ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จับตา'เทคโนฯใหม่-แทบเล็ตเด็ก'ดันตลาดครึ่งปีหลัง

เริ่มโดย moomai muna, 10:29 น. 18 เม.ย 55

moomai muna

จับตา'เทคโนฯใหม่-แทบเล็ตเด็ก'ดันตลาดครึ่งปีหลัง


[attach=1]


       สิ้นสุดวันหยุดยาวของไทยก็ได้เวลาของการเริ่มต้นธุรกิจที่ต้องจับตาดูว่าเศรษฐกิจของประเทศนับจากนี้จะฟื้นตัวจากวิกฤติได้เพียงใด บรรยากาศดีต่อเนื่อง

       นายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไอที ซิตี้ กล่าวว่า ทิศทางตลาดค้าปลีกไอทีช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เปิดตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโน้ตบุ๊ค, เดสก์ทอป, แทบเล็ต และสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น อัลตราบุ๊ค รวมถึงแทบเล็ตแบรนด์ใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมีเข้ามาทำตลาดไทยมากขึ้นหลังจากเกิดโครงการแทบเล็ต ป.1 ที่จะทำให้แนวโน้มการใช้งานแทบเล็ตแพร่หลาย

       ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายสินค้าไอทีโดยรวมพบว่าดีขึ้นตามลำดับ โดยเทียบระหว่างไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 และไตรมาสแรกของปี 2555 พบว่า ยอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักแม้จะเผชิญวิกฤติน้ำท่วมช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้จะคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของตลาดไอทีได้ชัดเจนช่วงไตรมาส 3 เนื่องจากผ่านไปแล้ว 9 เดือน

       "ตลาดโดยรวมยังไม่ถึงกับดี 100% แต่ก็ถือว่าดีขึ้นตามลำดับจากไตรมาส 4 ที่ผ่านมาเรื่อยมาจนถึงไตรมาสแรกปีนี้ แต่ก็ยังคาดว่าไตรมาส 2 เป็นต้นไปจะดีมากขึ้นอีก จากปัจจัยเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำหลายรุ่นมากขึ้น ผนวกกับเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และแทบเล็ต ป.1 ที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มการใช้งานทางอ้อม" นายเอกชัยกล่าว

        อย่างไรก็ตามสำหรับแผนธุรกิจของไอทีซิตี้ปีนี้ยังคงเน้นการลงทุนเพิ่มสาขาจากปัจจุบันมีทั้งหมด 51 สาขา โดยครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 3-4 แห่ง และจะเปิดเพิ่มต่อเนื่องช่วงครึ่งปีหลังด้วยงบลงทุนรวมปีนี้ 150 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทยังคงมีรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในปีนี้

ส.โอ้โห พ.ค.ขายดีที่สุดในรอบปี

        นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การซื้อขายสินค้าไอทีในช่วงสงกรานต์ หรือเดือน เม.ย.มักจะเป็นช่วงที่ซบเซาที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของไทยและคนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านทำให้บริษัทตัดสินใจปิดสาขาบานานา ไอทีราว 20 แห่งในโซนที่เล่นน้ำสงกรานต์กัน เช่น บานานาไอที สาขาขอนแก่น และพัทยา

        เขาเชื่อว่า ตลาดจะเริ่มกลับมาฟื้นและดีที่สุดอีกครั้งช่วงเดือน พ.ค. เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมประกอบกับปีนี้จะเป็นช่วงที่ "ไอแพดใหม่" จะวางขายอย่างเป็นทางการในไทยทำให้คาดการณ์ว่าบรรยากาศค้าปลีกไอทีตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไปจะเริ่มดีมากขึ้น

        "ช่วงสงกรานต์เราก็ปรับตัวให้พนักงานลากลับบ้านได้ ปิดสาขาบางแห่งที่อยู่ในโซนเล่นน้ำ แต่ร้านที่ยังเปิดอยู่ก็ทำโปรโมชั่นดึงคนซื้อ เช่น ให้ผ่อน 0% 10 เดือน หรือทำแคมเปญมีของพรีเมียมต่างๆ และเริ่มกลับมาเตรียมพร้อมสำหรับเดือน พ.ค. โดยจะมีสินค้าใหม่ และของขายดีห้ามขาด" นายสุระกล่าว

