ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เหตุผลที่ควรลงทุนในกองทุนรวม ssf หากคุณต้องการลดหย่อนภาษี

เริ่มโดย waanbotan_, 14:29 น. 10 ม.ค 67

waanbotan_

สำหรับใครที่อยากลงทุน แต่อาจจะไม่ได้มีเวลาในการศึกษาข้อมูลการลงทุน เราสามารถเลือกกองทุนรวม ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายสามารถกระจายการลงทุนได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่สูง  นอกจากนั้นกองทุนรวมยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น  ssf กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund) ที่เหมาะกับผู้ที่สนใจลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
   
ข้อดีของการลงในกองทุนรวม


เป็นการลงทุนที่ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ
ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี จึงมีความยืดหยุ่นในการลงทุนมากกว่า สามารถเลือกซื้อเฉพาะปีที่ต้องการลดหย่อนภาษีได้
ลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ และมีให้เลือกระดับความเสี่ยงหลายระดับ
มีให้เลือกทั้งแบบจ่ายเงินปันผลเพื่อรับผลตอบแทนก่อนครบกำหนดขายคืนหน่วยลงทุน หรือเลือกแบบไม่มีการจ่ายเงินปันผลเพื่อให้ผลตอบแทนทบกับเงินต้นไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดขายคืน
ไม่กำหนดอายุของผู้ลงทุนเมื่อต้องการขายคืนหน่วยลงทุน

ssf มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีดังนี้ หรืออ่านssf คืออะไรที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1223
ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินประกันชีวิตบำนาญ และอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ยกตัวอย่างเช่น ถ้าปีนี้มีรายได้ 1,000,000 บาท สามารถซื้อกองทุน ssf ได้สูงสุด 200,000 บาท แต่หากซื้อกองทุน ssf ไปแล้ว 200,000 บาท มีเงินประกันชีวิตบำนาญ 200,000 บาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 200,000 บาท จะสามารถลดหย่อนภาษีจาก ssf ได้เพียง 100,000 บาท เนื่องจากเงินเพื่อการเกษียณทั้งหมดเมื่อรวมกับ ssf แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท เป็นต้น
ssf ลดหย่อนภาษี กรุงไทย ได้จนถึงปี พ.ศ. 2567
ต้องถือครองหน่วยลงทุนนั้นไว้อย่างน้อย 10 ปี โดยการนับปีชนปี

นอกจากกองทุนแนะนำ กรุงไทย อย่างกองทุนรวม ssf ลดหย่อนภาษี กรุงไทย แล้วยังมีกองทุนรวม rmf กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่หลายๆ คนอาจจะยังสับสนอยู่ว่าแตกต่างกันอย่างไร


ระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุน rmf กำหนดให้ถือครองอย่างน้อย 5 ปี ในขณะที่ ssf ต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปี
rmf กำหนดให้ผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อมีอายุ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้น แต่ ssf ไม่ได้กำหนดอายุของผู้ลงทุน
rmf ไม่ได้กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดสิทธิการลดหย่อนภาษี แต่ ssf ในปัจจุบันสามารถลดหย่อนภาษีได้จนถึงปี พ.ศ. 2567 หลังจากนั้นต้องรอมาตรการจากภาครัฐ
rmf มีเฉพาะแบบไม่มีการจ่ายเงินปันผล แต่ ssf มีทั้งแบบไม่มีการจ่ายเงินปันผลและจ่ายเงินปันผล
rmf เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เนื่องจากเงื่อนไขของ rmf คือผู้ลงทุนสามารถขายคืนกองทุนเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป ในขณะที่ ssf เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวที่สามารถเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงได้ เนื่องจากการลงทุนระยะยาวสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้

หากคุณเป็นผู้ลงทุนที่มีอายุไม่มาก คือไม่เกิน 45 ปี กองทุนน่าสนใจ ปี 2566 การเลือกลงทุนในกองทุนแนะนำรวม ssf คือ ทางเลือกที่เหมาะสมกว่า rmf เพราะไม่ต้องรอจนอายุครบ 55 ปี ก่อนจึงสามารถขายคืนกองทุนได้ รวมถึงได้มีโอกาสเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนที่สูงด้วย สามารถดูข้อมูลกองทุนน่าสนใจ 2566 ที่ผ่านมาที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1290