ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เลือกประกันสุขภาพฉบับแรกอย่างไรดี ให้เราเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ได้อย่างเนิ่นๆ

เริ่มโดย landdonmoon, 16:20 น. 07 ก.พ 67

landdonmoon

โดยทั่วไปเเล้วเวลาที่เราจะมองหาความคุ้มครองของประกันสุขภาพสักฉบับนั้น ไม่ว่าเราจะไปเลือกประกันที่ไหนก็ตาม
ทุกเเห่งล้วนต้องมี กรมธรรม์ ( policy ) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญสำหรับการถือครองกรมธรรม์ของผู้ซื้อประกัน โดยจะ
ระบุถึงรายละเอียดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆ เช่น ข้อมูลของผู้ทำประกัน สิทธิความคุ้มครองสุขภาพ
เเละผลประโยชน์ที่ได้รับ เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่คุ้มครองเเละไม่คุ้มครอง ช่วงระยะเวลารอคอย ตารางจ่ายเบี้ย
ประกันสุขภาพ เเละการต่อประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ ซื้อประกันสุขภาพ จำเป็นต้องทำความ
เข้าใจตั้งเเต่ต้นก่อนเลย เพื่อจะได้เลือกประกันสุขภาพที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด เพราะหากเราไม่เข้าใจกรมธรรม์หรือ
เข้าใจผิดก็ตาม อาจเสียผลประโยชน์ที่ได้รับก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ในปัญหาความไม่เข้าใจกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนซื้อนั้นก็ยังมีอยู่มาก เเละนี่ก็คือ 6 เรื่องที่ผู้ซื้อประกัน
เจอปัญหาบ่อยครั้ง มีดังต่อไปนี้

1.ช่วงระยะเวลารอคอย

เพราะความคุ้มครองของ ประกันสุขภาพ ทุกฉบับเเละทุกกรมธรรม์ ล้วนต้องระบุถึงเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้ข้างในกรมธรรม์ประกันที่เราซื้ออยู่เเล้ว ช่วงระยะเวลารอคอย
ก็คือช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพจะยังไม่มีผลคุ้มครองโดยทันที ซึ่งไม่สามารถเคลมประกันได้ ติดช่วงเวลาที่เราต้องรอให้
ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน ถึงประกันจะมีผลคุ้มครองให้กับเรา ใช้สิทธิเคลมประกันได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วบริษัทประกันจะ
กำหนดเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้หลายช่วงเวลาเช่น 30 วัน , 60 วัน , 120 วัน , 180 วัน ยิ่งเป็นใน
โรคร้ายแรงที่ค่ารักษาสูง ช่วงระยะเวลารอคอยก็ต้องรอนานไปด้วย เพราะเหตุนี้ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจเรื่องนี้ก่อน
ซื้อประกันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดในช่วงที่เราจะเคลมประกันสุขภาพได้ถูกต้องตามช่วงเวลานั่นเอง

2.วงเงินคุ้มครองค่าห้องต่อวันของผู้ป่วยในที่ประกันสุขภาพระบุไว้

ค่าห้องโรงพยาบาล เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เวลาเราเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องเสียเงินด้วย ไม่ใช่เเค่เฉพาะ
ค่ารักษาเพียงอย่างเดียว โดยเเต่ละโรงพยาบาลก็มีค่าห้องที่เเตกต่างกันด้วย บางโรงพยาบาลค่าห้องถูก แต่บาง
โรงพยาบาลค่าห้องแพงมาก ซึ่งประกันสุขภาพแต่ละฉบับก็จะมีการระบุถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้องเอาไว้เป็น
จำนวนเงินชัดเจน ถ้าหากเราเข้าห้องพักรักษาที่ค่าห้องแพงกว่าวงเงินคุ้มครองค่าห้องที่ระบุไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนต่าง
ที่เหลือผู้ซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >>  กรมธรรม์ประกันสุขภาพ

