ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ตำรวจภาค 9 รวบเพิ่ม 2 ผู้ต้องหาพัวพันคดีวางยาฆ่าชิงรถกระบะ

เริ่มโดย JaY_SoniC, 17:52 น. 20 เม.ย 55

JaY_SoniC

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 55 พล.ต.ต.ธีรพล  คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล ผกก.สภ.หาดใหญ่  ได้ร่วมกันแถลงข่าวการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับ นายนิรุติ หรือ จำลอง  สอนคำหาร ผู้ต้องหาคดีวางยาพิษฆ่าเหยื่อชิงรถกระบะ ก่อนนำมาขายให้กับ นายไพรัตน์ ชาวะหา ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมได้พร้อมรถยนต์กระบะของกลาง 1 คัน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายเอื้อน หรือ กำนันวงศ์ บุญพิชัย กำนัน ต.ลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และ นางถวิล สมระหาร อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายไพรัตน์ และเป็นน้าสาวแท้ๆของ นายนิรุต โดยทั้ง 2 คน ถูกออกหมายจับในข้อหารับของโจรที่มาจากการชิงทรัพย์ พร้อมรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ไม่มีกระบะท้าย และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขตัวถังรถ MM8UNBD 3200302282 หมายเลขเครื่องยนต์ WL AT 231509 ซึ่งตัวเลขมีรอยขูดลบ 1 คัน และ กระบะของรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน 1 กระบะ ที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลาง

นายเอื้อน ให้การรับสารภาพว่า นายไพรัตน์ และ นางถวิล ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และรู้จักกัน ได้นำรถยนต์กระบะมาให้ตนเองช่วยจำนำหรือขายต่อในราคาคันละ 90,000-120,000 บาท ซึ่งตนได้ช่วยเหลือโดยการติดต่ออู่ซ่อมรถมงคลการช่าง ซึ่งเป็นของ นายสังเวียน ศรีเหลือ มาเป็นผู้รับซื้อ โดยได้ค่าติดต่อในราคาคันละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งการเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนี้ ตนไม่ทราบมาก่อนเลยว่า รถยนต์ที่ทั้ง 2 คน นำมาให้ช่วยขายนั้น เป็นรถยนต์ที่ถูกฆ่าชิงทรัพย์มา

ขณะที่ นางถวิล ได้กล่าวว่า นายนิรุต เป็นหลานชายของตนเอง และได้นำรถยนต์กระบะมาให้ตนกับสามีช่วยขายให้ โดยอ้างกับตนว่า เป็นรถยนต์กระบะเป็นเพื่อนของหลานชายที่ต้องการเงินใช้เงินให้ช่วยนำมาขาย จึงได้ไปติดต่อกำนันให้ช่วยขายให้ โดยทางตนเองและสามีไม่รู้จริงๆว่า รถที่หลานชายนำมาเป็นรถที่ฆ่าชิงทรัพย์มา เนื่องจากรถที่นำมามีเอกสารครบ ตนเพียงช่วยเหลือหลานชายในติดต่อขายรถให้เท่านั้น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีที่หลานชายไปก่อเอาไว้ โดยที่ผ่านมารถยนต์กระบะที่หลานชายนำมาให้ตนกับสามีช่วยขายให้นั้นมีทั้งหมด 4 คัน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล  คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นี้ เป็นการจับกุมจากการขยายผลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เกี่ยวข้องกับการนำรถยนต์กระบะที่ นายนิรุต ฆ่าชิงทรัพย์ไปขาย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้จับกุม นายไพรัตน์ ชาวะหา พร้อมยึดรถยนต์กระบะของกลางกลับมาได้ 1 คัน  สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ล่าสุดถูกออกหมายจับในข้อหารับของโจรที่ได้มาจากการชิงทรัพย์  ซึ่งจากการสอบสวนยังไม่พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อคดีของ นายนิรุต แต่อย่างใด

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามรถยนต์กระบะของกลางที่ถูก นายนิรุต นำมาขายในพื้นที่ จ.สงขลา พบว่า มีทั้งหมด 4 คัน โดยเป็นรถยนต์กระบะ โต้โยต้า วีโก้ 3 คัน  และ อีซูซุ ดีแมกซ์ 1 คัน  ที่ผ่านมาสามารถติดตามกลับมาได้ 1 คัน คือ รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน ตน 8513 กทม. ส่วนอีก 3 คัน ที่เหลือ เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตาม ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในการซื้อขายรถในคดีดังกล่าวต่อไป
/////

คนไท

อ้างไมรู้ คงไม่หรอกนะคับ ท่านตำรวจไทยท่านรู้กฎหมายดี ถ้าคุณกำนันนำสินค้่าที่มีการจดทะเบียน ไปขาย คุณกำนันก็ควรต้องเรียกหาหลักฐานที่ใช้ในการจดทะเบียนด้วย ซิคับ...ไม่งั้นก็ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าขโมยเขามา....

ช่อ2012

เป็นกำลังใจให้ตำรวจคับ สาวให้ถึงต้นตอ ใครเกี่ยวข้องจับให้หมด (ทำงานอย่าไว้หน้าใคร และก็ไม่ต้องกลัวสดุดตอ)ตำรวจนายไหนกลัวสดุดตอ เชิญลาออกไปก่อนได้เลยครับ ให้ตำรวจที่ไม่กลัวฯเขาจะได้ทำงานเต็มที่ ส.สั่งสอน ส.โอ้โห ส.สู้ๆ
เครื่องแบบเปื้อนดินไม่มีกินแต่มีเกียรติ

น้ำท่วมดินไหว


จ่าแก่

ว่างๆตำรวจลอง"สุ่มตรวจ"ตามเต๊นท์รถทั่วเมืองสงขลาดู กว่าครึ่งจะต้องเป็นรถที่ได้มาโดยมิชอบหรืออาจจะฆ่าเจ้าทรัพย์มาก็ได้ ต่อไปใครจะซื้อรถต้องไป"เข้าทรง"เพื่อสำรวจดูว่าเจ้าของถูกฆ่าตายหรือเปล่า? แหะๆ

ซุปเปอร์ฮีโร่

เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านครับ ทางเจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากครับ ขอปรบมือให้เลยครับ ส-ดีใจ ส-ดีใจ ส-ดีใจ

โกตาบารู

ใต้ฟ้าเมืองไทยไม่มีเรื่องอะไรที่ตำรวจไทยไม่รู้  อยู่ที่จะเอาจริงหรือเปล่า








นายไข่นุ้ย

ทำไมไม่คิดบ้างละรถยนต์1คันมาขายแค่ห้าหมื่น คิดสิ คิดสิ  ส.อืม
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

puiey

จับให้หมดพวกนี้มันอำมหิตผิดมนุษย์ เห็นชีวิตคนไร้ค่า แค่หวังจะชิงทรัพย์ถึงกับฆ่ากันเลย
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

MUANGWONG


นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: MUANGWONG เมื่อ 05:16 น.  22 เม.ย 55
กาแฟร้อนผสมอำมหิตผิดมนุษย์ จริงๆ
ใจดำจริงๆ โหดเหี้ยมมาก หากไม่ชิงตายก่อน จับมันกรอกยาให้หายแค้น  ส.โกรธอย่างแรง
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

mim sa lood

ลองตรวจสอบพวกแขกดูว่าเอาไปทำคาร์บอมรึปล่าว

กู้ชื่อตำรวจไทย

"ผมแพ้อำนาจเงิน" เด้ง ผอ.คุกนครศรีฯ เจอไอโฟนอื้อ
22 เม.ย. 55 14.50 น.    พิมพ์หน้านี้ สนับสนุนเนื้อหา  (+ให้คะแนนบทความ) เปิดอ่าน  ความคิดเห็น 65
"ผมแพ้อำนาจเงิน" เด้ง ผอ.คุกนครศรีฯ เจอไอโฟนอื้อ
22 เม.ย. - รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ ตร.ภาค 8 แถลงผลตรวจค้นแดนผู้ต้องขังเรือนจำนครศรีธรรมราช ล็อกตัวผู้คุม ยึดโทรศัพท์มือถือเกือบ 300 เครื่อง ยาบ้าเกือบ 2,000 เม็ด และยาไอซ์ เด้ง ผบ.เรือนจำฯ พร้อมขยายผลเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง คาดยึดทรัพย์นับร้อยล้าน เตรียมเสนอ "นครศรีธรรมราชโมเดล" เป็นต้นแบบปราบปรามของต้องห้ามในเรือนจำทั่วประเทศ
นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 นายชลัยสิน โพธิเจริญ ผอ.ปปส.ภ.8 และ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ร่วมแถลงผลการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เช้ามืดวันนี้ (22 เม.ย.) ว่าได้นำกำลังคอมมานโดกรมราชทัณฑ์บุกเข้ายึดเรือนจำ เข้าทำการล็อกตัว รปภ.ที่ป้อมยามรักษาการณ์หน้าเรือนจำ และประตูเรือนจำ พร้อมปลดเครื่องมือสื่อสารของเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่คอมมานโดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 650 นาย จู่โจมเข้าไปค้นเรือนจำในแดน 4, 5 และ 6 ซึ่งเป็นแดนที่มีนักโทษค้ายาเสพติดและนักโทษเด็ดขาดถูกคุมขังอยู่ภายใน ซึ่งกำลังนอนหลับ ท่ามกลางความตระหนกของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อยู่ภายในเรือนจำที่ไม่รู้ตัวมาก่อน
หลังจากทำการตรวจค้นจนถึงเวลา 09.00 น. สามารถตรวจยึดสิ่งของต้องห้ามหลายรายการ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 280 เครื่อง ในจำนวนนี้มีแท็บเล็ตยี่ห้อต่างๆ และไอโฟนนับสิบเครื่อง อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) 1,700 เม็ด และยาไอซ์ 50 กรัม นอกจากนั้น ยังมีอุปกรณ์เสพยาไอซ์และอุปกรณ์เสพยาบ้าจำนวนหลายสิบชุด อาวุธมีด ของมีคมดัดแปลง เหล็กขูดชาร์ป อุปกรณ์เล่นการพนันดัดแปลงทำเองจำนวนมาก รวมทั้งเงินสดอีก 47,000 บาท
นายโสภณ กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ได้ประสานข้อมูลกับ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช มาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะนำเสนออธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้รูปแบบการปฏิบัติหน้าที่แบบเรียกว่า "นครศรีธรรมราชโมเดล" เป็นต้นแบบในการปราบปรามของต้องห้ามในเรือนจำทั่วประเทศ พร้อมกล่าวว่าจะต้องย้าย ผบ.เรือนจำนครศรีธรรมราช โดยให้นายสุรพล แก้วภราดัย มาดำรงตำแหน่งแทน
ขณะที่ นายณรงค์ ยงณรงค์เดชกุล ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มีสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวเปรยกับ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ต่อหน้าผู้สื่อข่าวว่า ได้พยายามดำเนินการแล้ว แต่ยอมรับว่าแพ้อำนาจเงิน
ด้าน พล.ต.ต.รณพงศ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมการหลายเดือนก่อนจะเข้าค้นวันนี้ แต่ก็มีข่าวรั่ว เนื่องจากพบโทรศัพท์มือถือของนักโทษเครื่องหนึ่งมีข้อความแจ้งว่า "อีก 2 ชั่วโมง คอมมานโดจะเข้าตรวจค้นเรือนจำ" ทำให้สิ่งของที่ละลายได้ เช่น ยาเสพติด ซึ่งทราบว่ามีเป็นกิโลกรัม ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก ส่วนโทรศัพท์ที่นำเข้าไปในเรือนจำนั้น มีเจ้าหน้าที่บางคนนำเข้าไปให้ มีค่านำเข้าเครื่องละ 30,000 บาท มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำข้อมูลและขอออกหมายจับ ส่วนผู้ต้องขังที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่มีอยู่ 2 คน ส่วนอื่นๆ นั้นเป็นรายกลางและรายย่อย หากจัดการขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำได้ทั่วประเทศอย่างที่ จ.นครศรีธรรมราช เชื่อว่าผู้ค้ายาเสพติดในประเทศไทยจะลดลงกว่าครึ่ง
ขณะที่ พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า ผู้ค้ายาเสพติดในเขตภาค 8 นั้น เมื่อจับกุมได้ส่วนใหญ่จะสารภาพว่าสั่งซื้อจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งการนำโทรศัพท์มือถือหรือยาเสพติดเข้าไปนั้น มีทั้งเข้าทางประตูและโยนข้ามกำแพง จะต้องเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลให้สิ้นซาก
สำหรับโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ มีกระบวนการที่ส่งเข้าไปขายในเรือนจำ แบบธรรมดามีราคาเครื่องละประมาณ 200,000-250,000 บาท โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ราคาเครื่องละ 300,000-350,000 บาท หากคิดเป็นเม็ดเงินที่สะพัดตามจำนวนเครื่องโทรศัพท์ที่ยึดได้ มีมูลค่าอยู่ที่ 70-150 ล้านบาท โดยค่าเช่าในการใช้โทรศัพท์ของนักโทษด้วยกันอยู่ที่ครั้งละ 10,000-18,000 บาท - สำนักข่าวไทย
ตามติดข่าว ข่าววันนี้ ข่าวบันเทิง ก่อนใครผ่านทาง http://news.sanook.com
ร่วมเป็นแฟนเพจ Facebook..กับเราได้เลยที่นี่!!