ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มอมเมา'แก้กรรม'พระชี้บิดเบือนพุทธว.วชิรเมธีห่วงบิดเบือน'กรรม

เริ่มโดย ชัยกฤต แก้วเขียว, 12:51 น. 16 พ.ค 55

ชัยกฤต แก้วเขียว

ว.วชิรเมธี ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัยห่วงทุกวันนี้มีการสอนหลักธรรมพระพุทธศาสนาบิดเบือนไป จากความจริงโดยเฉพาะการนำกฎแห่งกรรมมาหาผลประโยชน์

ไทยโพสต์ * "ว.วชิรเมธี" ชำแหละสังคมไทยถูกสื่อทีวีมอมเมาหนัก อาศัยเรื่อง"กรรม" หาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้าทั้งเรื่องแก้กรรมจิตสัมผัส ไสยศาสตร์ ชี้ทางสว่างคนไทยแยกแยะพุทธแท้-พุทธเทียม อย่าหลงเชื่อลัทธิที่ไม่ใช่พุทธศาสนา

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย เปิดเผยว่า ทุกวันนี้มีการสอนหลักธรรมพระพุทธศาสนาที่บิดเบือนไปจากความจริงที่พระ พุทธเจ้าทรงสอนมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นมากที่สุดในขณะนี้คือ การนำหลักกฎแห่งกรรมมาหาผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจ น่าเสียดายที่เวลานี้เรามีช่องทางในการสื่อสารธรรมะกับประชาชนหลายช่องทาง แต่ผู้สื่อสารธรรมะจำนวนไม่น้อยกลับไม่รู้จักธรรมะแท้จริง โดยเฉพาะรายการต่างๆ ทางโทรทัศน์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นมอมเมาประชาชนให้วนเวียนอยู่กับไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลังบนบานศาลกล่าว ทรงเจ้าเข้าผี ลัทธิแก้กรรมและจิตสัมผัสพิเศษ เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนแต่กลับนำความทุกข์ความเครียดของคนมา หาประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทำให้สังคมไทยแยกแยะไม่ออกระหว่างพุทธแท้กับพุทธเทียม จึงอยากจะชี้แนะประชาชนได้รู้ความจริงเรื่องกรรม

ว.วชิรเมธีกล่าวว่า ท่ามกลางความหลากหลายของลัทธินิกายมากมายในปัจจุบัน ถ้าไม่แสดงลักษณะเฉพาะของพระพุทธศาสนาให้ชัดเจน ก็คงจะ

"ดีชั่วอยู่ที่ตัวทา สูงต่าอยู่ที่ทาตัว มนุษย์ต้องรับผิดชอบชีวิตของตนด้วยตนเอง อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ต้องลุกขึ้นมาสร้างชีวิตด้วยตัวของเราเอง มนุษย์ในหลักกรรมที่แท้จึงมีเสรีภาพที่จะออกแบบชีวิต"มีคนสับสนแยกไม่ออกว่า พุทธศาสนาแตกต่างจากศาสนาอื่นอย่างไรพระพุทธองค์จึงทรงชี้ให้เห็นทั้งสาม ลัทธิว่าไม่ใช่พระพุทธศาสนาคือ 1.ลัทธิกรรมเก่า ที่เชื่อว่าความเป็นไปในชีวิตของคนเรานั้นล้วนเป็นผลมาจากกรรมเก่าทั้งสิ้น 2.ลัทธิพระเจ้าบันดาล เชื่อว่ามีพระเจ้าเป็นผู้ลิขิตชีวิตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว3.ลัทธิบังเอิญ เชื่อว่าความเป็นไปของชีวิตไม่มีที่มาไม่มีที่ไป ถึงเวลาอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทั้งสามลัทธินี้ไม่ใช่พระพุทธศาสนา

"เหตุผลที่ทั้งสามลัทธิไม่ใช่พุทธศาสนา เพราะหากเราเชื่อลัทธิกรรมเก่าก็จะกลายเป็นเพียงผู้ยอมจำนนต่อกรรมเก่าโดย ไม่ยอมแก้ไขอะไรๆ ในชีวิตได้เลย หากเราเชื่อลัทธิเทพเจ้าบันดาลเราจะกลายเป็นคนที่ไม่มีเสรีภาพในการเลือกใช้ ชีวิตอย่างที่เราต้องการ เพราะอำนาจการตัดสินใจในชีวิตของเรานั้นถูกพระเจ้าริบเอาไปเสียแล้ว มนุษย์จึงต้องปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม และหากเชื่อลัทธิบังเอิญเราจะเป็นคนที่ปล่อยชีวิตไปวันๆ เหมือนกอสวะที่ไหลไปตามน้ำอย่างไร้จุดหมายและเป็นคนไม่มีคุณค่า" ว.วชิรเมธีกล่าว