         พร้อมกับเผยว่า ในครึ่งปีหลังนอกจากไอแพดใหม่คาดจะมีสินค้าที่เป็นไฮไลต์ เช่น อัลตราบุ๊คที่มีรุ่นใหม่ๆ ทยอยออกมาทำตลาดมากขึ้น ประกอบกับการแข่งกันทำโปรโมชั่นของผู้ค้า โดยสินค้าดาวเด่นสำหรับตลาดค้าปลีกไอทีช่วงนี้ยังเป็นกลุ่มโมบาย ดีไวซ์ ทั้งโน้ตบุ๊ค, แทบเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งบานานาไอทีเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่เกือบทุกแบรนด์

         นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ๆ รวมทั้งขยายสาขาร้าน "บานาน่า ไอที" เพิ่มมากขึ้นจาก 150 สาขาเป็น 180 สาขาด้วยงบลงทุนราว 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2555 รวมทั้งเพิ่มจำนวนสาขา "ไอสตูดิโอ บาย คอมเซเว่น" และ "ไอบีท บาย คอมเซเว่น" จาก 50 สาขาเป็น 70 สาขาในปีนี้เช่นกัน คาดว่าแผนดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตจาก 5,000 ล้านบาทเป็น 9,000 ล้านบาทในปี 2555


ส.โอ้โห เอสไอเอสเล็งนำเข้าสมาร์ทโฟนจีน

         นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) เผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีหลังจากนี้น่าจะเติบโตได้ดีเพราะเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา

         ส่วนแผนของบริษัทช่วงนี้กำลังเจรจากับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากประเทศจีนเพื่อนำสินค้าเข้ามาทำตลาด จากปัจจุบันขายอยู่ทั้งหมด 6 ยี่ห้อ คาดว่าช่วงไตรมาส 2-3 จะเริ่มวางจำหน่ายได้ โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 3,000 บาท

         พร้อมกันนี้่เขาประเมินว่า ตลาดรวมมือถือปีนี้จะอยู่ที่ 13-14 ล้านเครื่องเป็นกลุ่มสมาร์ทโฟนราว  4-5 ล้านเครื่อง โดยแนวโน้มราคาจะลดลงต่อเนื่องจากปัจจุบันเฉลี่ยเครื่องละ 4,000 บาท เมื่อถึงสิ้นปีจะลดลงไปถึง 3,000 บาท เหตุจากแต่ละแบรนด์แข่งกันลดราคาเพื่อดึงความสนใจของลูกค้า แต่ทั้งนี้แม้ว่ากระแสการใช้งานจะเติบโตมากขึ้นแต่ส่วนมากยังเป็นกลุ่มคนเมือง ส่วนตลาดต่างจังหวัดยังนิยมใช้มือถือฟีเจอร์โฟนอยู่

         นอกจากนี้กลางปีจะเพิ่มหมวดสินค้ากลุ่มเนวิเกเตอร์ หรือแผนที่ทำงานในรถยนต์ หลังจากพบว่าแนวโน้มทั่วโลกและไทยเริ่มต้องการใช้งานมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจาเช่นกัน

         อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 22,400 ล้านบาท แต่กำไรลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบนำท่วมช่วงไตรมาส 4 โดยกลุ่มสินค้าที่ทำยอดขายได้ดีคือ สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ขณะที่โน้ตบุ๊คปีที่ผ่านมายอดขายไม่ค่อยเติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีใหม่และการพัฒนาสินค้าอะไรที่น่าสนใจ แต่เชื่อว่าปีนี้ยอดขายจะกลับมาเติบโตหลังจากการมาของอัลตร้า บุ๊คและวินโดว์ส 8


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์