ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เลนส์แก้วตาเทียม ทางออกของผู้มีปัญหาเลนส์ตาและต้อกระจก

เริ่มโดย daisydaily, 10:51 น. 26 เม.ย 65

daisydaily

อวัยวะทุกส่วนของร่างกายเมื่อผ่านการใช้งานมานานย่อมเสื่อมสภาพได้เป็นปกติ เลนส์แก้วตาหรือเลนส์ตาก็เช่นกัน เลนส์ตามีหน้าที่ช่วยปรับโฟกัสการมองเห็น เมื่ออายุมากขึ้นอาจเกิดการเสื่อมสภาพของเลนส์ตา ทำให้ความสามารถส่วนนี้ลดลงและเกิดปัญหาทางสายตาขึ้น หรือก็คือสายตายาวตามอายุนั่นเอง

นอกจากปัญหาสายตายาวแล้ว ในผู้สูงอายุบางคนอาจมีปัญหาเลนส์แก้วตาขุ่น ซึ่งส่งผลให้มองเห็นได้ไม่ชัด หรือก็คือโรคต้อกระจก หากปล่อยไว้ไม่รักษาก็อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ การรักษาโรคต้อกระจก และการแก้ปัญหาสายตาที่เกิดจากเลนส์ตานั้นสามารถทำได้ด้วยการใส่เลนส์แก้วตาเทียม หรือเลนส์ตาเทียมนั่นเองค่ะ

[attach=1]


'เลนส์แก้วตาเทียม' คืออะไร

Intraocular Lens หรือ เลนส์แก้วตาเทียม คือ วัสดุคล้ายเลนส์ตาธรรมชาติ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายคอนแทคเลนส์ แต่จะมีขายึดสองข้าง สำหรับป้องกันการเคลื่อนที่ของเลนส์ตาเทียม มีความบางและเล็ก แต่จะมีความยืดหยุ่นและความคงตัวสูงมาก เนื้อเลนส์ตาเทียมทำมาจากอะคริลิก มีความใส

ซึ่งเลนส์แก้วตาเทียมนี้จะนำมาแทนที่เลนส์แก้วตาธรรมชาติที่อาจเสื่อมสภาพหรือมีความขุ่นเกิดขึ้น ผู้ที่ใส่เลนส์แก้วตาเทียมมักจะเป็นผู้สูงอายุที่มีปัญหาสายตายาวและไม่ต้องการใส่แว่น และผู้ที่เป็นโรคต้อกระจกค่ะ


ประโยชน์ของเลนส์แก้วตาเทียม
  • เลนส์แก้วตาเทียมสามารถแก้ไขปัญหาค่าสายตาที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตาธรรมชาติได้
  • เลนส์แก้วตาเทียมใช้รักษาโรคต้อกระจกได้
  • เลนส์แก้วตาเทียมจะช่วยให้คุณภาพชีวิตขึ้น ผู้ที่ใส่เลนส์ตาเทียมจะกลับมามองเห็นได้มากขึ้นกว่าเดิม หรือในบางรายอาจมองเห็นได้เหมือนคนปกติ
  • เลนส์แก้วตาเทียมมีอายุการใช้งานตลอดชีวิต เมื่อผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนเลนส์ตาเทียมอีก
  • ในปัจจุบันเลนส์แก้วตาเทียมสามารถแก้ปัญหาค่าสายตาได้หลายรูปแบบและหลายระยะ โดยแพทย์และผู้ป่วยสามารถพิจารณาเลือกชนิดของเลนส์ตาเทียมให้เหมาะกับการใช้งานได้

เลนส์แก้วตาเทียม มีกี่ชนิด
   
เลนส์แก้วตาเทียมในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 กลุ่มใหญ่ ๆ แต่ละกลุ่มแต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป สำหรับคำถามเลนส์แก้วตาเทียมแบบไหนดี ก็คงบอกได้ว่าขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลค่ะ

[attach=2]

1. เลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว (Monofocal IOLs)
   
เลนส์ตาเทียมชนิดแรกที่มีการใช้งานคือเลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว หรือ Monofocal IOLs ซึ่งเลนส์ตาเทียมชนิดนี้ได้ถูกนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาต้อกระจกและปัญหาเลนส์ตาเสื่อมมานานกว่าหลายสิบปีค่ะ เลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว ดูจากชื่อก็สามารถบอกได้ว่าเป็นเลนส์ที่สามารถโฟกัสได้ระยะเดียว ซึ่งก็คือระยะไกล

ผู้ที่ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมชนิดนี้จะสามารถมองเห็นระยะไกลด้วยตาเปล่าชัดเจน แต่สำหรับระยะใกล้ผู้ป่วยยังคงจำเป็นต้องใช้แว่นสายตาเพื่อให้มองระยะใกล้ได้ชัดขึ้นค่ะ แต่อย่างไรก็ตามหากหลังผ่าตัดเลนส์ตาผู้ป่วยมีค่าสายตาหลงเหลืออยู่มาก ก็อาจทำให้มองระยะไกลได้ไม่ชัดเช่นกัน
   
เลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียวเหมาะกับผู้ที่มีกำลังทรัพย์น้อย เนื่องจากเลนส์ตาเทียมชนิดนี้ราคาถูกที่สุดในบรรดาเลนส์แก้วตาเทียม และผู้ที่ต้องการมองภาพได้คมชัด เนื่องจากเลนส์ตาเทียมชนิดนี้จะให้ความคมชัดของภาพมากที่สุด

2. เลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสหลายระยะ (Multifocal IOLs)
   
ในผู้ป่วยหลาย ๆ คนมักจะรู้สึกลำบากกับการต้องพึ่งพาแว่นเพื่อให้มองได้ชัดขึ้น ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมแล้วทั้งทีแทนที่จะไม่ต้องใส่แว่น แต่ยังต้องใส่แว่นอีก ดังนั้นจึงมีเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เลนส์สามารถปรับโฟกัสได้หลายระยะเกิดขึ้น ความพิเศษของเลนส์แก้วตาเทียมชนิดนี้คือ สามารถปรับโฟหัสได้หลายระยะ จึงสามารถมองภาพได้ทั้งใกล้และไกล และเลนส์ตาเทียมชนิดนี้ยังสามารถแบ่งได้อีกตามระยะที่สามารถมองเห็นได้ คือ
  • Bifocal IOL เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสสองระยะ โดยจะมีทั้งแบบดูระยะไกลและระยะใกล้ชัด แต่ระยะกลางไม่ค่อยชัด กับแบบดูระยะไกลและระยะกลางได้ชัด แต่ระยะใกล้ไม่ค่อยชัด
  • Trifocal IOL เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสสามระยะ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกลได้
เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสหลายระยะมีข้อดีที่ช่วยให้การมองเห็นได้หลายระยะ ลดการพึ่งพาแว่นได้มากกว่าเลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว

แต่อย่างไรก็ตามเลนส์ตาเทียมชนิดนี้มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น ภาพที่เห็นจะมีความ contrast น้อยกว่าเลนส์ตาเทียมชนิดโฟกัสเดียว ยิ่งการมองในที่มืดจะยิ่งทำให้การมองไม่ชัด และอาจเห็นไฟหน้ารถเป็นวง ๆ และการใส่เลนส์ตาเทียมชนิดนี้จะใช้เวลาปรับตัวนาน และมีราคาที่สูงมาก เนื่องจากข้อจำกัดที่หลากหลาย

ดังนั้นผู้ที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย และผู้ที่มีการใช้งานสายตาหลาย ๆ ระยะโดยไม่ได้ต้องการความคมชัดของภาพสูง และผู้ที่ต้องการลดการใช้แว่นสายตาให้มากที่สุด

3. เลนส์ตาเทียมแก้ไขสายตาเอียง (Toric IOLs)
   
เลนส์แก้วตากลุ่มสุดท้ายคือเลนส์ตาเทียมแก้ไขสายตาเอียง เพราะสายตาเอียงเกิดจากความโค้งกระจกตาไม่เท่ากัน เลนส์ตาเทียมชนิดนี้จึงออกแบบให้มีความโค้งหลังเลนส์ไม่เท่ากันตามสายตาผู้ป่วย เพื่อชดเชยความโค้งของกระจกตาเดิมที่ไม่เท่ากัน ทำให้สามารถมองเห็นได้คมชัดขึ้น

