ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ผิวไหม้แดด ไม่ใช่เรื่องเล็ก! รู้ทันภัยร้ายจากแสง UV พร้อมเคล็ดลับป้องกันที่ใครก็

เริ่มโดย beautypost, 10:43 น. 25 ต.ค 67

beautypost




 
ผิวไหม้แดด
 
ผิวไหม้แดด เป็นปัญหาที่หลายคนมองข้าม แต่ผลกระทบจากแดดที่รุนแรง อาจทำให้ทั้งหน้าไหม้และตัวไหม้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวในระยะยาว การป้องกันและดูแลผิวจากแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย 
 
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับอันตรายของผิวไหม้แดด พร้อมแนะนำเคล็ดลับป้องกันง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ เพื่อให้คุณสามารถเผชิญกับแสงแดดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาผิวไหม้จากแดดอีกต่อไป 
 
คลิกอ่านหัวข้อ ผิวไหม้แดด
 
  • ภาวะผิวไหม้แดด (Sunburn) คืออะไร ?
  • สาเหตุที่ทำให้ผิวไหม้แดด เกิดจากอะไร ?
  • อาการผิวไหม้แดด เป็นแบบไหน ?
  • ผิวไหม้แดด มีกี่ระดับความรุนแรง ?
  • วิธีป้องกันการเกิดอาการผิวไหม้แดด เมื่อต้องเผชิญแดดจัด
    • ทาครีมกันแดดทุกวันสวมเสื้อผ้าที่ปิดบังหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แดดแรง
    • ทาครีมกันแดดทุกวัน
    • สวมเสื้อผ้าที่ปิดบัง
    • หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แดดแรง
  • ผิวไหม้แดด อันตรายไหม ?
  • ผิวไหม้แดด ใช้เวลาฟื้นฟูนานไหม ?
  • สรุปเรื่องผิวตัว ผิวหน้าไหม้แดด



 
ภาวะผิวไหม้แดด (Sunburn) คืออะไร ?
 

ภาวะผิวไหม้แดด หรือ Sunburn คือ การที่ผิวหนังได้รับการทำลายจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด ซึ่งทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ผิวแดง บวม และในบางกรณีอาจมีการลอกเป็นขุย 
 
เมื่อเกิดอาการผิวไหม้แดด หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาผิวในระยะยาว เช่น ฝ้า กระ ริ้วรอยก่อนวัย หรือแม้กระทั่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง
 


 
สาเหตุที่ทำให้ผิวไหม้แดด เกิดจากอะไร ?
 
ผิวไหม้แดดอาจเกิดจากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสแสงแดด และปัจจัยที่ทำให้ผิวไวต่อแสง โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
 

  • การสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงที่สุดระหว่าง 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีรังสี UVB สูงสุดและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวไหม้แดดได้ง่าย
  • ไม่ได้ทาครีมกันแดดหรือทาไม่เพียงพอ ครีมกันแดดมีหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UV แต่หากไม่ทาครีมกันแดด หรือทาในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้ผิวถูกทำลายจากแสงแดดได้ง่าย
  • ไม่ได้ทาครีมกันแดดซ้ำ เมื่อเวลาผ่านไป ครีมกันแดดจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง ดังนั้นจึงควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยขึ้นหากทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมากหรือสัมผัสน้ำ
  • ไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องผิว เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก และแว่นตากันแดด ที่ช่วยลดการสัมผัสแสงแดดโดยตรงกับผิวหนัง
  • ผิวบางหรือแพ้ง่าย สำหรับคนที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย จะมีโอกาสเกิดผิวไหม้แดดได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ เนื่องจากผิวไม่สามารถต้านทานรังสี UV ได้ดีพอ
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ และยาคุมกำเนิด อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดผิวไหม้แดดได้ง่ายขึ้น
  • การมีประวัติผิวไหม้แดดมาก่อน ผู้ที่เคยมีประวัติผิวไหม้แดดบ่อยครั้ง จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดผิวไหม้แดดซ้ำได้ง่ายกว่า เนื่องจากผิวอาจมีความไวต่อแสงแดดเพิ่มขึ้น



 
อาการผิวไหม้แดด เป็นแบบไหน ?
 
อาการผิวไหม้แดดเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังได้รับความเสียหายจากการสัมผัสรังสี UV มากเกินไป ซึ่งอาการที่พบได้ มีดังนี้ 
 

  • ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือชมพู และรู้สึกแสบผิวจากแดดเมื่อสัมผัส
  • ผิวอุ่นหรือร้อนเมื่อแตะ
  • มีอาการคัน หรืออาจมีตุ่มน้ำขึ้นบนผิวหนัง
  • ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย หลังจากผ่านไป 2-3 วัน ซึ่งเป็นการฟื้นฟูตามธรรมชาติของผิวหนัง
  • ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจมีไข้สูง ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า หรือคลื่นไส้



 
ผิวไหม้แดด มีกี่ระดับความรุนแรง ?
 
