เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ ประกันรถไฟฟ้า คุ้มครองอะไรบ้าง เลือกอย่างไรดี

[radnana]

ในปี พ.ศ.2565 และ 2566 ประเทศไทยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมกันกว่า 80,000 คันและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน, ช่วยลดปัญหามลภาวะและยังได้รับเงินอุดหนุนตามนโยบายรัฐ ซึ่งเป็น ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า ในบทความนี้ DirectAsia จะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับคุ้มครองที่จะได้รับจาก ประกันรถไฟฟ้า พร้อมแนะนำประกันรถ ev  และเปรียบเทียบความคุ้มค่าของค่าเบี้ยประกันแบบเจาะลึกมาให้แล้ว

เผย 5 ความคุ้มครองของ ประกันรถไฟฟ้า
1. คุ้มครองการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานที่มีวันเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ประกันรถ ev จึงให้ความคุ้มครองในเรื่องสำคัญนี้ โดยจะให้ความคุ้มครองในปีแรก 100%, หลังจากปีที่ 2 - ปีที่ 4 ให้ความคุ้มครองลดลงปีละ 10% และหลังจากปีที่ 5 เป็นต้นไปจะให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่ 50%
2. คุ้มครองการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ชาร์จไฟ
อุปกรณ์ชาร์จเป็นส่วนสำคัญที่เสื่อมสภาพได้เมื่อใช้งานไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง โดยสาเหตุของการเสื่อมสภาพอาจเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานหรือเกิดจากอุบัติเหตุก็ได้
3. คุ้มครองตัวถังจากการเฉี่ยวชน
ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชนทั้งแบบที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการนำรถเข้าซ่อมยังศูนย์บริการที่เชื่อถือได้
4. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและชดเชยความสูญเสีย
ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่, ผู้โดยสารหรือคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บ, สูญเสียอวัยวะ, ร่างกายหรือชีวิต จะได้รับความคุ้มครองตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
5. คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
เพื่อชดเชยความผิดที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอกตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

รู้หรือไม่? เลือก ประกันรถยนต์ไฟฟ้า แบบไหนดี
ในปัจจุบัน ประกันรถยนต์ EV มีให้เลือกเพียงประเภทเดียว คือ ประกันภัยรถไฟฟ้าชั้น 1 ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ทุกประการและเพิ่มความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า ได้แก่ สายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, หัวชาร์จและเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน

5 สาเหตุที่ส่งผลให้ค่าเบี้ย ประกันรถ ev มีราคาแพง
หากเปรียบเทียบระหว่างค่าเบี้ย ประกันรถยนต์ไฟฟ้า และค่าเบี้ยประกันรถยนต์ทั่วไป ค่าเบี้ยประกันภัยรถไฟฟ้าย่อมสูงกว่า เนื่องมาจากสาเหตุหลัก 5 ประการ ได้แก่
1. จำนวนผู้จดทะเบียนรถไฟฟ้ายังมีจำนวนไม่มาก
2. รถไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมใหม่จึงมีความเสี่ยงสูง
3. ความคุ้มครองอายุการใช้งานแบตเตอรี่
4. ศูนย์บริการมีน้อยและหาอะไหล่ยาก
5. บริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะยังมีน้อย

ประกันรถยนต์ EV โดย DirectAsia เป็นประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่, ผู้โดยสารและบุคคลภายนอกครอบคลุมไปถึงความเสี่ยงต่อรถไฟฟ้าและอุปกรณ์ชาร์จ นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และรถถูกโจรกรรม หากคุณมองหาประกันภัยรถไฟฟ้าที่ช่วยปิดประตูความเสี่ยง เช็กค่าเบี้ยประกันได้ที่ www.directasia.co.th/ev-car-insurance