โดยเลนส์ตาเทียมชนิดนี้สามารถร่วมกับสายตาสั้นหรือสายตายาวได้ อย่างเลนส์ Monofocal Toric IOL และ Multifocal Toric IOL ที่สามารถปรับทั้งค่าสายตาและแก้ปัญหาสายตาเอียงได้พร้อมๆกัน


การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม

ในผู้ที่มีปัญหาเลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพ และปัญหาเลนส์แก้วตาขุ่นมัว จะส่งผลให้การมองเห็นแย่ลง ยิ่งถ้าเลนส์แก้วตาขุ่น หรือเกิดโรคต้อกระจกและไม่ทำการรักษา ปล่อยจนเลนส์แก้วตาขุ่นมัวไปมากขึ้น ทำให้แสงไม่สามารถเข้ามาในดวงตาไม่ได้ จึงทำให้สูญเสียการมองเห็นไป เปรียบได้กับว่ามีอะไรบางอย่างมาปิดตา ทำให้แสงผ่านไม่ได้ เราจึงไม่สามารถมองเห็น

ดังนั้นการรักษาจึงทำได้ด้วยการนำเลนส์ตาเทียมธรรมชาติที่ขุ่นและเสียสภาพออก และผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมใหม่แทนที่ หลังรับการผ่าตัดเลนส์เทียม ต้อกระจกจึงหายไป ผู้ป่วยจะสามารถกลับมามองเห็นได้มากขึ้น


การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
   
การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมจะเป็นการผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก ส่วนมากไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดจึงมีไม่มาก
  • สวมเสื้อผ้าที่สามารถถอดออกได้ง่าย
  • ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะผมและหน้า
  • ในวันผ่าตัดแพทย์จะให้หยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อก่อนเริ่มผ่าตัด หรือหากจำเป็นอาจพิจารณาให้ดมยาสลบได้
  • ในวันผ่าตัดให้พาญาติมาก้วยอย่างน้อย 1 คน เนื่องจากหลังผ่าตัดเสร็จอาจไม่สามารถมองเห็นได้มาก

ขั้นตอนการผ่าตัด

[attach=3]
  • แพทย์ทำการหยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อก่อนเริ่มผ่าตัด
  • หลังจากนั้นแพทย์จะเปิดแผลที่ข้างตาดำ และเจาะถุงหุ้มเลนส์เข้าไป โดยแผลจะมีขนาดเล็กประมาณ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น
  • หากเป็นการรักษาต้อกระจก จะมีการใช้เครื่องสลายต้อและสลายเลนส์ตาในส่วนที่เป็นไตออกก่อน
  • หลังจากนั้นจะใช้เครื่องดูดเอาเลนส์ตาเดิมออกมา เหลือไว้เพียงแค่ถุงหุ้มเลนส์
  • แพทย์จะนำเลนส์แก้วตาเทียมพับ และใส่เข้าไปที่ถุงหุ้มเลนส์ แทนที่เลนส์แก้วตาเดิมที่ถูกดูดออกมา
  • หลังใส่เลนส์แก้วตาเทียมแล้ว ถือว่าเสร็จขั้นตอนการผ่าตัด จะไม่มีการเย็บแผลเนื่องจากแผลมีขนาดเล็กมาก สามารถปล่อยให้แผลสมานกันได้เอง

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

  • หลังผ่าตัดห้ามให้ดวงตาโดนน้ำเด็ดขาด ในระหว่างผลังผ่าตัดแรก ๆ ควรเลี่ยงการล้างหน้าและสระผมด้วยตนเอง อาจใช้การเช็ดหน้าโดยเว้นบริเวณตาและการสระผมโดยการเข้าร้านทำผมหรือให้ผู้อื่นสระให้แทน เป็นต้น
  • สวมที่ครอบตาก่อนนอน เพื่อป้องกันการขยี้ตาขณะหลับ
  • ใส่แว่นตากันแดดหรือแส่นตากันลม เพื่อป้องกันการขยี้ตาและป้องกันการกระทบกระเทือนที่ดวงตา
  • ทำความสะอาดบริเวณดวงตาตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควรพบจักษุแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