อาการของผิวไหม้แดด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับความรุนแรง ดังนี้
 
  • ระดับ 1 : ผิวไหม้แดดเล็กน้อย

ในระดับนี้ อาการผิวไหม้แดดจะเริ่มต้นด้วยผิวที่มีสีแดงเล็กน้อย อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส หลังจากนั้นผ่านไป 3-5 วัน บริเวณผิวที่ไหม้แดดอาจลอกออก เนื่องจากกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่สัมผัสแสงแดดเพียงเล็กน้อยโดยไม่ได้ปกป้องผิว
 
  • ระดับ 2 : ผิวไหม้แดดปานกลาง

ในระดับนี้ อาการจะรุนแรงขึ้นโดยจะมีความรู้สึกแสบและคัน ผิวมีอาการบวมแดง และในบางรายอาจมีอาการหน้าไหม้ ผิวคล้ำขึ้นในบริเวณที่ถูกแสงแดดทำร้าย อาการผิวไหม้แดดปานกลางอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน ประมาณ 5-7 วัน และจำเป็นต้องดูแลผิวอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อผิวในระยะยาว
 
  • ระดับ 3 : ผิวไหม้แดดรุนแรง

ผิวไหม้แดดรุนแรงในระดับนี้ถือว่าอันตรายที่สุด จะมีอาการแดงและปวดแสบปวดร้อนอย่างหนัก อาจมีอาการคันและเกิดตุ่มน้ำขึ้นบริเวณที่ถูกแสงแดดทำร้าย 
 
ในกรณีที่มีอาการมากหรือมีตุ่มน้ำขนาดใหญ่ ควรรีบพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ และแนวทางการดูแลรักษาผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ ในการฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและหมองคล้ำ
 


 
วิธีป้องกันการเกิดอาการผิวไหม้แดด เมื่อต้องเผชิญแดดจัด
 


 
1. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
 

ควรทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันผิวไหม้แดด โดยการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และมีค่า PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วผิวหนังในปริมาณที่เพียงพออย่างน้อย 15-30 นาทีก่อนออกจากบ้าน 
 
และอย่าลืมทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยขึ้นหากมีเหงื่อออกมาก หรือสัมผัสน้ำ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีสูตรกันน้ำในกรณีที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีการเปียกน้ำบ่อย ๆ
 


 
2. สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังป้องกันแดด
 
การใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา หรือมีสีเข้มสามารถช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้สัมผัสกับผิวโดยตรง เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด การใช้เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติกันรังสี UV (UPF) ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวไหม้แดด
 


 
3. หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แดดแรง
 
ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รังสี UV มีความเข้มข้นมากที่สุด หากจำเป็นต้องออกแดดในช่วงเวลานี้ ควรหาวิธีปกป้องผิวไหม้แดดอย่างเหมาะสม
 


 
4. หาที่ร่มหรือใช้ร่มกันแดด
 

เมื่อต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน การหาที่ร่มหรือใช้ร่มกันแดด สามารถช่วยลดการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผิวไหม้แดด
 


 
5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม
 
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยฟื้นฟู และปกป้องผิวไหม้แดดจากการทำลายของแสงแดด เช่น วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ
 


 
6. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด
 
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ เช่น AHA หรือ BHA ซึ่งอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น รวมถึงยาบางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียงในการทำให้ผิวไวต่อแสง ควรปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้ยา
 
ด้วยการป้องกันและดูแลผิวจากแสงแดดอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการผิวไหม้แดด และป้องกันปัญหาสุขภาพผิวในระยะยาว
 


 
ผิวไหม้แดด อันตรายไหม ?
 
ผิวไหม้แดดอาจดูไม่ใช่ภาวะที่ร้ายแรงในระยะสั้น แต่หากเกิดขึ้นซ้ำ ๆ สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ในระยะยาว ดังนี้ 
 
  • ผิวหนังเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย : การที่ผิวไหม้จากแดดซ้ำบ่อย ๆ จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงและยืดหยุ่น ทำให้เกิดริ้วรอยและผิวเหี่ยวย่น
  • เกิดจุดด่างดำและฝ้า : ผิวไหม้แดดสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตเมลานินในผิวมากขึ้น ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • มะเร็งผิวหนัง : การไหม้แดดซ้ำ ๆ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวขาว จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังที่ร้ายแรง
  • ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง : การไหม้แดดสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายไวต่อการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ดังนั้น การปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากผิวไหม้แดด 
 


 
ผิวไหม้แดด ใช้เวลาฟื้นฟูนานไหม ?
 
ผิวไหม้แดดมักใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการไหม้ และการดูแลรักษาผิวอย่างเหมาะสม ในบางกรณีที่ผิวไหม้แดดอย่างรุนแรง อาจใช้เวลานานกว่านั้นในการฟื้นตัวเต็มที่ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ควรดูแลตัวเองด้วยวิธีดังนี้ 
 
  • อาบน้ำเย็นหรือประคบเย็น : ใช้น้ำเย็นช่วยลดอาการแสบร้อน และลดการอักเสบของผิวหนัง อย่าใช้น้ำร้อนเพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น : เช่น โลชั่นหรือเจลว่านหางจระเข้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและลดอาการคันหรือระคายเคือง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและฟื้นตัวจากการเสียความชุ่มชื้นเนื่องจากการไหม้แดดได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติม : พยายามไม่ให้ผิวที่ไหม้แดดสัมผัสแสงแดดซ้ำอีกจนกว่าจะหายดี หากจำเป็นต้องออกแดด ควรสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการลอก แกะ หรือเกาผิว : ห้ามลอกหรือแกะผิวที่กำลังลอกออก เพราะอาจทำให้ผิวหนังเสียหายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ : เช่น วิตามินซี หรือวิตามินอี เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดและลดการเกิดรอยด่างดำ



 
สรุปเรื่องผิวตัว ผิวหน้าไหม้แดด
 
ผิวไหม้แดดเกิดจากการสัมผัสแสงแดดโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและเสียหายได้ การป้องกันด้วยครีมกันแดดและการสวมใส่เสื้อผ้าที่ปิดบัง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยง นอกจากนี้ หากเกิดอาการหน้าไหม้จากแดดหรือแสบผิวจากแดด ควรรีบดูแลและฟื้นฟูผิวอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันปัญหาผิวในระยะยาวและสุขภาพผิวที่ดีขึ้นค่ะ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/sunburn/