ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดข้อมูลที่ควรรู้ก่อนทำเลสิค ทางออกของปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง

เริ่มโดย daisydaily, 11:58 น. 19 เม.ย 65

daisydaily

ดวงตาเป็นอวัยวะที่ต้องใช้แทบตลอดเวลา หากเกิดความผิดปกติทางสายตาเพียงเล็กน้อยก็สามารถสังเกตได้อย่างรวดเร็ว และมีวิธีแก้ไขปัญหาให้สามารถดวงตากลับมาใช้งานได้ ไม่ว่าจากอาการสายตาสั้น สายตายาว หรือกระทั่งสายตาเอียง โดยวิธีเบื้องต้นอย่างการใช้แว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์ซึ่งเหมาะกับการใช้งานระยะสั้น ในวันที่ต้องใช้สายตาติดต่อเป็นเวลานานควรใช้แว่นตาเพื่อความสบายของดวงตา และลดภาระการทำงานที่มากจนเกินไป

ซึ่งนอกจากรักษาในเบื้องต้นแล้วยังมีการรักษาดวงตาอย่างวิธีเลเซอร์ หรือหลายคนนิยมเรียกว่า เลสิค เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้มีปัญหาทางสายตาอีกด้วย

[attach=1]


เลสิค (LASIK)

เลสิค (LASIK) เป็นการผ่าตัดด้วยด้วยเลเซอร์เพื่อแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติ ทั้งสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง ได้อย่างถาวร และเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นการรักษาที่มีความแม่นยำและมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยการใช้เลเซอร์ที่เรียกว่า เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสั้นในระดับอัลตราไวโอเลตไปปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาให้มีความโค้งอย่างเหมาะสมเพื่อกลับมามองได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง


ประโยชน์ของการทำเลสิค

แน่นอนว่าการทำเลสิคเป็นวิธีการแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติ ทั้งสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง ได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือต้องใส่คอนแทคเลนส์อีกต่อไป และยังเป็นวิธีที่ทำให้สายตาเป็นมองชัดเจนเป็นปกติได้อย่างถาวรที่ปลอดภัยอีกด้วย

[attach=2]

1. เลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้น

สายตาสั้น (Myopia) เป็นภาวะที่ความโค้งของกระจกตามากเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป จึงเป็นสาเหตุทำให้มองเห็นภาพระยะไกลไม่ชัดเจน แต่จะมองเห็นภาพระยะใกล้ชัดเจน การแก้ปัญหาในภาวะนี้จะทำโดยใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตาให้โค้งน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่เพื่อทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติอีกครั้ง

2. เลสิคแก้ปัญหาสายตายาวโดยกำเนิด

สายตายาว (Hyperopia) เป็นภาวะที่ความโค้งของกระจกตาน้อยกว่าปกติ(แบน) หรือกระบอกตาสั้นเกินไป จึงเป็นสาเหตุทำให้มองเห็นภาพระยะไกลไมชัดเจน แต่จะมองเห็นภาพระยะใกล้ไม่ชัดเจน การแก้ปัญหาในภาวะนี้จะทำโดยใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตาให้โค้งเพิ่มกว่าที่เป็นอยู่เพื่อทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติอีกครั้ง

3. เลสิคแก้ปัญหาสายตาเอียง
   
สายตาเอียง (Astigmatism) เป็นภาวะที่ความโค้งของกระจกตาไม่เท่ากันหรือกระจกตามีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ ทำให้ดวงตาไม่สามารถโฟกัสได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การมองเห็นสิ่งต่างๆเบลอ หรือมีความไม่ชัดเจน การแก้ปัญหาในภาวะนี้จะทำโดยใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตาให้มีความโค้งที่เท่ากัน เพื่อทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติอีกครั้ง


เลสิคมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
   
การรักษาด้วยเลสิค (LASIK) มีหลากหลายเทคนิค ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันที่เทคนิคและความเหมาะสมของแต่ละบุคคลที่เข้าการรักษา

[attach=3]

1. ReLEx SMILE ผ่าตัดเลสิคสมัยใหม่

ReLEx SMILE เป็นวิธีผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาแบบล่าสุดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบมีด ในการผ่าตัดจะใช้แสงเลเซอร์ที่เรียกว่า Femtosecond Laser ตัดเนื้อกระจกตาเป็นรูปชิ้นเลนส์แและนำออกดึงผ่านแผลขนาดเล็ก แล้วค่อยปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะกับค่าสายตา การผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีบาดแผลที่เล็กมากจึงหายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นวิธีที่แทบไม่มีอาการระคายตาหรืออาการตาแห้ง เมื่อเทียบกับรูปแบบอื่น แต่การผ่าตัด ReLEx SMILE จะสามารถรักษาได้เพียงสายตาสั้นและสายตาเอียงเท่านั้น

