ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ค่าตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐบาล ราคาเท่าไร? แพงไหม?

เริ่มโดย Achie_Heng, 15:28 น. 12 เม.ย 65

Achie_Heng

"ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐฯ" เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มงานใหม่และจำเป็นจะต้องตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน หรืออาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายแต่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วค่าตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลของรัฐมีราคาเท่าไร? แต่ละแห่งมีให้บริการอะไรบ้าง?

ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลรัฐ ที่ไหนบ้าง?

1.   โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ (http://www.nkp-hospital.go.th/th/healthCheckup.php)
•   โปรแกรมมาตรฐาน      1,370   บาท
•   โปรแกรม Premium ชาย      1,900   บาท
•   โปรแกรม Premium หญิง   2,480   บาท

2.   โรงพยาบาลตำรวจ (http://www.policehospital.org/content/news.php?ID=6997&dept=27)
•   โปรแกรม Economic ตรวจ 12 รายการ             1,000 บาท
•   โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ตรวจ 19 รายการ    1,770 บาท
•   โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุ 30-40 ปี ตรวจ 25 รายการ        2,420 บาท
•   โปรแกรมตรวจสำหรับผู้มีอายุ 40 ปี ตรวจ 28 รายการ       2,773 บาท
•   โปรแกรม Premium ตรวจ 35-36 รายการ            7,093 บาท

3.   โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/annual-checkup-program/)
•   โปรแกรมที่ 1 ตรวจสุขภาพทั่วไป 4 รายการ สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี    410    บาท
•   โปรแกรมที่ 2 สำหรับผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 10 รายการ          1,180    บาท

4.   โรงพยาบาลราชวิถี (https://www.rajavithi.go.th/rj/?page_id=475)
•   โปรแกรมตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน 11 รายการ 1,490 บาท

5.   โรงพยาบาลศิริราช (https://www.si.mahidol.ac.th/sirirajhospital/SirirajCheckupCenter.php)
•   สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปี   975 บาท
•   สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-50 ปี   1,460 – 2,050   บาท
•   สำหรับผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป    2,130 – 2,300   บาท

6.   โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (http://www.nopparat.go.th/nrhweb62/pagetbody_check.php)
•   สำหรับผู้ที่อายุระหว่าง 15-35 ปี   730    บาท
•   สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-45 ปี   1,560   บาท
•   สำหรับผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป    1,860   บาท

7.   โรงพยาบาลรามาธิบดี https://www.rama.mahidol.ac.th/sdmc/sites/default/files/public/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E_3.pdf
•   โปรแกรม 1 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 15-30 ปี)   2,490   บาท
•   โปรแกรม 2 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 31-40 ปี)   2,640 – 3,810   บาท
•   โปรแกรม 3 (สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป)   6,640 – 11,990   บาท

ตรวจสุขภาพประจำปี ต้องตรวจอะไรบ้าง?

1.   ตรวจสุขภาพกลุ่มคนวัยทำงาน ที่มีอายุระหว่าง 18 – 60 ปี
•   ตรวจสุขภาพช่องปาก ควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันจากทันตแพทย์หรือทันตภิบาลเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
•   ตรวจการได้ยิน ควรได้รับการตรวจการได้ยินด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ถูกันเบา ๆ ห่างจากรูหูประมาณ 1 นิ้ว ปีละ 1 ครั้ง
•   ประเมินสภาวะสุขภาพ ทั้งความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะซึมเศร้า การติดนิโคตินในผู้สูบบุหรี่ (ตรวจเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่) การดื่มแอลกอฮอล์ (ตรวจเฉพาะผู้ที่ดื่ม) การใช้ยาและสารเสพติด (ตรวจเฉพาะผู้ที่ใช้สารเสพติด)
•   การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest x-ray) : ช่วยตรวจหาวัณโรค โรคปอดเรื้อรังบางชนิด หรือรอยโรคผิดปกติอื่น ๆ ในปอด (เฉพาะคนที่มีความเสี่ยง เช่น คนที่ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก หรือมีอาการสงสัยว่าป่วยเป็นวัณโรค และมะเร็งปอด)
•   ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) : ช่วยในการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจาง รวมทั้งอาจตรวจพบความผิดปกติอื่น ๆ เช่น เม็ดเลือดหรือเกล็ดเลือดผิดปกติ
•   ตรวจระดับไขมันในเลือด : ควรตรวจระดับไขมันในเลือดทุก 5 ปี เพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
•   ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด : อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทุก 3 ปี เพื่อช่วยตรวจกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน ( หากมีเครื่องตรวจเบาหวานเป็นของตนเอง ควรตรวจเป็นประจำทุกเดือน
•   ตรวจปัสสาวะ : เพื่อช่วยตรวจคัดกรองโรคไตบางชนิด
•   ตรวจอุจจาระ : บุคคลตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจอุจจาระ เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ปีละ 1 ครั้ง
•   ตรวจวัดระดับกรดยูริก : เพื่อช่วยประเมินระดับกรดยูริกซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเกาต์หรือนิ่วกรดยูริก (ตรวจเฉพาะคนที่มีอาการปวดข้อ มีอาการข้ออักเสบ หรือข้อพิการ ซี่งสุ่มเสี่ยงเป็นโรคเกาต์เท่านั้น)
•   การตรวจการทำงานไต : เพื่อเช็กสมรรถภาพการทำงานของไต
•   การตรวจการทำงานตับ : เพื่อเช็กการทำงานของตับ
•   ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) : เฉพาะคนที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 ควรได้รับการตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) โดยตรวจเพียงคร้ังเดียว

2.   ตรวจสุขภาพเพิ่มเติมสำหรับเพศหญิง
•   ตรวจเต้านม : ผู้หญิงในช่วงอายุ 30-39 ปี ควรได้รับการตรวจเต้านมทุก ๆ 3 ปี จากแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข ที่ได้รับการฝึกอบรม และอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปี
•   ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก : ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองด้วย Pap's smear ทุก 3 ปี หรือวิธีป้ายหาความผิดปกติโดยใช้กรดอะซิติก (VIA) ทุก 5 ปี ทว่าหากมีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจด้วยวิธี Pap's smear แม้ว่าจะเคยหรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็ตาม


การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นจะช่วยให้รู้สภาวะปัจจุบันของร่างกาย เพื่อหาทางป้องกันการเกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพให้มีร่างกายที่แข็งแรง บรรเทาอาการเจ็บป่วยหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินให้คุณจากโรคร้าย ประกันภัยโรคมะเร็งจากสินมั่นคงประกันภัย จ่ายเป็นเงินก้อน (เต็มทุนประกัน) ให้ทันทีที่ตรวจพบโรคมะเร็งครั้งแรก ไม่จำกัดวิธีการรักษา สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/producthealthdetail/6 หรือ โทร.1596 Line : @smkinsurance