ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำอย่างไรดี?

เริ่มโดย Jenny937, 19:41 น. 03 เม.ย 65

Jenny937

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?



ทำยังไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความหวาดกลัวเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ดังเช่น การกลัวการปวด กลัวคนแปลกหน้า ความกลัวเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเผชิญมาก่อน ซึ่งความกลัวจะเกิดขึ้นในตอนหนึ่งของชีวิตเพียงแค่นั้น โดย ความกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกทีว่าเด็กนั้นก่อนหน้าที่ผ่านมาพ่อแม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีสาเหตุที่ส่งผลให้เด็กกลัว หมอฟันเด็กหรือกลัวการดูแลและรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก อย่างเช่น ประสบการณ์การดูแลและรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาเด็กเข้าการรักษาฟันเวลาที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน และอาจจะเป็นผลให้เด็กทั้งยังเจ็บแล้วกลัวและฝังลึกในใจเลยทำให้เกิดความกลัว และอาจจะส่งผลให้เด็กกลัวหมอที่ใส่ชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทันตกรรมต่างๆรวมทั้งการฟังจากคำบอกเล่าจากพี่น้อง ญาติ เพื่อน และเด็กบางทีก็อาจจะรับรู้ได้จากความประพฤติปฏิบัติบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าท่าทางที่มีความรู้สึกหนักใจที่บิดามารดาแสดงออกมาโดยไม่ทันรู้สึกตัว เป็นต้น

การเตรียมการลูก สำหรับการมาพบแพทย์ฟันครั้งแรก

ทันตกรรมเด็กกับการตระเตรียมเด็กที่ดีนั้นมีผลเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมของเด็กรวมทั้งการบรรลุผลสำหรับในการรักษา ฉะนั้นคุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่จึงควรหลบหลีกคำพูดที่น่ากลัวหรือแสดงความไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับหมอฟันเด็กที่ให้บริการทัตนกรรมเด็ก และไม่ควรใช้ทันตแพทย์หรือการทำฟันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการข่มขู่ลูก ดังเช่นว่า "ถ้าไม่ยินยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้หมอถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งจิตใจและกลัวหมอฟันมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้พ่อกับแม่อาจช่วยส่งเสริมทัศนคติในทางบวกต่อกระบวนการทำฟันให้แก่ลูก ตัวอย่างเช่น "แพทย์จะช่วยให้หนูมีฟันงามและแข็งแรง" นอกเหนือจากนี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีลักษณะของการปวด ถ้าเกิดรอคอยให้มีลักษณะอาการปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความรู้สึกหนักใจสำหรับในการทำฟันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว แม้ลูกกลัวหมอฟัน ไม่ให้ความร่วมมือผู้ปกครองรวมทั้งหมอฟัน ควรทำเช่นไร

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงพฤติกรรมที่ต่างกันออกไป เด็กที่มีความกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นมากที่หมอฟันจึงควรพินิจพิจารณาหาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับการตรึกตรองเลือกใช้กรรมวิธีจัดการพฤติกรรม ซึ่งบิดามารดาจะมีส่วนช่วยเป็นอันมากสำหรับเพื่อการให้ข้อมูลพื้นฐานกลุ่มนี้ ต่อจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้วิธีปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อเด็กให้ลดความหวาดกลัว ความกังวลใจ และยินยอมให้ความร่วมแรงร่วมมือในการทำฟันเด็ก โดยวิธีที่ใช้เยอะที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการคุย ปลอบประโลม ชมเชย ช่วยเหลือให้กำลังใจ การเบี่ยงเบน ความพอใจ หรือการแยกผู้ดูแล ดังนี้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมใจ และปริมาณงานหรือ ความเร่งด่วนของการรักษาด้วย ดังเช่น ในเด็กเล็กต่ำกว่า 3 ขวบ ที่ยังพูดคุยติดต่อสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างมาก หมอฟันก็บางครั้งก็อาจจะจึงควรขอใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อสามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยแล้วก็มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น หรือบางทีก็อาจจะนำเสนอหนทางการดูแลรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ดูแลเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวหมอฟันเด็ก

สิ่งที่ยอดเยี่ยมของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวทันตแพทย์เป็น การดูแลโพรงปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาเจอหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือภายในขวบปีแรก และก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็มักจะไม่กลัวหมอฟัน แต่ว่าเมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ก็ควรจะเข้มแข็งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อทราบว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อให้ลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพโพรงปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีวิวัฒนาการในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย