบีบคั้นเอามาให้ได้ เพื่อจะได้ใช้มองหาข้อเสียในแผนของคุณ ระวังว่าถึงจะใช้ผู้ให้บริการหลายเจ้าก็ไม่ได้ช่วยสำรองลิงก์ได้ เนื่องจากหลายเจ้าใช้ลิงก์ข้ามประเทศเดียวกันก็มี

ขั้นที่ 2 ลดความเสี่ยงสายไฟเบอร์โดนตัดขาด
Jimmy Yu รองประธานของกลุ่มตลาดสื่อสารผ่านสายไฟเบอร์ของกรุ๊ป Dell'Oro.` ที่เป็นบริษัทพินิจพิจารณาและวิจัยได้พูดว่า "วิธีที่เยี่ยมที่สุดสำหรับการลดผลกระทบจากสายไฟเบอร์ตัดขาดเป็น การเลือกผู้ให้บริการที่มีเส้นทางโยงลิงก์แยกกันสองทางในทุกๆที่"

"หรือหันมาใช้บริการจากผู้ให้บริการสองรายที่มีเส้นทางโยงสายไฟเบอร์แตกต่างแทน" ซึ่งทั้งสองกรณีดังที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าหากลิงก์ไฟเบอร์หนึ่งขาด เน็ตเวิร์กก็จะหาทางใหม่ให้ทราฟิกของลูกค้าไปเส้นทางสำรองแทนด้านในไม่กี่นาที ทั้งยังเครือข่ายพื้นแผ่นดินและใต้น้ำ

ขั้นที่ 3 หาทางเลือกสื่อส่งสัญญาณหลายแบบ
ในเมื่อสายไฟเบอร์ขาดนั้นดูหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้จัดการด้านไอทีก็ควรพินิจลู่ทางการส่งสัญญาณข้อมูลรูปแบบอื่นอย่างเครือข่ายไร้สายหรือผ่านดาวเทียมไว้ภายในแผนสำรองไว้ด้วย ถ้าเกิดไซต์งานอยู่ห่างจากชายแดนไม่เกิน 100 กิโลเมตร การใช้สัญญาณไมโครเวฟส่งแบบ Point-to-Point ก็เหมาะอย่างยิ่ง

ขั้นที่ 4 มองหาสายเคเบิลใหม่ จากผู้ให้บริการรายใหม่ ที่โยงทางใหม่ๆ
จากความอยากที่จะขยายแล้วก็คุ้มครองปกป้องการเชื่อมต่อบริการบนคลาวด์ และทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเองเสถียรสูงที่สุด ทำให้ทั้งกูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ก ต่างลากสายเคเบิลใต้น้ำเองมากกว่า 20 เส้น ลากผ่านเมืองใหญ่หรือแม้กระทั้งข้ามประเทศไปมา โดยยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางใหม่ๆทั่วโลก

ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่า แค่กูเกิ้ลเจ้าเดียวก็มีสายเคเบิลใต้น้ำมากถึง 16 เส้นแล้ว ในขณะที่ทางไมโครซอฟท์รวมทั้งเฟซบุ๊กก็แข่งไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นข่าวดีของเราที่บริการกลุ่มนี้เชื่อมต่อไปถึงพื้นที่ใหม่ๆและมีการสำรองลิงก์ในตนเองด้วย แม้จะยากที่เจ้าใหญ่พวกนี้จะยอมแบ่งเช่าแบนด์วิธให้หน่วยงานอื่น

ขั้นที่ 5 กระจายแบบอย่างลิงก์สายเคเบิลเพื่อหนีเภทภัย
ก่อนหน้านี้ สายเคเบิลใต้น้ำถือเป็นของสหพันธรัฐผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มาจากความร่วมมือของกลุ่มธุรกิจนานาประเทศ ซึ่งเป็นผู้คอยบริหารจัดการทุกสิ่ง แม้กระนั้นเมื่อกำเนิดเฮอร์ริเคนแซนดี้เข้ามากระหน่ำนิวเจอร์ซีย์เมื่อต.ค. 2021 จนเกิดดาวน์ไทม์กระจายวงกว้างมากมาย

โดย Frank Rey ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์โครงข่ายทั่วโลกในส่วนของระบบคลาวด์ไมโครซอฟท์บอกว่า "ถือว่าเป็นการหยุดชะงักครั้งยิ่งใหญ่ กระทบทั่วอเมริกาเหนือรวมทั้งยุโรปไปหลายชั่วโมง ทำให้พวกเราจำต้องพิเคราะห์เพิ่มช่องทางในการใช้อีกทั้งสายพื้นทวีป รวมทั้งสายเคเบิลใต้น้ำข้ามห้วงมหาสมุทรร่วมกัน"

ขั้นที่ 6 มองดูการขยายลิงก์ขึ้นไปบนคลาวด์
หายนะต่างๆได้ผลักดันความก้าวหน้าสำหรับเพื่อการสร้างความเสถียรภาพให้ระบบเน็ตเวิร์ก อย่างลมพายุเฮอร์ริเคนที่กระตุ้นให้ทั้งยังไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก และก็คู่สัญญาอย่าง Telexius สำหรับการลากสายเคเบิลใต้น้ำข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ที่แบนด์วิธเยอะที่สุดที่เคยมีมากระทั่งเสร็จพร้อมใช้งานเมื่อปี 2019

ขั้นที่ 7 ตรวจดู SLA ต่างๆ
ผู้จัดการด้านไอทีในหน่วยงานจำต้องทบทวนข้อตกลงระดับการให้บริการหรือ SLA ที่ทำกับผู้ให้บริการโครงข่ายของตนเอง ทั้งยังด้านความพร้อมเพรียงการให้บริการ รวมทั้งเวลาสำหรับในการกู้คืนระบบ ด้วยเหตุว่าผู้ให้บริการบางรายไม่อาจจะสัญญาเวลาการเข้าจัดการรวมทั้งแก้ไขได้

ขั้นที่ 8 พิจารณาลงทุนกับอุปกรณ์แบ็คอัพ
ถ้าหากงบประมาณมีจำกัด และก็ราคาของที่เกี่ยวเนื่องพุ่งสูง การจัดซื้อเครื่องไม้เครื่องมือมาตั้งทิ้งเอาไว้เฉยๆนานๆก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบจัดแจงเยอะแค่ไหน บางที่อาจเลือกใช้แผนสำรองตามปริมาณการใช้งานหรือความอยากแทน เราอาจมองการหาพวกเราเตอร์แล้วก็เกตเวย์ IoT เพิ่มอีกเพื่อสำรองระบบได้

MyMainer.com