ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ลาก่อนไขมัน! รู้จัก CoolSculpting เทคโนโลยีลดไขมันยุคใหม่ ไม่ต้องเจ็บตัว

เริ่มโดย beautypost, 15:58 น. 21 ส.ค 67

beautypost


CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีลดไขมันที่ใช้ความเย็นแช่แข็งและกำจัดเซลล์ไขมัน ซึ่งช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้ยา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินที่ไม่อยากเจ็บตัว 
 
สำหรับใครที่สนใจ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ CoolSculpting ว่าคืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? มีข้อดีอะไรบ้าง ?ใช้สลายไขมันบริเวณไหน ? เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ? มีขั้นตอนการทำอย่างไร ? เจ็บไหม ? ให้ผลอย่างไร ?
 
สารบัญ Coolsculpting
 
  • CoolSculpting คืออะไร ?
  • หลักการทำงานของ CoolSculpting
  • ข้อดีของการทำ CoolSculpting
  • บริเวณที่สามารถทำ CoolSculpting ได้
  • การทำ CoolSculpting เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?
  • ขั้นตอนการทำ CoolSculpting
  • ทำ CoolSculpting เจ็บไหม ?
  • ทำ CoolSculpting เห็นผลแค่ไหน ?



 
CoolSculpting คืออะไร ?
 

CoolSculpting คือ เทคโนโลยีสลายไขมันแบบไม่ผ่าตัด ที่ใช้ความเย็นกำจัดเซลล์ไขมัน ถูกคิดค้นโดยนายแพทย์ Dieter Manstein และนายแพทย์ R. Rox Anderson จากมหาวิทยาลัย Harvard ในสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ตั้งแต่ปี 2010 และในประเทศไทยได้รับการรับรองจาก อย. โดยนำเข้าโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (ประเทศไทย) 
 


 
หลักการทำงานของ CoolSculpting
 

หลักการทำงานของ CoolSculpting คือจะใช้ความเย็นระดับ -11°C แช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง โดยใช้หัวดูดดึงชั้นไขมันเข้าเครื่องและปล่อยความเย็นนาน 35 นาทีต่อจุด หลังจากนั้นจะนวดเพื่อทำลายเซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็ง ร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกเองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ชั้นไขมันบางลงและรูปร่างกระชับขึ้น โดยการรักษาแต่ละครั้ง สามารถลดไขมันได้ 20-25% โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ แบบไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น 
 


 
ข้อดีของการทำ CoolSculpting
 
✔ ไม่ต้องผ่าตัด : ปลอดภัยและไม่มีแผล
 
✔ ไม่ต้องพักฟื้น : สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
 
✔ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ : ไขมันค่อย ๆ ลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ
 
✔ มีความเฉพาะเจาะจง : สามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่ต้องการได้
 
✔ ให้ผลลัพธ์ถาวร : เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่กลับมาอีก
 
✔ ทำลายเฉพาะเซลล์ไขมัน : ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นบน
 
✔ มีระบบ Freeze Detect : ตรวจจับความเย็น ซึ่งจะหยุดทำงานทันทีเมื่อผิวเย็นเกินไป
 


 
บริเวณที่สามารถทำ CoolSculpting ได้
 
CoolSculpting เป็นเทคนิคที่ใช้ในการลดไขมันเฉพาะจุดด้วยการแช่แข็งเซลล์ไขมัน ตามบริเวณต่าง ๆ ที่มีไขมันส่วนเกิน ดังนี้ 
 
  • หน้าท้อง - ลดไขมันสะสมที่หน้าท้องเพื่อให้หน้าท้องเรียบและกระชับมากขึ้น
  • ต้นแขน - ปรับรูปร่างต้นแขนให้กระชับและลดไขมันส่วนเกิน
  • ต้นขา - ลดไขมันบริเวณต้นขาทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อขาเรียวสวย
  • เอวและหลัง - ลดไขมันส่วนเกินที่เอวและหลัง เพื่อให้รูปร่างเป็นสัดส่วนมากขึ้น
  • ใต้คาง - ลดไขมันใต้คางหรือที่เรียกว่า "เหนียง" ให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
  • สะโพกและก้น - ปรับรูปทรงสะโพกและก้นให้กระชับและดูดีขึ้น
  • น่อง - ลดไขมันส่วนเกินที่น่องเพื่อให้ขาเรียวมากขึ้น



 
การทำ CoolSculpting เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?
 