ข้อดี - ข้อเสียของการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม

ข้อดี
  • เลนส์ตาเทียมมีอายุการใช้งานตลอดชีพ ไม่มีการขุ่นมัวในภายหลัง ดังนั้นหลังผ่าตัดจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการผ่าตัดซ้ำอีกครั้งหรือไม่
  • การผ่าตัดใส่เลนส์ตาเทียมต้องพักฟื้นไหม คำตอบคือไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลค่ะ เมื่อผ่าตัดเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้เลย ใช้เวลาผ่าตัดเพียงประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น
  • เลนส์แก้วตาเทียมจะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลนส์ตาธรรมชาติเสียหาย เสื่อมสภาพ หรือขุ่นมัวกลับมามองเห็นได้ดีขึ้น เนื่องจากได้นำเลนส์แก้วตาที่เป็นสาเหตุของปัญหาออกไปแล้ว
ข้อเสีย
  • การผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต (1 ข้างได้ 1 ครั้ง) ดังนั้นจึงต้องพิจารณาอย่างดีแล้วว่าจะทำการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมและเลือกชนิดที่เหมาะสมที่สุด
  • ในบางครั้งการผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม อาจไม่ได้ทำให้ค่าสายตาหายไปทั้งหมด อาจเหลือค่าสายตาบ้าง จึงทำให้ยังต้องมีการพึ่งพาแว่นสายตาอยู่

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด

[attach=4]

  • หลังผ่าตัดในช่วงแรกอาจมีการติดเชื้อที่ดวงตาได้ แต่โอกาสการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ต่ำ และหากปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์เรื่องข้อควรระวังและความสะอาดอย่างเคร่งครัด ก็จะยิ่งทำให้โอกาสติดเชื้อเกิดได้ยาก
  • หลังผ่าตัดในช่วงแรกอาจมีอาการมองภาพได้ไม่ชัด โดยอาการนี้จะสามารถหายได้เองในระยะหนึ่ง
  • ในบางครั้งผู้ป่วยอาจมองเห็นภาพเบี้ยวหรือภาพมัว จากจุดรับภาพบวมหลังผ่าตัด ซึ่งสามารถรักษาและหายเป็นปกติได้
  • เมื่อผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเทียมผ่านไประยะเวลานาน ถุงหุ้มเลนส์อาจเกิดการขุ่นขึ้น โดยสามารถกลับมาพบจักษุแพทย์เพื่อใช้เลเซอร์ขจัดความขุ่นออกได้ทันที
  • หลังผ่าตัดเลนส์ตาเทียมที่ใส่ในถุงหุ้มเลนส์ อาจเกิดการฉีดขาดของถุงหุ้มเลนส์ ทำให้เลนส์ตาเทียมเคลื่อน อาการจะทำให้การมองเห็นมัวลง หรืออาจเกิดภาพซ้อนขึ้น ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดเพื่อดึงเลนส์ตาเทียมให้กลับเข้าที่ หรือหากมีอาการไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องรักษา

ค่าใช้จ่ายผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม
   
การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเทียม ราคาขึ้นกับชนิดของเลนส์แก้วตาเทียมที่เปลี่ยนค่ะ โดยประมาณราคาได้ดังนี้
  • เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว (มองระยะไกล) ราคาประมาณ 35,000 - 65,000 บาท
  • เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสสองระยะ ราคาประมาณ 65,000 - 100,000 บาท
  • เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสสามระยะ ราคาประมาณ 70,000 -120,000 บาท
  • เลนส์ตาเทียมแก้ไขสายตาเอียง ราคาประมาณ 75,000 - 90,000 บาท
  • เลนส์ตาเทียมแก้ไขสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง ราคาประมาณ 100,000 - 140,000 บาท

ข้อสรุป
   
เลนส์แก้วตาหรือเลนส์ตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อการมองเห็นเป้นอย่างมาก เมื่อเลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพ หรือเกิดความเสียหาย หรือเกิดการขุ่นขึ้นก็จะส่งผลต่อการมองเห็นโดยตรง ทั้งการที่ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนไป หรือสายตายาวตามอายุ และการเกิดโรคต้อกระจก ซึ่งหากไม่ทำการรักษาอาจสูญเสียการมองเห็นไป

วิธีรักษามีเพียงการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องดูแลสุขภาพดวงตาและเลนส์ตาเพื่อไม่ให้เกิดโรคตาและการบาดเจ็บที่เลนส์ตาจนต้องผ่าตัดใส่เลนส์ตาเทียมค่ะ