ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ดูแลทารกท้องเสียอย่างไรดี ให้คุณแม่หายกังวล

เริ่มโดย nemophilanie, 13:44 น. 28 มี.ค 65

nemophilanie

   ทารกเมื่อยังเป็นเด็ก ไม่สามารถบอกกล่าวเป็นคำพูดได้ว่าตัวเองเจ็บป่วย คุณแม่จะต้องคอยสังเกตเองว่าลูกน้อยท้องเสียหรือไม่ แต่การสังเกตลักษณะอุจจาระของเด็กทารกแบบใดคืออาการท้องเสียอาจทำได้ยากสำหรับคุณแม่มือใหม่อาจไม่ทราบและวิตกกังวลเพราะไม่รู้จะสังเกตอย่างไรดีเพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อน  และทารกดื่มแต่นมของแม่ทำให้อุจจาระมีลักษณะนิ่มเหลวเป็นปกติอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันทารกท้องเสียก็เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ  แต่วันนี้เรามีคำแนะนำในการดูแลและสังเกตเมื่อลูกน้อยมีอาการท้องเสียมาฝากคุณแม่มือใหม่กัน
อาการที่บ่งบอกว่าท้องเสีย
   คุณแม่อาจสังเกตได้ว่าอุจจาระตามปกติของลูกมีลักษณะเป็นอย่างไรเพราะต้องคอยสังเกตลูกน้อยทุกวัน แต่ถ้าอุจจาระมีลักษณะต่างจากเดิมรวมถึงมีอาการเหล่านี้ คือ ถ่ายอุจจาระบ่อยมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ถ่ายอุจจาระทุก ๆ 2 หรือ 3 ชั่วโมง ลูกน้อยอารมณ์ไม่คงที่ งอแงผิดปกติ อาเจียน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมกินนม ริมฝีปากแห้ง ท่าทางอ่อนเพลียกว่าปกติ ไปจนถึงปัสสาวะน้อยผิดปกติ กล่าวได้ว่านี่คืออาการของทารกท้องเสียที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ
การดูแลลูกน้อยด้วยตัวเองเบื้องต้น
   เมื่อคุณแม่สังเกตแล้วว่าทารกท้องเสียแน่ ๆ สิ่งที่ควรทำคือให้ลูกดื่มน้ำผสมเกลือแร่สำหรับทารกโดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับการให้ดื่มนมแม่ให้บ่อยขึ้นหลังการถ่ายอุจจาระ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ควรดื่มนม แต่ในน้ำนมของคุณแม่มีจุลินทรีย์ที่ชื่อ LPR ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอาการท้องเสียและมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยฟื้นฟูให้ระบบการทำงานของทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ แต่หากดูแลด้วยวิธีการดังกล่าวแล้วลูกยังไม่ดีขึ้น ปลอบแล้วไม่หยุดร้อง ให้พาลูกไปพบแพทย์ทันที 
การป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสีย
   ทั้งนี้ การป้องกันไม่ให้ทารกท้องเสียตั้งแต่ต้นก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรรู้เช่นกัน สาเหตุของอาการท้องเสียคือเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกเผลอหยิบจับหรือทานเข้าไปไม่รู้ตัว รวมถึงอาการเฉพาะในตัวเด็กละคน เช่น แพ้โปรตีนในนมวัว คุณแม่จึงควรให้ความสำคัญสุขอนามัยรอบตัวของลูกน้อย หมั่นล้างมือและทำความสะอาดของใช้ก่อนทานอาหารทุกครั้ง หากจำเป็นต้องดื่มนมผง พยายามอย่าชงนมให้จางลง และเมื่อลูกอยู่ในวัยที่รับประทานอาหารได้แล้ว ไม่ควรให้ทานอาหารที่มีกากใยตามธรรมชาติมากจนเกินไปเพื่อเลี่ยงการกระตุ้นให้เกิดอาการท้องเสีย หลีกเลี่ยงน้ำหวานและผลไม้ที่มากเกินพอดี เน้นการรับประทานอาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวบด โจ๊กที่มีเนื้อสัตว์ผสม เป็นหลัก
   เราเชื่อว่าคุณแม่มีความรักและความเอาใจใส่ต่อลูกน้อย และสังเกตภาวะผิดปกติของลูกอยู่เสมอ เมื่อรู้วิธีการสังเกตความผิดปกติและอาการของทารกท้องเสียแล้ว ก็จะช่วยให้คุณแม่ดูแลลูกได้อย่างถูกวิธีมากขึ้น เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้ลูกเจ็บป่วย แต่ไม่ควรละเลยการพบแพทย์เมื่อมีความจำเป็น นอกจากนี้ การป้องกันตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการดูแลสุขอนามัยอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้คุณแม่และลูกมีเวลาอยู่ร่วมกันอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยไม่มีอาการท้องเสียมากวนใจ