ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีมีโอกาสขาดทุน เงินเดือนไม่สูงจะคุ้มไหม?

เริ่มโดย w.cassie, 09:22 น. 16 ม.ค 68

w.cassie

ในช่วงสิ้นปี หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดหย่อนภาษีเพื่อลดภาระการชำระภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐ การซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากไม่เพียงช่วยลดหย่อนภาษี แต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คำถามที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีฐานเงินเดือนไม่สูงคือ "หากลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเหล่านี้ มีโอกาสขาดทุน แล้วจะคุ้มค่ากับการลดหย่อนภาษีหรือไม่?"


1. การลดหย่อนภาษี: ประโยชน์ที่สำคัญ
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น
-SSF: ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
-RMF: ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ และต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับการลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
หากฐานเงินเดือนไม่สูง เช่น อยู่ในกลุ่มที่เสียภาษี 5%-10% ประโยชน์ที่ได้จากการลดหย่อนอาจจะดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับคนที่เสียภาษีในอัตรา 20%-30%

2. โอกาสขาดทุนจากการลงทุนในกองทุน
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ก็มีความเสี่ยงขาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเลือกกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น หรือสินทรัพย์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การขาดทุนในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นในอนาคต

แต่หากฐานเงินเดือนของคุณไม่สูง การรับความเสี่ยงจากการขาดทุนอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้น ดังนั้น ควรพิจารณาถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงและแผนการเงินของตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน

3. ฐานเงินเดือนไม่สูง: การลงทุนจะคุ้มค่าหรือไม่?
เพื่อประเมินว่าการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF จะคุ้มค่าหรือไม่ คุณควรพิจารณา 3 ปัจจัยหลักต่อไปนี้:
    3.1. อัตราภาษีที่ต้องเสีย
หากคุณอยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีในอัตราเพียง 5% ประโยชน์ที่ได้รับจากการลดหย่อนอาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากคุณจะประหยัดเงินภาษีได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    3.2. ความสามารถในการถือครองระยะยาว
SSF และ RMF มีกฎเกณฑ์ที่ต้องถือครองนาน เช่น SSF ต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ส่วน RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี การไม่สามารถถือครองจนถึงเวลาที่กำหนด อาจทำให้คุณต้องคืนสิทธิ์การลดหย่อนภาษีและเสียค่าปรับเพิ่มเติม
    3.3. ความพร้อมทางการเงิน
หากคุณมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบสูง หรือมีเงินสำรองไม่เพียงพอ การนำเงินไปลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีอาจสร้างความลำบากในการบริหารการเงินในชีวิตประจำวัน

4. ข้อเสนอแนะสำหรับผู้มีฐานเงินเดือนไม่สูง
-สำรวจตัวเลือกการลดหย่อนอื่น: หากกองทุนลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF ดูจะมีความเสี่ยงเกินไปสำหรับคุณ อาจพิจารณาวิธีลดหย่อนอื่น ๆ เช่น ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต
-ลงทุนในกองทุนความเสี่ยงต่ำ: หากคุณยังสนใจลงทุนในกองทุน ควรเลือกกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ เพื่อช่วยลดความผันผวน
-วางแผนภาษีอย่างรอบคอบ: คำนวณว่าเงินที่ลดหย่อนภาษีได้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องลงทุนหรือไม่

การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF เพื่อการลดหย่อนภาษีอาจคุ้มค่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หากคุณมีฐานเงินเดือนไม่สูง ประโยชน์จากการลดหย่อนอาจไม่มากเท่ากับความเสี่ยงในการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนอย่างรอบคอบและเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสม การใช้กองทุนลดหย่อนภาษีอาจเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้คุณมีการออมระยะยาวที่มีประสิทธิภาพและลดภาระภาษีได้อย่างเหมาะสมในเวลาเดียวกัน