CoolSculpting เหมาะกับ
 
  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ที่ไม่หายด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวใกล้เคียงกับน้ำหนักที่เหมาะสม (BMI ไม่เกิน 35)
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือมีข้อจำกัดทางการแพทย์ในการผ่าตัด

CoolSculpting ไม่เหมาะกับ
 
  • ผู้ที่อ้วนมาก (BMI เกิน 35)
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่าย หรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด เช่น ลมพิษจากความเย็น
  • ผู้ที่เป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
  • ผู้ที่มีภาวะไส้เลื่อนบริเวณที่จะทำการรักษา
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบประสาทบริเวณที่จะทำการรักษา
  • ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักมาก ๆ

ทั้งนี้ ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนการรักษาเสมอ เนื่องจากแต่ละบุคคลอาจมีข้อจำกัดเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน 
 


 
ขั้นตอนการทำ CoolSculpting
 

  • ปรึกษาแพทย์ : แพทย์จะประเมินสัดส่วนร่างกายและเลือกขนาดหัวแอปพลิเคเตอร์ที่เหมาะสม พร้อมวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
  • เตรียมพื้นที่รักษา : ทำความสะอาดผิวและวางผ้าเจลป้องกันบริเวณที่จะทำการรักษา
  • ดำเนินการรักษา : วางหัวแอปพลิเคเตอร์บนบริเวณเป้าหมาย เครื่องจะดูดผิวหนังและชั้นไขมันเข้าไปในหัวแอปพลิเคเตอร์ จากนั้นปล่อยความเย็นเพื่อแช่แข็งเซลล์ไขมัน กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 35-45 นาที
  • นวดหลังรักษา : หลังจากนำหัวแอปพลิเคเตอร์ออก ผู้เชี่ยวชาญจะนวดบริเวณที่ได้รับการรักษาประมาณ 2 นาที เพื่อทำลายผลึกไขมันที่แข็งตัวและกระตุ้นการดูดซึมของร่างกาย
  • คำแนะนำหลังรักษา : แพทย์ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษา และอาจนัดติดตามผลในภายหลัง



 
ทำ CoolSculpting เจ็บไหม ?
 
การทำ CoolSculpting ไม่ได้เจ็บมาก แต่ก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึกเลย ระหว่างทำอาจรู้สึกเย็นจัดและชา ส่วนที่อาจเจ็บที่สุดคือการนวดหลังทำ ซึ่งจำเป็นสำหรับการเห็นผลลัพธ์ที่ดี หลังทำอาจมีอาการปวด บวม หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ และไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แต่โดยรวมแล้ว CoolSculpting มีความเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดดูดไขมัน
 


 
ทำ CoolSculpting เห็นผลแค่ไหน ?
 
CoolSculpting สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำได้ประมาณ 20-25% ต่อครั้ง โดยจะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลงในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังทำ เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลากำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 3 เดือน
 
นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่ทำ ปริมาณไขมัน และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล บางคนอาจต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ 
 
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ควรจำไว้คือ CoolSculpting ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีปรับรูปร่างและลดไขมันเฉพาะจุด ควรทำร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานในระยะยาว
 


 
สรุป CoolSculpting
 
CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีลดไขมันสมัยใหม่ที่ใช้ความเย็นในการสลายเซลล์ไขมัน โดดเด่นด้วยความปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้สามารถลดไขมันได้ถึง 20-25% ต่อครั้ง โดยไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดที่ลดยากด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร 
 
อย่างไรก็ตาม ก่อนทำ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด