ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เรื่องควรรู้ของเงื่อนไขประกันสุขภาพแต่ละฉบับ สิ่งที่ผู้ซื้อควรเข้าใจกรมธรรม์ก่อน

เริ่มโดย landdonmoon, 14:22 น. 30 ม.ค 67

landdonmoon

ทุกวันนี้หากพูดถึงเรื่อง ประกันสุขภาพฉบับแรก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เราได้มีที่พี่งพายามป่วยโรคร้ายแรงต่างๆ แน่นอนว่าค่ารักษาพยาบาลในทุกวันนี้ที่ค่ารักษานั้นเเพงมากทุกโรงพยาบาล ถ้าเราไม่ได้รับมือเข้าถึงประกันสุขภาพไว้ก่อนวันป่วยหนักมาถึง เสี่ยงสูงที่สภาพคล่องการเงินเราหมดลงไปกับค่ารักษาแพงมากได้ ไม่ว่าเราจะมองหาประกันสุขภาพทุกเเห่งล้วนต้องมี กรมธรรม์ (policy) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญสำหรับการถือครองกรมธรรม์ของผู้ซื้อประกัน โดยจะระบุถึงรายละเอียดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆ เช่น ข้อมูลของผู้ทำประกัน , สิทธิความคุ้มครองสุขภาพเเละผลประโยชน์ที่ได้รับ , ช่วงระยะเวลรอคอย , เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่คุ้มครองเเละไม่คุ้มครอง , ตารางจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เเละการต่อประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพ จำเป็นต้องทำความเข้าใจประกันที่เราจะซื้อตั้งเเต่ต้นก่อนเลย เพื่อจะได้เลือกประกันสุขภาพที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด เพราะหากเราไม่เข้าใจกรมธรรม์หรือเข้าใจผิดก็ตาม อาจเสียผลประโยชน์ที่ได้รับก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่เข้าใจกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนซื้อนั้นก็ยังมีอยู่มากมาย เเละนี่ก็คือ 5 เรื่องที่ผู้ซื้อประกันเจอปัญหาบ่อยครั้ง ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1.ช่วงระยะเวลารอคอย

ในความคุ้มครองของ ประกันสุขภาพ ทุกฉบับเเละทุกกรมธรรม์ ล้วนต้องระบุถึงเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้ข้างในกรมธรรม์ประกันที่เราซื้ออยู่เเล้ว ช่วงระยะเวลารอคอย คือช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพจะยังไม่มีผลคุ้มครองโดยทันที ไม่สามารถเคลมประกันในช่วงนี้ได้ เพราะติดช่วงเวลารอคอยอยู่ โดยที่เราต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนถึงประกันจะมีผลคุ้มครองให้กับเรา ใช้สิทธิเคลมประกันได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วบริษัทประกันจะกำหนดเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้หลายช่วงเวลาเช่น 30 วัน , 60 วัน , 120 วัน , 180 วัน ยิ่งเป็นในโรคร้ายแรงที่ค่ารักษาสูงตั้งเเต่หลักแสน-หลักล้านบาท ช่วงระยะเวลารอคอยก็ต้องรอนานหลายเดือนด้วย เพราะเหตุนี้ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจเรื่องนี้ก่อนซื้อประกันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดตอนช่วงที่เราจะเคลมประกันสุขภาพได้ถูกต้องตามช่วงเวลานั่นเอง

2.วงเงินคุ้มครองค่าห้องต่อวันของผู้ป่วยในที่ประกันสุขภาพระบุไว้

ค่าห้องโรงพยาบาล เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เวลาเราเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องเสียเงินจ่ายด้วย ไม่ใช่เเค่เฉพาะค่ารักษาโรคเพียงอย่างเดียว โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีค่าห้องที่เเตกต่างกันด้วย รพ.บางแห่งค่าห้องถูก แต่อีกแห่งค่าห้องราคาแพงมาก ซึ่งประกันสุขภาพแต่ละฉบับก็จะมีการระบุถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้องเอาไว้เป็นจำนวนเงินชัดเจน อาทิ ค่าชดเชยค่าห้องรักษาตกวันละ 2000-4000 บาท ต่อคืน ถ้าหากเราดันเข้าห้องพักรักษาที่ค่าห้องแพงกว่าวงเงินคุ้มครองค่าห้องที่ประกันได้ระบุไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือผู้ซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >>  กรมธรรม์ประกันสุขภาพ

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ

3.เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน

ปัญหาการสำรองจ่ายก่อนเป็นเหตุการณ์ที่มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ ในกรณีที่เราป่วยหนักในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นระยะเวลารอคอยของประกันสุขภาพไปไม่นาน เช่น ทำประกันผ่านไป 1 ปี แล้วเราเกิดป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรงซึ่งเราไปเคลมประกัน เช่น โรคมะเร็ง , โรคหัวใจ ,โรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกันมีสิทธิที่กำหนดให้เราต้องสำรองจ่ายเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง เพราะบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ทำประกันย้อนหลังก่อนทำการเคลมประกันได้ ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อผู้ซื้อประกันสุขภาพหลายคนเจอปัญหานี้ก็รู้สึกเเย่มาก แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจะพบว่า เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อนมักจะกำหนดในเคสที่ประกันสุขภาพที่ทำนั้น อายุกรมธรรม์ยังน้อยเกินไป หรือ อายุกรมธรรม์ยังไม่ถึง 2 ปี ซึ่งบริษัทประกันส่วนใหญ่มองว่าอายุประกันที่ทำยังน้อยเกินไป ไม่สมเหตุสมผลสำหรับการเคลมประกันสุขภาพในโรคร้ายแรง ก็จำเป็นต้องเช็คข้อมูลประวัติสุขภาพย้อนหลังของผู้ซื้อประกันก่อน ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ถ้าไม่มีปัญหาใดๆในการเคลม บริษัทประกันก็จะอนุมัติการเคลมประกันสุขภาพให้ในที่สุด

**คำแนะนำในเรื่องนี้ ผู้ซื้อประกันสุขภาพควรเข้าใจในเงื่อนไขสำรองจ่ายก่อนซื้อประกัน โดยเเนะนำว่าช่วงแรกๆที่กรมธรรม์ที่ทำอายุยังน้อยมากอยู่ หรืออายุประกันยังไม่ถึง 2 ปี อย่าเพิ่งเคลมประกันสุขภาพบ่อยนัก ป่วยเล็กน้อยก็ไม่ควรเคลมประกันสุขภาพช่วงนี้มาก เพื่อเก็บสิทธิไว้ใช้ประกันสุขภาพรอเคลมประกันช่วงที่ป่วยหนักจากโรคร้ายแรงในอนาคตจะดีกว่าครับ

4.ไม่เข้าใจเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญา

เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการระบุถึง โรงพยาบาลคู่สัญญา ของบริษัทประกันที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่เราไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่คู่สัญญา ส่งผลเสียเราต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง แนะนำว่าให้ผู้ซื้อประกันควรเช็คข้อมูลโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อนซื้อประกันเลย ดูตรงที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่แฟลกเคลมได้ จะได้ตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างหมดห่วงได้

5.เลือกการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง

หลายคนพลาดพลั้งต่อปัญหาเบี้ยประกันสุขภาพเเพง เพราะซื้อประกันสุขภาพที่เเพงเกินกำลังซื้อของเราไปมากโข แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไม่ควรเกิน 15% ของรายได้เราในเเต่ละเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว ส่วนจะเลือกจ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี หรือจ่ายเบี้ยประกันแบบรายเดือนก็ตาม เราควรคิดให้รอบคอบเเละวางแผนการเงินล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกสามารถเข้าใจก่อนซื้อประกัน เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันให้เหมาะสมกับเรา
ส่งเบี้ยประกันไหว+ไม่เกินกำลังซื้อ ใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกช่วงเวลาตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง ประกันสวัสดีดอทคอม เรามีครบทั้งประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ให้เพื่อนๆได้เลือกชม สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้ด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อประกันสุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ

ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599