ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แนวทางสังเกต “ปัสสาวะ” สัญญาณอันตราย “โรคไต”

เริ่มโดย sezkcarn, 16:01 น. 15 มี.ค 65

sezkcarn



ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในวันหนึ่ง ร่างกายของพวกเราๆจำเป็นจะต้องพบเจอกับลักษณะการเจ็บป่วยไข้ ซึ่งขั้นต่ำก็โชคดีที่หลายๆอาการมักมีสัญญาณเตือนที่ค่อนข้างจะชัดแจ้ง เพื่อแจ้งให้เรารีบรักษาหรือดูแลตนเองโดยด่วน

แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกโรคหรือลักษณะการป่วย ที่จะส่งสัญญาณได้ชัดแจ้งรวมทั้งทันทีทันควันต่อการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในอาการที่ทางการแพทย์ยกให้เป็น "คนร้ายเงียบ" อย่าง "โรคไต" ทั้ง 2 ประเภทอาการที่พบได้ทั่วไปสุดหมายถึง"ไตวายฉับพลัน" รวมทั้ง "ไตวายเรื้อรัง" ที่กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว สมรรถนะของไตก็บางทีอาจลดน้อยไปๆมาๆกกว่า 70% จนทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างปรับปรุงคืนมาไม่ได้

ด้วยความเป็นอวัยวะสำคัญที่แบกรับหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย ทำให้เมื่อไตเกิดปัญหา ความสามารถสำหรับการจัดการกับของเสียก็เลยจะต่ำลง โดยที่เห็นชัดที่สุดคงไม่พ้นของเหลวที่ถูกขับออกมา อย่าง "ฉี่" ไม่ว่าจะปริมาณที่ลดลง หรือสีที่ไม่ปกติ แต่ว่าในอีกมุมหนึ่ง ความเคลื่อนไหวของเยี่ยวนี้ ก็นับเป็นจุดสังเกตบ่งบอกอาการโรคไตก้าวหน้าที่สุดเช่นเดียวกัน

วิธีสังเกต "เยี่ยว" สัญญาณอันตราย "โรคไต"
โรคไตวายรุนแรง
ปริมาณปัสสาวะที่น้อยหรือมีสีผิดปกติ มีสีน้ำล้างเนื้อ มักตรวจพบพร้อมทั้งค่าความดันเลือดที่สูงเปลี่ยนไปจากปกติ
ปัสสาวะที่น้อยมาก แต่ว่าปราศจากความเปลี่ยนไปจากปกติ นอกจากถ้าตรวจเจอเม็ดเลือดแดงและก็โปรตีนไข่ขาวผสมออกมาด้วย
คนเจ็บอาจจะมีอาการร่วมเป็นอ่อนแรงง่าย รู้สึกหวิวๆหัวใจเต้นผิดจังหวะ เหน็ดเหนื่อย ไม่อยากกินอาหาร อ้วกคลื่นไส้ มีลักษณะบวมน้ำหรือขาดน้ำ-อย่างใดอย่างหนึ่ง มักเป็นผลมาจากการเกิดสภาวะช็อกจากการเสียน้ำหรือเลือดปริมาณมาก มีการติดโรคในกระแสโลหิตอย่างหนัก ได้รับสารพิษหรือผลกระทบจากยา จนกระทั่งทำให้ไตสูญเสียการทำงานอย่างเร็ว ภายในระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์

โรคไตวายเรื้อรัง
ที่มาของโรคมีสาเหตุจากภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆดังเช่น โรคไตที่เกิดจากเบาหวาน ความดันเลือดสูง หรือโรคเกาต์ ความน่าสยดสยองของโรคนี้คืออาการที่ไม่แสดงความไม่ปกติตราบจนกระทั่งการทำงานของไตจะน้อยลงเหลือจำนวนร้อยละ 25 หรือ 1 ใน 4 ของคนธรรมดา คนไข้จึงเริ่มมีลักษณะอาการเหนื่อย เหนื่อย ไม่อยากอาหาร อาเจียนอาเจียน ตัวบวม กดบุ๋ม คันตามตัว ซึ่งถ้าการทำงานของไตลดน้อยลงเหลือต่ำลงมากยิ่งกว่าปริมาณร้อยละ 10 คนไข้จะมีลักษณะพวกนี้แสดงออกมาแจ่มชัดทุกราย พร้อมๆกับเนื้อไตที่ถูกทำลายไปทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานานนับเดือน นานแรมปี

อาการที่ดูได้จากปัสสาวะ
หมอน๊อต เตชะวัฒนวรรณา หมอผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า

ผู้เจ็บป่วยที่มีไตวายระยะเริ่มต้น ในกลางคืนจะปัสสาวะบ่อยมากแล้วก็มีสีจาง
จนที่สุดเมื่อแนวทางการทำงานของไตเสื่อมลงหรือไตวาย ผู้ป่วยจะมีเยี่ยวออกน้อยมาก
ถ้าเกิดแนวทางการทำงานของไตลดเหลือเพียงแค่จำนวนร้อยละ 25 คนเจ็บจะมีลักษณะภายนอกให้เห็นเป็น ผิวหนังซีดเซียว แห้งคัน มีจ้ำเลือดเกิดขึ้นง่าย เป็นแผลหายช้า หรืออาจมีผิวหนังตกสะเก็ดคล้ำกว่าปกติ บางรายอาจผอมโซเนื่องด้วยน้ำหนักที่ลดน้อยลง ในทางตรงกันข้ามโรคไตบางประเภทอาจทำให้คนไข้ตัวบวม-ขาบวม ร่วมกับมีน้ำหนักที่มากขึ้น

ความทรุดโทรมที่เกิดกับผู้ป่วยไตวายจะมีขึ้นทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะระบบทางเดินอาหาร ระบบกระดูกที่ไตสูญเสียหน้าที่สังเคราะห์วิตามินดี ส่งผลให้แคลเซียมในเลือดต่ำ เกิดภาวะกระดูกพรุน แตกหักง่าย ภูมิต้านทานโรคที่ลดต่ำลง เป็นสาเหตุให้ติดโรคได้ง่าย ทั้งยังอาการบวมจากโรคไตยังเป็นเหตุให้ระบบหัวใจปฏิบัติงานไม่ไหว เกิดอาการอ่อนล้าง่าย หายใจไม่สะดวก ภาวะความดันโลหิตสูง หรือฮอร์โมนดำเนินงานเปลี่ยนไปจากปกติหลายด้าน จนมีผลถึงการสร้างฮอร์โมนไปกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้โลหิตจาง ลักษณะการทำงานของเกล็ดเลือดเปลี่ยนไปจากปกติ เป็นต้นเหตุให้มีเลือดออกง่าย เลือดไหลไม่หยุด และมีจ้ำเลือดขึ้นตามตัวได้ง่าย

โรคไตวายยังส่งผลต่อระบบประสาท สมอง และก็กล้าม ที่จะเกิดอาการปลายประสาทเสื่อมกับคนเจ็บ ทำให้มือเท้าชา กล้ามเนื้อกระตุก เมื่อยล้า เป็นตะคริว แล้วก็ยังทำให้ขาดสมาธิ ไม่อาจจะคิดและก็จำได้เหมือนเช่นเคย ซึ่งถ้าเกิดไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที คนป่วยก็อาจมีอาการชักสลบ ...หรือจนถึงขั้นเสียชีวิต ไม่ได้มีความแตกต่างจากการมี "ฆาตกรเงียบ" อยู่ในร่างกาย

นอกเหนือจากการพิจารณาความผิดแปลกจากเยี่ยวแล้ว การวิเคราะห์โรคไตในปัจจุบันยังมีการปรับปรุง จนถึงตรวจดูได้ละเอียด ทราบได้เร็ว และก็ช่วยให้การรักษาเกิดขึ้นอย่างทันเวลา เริ่มที่

กรรมวิธีตรวจปัสสาวะ แม้ปัสสาวะจะมีโปรตีนไข่ขาวและก็เม็ดเลือดแดงปะปนมา คือการแสดงถึงภาวะที่ผิดปกติของไต
ขั้นตอนการตรวจเลือด ซึ่งแม้ไตมีสภาวะผิดปกติ จะพบปริมาณของไนโตรเจน กรดยูริก (Blood Nitrogen Urea: BUN) และครีเอว่ากล่าวนิน (Creatinine: Cr) ที่เป็นของเสียจากกล้าม ตกค้างในเลือดสูงยิ่งกว่าธรรมดา แล้วต่อจากนั้นจึงนำเลือดที่ได้มาใช้เพื่อการประเมินคุณค่าหลักการทำงานของไต (Glomerular Filtration Rate: GFR) ถัดไป
กรรมวิธีตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) และก็การเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) ร่วมกับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องทดลอง ซึ่งจะทราบได้ในทันทีหากกำเนิดความเปลี่ยนไปจากปกติขึ้นที่ไต หรือระบบทางเท้าเยี่ยว
โรคไตแต่ละชนิดย่อมมีลักษณะ รวมทั้งอาการชี้ที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่ากับโรคอย่างไตวายเรื้อรังนั้น ลักษณะของการเกิดอาการจะอยู่ในกลุ่มที่ซ่อนเร้น ค่อยๆกำเริบเสิบสานโดยไม่มีการแสดงอาการ บางครั้งแอบแฝงมาพร้อมกับโรคอื่น บางทีตรวจพบได้โดยบังเอิญ แนวทางการที่จะรู้เท่าทันถึงตัวโรคได้ มีแค่การหมั่นพิจารณาอาการ และก็พบหมอตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้โรคร้ายนี้กัดกินเนื้อไต ...จนถึงสายเกินจะแก้

อ่านบทความอื่น