อย่างไรก็ตาม ลัทธิกรรมเก่าแม้จะไม่ใช่พุทธแท้ แต่ก็ยังพอมีแง่ดีอยู่บ้างในแง่ที่ทำให้คนกลัวบาปแล้วหันมาทำคุณงามความดี แต่ก็มีผลข้างเคียงอยู่มาก หากสอนอย่างไม่ระวังจะพลัดไปสู่ลัทธิยอมจำนนกรรมเก่า ใครสอนเรื่องกรรมเก่าจึงต้องกระทำอย่างระมัดระวังให้มาก หลักกรรมเก่า ถ้าหากจะสอนต้องสอนเพื่อกระตุ้นจริยธรรมไม่ใช่สอนเพื่อให้คนยอมจำนนในผลของ กรรม หากได้พิจารณาทั้งสามลัทธิที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาแล้ว ก็จะทำให้เราแยกแยะได้ว่าอันไหนคือพุทธแท้ อันไหนคือพุทธเทียม ใครกำลังพัฒนาหรือทำลายสังคมไทย

ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัยระบุว่า ในพุทธศาสนาที่แท้จริงสอนเรื่องกรรมเพื่อแสดงว่าชีวิตของเรานั้นเป็นไปตาม หลักแห่งเหตุและผล ถ้าอยากให้ชีวิตดีก็ต้องสร้างกรรมดี อยากให้ชีวิตเสียหาย ก็ลองทำกรรมชั่ว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว มนุษย์ต้องรับผิดชอบชีวิตของตนด้วยตนเอง อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ต้องลุกขึ้นมาสร้างชีวิตด้วยตัวของเราเอง มนุษย์ในหลักกรรมที่แท้จึงมีเสรีภาพที่จะออกแบบชีวิตของตัวเองอย่างไรก็ได้

"พระพุทธองค์สอนหลักกรรมเพื่อล้มล้างความเชื่อเรื่องวรรณะที่ฝังหัวคน อินเดียมาแต่โบราณซึ่งเป็นความเชื่อที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นไม่ มีความยุติธรรมในสังคม คนเกิดวรรณต่ำเสียเปรียบทั้งชีวิต ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นคนดีหรือเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสังคม ได้ คนอินเดียไม่น้อยจมอยู่ในชีวิตที่ไม่มีทางเลือก ต้องยอมจำนนกับความตกต่ำ แต่พระพุทธองค์ทรงสอนความจริงว่า สิ่งที่กำหนดชะตากรรมคนเราให้สูงต่ำไม่ใช่พระเจ้า แต่คือกรรมของเราต่างหาก" ว.วชิรเมธีกล่าว

พระนักเทศน์ชื่อดังกล่าวว่าขณะนี้การสอนหลักกรรมเก่าในเมืองไทยส่งผลให้ คนที่ได้เปรียบก็ได้เปรียบต่อไป คนที่เสียเปรียบก็ยอมจำนนต่อไป เช่น เราสอนกันง่ายๆ ว่า บางคนรวยก็เพราะทำกรรมดีมามากต้องยอมรับเขา ทั้งๆ ที่เขาอาจรวยเพราะคอรัปชั่นต่างหาก การสอนผิดๆ อย่างนี้ ทำให้หลักกรรมถูกบิดเบือนและเป็นเหตุทำให้สังคมไม่มีความยุติธรรม หากคนไทยรู้จักพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ลัทธิประหลาดๆ ทั้งหลายที่ทำมาหากินกับความงมงายของประชาชนคงจะลดน้อยถอยลงไปมาก และเมืองไทยก็คงจะเจริญกว่านี้.

mix99

จริงดั่งที่พระคุณเจ้าว่า
เดรัจฉานวิชารุกคืบเข้าวัดให้พระหัวหงอก หัวดำ หากิน
คนไทยเป็นโรคจิตวิตก และจิตอุปทานมากขึ้น  แก้กรรมนอนในโลง วิธี ผีๆเปรตๆพระและวัดนำมาใช้ทำมาหากิน  องค์การศาสนาก็ทำอะไรไม่ได้ กระทรวงศาสนาและวัฒนธรรม  เดินอมสาก แทนข้าวอยู่  มีอย่างที่ไหนแก้กรรมนอนในโลงทองบุนวม อย่างดีเพื่อปลงบ้าๆบอๆ
ต้องไปนอนในโลงแท้ๆที่ป่าช้าโน่น รวมทั้งพระที่ทำพิธีด้วย  สงบ วิเวก อาจทำให้คิดอะไรได้บ้าง  นอนแบบนี้ มึงก็ลุกขึ้นมา  หาแ..ก ต่อ เพราะของมันลวงโลก  และงี่เง่าให้พระบ้าๆหาเงินใช้ ธรรมะของพุทธศาสนา  ไปหาอ่านหรือฟังกันบ้าง ก็จะรู้ว่า ไม่ต้องพึ่งใคร เราทำให้ดี คิดให้ดี พอเหมาะ พอควร ก็สุขสบายแล้ว..........อัปปรีย์จริงๆพวกหากินกับศาสนา

หน้าสวน

มองต่างมุม....อาจจะคล้ายๆกัน แต่ไม่เหมือนกัน ...สมัยที่ผมเคยบวชอยู่ ก็เคยสวดทำพิธีนี้ให้ชาวบ้าน ก็มีแค่ค่าดอกไม้ธูปเทียนเท่านั้น...(เป็นค่าใช้จ่าย) แต่จะเรียกว่าเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ ให้คนที่คิดว่าซวยสุดๆ มาทำพิธีซึ่งก็มีบ้าง อาทิตย์ละไม่กี่คน ก็มานอนพื่นธรรมดานี้แหละ..แล้วก็ผูกสายสินธ์ที่ข้อมือ ข้อเท้าเหมือนคนตาย....แล้วพระก็สวดตายให้ก่อน เสร็จก็สวดพื้นให้อีกที....คนเราต้องการกำลังใจ อะไรก็ได้ที่ยึดเหนียวให้เข้มแข็งขึ้น ก็ดีคับ สำหรับคนต้องการกำลังใจ....เพราะคนที่มาเค้าไม่โง่หรอก...แค่ต้องการที่พึ่งยึดเหนียวทางใจ...อาจจะดูไร้สาระ แต่เค้าไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน และทางวัดก็ไม่ได้ทำเป็นเชิงธุระกิจ ... ก็อยู่ที่เจรตารมย์ของวัด ว่าคิดอะไร

wareerant

อ้างถึงกระทรวงศาสนาและวัฒนธรรม  เดินอมสาก แทนข้าวอยู่ 

ส.โบยบิน

กระทรวงวัฒนธรรม กำลังยุ่งเรื่องร้านเน็ตร้านเกมส์อยู่  ไม่มีเวลามาจัดการอลัชชี

กรรม

แก้กันได้แก้กันตาย....เอาไรคิด....พวกชอบให้นกเอี้ยงเกาะไหล่

คุณหลวง

อ้างจาก: ชัยกฤต แก้วเขียว เมื่อ 12:51 น.  16 พ.ค 55

ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัยระบุว่า ในพุทธศาสนาที่แท้จริงสอนเรื่องกรรมเพื่อแสดงว่าชีวิตของเรานั้นเป็นไปตาม หลักแห่งเหตุและผล ถ้าอยากให้ชีวิตดีก็ต้องสร้างกรรมดี อยากให้ชีวิตเสียหาย ก็ลองทำกรรมชั่ว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว มนุษย์ต้องรับผิดชอบชีวิตของตนด้วยตนเอง อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ต้องลุกขึ้นมาสร้างชีวิตด้วยตัวของเราเอง มนุษย์ในหลักกรรมที่แท้จึงมีเสรีภาพที่จะออกแบบชีวิตของตัวเองอย่างไรก็ได้


ต้องถามว่า เมื่อพระพุทธศาสนาสอนอย่างนี้ แล้วการเรียนพระพุทธศาสนาของพระ เณร และนักเรียนเป็นอย่างนี้ อย่างเข้มแข็งหรือไม่ เพราะเห็นพระที่ความรู้สูงๆ วัดดังๆสอนแบบประหลาดๆก็มาก แล้วคณะสงฆ์ก็เห็นแต่เฉยๆ

สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ซุปเปอร์ฮีโร่


topworld

กรรม ในพุทธ คือการกระทำ ได้อ่านข้อความที่ท่านเจ้าของกระทู้นำมาให้อ่านแล้วได้คิดครับ ว่าเราเริ่มไม่เข้าใจหลักธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยคิดว่าเรื่องกรรมเก่าเป็นสิ่งลิขิต แต่เราหลงลืมไปครับว่าเราเกิดมาเป็นคนเราสามารถที่จะเลือกสร้าง กรรม การกระทำใหม่ได้ เราสามารถที่จะลิขิตชีวิตเราเองได้ ช่างหลงลืมไปได้ ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ และหลักธรรมะที่ท่าน ว.นำมาขยายให้เราเข้าใจ ขอบคุณจริงๆ