ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เอ็นไอเอ เผยข่าวดี กองทุนยักษ์ 'อควาสปาร์ค' ตั้ง สนง.ต่างประเทศแห่งแรกในกรุงเทพฯ

เริ่มโดย Prichas, 15:04 น. 05 เม.ย 65

Prichas

เอ็นไอเอ เผยข่าวดี กองทุนยักษ์ 'อควาสปาร์ค' ตั้ง สนง.ต่างประเทศแห่งแรกในกรุงเทพฯ เตรียมขยายการลงทุนด้านอาหารทะเล พร้อมร่วมปั้นกรุงเทพฯ สู่ 'ฟู้ดเทคซิลิคอนวัลเลย์'

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. ประกาศเปิดตัว 'อควาสปาร์ค : Aqua-Spark สำนักงานต่างประเทศแห่งแรกในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกองทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เน้นการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจการเพาะพันธุ์พืชน้ำและสัตว์น้ำ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพและโอกาสการเติบโตของระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านเกษตรและอาหารของไทย โดย NIA และ Aqua-Spark ได้วางแผนที่จะพัฒนาความร่วมมือในการลงุทนทางนวัตกรรมด้านอาหารในวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ เพื่อต่อยอดการเติบโตไปสู่ระดับโลก พร้อมสานฝันกรุงเทพสู่การเป็น 'ฟู้ดเทคซิลิคอนวัลเลย์'

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจของ NIA คือการสร้างเครือข่ายนักลงทุนทั้งในประเทศและในระดับโลก เพื่อเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพ และสร้างโอกาสการเติบโตให้แก่ผู้ประกอบการนวัตกรรม โดยก่อนหน้านี้ NIA ได้มีการหารือเพื่อเชื้อเชิญองค์กรระดับโลกอย่าง 'อควาสปาร์ค : Aquaspark' ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ให้เข้ามาร่วมลงทุนด้านธุรกิจนวัตกรรมและสตาร์ทอัพในประเทศไทย และเมื่อเร็ว ๆนี้ 'อควาสปาร์ค'ได้เลือกกรุงเทพมหานครเป็นที่ตั้งสำนักงานนอกประเทศแห่งแรก ซึ่งอควาสปาร์คจะเน้นลงทุนในธุรกิจเพาะพันธุ์พืชน้ำและสัตว์น้ำแบบยั่งยืนที่สามารถสร้างผลตอบแทนและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย โดยศูนย์กรุงเทพแห่งใหม่ที่จัดตั้งขึ้นนี้ จะมุ่งเน้นการแสวงหาข้อตกลงสำหรับกองทุนหลักที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และขยายตลาดของอควาสปาร์คในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าอควาสปาร์คเลือกกรุงเทพฯ เป็นสำนักงานต่างประเทศเนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นเมืองที่มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านธุรกิจอาหารทางการเกษตรที่เข็มแข็ง และกำลังเติบโต รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของอาหารทะเลระดับโลก และเป็นฐานของกลุ่มบริษัทอาหารทะเลระดับโลกขนาดใหญ่และสถาบันวิจัยชั้นนำหลายแห่ง อีกทั้งประเทศไทยยังมีอุตสาหกรรมอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในประเทศขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท โดยมีผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรวม 890,000 ตันต่อปี'

'NIA และอควาสปาร์คมีแผนที่จะทำงานร่วมกันในอนาคต เพื่อผลักดันผู้ประกอบการนวัตกรรมผ่านโครงการ 'SPACE-F' ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารแห่งแรกในประเทศไทยที่ NIA ก่อตั้งขึ้นร่วมกับพันธมิตร เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นในเวทีโลก และระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านอาหารในกรุงเทพก็มีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น NIA ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของชาติ มีหน้าที่เป็น 'บูรณากรระบบ' ที่จะเชื่อมระบบนิเวศสตาร์ทอัพประเทศไทยไปสู่สตาร์ทอัพระดับโลก และด้วยความร่วมมือนี้จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีด้านอาหารระดับโลก และสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็น 'ฟู้ดเทคซิลิคอนวัลเลย์' ได้อย่างแท้จริง' ดร. พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติม