ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เทคนิค Skin Cycling คืออะไร ? ทำไมผิวถึงดีขึ้นได้แบบไม่ต้องใช้สกินแคร์หลายตัว

เริ่มโดย beautypost, 11:12 น. 07 พ.ค 68

beautypost




 
มารู้จัก Skin Cycling
 
Skin Cycling เป็นแนวทางดูแลผิวที่เน้นจังหวะ และการเว้นช่วง เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวในระยะยาว โดยใช้หลักการวางแผนการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมีระบบ ลดการใช้สารออกฤทธิ์แรงติดต่อกัน ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือใช้เรตินอยด์ครั้งแรกค่ะ
 
คลิกอ่านหัวข้อ Skin Cycling
 
  • Skin Cycling คืออะไร ? แนวคิดใหม่ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
  • ข้อดีของการทำ Skin Cycling
  • ใครบ้างที่เหมาะกับ Skin Cycling ?
  • ขั้นตอนการทำ Skin Cycling แบบ 3 วัน ช่วยอะไรได้บ้าง ?
    • วันที่ 1 – ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน (Exfoliation Night)
    • วันที่ 2 – ใช้เรตินอยด์ (Retinoid Night)
    • วันที่ 3 – พักผิว เติมความชุ่มชื้น (Recovery Night)
  • หลังครบ 3 วันของ Skin Cycling ควรทำอย่างไรต่อ ?
  • ข้อควรระวังและเคล็ดลับของ Skin Cycling
  • สรุป Skin Cycling ทางเลือกเพื่อผิวแข็งแรงอย่างยั่งยืน



 
Skin Cycling คืออะไร ? แนวคิดใหม่ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
 
Skin Cycling คือระบบการดูแลผิวที่วางแผนอย่างมีจังหวะ โดยสลับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว (เช่น AHA, BHA, เรตินอล) กับวันที่ให้ผิวได้พักและฟื้นตัว ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือสารปลอบประโลมผิว การจัดรอบการใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบนี้ ช่วยลดการทำร้ายผิวจากการใช้สารแรงต่อเนื่อง และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้จริงในระยะยาว
 

แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังที่พบว่า ผู้ใช้สกินแคร์ในปัจจุบันมักใช้ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดซ้อนกันจนเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย จึงเสนอให้ "เว้น" วันพักให้ผิวด้วยค่ะ
 


 
ข้อดีของการทำ Skin Cycling
 
การทำ Skin Cycling ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ แต่เป็นการเปลี่ยนแนวคิดในการดูแลผิวให้เน้น "ความสมดุล" มากกว่าการเร่งผลลัพธ์ ซึ่งมีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ
 
  • ลดการระคายเคืองจากการใช้สารออกฤทธิ์แรงต่อเนื่อง
  • ช่วยให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ
  • เสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว
  • ป้องกันการ Over-exfoliation หรือการผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป
  • ลดการเกิดสิวและการอักเสบเรื้อรังบนใบหน้า

แนวคิดของ Skin Cycling ช่วยให้เราไม่ต้องเปลี่ยนสกินแคร์บ่อย ๆ แต่ปรับวิธีใช้ให้เหมาะกับจังหวะการทำงานของผิวค่ะ
 


 
ใครบ้างที่เหมาะกับ Skin Cycling ?
 
ใครที่รู้สึกว่าผิวเริ่มอ่อนแอ หรือมีปัญหากับการใช้สกินแคร์ต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรลองใช้แนวทาง Skin Cycling โดยเฉพาะคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิว เช่น
 
  • คนที่มีผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย
  • คนที่มีอาการผิวแสบ แดง แห้ง หรือเป็นขุย
  • คนที่เริ่มต้นใช้เรตินอลหรือสารผลัดเซลล์ผิว
  • คนที่ใช้สกินแคร์หลายขั้นตอนและรู้สึกว่าผิวอ่อนแอลง
  • คนที่มีปัญหาสิวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดวิธี
  • คนที่อยากให้ผิวกลับมาแข็งแรงแบบไม่เร่งรีบ



 
ขั้นตอนการทำ Skin Cycling แบบ 3 วัน ช่วยอะไรได้บ้าง ?
 
Skin Cycling จะใช้ระบบ 3 วัน คือ ผลัดผิว > กระตุ้น > พัก จะเน้นให้ผิวได้รุกและพักอย่างสมดุล โดยเว้นจังหวะอย่างเหมาะสม ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์ได้เต็มที่โดยไม่ทำร้ายผิว และช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงในระยะยาวค่ะ
 


 
วันที่ 1 – ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน (Exfoliation Night)
 

ในคืนแรกของ Skin Cycling จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เช่น AHA, BHA, LHA หรือ PHA โดยสารเหล่านี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยให้ผิวดูสว่าง เรียบเนียนขึ้น
 
การผลัดเซลล์ผิวในจังหวะที่เหมาะสมยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในวันถัดไปสามารถซึมซาบได้ดีขึ้น เพราะไม่มีชั้นผิวเสื่อมสภาพมาขวางการดูดซึมค่ะ
 
เคล็ดลับ : หากคุณมีผิวแพ้ง่าย อาจเลือกใช้ PHA หรือกรดผลไม้ที่มีความอ่อนโยนแทน AHA ที่แรงกว่า และควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวทางกายภาพ (physical scrub) เพื่อไม่ให้ผิวถลอกหรืออักเสบค่ะ
 


 
วันที่ 2 – ใช้เรตินอยด์ (Retinoid Night)
 

ในคืนที่สอง เราจะลงเรตินอยด์หรือเรตินอล ซึ่งเป็นสารทรงพลังในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอย รูขุมขน และจุดด่างดำต่าง ๆ
 
เรตินอยด์ยังช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวมันลดลง และลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง หรือเริ่มมีริ้วรอยค่ะ
 
เคล็ดลับ : สำหรับผู้เริ่มต้น ควรใช้เรตินอยด์ที่มีความเข้มข้นต่ำก่อน เช่น 0.025% หรือ 0.05% และทาหลังมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยลดความแสบ แห้ง หรือระคายเคืองค่ะ
 


 
วันที่ 3 – พักผิว เติมความชุ่มชื้น (Recovery Night)
 

วันนี้คือวันพักผิว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Skin Cycling เลยก็ว่าได้ เพราะแม้เราจะใช้สารบำรุงที่มีประสิทธิภาพในวันก่อนหน้า แต่ผิวก็ยังต้องการเวลาในการซ่อมแซมตัวเอง
 
ในคืนที่สามจึงควรเน้นสกินแคร์ที่มีความชุ่มชื้นสูง ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง พร้อมทั้งช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรงค่ะ
 
เคล็ดลับ : ไม่ควรใช้กรดหรือสารผลัดเซลล์ผิวใด ๆ ในวันนี้ ให้ผิวได้พักจริง และถ้ารู้สึกว่าผิวตึงหลังล้างหน้า ควรรีบทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทันทีเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในผิวค่ะ
 


 
หลังครบ 3 วันของ Skin Cycling ควรทำอย่างไรต่อ ?
 
เมื่อครบรอบ 3 วัน สามารถเริ่มรอบใหม่ได้ทันทีในวันถัดไป โดยวนไปที่คืนผลัดเซลล์ผิวอีกครั้ง ทำแบบนี้ต่อเนื่องทุก 3 วัน จะช่วยให้ผิวได้รับการดูแลอย่างสมดุล ไม่เร่ง ไม่ขาด และปลอดภัยสำหรับผิวในระยะยาว
 
Skin Cycling แบบ 3 วัน เป็นรูปแบบที่ยืดหยุ่นและสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เราดูแลผิวได้อย่างมีวินัยโดยไม่รู้สึกว่าต้องจำอะไรยุ่งยาก หรือใช้ผลิตภัณฑ์เยอะเกินความจำเป็นค่ะ
 


 
ข้อควรระวังและเคล็ดลับของ Skin Cycling
 
Skin Cycling ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบการดูแลผิวที่อ่อนโยนและปลอดภัยกับทุกสภาพผิว แต่เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงปัญหาผิวที่อาจตามมา เราควรมีความเข้าใจในวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยที่หลายคนอาจมองข้ามค่ะ
 
  • อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

เมื่อเราทำ Skin Cycling โดยเฉพาะในวันที่ใช้ AHA, BHA หรือเรตินอยด์ ผิวจะไวต่อแสงมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือแม้แต่ผิวไหม้แดดได้ง่าย
 

ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และค่า PA+++ ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB
 
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารออกฤทธิ์แรงพร้อมกัน

การใช้สกินแคร์หลายตัวที่มีสารออกฤทธิ์แรงในวันเดียวกัน เช่น ใช้ AHA แล้วตามด้วยเรตินอยด์ และต่อด้วยวิตามินซี สิ่งนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือเพิ่งเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้
 
ในระบบของ Skin Cycling เราแยกวันใช้อย่างชัดเจนเพื่อลดความเสี่ยงของการ Over-exfoliation หรือผิวบางลงจากการผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป
 
  • เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว

หลายคนเข้าใจผิดว่าช่วงวันพักผิวคือไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งไม่ถูกต้องนะคะ ในวันที่ 3 ของรอบ Skin Cycling เราควรเน้นการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเสริมปราการผิวและช่วยปลอบประโลม เช่น
 
  • Hyaluronic Acid : เติมความชุ่มชื้นลึกสู่ผิว
  • Ceramide : ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวจากการระคายเคือง
  • Panthenol / Allantoin : ปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง
  • Squalane : เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  • Niacinamide (ในความเข้มข้นต่ำ) : ลดการอักเสบและรอยแดง



 
สรุป Skin Cycling ทางเลือกเพื่อผิวแข็งแรงอย่างยั่งยืน
 
การทำ Skin Cycling เป็นแนวทางดูแลผิวที่ชาญฉลาด เหมาะกับยุคที่เรามีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลากหลายจนบางครั้งใช้เกินความจำเป็น การแบ่งรอบการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบช่วยให้ผิวได้รับการดูแลอย่างตรงจุดและมีเวลาฟื้นฟูตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
 
ไม่ว่าคุณจะมีผิวแพ้ง่าย ผิวมัน หรือเริ่มต้นใช้เรตินอยด์ การลองปรับแนวทางการดูแลผิวด้วย Skin Cycling อาจเป็นคำตอบที่ช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นจากภายในได้อย่างแท้จริงค่ะ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/skin-cycling/