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ

3.เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในกรณีที่เราป่วยหนักในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นระยะเวลารอคอยของประกันสุขภาพ
ไปไม่นานนัก เช่น ผ่านไป 1 ปีเเล้วเราเกิดป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรงซึ่งเราไปเคลมประกันสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง
, โรคหัวใจ ,โรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกันมีสิทธิที่จะกำหนดให้เราต้องสำรองจ่ายเองไปก่อน
เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง เพราะบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ทำประกันย้อนหลังก่อนทำการ
เคลมประกันได้ ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อผู้ซื้อประกันสุขภาพหลายคนเจอปัญหานี้ก็รู้สึกเเย่ แต่หากเมื่อ
พิจารณาข้อเท็จจริงจะพบว่า เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อนมักจะกำหนดในเคสที่ประกันสุขภาพที่ทำนั้น อายุกรมธรรม์
ยังน้อยเกินไป หรือ อายุกรมธรรม์ไม่ถึง 2 ปี
ซึ่งบริษัทประกันก็จำเป็นต้องเช็คข้อมูลประวัติสุขภาพย้อนหลังของ
ผู้ซื้อประกันก่อน ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ บริษัทประกันก็จะอนุมัติการเคลมประกันสุขภาพให้ในที่สุด

** คำแนะนำในเรื่องนี้ ผู้ซื้อประกันสุขภาพควรเข้าใจในเงื่อนไขสำรองจ่ายก่อนซื้อประกัน โดยเเนะนำว่าช่วงแรกๆที่
กรมธรรม์อายุยังน้อยอยู่อายุประกันยังไม่ถึง 2 ปี อย่าเพิ่งเคลมประกันสุขภาพบ่อยนัก ป่วยเล็กน้อยก็ไม่ควรเคลม
ประกันสุขภาพช่วงนี้มาก เพื่อเก็บสิทธิไว้ใช้ประกันสุขภาพรอเคลมประกันช่วงที่ป่วยหนักจากโรคร้ายแรงในอนาคตจะดีกว่า

4.ไม่เข้าใจเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญา

เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการระบุถึง โรงพยาบาลคู่สัญญาของบริษัทประกันที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่เรา
ไปเข้ารับการักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่คู่สัญญา ส่งผลเสียเราต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกัน
ในภายหลัง แนะนำว่าให้ผู้ซื้อประกันควรเช็คข้อมูลโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อนซื้อประกันเลย ดูตรงที่โรงพยาบาลคู่สัญญา
ที่แฟลกเคลมได้ จะได้ตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างหมดห่วง

5.เลือกการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง

หลายคนพลาดพลั้งต่อปัญหาเบี้ยประกันสุขภาพเเพง เพราะซื้อประกันสุขภาพที่เเพงเกินกำลังซื้อของเราไปมากโข
แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไม่ควรเกิน 15% ของรายได้เราในเเต่ละเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว
ส่วนจะเลือกจ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี หรือจ่ายเบี้ยประกันแบบรายเดือนก็ตาม เราควรคิดให้รอบคอบเเละวางแผน
การเงินล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีด้วยนะ

6.การรักษาที่เกินจำเป็นมากไป
 
สาเหตุนี้มักเกิดจากความไม่เข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองของผู้ซื้อ เช่น รู้สึกปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ ก็รีบไปโรงพยาบาลแล้ว
ขอนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้เกิน 6 ชั่วโมง เพื่อให้มีสถานะเป็นผู้ป่วยในซึ่งหวังว่าจะสามารถเคลมได้ แต่ในสัญญา
กรมธรรม์ระบุเงื่อนไขไว้ว่า ต้องเป็นการรักษาที่จำเป็น ในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยได้รับคำวินิจฉัยหรือความเห็นจากแพทย์
ดังนั้นถ้าเราขอนอนโรงพยาบาลเองโดยไม่ได้เกิดจากความเห็นของแพทย์ จึงไม่สามารถเคลมประกันได้ เเละนอกจากนี้ยังมี
เรื่องของเงินชดเชยรายได้ยามป่วยที่มีกรณีเคลมประกันนอนโรงพยาบาลเยอะมากเกินความจำเป็น ก็เข้าข่ายเคลมประกันสุขภาพ
เกินความจำเป็นได้

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกสามารถเข้าใจก่อนซื้อประกัน เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกัน
ให้เหมาะสมกับเราส่งเบี้ยประกันสุขภาพไหว ใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกช่วงเวลาตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์ระบุไว้นั่นเอง
ประกันสวัสดีดอทคอม เรามีครบทั้งประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ให้เพื่อนๆได้เลือกชม สามารถเปรียบเทียบ
ประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้ด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อประกันสุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้า
เว็บไซต์ได้เลยครับ

ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599