ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เข้าถึงประกันรถยนต์ที่พร้อมรองรับเหตุรถชนเป็นอย่างดี ที่ประกันสวัสดีดอทคอม

เริ่มโดย landdonmoon, 14:28 น. 16 ม.ค 67

landdonmoon

โดยทั่วไปแล้วอุบัติเหตุรถชนนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกิดขึ้นได้แทบตลอดเวลา บ่งบอกถึงความเสี่ยงของอุบัติเหตุใกล้ตัวที่เราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ยิ่งเป็นในกรณีของมือใหม่หัดขับที่เพิ่งได้รถคันใหม่เเเต่ยังไม่คุ้นชินกับการขับรถจนพลาดเกิดอุบัติเหตุเข้า เมื่อขับรถชนกับอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นรถสิ่งกีดขวาง ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถยนต์อยู่แล้ว ทำให้เราเกิดความยุ่งยากต่อจากนั้นคือการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและซ่อมรถ แต่ถ้าเรามี ประกันรถยนต์ เราสามารถให้ตัวแทนมาช่วยเหลือในสถานการณ์นี้ได้ด้วยดี ซึ่งก่อนจะรีบโทรหาประกันเราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆโดยเริ่มต้นดังนี้

1.ตั้งสติและหยุดรถเป็นอันดับแรก หาที่จอดรถที่ปลอดภัย

ทันทีที่เรารู้ตัวว่าขับรถชนกับอะไรบางอย่างหรือรู้ตัวว่ารถเราถูกชนแล้ว ให้หยุดรถเป็นอันดับแรกเพราะในช่วงเวลาที่คับขันแบบนี้ เราอาจยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดการขยับรถหรือยิ่งฝืนขับออกจากสถานที่เกิดเหตุอาจทำเรากลายเป็นคนที่ชนแล้วหนีได้ แต่ก่อนจะทำการหยุดรถนั้น ควรหาที่จอดรถที่ปลอดภัยก่อน เช่น ไหล่ทางรถ หรือ ทางคู่ขนาน ไม่ควรหยุดจอดรถกลางถนนแบบกลางคัน เพราะอาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุซ้ำซากจากรถยนต์คันอื่นได้ โดยปกติหากเกิดเหตุบนทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพรถชนสัญจรระหว่างทาง สามารถบอกถึงภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนในขณะเกิดเหตุนั้นด้วย ซึ่งสามารถประกอบเป็นหลักฐานพิสูจน์สาเหตุของรถชนต่างๆได้ อย่างน้อยการไม่ขยับรถหลังจากเกิดเหตุจะช่วยพิจารณาได้ง่ายว่าใครเป็นฝ่ายผิด โดยเฉพาะในกรณีที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวภาพจากกล้องวงจรปิดจะช่วยให้พิจารณาได้ข้อสรุปง่ายขึ้นนั่นเอง

2.ตั้งสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ประเมินสถานการณ์รถชนขั้นต้น

สิ่งนี้สำคัญมาก ควรตั้งสติให้เร็วหลังจากที่เกิดเหตุรถชนขึ้นมา กรณีที่ไม่ใช่อุบัติเหตุรถชนร้ายแรง รถเฉี่ยวชน-รถชนเล็กน้อย เมื่อเราขับรถชนเราอาจจะหงุดหงิด โกรธประหม่าหรือตื่นกลัวอยู่ ให้เราตั้งสติเเล้วประคับประคองรถไปยังที่จอดรถปลอดภัยก่อน หลังจากตั้งสติหยุดรถได้แล้วสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือการประเมินสถานการณ์ว่าเราชนกับอะไร รถชนรุนแรงหรือเปล่า ? รถชนกับคนอื่นหรือไม่ ? หากไม่มีคู่กรณีก็ดีไปแต่ถ้ามีคู่กรณีเราอาจต้องลงไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเบื้องต้น ซึ่งควรพุดคุยชี้แจงเจตนาให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกฝ่ายดูท่าแล้วมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อเลี่ยงการปะทะเราควรอยู่ในรถแล้วพยายามคุยไกล่เกลี่ยผ่านกระจกรถก่อนจะดีกว่า และในสถานการณ์ที่มีคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนขึ้นมานั้น อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งสายด่วนอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้ได้เร็วมากที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติม >>  เคลมประกันรถยนต์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์

3.โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้มาช่วยไกล่เกลี่ยโดยเร็ว

อุบัติเหตุรถชนล้วนเป็นเรื่องที่เราต้องหาทางออกเคลียร์ให้คลี่คลายโดยเร็ว ไม่ว่าเราจะขับรถไปชนอะไรก็ตาม จะรถเล็ก รถใหญ่ เสาไฟ หรือต้นไม้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี หากเราตั้งสติได้แล้ว เราควรโทรแจ้งบริษัทประกันให้มาช่วยดูสถานการณ์ โดยสามารถโทรแจ้งทันทีหลังจากหยุดรถหรือจะดูสถานการณ์รถชนตรงหน้าให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยโทรแจ้งบริษัทประกันก็ได้ หากสถานการณ์มีแนวโน้มโต้เถียงรุนแรงหรือมีโอกาสที่จะทะเลาะกันได้ เราอาจต้องพิจารณาว่าควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงด้วยหรือไม่
**สิ่งที่ควรรู้ในช่วงนี้ หากเกิดเหตุรถชนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ควรปะทะทะเลาะกับคู่กรณีจนทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายได้ ตั้งสติเเล้วคุยด้วยเหตุผลให้มากที่สุด หาทางออกแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ ( เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ คลิก )

ซึ่งบริษัทประกันมักจะมีสายด่วนที่คอยบริการลูกค้ายามฉุกเฉินเอาไว้เเล้ว เจ้าหน้าที่บริษัทประกันปลายสายอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขกรมธรรม์ชื่อ-นามสกุลของเรา ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและอาจขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วแต่กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประสานให้ตัวแทนบริษัทออกมาช่วยตรวจสอบเหตุการณ์และไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตามลำดับต่อไป

4.รวมรวมเอกสารและหลักฐาน

ในระหว่างรอให้ตัวแทนประกันมาช่วยไกล่เกลี่ยให้รวบเอกสารที่อาจได้ใช้เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ ถ้ามีกล้องหน้ารถให้ตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หรือไม่และถ่ายภาพจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ร่องรอยที่รถเราเสียหาย  ความเสียหายโดยรวมของรถยนต์ที่ถูกรถชนมากน้อยแค่ไหน คู่กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพื่อได้ใช้ในการจะขอเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์

5.เรื่องอายุความของใบเคลมประกันรถยนต์ ก็เป็นเรื่องที่ควรรู้ด้วย

อายุของใบเคลมประกันรถยนต์ เป็นเอกสารที่ทางบริษัทประกันจะมอบให้กับคู่กรณี เพื่อให้นำไปเคลมกับบริษัทประกันเเละศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัทประกัน แต่หากเป็นการรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ( ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า ) อันนี้ต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น ที่จะสามารถนำไปเคลมประกันได้ แต่เราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนเสมอ ซึ่งใบเคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณีจะมีอายุทั้งสิ้น 1 ปี

ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด พลาดไปรถชนคนอื่นจริง บริษัทรถยนต์จะมีการออกใบเคลมประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณี โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปี

หากเราเป็นฝ่ายถูก ถูกรถชนจนได้รับความเสียหาย เราสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถ ค่าขาดผลประโยชน์ ต่อบริษัทประกันของคู่กรณี เเละกับตัวผู้กรณีโดยตรง โดยมีอายุความทั้งสิ้น 1 ปี นับตั้งเเต่วันที่เกิดเหตุ

โดยสรุปแล้วนี่ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยให้ผ่านปัญหาจากการขับรถชนครั้งแรกได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์จริงอาจไม่เหมือนกับเนื้อหาในบทความนี้ แต่จำไว้ว่า "ให้เราตั้งสติและโทรหาประกัน" ไม่ว่าเราจะตื่นกลัวหรือประหม่าตัวแทนบริษัทประกันจะรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ให้คำแนะนำเราในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้การมีและการต่อประกันรถยนต์ไม่ให้ขาดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราไม่รู้เลยว่าเราอาจโชคร้ายในวันที่ประกันขาดก็ได้

ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก สวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อน ให้คุณผ่อนเงินสด 0% นาน 12เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999