รู้จักระดับค่า UV Index คืออะไร ? ทำไมควรเช็กก่อนออกแดด ? ป้องกันผิวอย่างไรดี ?

[beautypost]

 
UV Index ตัวช่วยวัดความอันตรายของแสงแดด
 
UV Index คือมาตรวัดความรุนแรงของแสงแดดที่ทุกคนควรรู้ก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่แดดแรงตลอดทั้งปี การเช็กค่า UV Index จะช่วยให้วางแผนปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม วิธีป้องกันผิวที่ถูกต้อง หรือหลีกเลี่ยงช่วงเวลาแดดแรง
 
มาทำความรู้จัก UV Index และเรียนรู้วิธีรับมือกับแสงแดด เพื่อให้ปกป้องผิวให้ปลอดภัยและสุขภาพดีในทุกวัน อ่านต่อในบทความนี้เลยครับ 


 
ค่าการวัด UV Index คืออะไร ? มีกี่ระดับ ?
 
UV Index หรือ ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต คือค่าที่บอกถึงความเข้มข้นของรังสี UV จากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังพื้นโลก ซึ่งช่วยให้เราทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนังและดวงตาเมื่อเผชิญแสงแดด โดยค่า UV Index นี้มีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนกิจกรรมกลางแจ้ง และป้องกันผลกระทบที่เกิดจากแสงแดด
 
UV Index แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้
 

• สีเขียว ระดับ 1-2 (ต่ำ)

รังสี UVIndex มีความเข้มข้นต่ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไป เช่น ออกกำลังกายช่วงเช้าหรือตากแดดเพื่อเสริมวิตามิน D ช่วงเวลาที่มักพบคือ 07.00 น.
 

• สีเหลือง ระดับ 3-5 (ปานกลาง)

รังสี UVIndex มีความเข้มข้นปานกลาง เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งในช่วง 08.00 น. - 16.00 น. ระดับนี้ถือว่าปลอดภัย แต่ควรเริ่มระมัดระวัง
 

• สีส้ม ระดับ 6-7 (สูง)

รังสี UVIndex เริ่มรุนแรงและอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผิวหากไม่ป้องกัน ช่วงเวลาที่พบคือ 09.00 น. - 15.00 น.
 

• สีแดง ระดับ 8-10 (สูงมาก)

รังสี UVIndex มีความเข้มข้นสูงมาก มีผลกระทบต่อผิวหนังหากไม่ได้ป้องกันอย่างเพียงพอ พบได้บ่อยในช่วง 14.00 น. - 15.00 น.
 

• สีม่วง ระดับ 11+ (อันตรายมาก)

รังสี UVIndex อยู่ในระดับอันตรายที่สุด สามารถทำลายผิวหนังและดวงตาได้ พบได้ในช่วง 11.00 น. - 13.00 น.
 
การตรวจสอบค่า UV Index ในแต่ละวันช่วยให้เราป้องกันผลกระทบจากแสงแดด เช่น ผิวไหม้ ฝ้า กระ จุดด่างดำ และลดความเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งผิวหนังได้ เพียงใช้ข้อมูล UV Index อย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น การใช้ครีมกันแดด ใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิว และหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่รังสีเข้มข้นสูง
 

 
แดดเมืองไทยมีค่า UV Index เฉลี่ยเท่าไหร่ ?
 

แสงแดดในประเทศไทยมีค่า UV Index เฉลี่ยอยู่ที่ 11-12 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับ สีม่วง หรือระดับ Extrem (สูงจัด) ตามหน่วยวัด UV Index ที่กำหนดโดย WHO (องค์การอนามัยโลก) ซึ่งหมายความว่ามีการแผ่รังสี UVA และ UVB ในระดับที่มีผลกระทบต่อผิวหนังและดวงตาอย่างรุนแรง 
 
เพราะฉะนั้น เราจึงต้องป้องกันผิวจากแสงแดดทุกวัน ไม่ว่าจะทาครีมกันแดด หรือหลีกเลี่ยงแดดแรง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาผิวและลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังในอนาคตครับ
 
หมายเหตุ : ในประเทศไทย สามารถเช็กค่า UV Index และระดับ UV ตามช่วงเวลาในแต่ละวันได้ที่เว็บไซต์ 'ศูนย์โอโซนและรังสี' ซึ่งให้ข้อมูลใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ
 

 
วิธีปกป้องผิวเมื่อต้องโดนแดดช่วงที่มี UV Index สูง
 

รังสี UV จากแสงแดดสามารถส่งผลกระทบต่อผิวได้มาก โดยเฉพาะในช่วงที่มี UV Index สูง การปกป้องผิวให้เหมาะสมในแต่ละระดับของ UV Index จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวไหม้ ฝ้า กระ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง มาดูกันว่าในแต่ละระดับของ UV Index เราควรปกป้องผิวอย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
 