2. MicrokeratomeLASIK ผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีด
   
MicrokeratomeLASIK เป็นวิธีการรักษาผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีด โดยจะใช้ใบมีดขนาดเล็กที่มีความแม่นยำแยกชั้นกระจกตาก่อนนำเลเซอร์ยิงกระจกตาเพื่อปรับแต่งความโค้งกระจกตาให้มรค่าสายตาที่ต้องการ แล้วทำการปิดกระจกตากลับเข้าที่เดิม โดยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาไม่มากนัก  มีอาการระคายเคืองเล็กน้อยในระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัด ซึ่งการรักษาวิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระจกตาไม่สม่ำเสมอหรือระจกตาบาง และผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรัง อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะทำให้ตาแห้งมากกว่าวิธีการผ่าตัดวิธีอื่น

3. Bladeless FemtoLASIK ผ่าตัดเลสิคไร้ใบมีด
   
Bladeless FemtoLASIK เป็นวิธีการผ่าตัดโดยไม่อาศัยใบมีดในการรักษาแต่จะใช้แสงเลเซอร์ในการแยกชั้นกระจกตาแทน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำได้อย่างปลอดภัยและมีความแม่นยำ ซึ่งลดปัญหาผิวกระจกตาถลอก อีกทั้งยังมีผลค้างเคียงน้อยอีกด้วย 

4. การทำ PRK (Photorefractive Keratectomy)
   
PRK (Photorefractive Keratectomy) เป็นวิธีการรักษาสายตารุ่นแรกที่ไม่จำเป็นต้องแยกชั้นกระจกตา แต่จะใช้วิธีการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออกก่อนจะใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ในการปรับความโค้งของกระจกตาในค่าสายตาที่เหมาะสมก่อนจะทำการปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์โดยใช้เวลา 5-7 วันเพื่อลดความระคายเคืองของดวงตา ซึ่งการรักษาวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก หรือผู้ที่ไม่ต้องการเห็นร่องรอยการผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา

5. การทำ ICL (Implantable Collamer Lens)
   
ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นวิธีการรักษาในลักษณะการใส่เลนส์เสริมที่คล้ายกับคอนแทคเลนส์เข้าไปบริเวณหลังม่านตา ซึ่งเลนส์ชนิดนี้จะมีความเข้าได้ดีกับร่างกาย สามารถถอดเปลี่บยนได้อีกด้วย อีกทั้งยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาแห้งหลังการผ่าตัดอีกด้วย การรักษาด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างมีความเหมาะสมกับผู้ที่มีกระจกตาบาง ไม่มีโรคเกี่ยวกับดวงตาและมีช่องบริเวณหน้าดวงตาลึกมากพอ


ข้อดี - ข้อจำกัดของการทำเลสิค

ก่อนทำเข้ารับการเลสิคควรรับรู้และมีความเข้าใจเรื่องข้อดีและข้อกำจัดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกวิธีการรักษาและต่อตัวเราโดยตรง

ข้อดีของการทำเลสิค
  • สามารถแก้ไขปัญหาค่าสายตาได้อย่างถาวร
  • ใช้เวลาในการรักษาตัวไม่นาน
  • การผ่าตัดไม่มีการเย็บแผล ใช้เพียงยาชาเท่านั้นจึงไม่มีความรู้สึกเจ็บหลังการรักษา
  • สะดวกต่อการออกกำลังกายในบางประเภท และเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานโดยมีข้อกำหนดห้ามใส่แว่นตา
ข้อจำกัดของการทำเลสิค

การรักษาผู้ที่ต้องการแก้ไขค่าสายตาถาวรด้วยวิธีเลสิคยังมีข้อกำจัดกับบางโรคหรือบางอาการที่ไม่สามารถทำการรักษาได้ ดังต่อไปนี้
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อต่างๆ จอตาประสาทเสื่อม
  • ผู้ที่มีอาการตามีอาการแห้งอย่างรุนแรง รวมทั้งผู้ที่มีแผลบริเวณกระจกตา หรือกระจกตาบาง
  • ผู้ที่มีโรคที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคเบาหวาน SLE

ใครบ้างที่ควรทำเลสิค
  • ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีสายตาคงที่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
  • ผู้ที่ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่ไม่มีโรคของกระจกตาหรือโรคเกี่ยวกับตาอย่างอื่นที่รุนแรง เช่น ตาแห้งอย่างรุนแรง จอประสาทตาเสื่อม หรือกระจกตาบางเกินไป
  • ผู้ที่มีปัญหาต่อการใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์

ใครที่ไม่ควรทำเลสิค
  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ที่มีสายตาไม่คงที่
  • ผู้ที่มีปัญหากระจกตาย้วยหรือผู้ที่กระจกตามีรูปร่างผิดปกติ
  • ผู้ที่เป็นโรคทางจิตเวชต้องได้รับการดูแลจากแพทย์

ข้อปฏิบัติก่อนทำเลสิค

ก่อนเข้ารับการรักษาต้องศึกษาข้อควรปฏิบัติและทำอย่างเคร่งครัดเพื่อได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย และมีขอเสนอแนะตามดังนี้

[attach=4]

1. หาข้อมูลและเข้ารับการปรึกษากับแพทย์

เป็นสิ่งแรกที่ควรทำเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ว่าควรเข้ารับการผ่าตัดทำเลสิคหรือไม่ โดยการหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิคมาศึกษา แล้วค่อยเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินเบื้องต้นถึงว่าการทำเลสิครูปแบบไหนถึงมีความเหมาะสมกับดวงตาและสุขภาพของเรา

2. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการตรวจ
   
สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำควรงดใช้เป็นอย่างน้อย 3 วันและอย่างน้อย 7 วันสำหรับผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง เพราะจะมีผลต่อการวัดค่าสายตาได้ อีกทั้งต้องงดใช้ยารักษาสิวเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนทั้งก่อนตรวจและก่อนเข้าการผ่าตัด ในวันที่ต้องประเมินสายตาควรมีญาติหรือคนมาดูแลและพกแว่นกันแดดติดตัวมาด้วย เพราะในการตรวจจะมีการหยอดยาเพื่อขยายม่านตา เป็นเหตุให้ตาไม่สามารถสู้แสงเมื่ออกไปเจอแสงจ้าได้

3. การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
   
การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากเพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับเข้ารับการผ่าตัด และในวันเข้าการผ่าตัดงดแต่งหน้า รวมไปถึงงดใส่น้ำหอม หรือน้ำมันที่มีกลิ่น เพราะจะมีผลต่อการทำงานได้ อีกทั้งสวมเสื้อผ้าที่มีคอกว้างหรือมีกระดุมด้านหน้าเพื่อให้สะดวกต่อการถอด และหลีกเลี่ยงต่อการโดนดวงตาขณะถอดออก


ขั้นตอนการทำเลสิค
   
การทำเลสิคจะเริ่มด้วยการหยอดยาชาเสียก่อนเริ่มขั้นตอนอื่นๆเพื่อระงับความเจ็บปวดที่จะเกิดระหว่างทำการผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มด้วยการใช้เครื่องมือแยกชั้นกระจกตา แล้วใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า Excimer Laser ทำการปรับความโค้งของกระจกตาให้มีความเหมาะสม ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาต่างกันไปตามความผิดปกติของสายตา

หลังจากแก้ไขความโค้งของกระจกตาเสร็จจึงนำชั้นของกระจกตาปิดกลับเข้าที่เดิม โดยขั้นตอนนี้ไม่ต้องมีการเย็บบาดแผลแต่อย่างใด เพียง 3- 5 นาที แผลก็จะสมานตัว


การปฏิบัติตัวหลังจากทำเลสิค
   
เพื่อความปลอดภัยของดวงตาหลังการผ่าตัด รวมถึงลดอาการเสี่ยงที่จะมีผลที่จะตามมาในภายหลังการทำเลสิค จึงควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด

อาการข้างเคียงที่มักจะเกิดหลังผ่าตัดอาจจะมีการเคืองดวงตา ปวดดวงตา หรือมีอาการน้ำตาไหล และรวมไปถึงดวงตาสู้แสงไม่ได้ หรือมีอาการตาพร่า ตามัวเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะหายไปเองตามอาการ

วิธีดูแลตนเองสำหรับหลังผ่าตัดทันที
  • งดใช้สายตาเป็นเวลานานๆ โดยเป็นระยะเวลา 1 วัน เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองตาได้ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ใส่ที่ครอบตา โดยห้ามถอดออกเป็นอันขาด เพื่อป้องกันการขยี้ดวงตา
  • หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นละอองหรือควันบุหรี่ และน้ำเข้าดวงตา เป็นเวลาประมาณ 7 วัน
  • สวมแว่นกันแดดทุกๆครั้งเมื่อต้องออกไปที่โล่งแจ้งหรือที่มีแสงจ้า
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น การมองเห็นมีปัญหา ตาแดง ต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที

ข้อปฏิบัติทั่วไปหลังผ่าตัดทำเลสิค
   
หลังจากได้รับการผ่าตัดแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ ระมัดระวังไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปสัมผัสโดนดวงตาเพราะจะมีโอกาสที่จะทำให้ดวงตาอาจเกิดการติดเชื้อขึ้นได้

งดทำกิจกรรมที่จะมีผลกระทบต่อดวงตาหรือกิจกรรมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายรุนแรงรวมไปถงการออกกำลังกายจนเหงื่อออก เพราะอาจมีโอกาสที่จะทำให้กระจกตามีปัญหาในภายหลังได้ นอกจากนี้ต้องเข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา และรับประทานยาตามที่ได้แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำเลสิค

  • ระคายเคืองดวงตา แสบตา น้ำตาไหล หรือตาแห้ง อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัดเลสิค และส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วตามลำดับ
  • ตาพร่ามัว มีอาการมองเห็นไม่ชัด เมื่อแผลหายดีแล้วดวงตาจะสามารถกลับมามีการมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนเดิม
  • มองเห็นแสงกระจายเป็นแฉก หรือมองไม่ชัดในระยะไกล ซึ่งอาการเหล่านี้มีโอกาสเป็นประมาณ 1-3 เดือน และมักจะหายไปเองในที่สุด
  • ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะในช่วงกลางคืนลดลง
  • เกิดอาการผิดปกติอื่นๆหรือเกิดอาการติดเชื้อ หากถ้ารู้สึกตัวพบความผิดปกติแล้วควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที

ทำเลสิคที่ไหนดี

การเลือกว่าจะรับเข้าการรักษาเลสิกที่ไหนเป็นเรื่องที่สำคัญต่อตัวอย่างเราเป้นอันดับแรก ดังนั้นในเบื้องต้น ควรจะเลือกโรงพยาบาลหรือสถานที่ทำเลสิคที่สะอาด ได้มาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการดำเนินการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติโดยตรง ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นๆนอกจากนี้มาใช้พิจารณา ดังนี้
  • มีการทำงานที่อยู่ภายใต้มาตรฐานที่มีความปลอดภัยและได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
  • มีแพทย์เฉพาะทางดวงตาในการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติเพื่อความปลอดภัยต่อการรักษา
  • มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์เครื่องมือที่มีความทันสมัย โดยเฉพาะเครื่องเลเซอร์ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการรักษา
  • ราคามีความเหมาะสมต่อการเข้ารักษา
  • มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาได้อย่างละเอียดครบถ้วน ดูแลเอาใจใส่จนหลังเข้ารับการรักษา

ทำเลสิคราคาเท่าไหร่

ราคาค่ารักษาการทำเลสิคนั้นจะขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกรักษาในแต่ละแบบ และขึ้นกับถึงสถานที่เข้ารับบริการ ซึ่งโดยมากแล้วจะคิดราคาค่าบริการและส่วนเพิ่มเติมอื่นๆแตกต่างกัน โดย
  • ReLEx SMILE ราคาประมาณ 88,000 - 120,000 บาท
  • MicrokeratomeLASIK ราคาประมาณ 38,000 - 79,000 บาท
  • Bladeless FemtoLASIK ราคาประมาณ 55,000 - 79,000 บาท
  • PRK ราคาประมาณ 35,000 - 54,000 บาท
  • ICL ราคาประมาณ 70,000 - 150,000 บาท
ทั้งนี้ราคาที่ประมาณไว้มีการขึ้น-ลงตามโปรโมชั่นแต่ละสถานที่ให้บริการ และยังรวมไปถึงภาวะสายตาผิดปกติที่แพทย์จะประเมินในเบื้องต้นอีกด้วย


สรุป
   
เพราะดวงตามีเพียงคู่เดียวดังนั้นแล้วการจะตัดสินใจทำเลสิคเพื่อรักษาแก้ไขค่าสายตาอย่างถาวรและยังช่วยเสริมบุคลิกภาพ ดังนั้นจึงควรศึกษาอย่างละเอียดและต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และหลังจากการเข้ารักการรักษาแล้วก็ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่างครัดเพื่อให้ดวงตาสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างชัดเจนอีกครั้งและมีผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด ทั้งนี้เะื่อเป็นผลประโยชนืโดยตรงต่อคนรักษาเอง