วิธีปกป้องผิวเมื่อ UV Index อยู่ที่ระดับ 1-2 (Low - ต่ำ)
 

• สวมใส่แว่นกันแดด
• หากผิวไหม้แดดง่าย สามารถทาครีมกันแดดได้

วิธีปกป้องผิวเมื่อ UV Index อยู่ที่ระดับ 3-5 (Moderate - ปานกลาง)
 

• ใส่เสื้อผ้ามิดชิด
• หากออกไปข้างนอก ควรทากันแดด SPF 30+ PA 3+ หรือยืนหลบบริเวณที่มีร่มเงา
• หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดช่วง 12.00 น. เพราะแสงแดดรุนแรงสุด

วิธีปกป้องผิวเมื่อ UV Index อยู่ที่ระดับ 6-7 (High - สูง)
 

• ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ และ PA 3+ ก่อนออกจากบ้าน
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลา 11.00 น. - 16.00 น. อยู่กลางแดดให้น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
• ใส่เสื้อผ้ามิดชิด สวมใส่เสื้อกัน UV หมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด

วิธีปกป้องผิวเมื่อ UV Index อยู่ที่ระดับ 8-10 (Very High - สูงมาก)
 

• ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ และ PA 3+ ก่อนออกนอกบ้าน
• หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดช่วงเวลา 11.00 น. - 16.00 น. และไม่ควรอยู่กลางแดดนานเกิน 3 ชั่วโมง
• ใส่เสื้อผ้ามิดชิด สวมใส่เสื้อกัน UV หมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด
• หากต้องเผชิญแสงแดดจัด ควรทากันแดดซ้ำระหว่างวัน และใช้ร่มกันแดด

วิธีปกป้องผิวเมื่อ UV Index อยู่ที่ระดับ 11+ (Extreme - สูงจัด)
 

• ทาครีมกันแดด SPF 30+ และ PA 3+ ก่อนออกแดด
• หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดช่วงเวลา 11.00 น. - 16.00 น. ไม่อยู่กลางแจ้งนานเกิน 3 ชั่วโมง
• ใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว แต่งกายให้มิดชิด
• สวมใส่เสื้อกัน UV หมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด
• เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง

การป้องกันที่เหมาะสมตามระดับ UV Index แต่ละช่วง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
 

 
ควรใช้กันแดดค่า SPF / PA เท่าไหร่ ป้องกัน UV Index ?
 

เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดที่มี UV Index สูง ในประเทศไทย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA 3+ หรือ PA+++ ขึ้นไป โดยตัวอย่างที่แนะนำ ได้แก่
 

• ครีมกันแดด SPF 30 PA+++
• ครีมกันแดด SPF 30 PA++++
• ครีมกันแดด SPF 50 PA+++
• ครีมกันแดด SPF 50 PA++++
• ครีมกันแดด SPF 50+ PA+++
• ครีมกันแดด SPF 50+ PA++++

สาระน่ารู้ : สำหรับการใช้งานทั่วไปครีมกันแดด SPF 30 ถือว่าเพียงพอแล้ว เนื่องจากความแตกต่างในการป้องกัน UVB ระหว่าง SPF 30 และ SPF 50 มีเพียง 1.3% เท่านั้น
 
คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกครีมกันแดด
 

• สำหรับคนที่ผิวบอบบาง ควรหลีกเลี่ยงกันแดดแบบ Chemical Sunscreen และเลือกครีมกันแดดแบบ Physical หรือ Hybrid เพื่อลดการระคายเคือง
• ตรวจสอบส่วนผสม เช่น Aloe Vera, Glycerin, Hyaluronic Acid เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
• ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง และเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น เนื้อเจล เนื้อครีม หรือเนื้อน้ำ

การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและใช้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้การป้องกันรังสี UV มีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยรักษาสุขภาพผิวในระยะยาวครับ 
 

 
สรุปเรื่อง UV Index ความแรงของแดดที่ควรรู้ ก่อนออกจากบ้าน
 
UV Index เป็นตัวชี้วัดความรุนแรงของแสงแดดที่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีค่า UV Index สูงมาก การป้องกันตัวเองจากรังสี UV จะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวหนังและสุขภาพ การใช้ครีมกันแดด การใส่เสื้อผ้าป้องกัน และการหลีกเลี่ยงแดดในช่วงเวลาที่มีรังสี UV เข้มข้นจะช่วยดูแลผิวและสุขภาพของได้ในระยะยาวครับ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/uv-index/