ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 คุ้มไหม ปี 2025 มีรุ่นไหนน่าสนใจ?

เริ่มโดย treemobile, 13:28 น. 26 พ.ค 68

treemobile

โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 คุ้มไหม ปี 2025 มีรุ่นไหนน่าสนใจ?


ในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจมองหาเครื่องที่ใช้งานได้ดีในราคาที่ไม่ทำร้ายกระเป๋าเงิน โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือก โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้มีงบประมาณจำกัด เช่น นักเรียน ผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องการมือถือเครื่องสำรอง
บทความนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจว่าโทรศัพท์ในช่วงราคานี้ "ทำอะไรได้บ้าง", "มีรุ่นไหนที่คุ้มค่าที่สุด", "ควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนซื้อ" และ "เหมาะกับใคร" เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด

โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 บาท ทำอะไรได้บ้าง?

สิ่งที่ทำได้ดี

แม้จะอยู่ในช่วงราคาที่ต่ำ แต่โทรศัพท์มือถือไม่เกิน 2000
บาทก็ยังสามารถรองรับการใช้งานพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน เช่น:
  • โทรและรับสาย
  • ส่งข้อความและใช้แอป LINE
  • เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่าน 3G/4G
  • ใช้งานแอปโซเชียลพื้นฐาน เช่น Facebook Lite, Messenger Lite
  • ฟังเพลง ดู YouTube (เวอร์ชัน Lite)
  • ใช้งานเป็นเครื่องสำรองกรณีฉุกเฉิน

สิ่งที่อาจไม่เหมาะ หรือทำได้ไม่ดี

แน่นอนว่าโทรศัพท์ในช่วงราคานี้ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น:
  • หน่วยความจำน้อย (RAM 1-2 GB, ROM 8-16 GB)
  • กล้องคุณภาพต่ำ ถ่ายรูปไม่ชัดโดยเฉพาะในที่แสงน้อย
  • เล่นเกมกราฟิกสูงหรือแอปหนักๆ ไม่ได้
  • ไม่รองรับการอัปเดต Android เวอร์ชันใหม่ๆ
  • หน้าจอความละเอียดต่ำ

หากคุณต้องการมือถือที่สามารถใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้
โดยไม่เน้นความบันเทิงหนักหรือการเล่นเกม โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000
บาทถือว่าคุ้มค่าและตอบโจทย์ในงบจำกัดได้ดีเยี่ยม

แนะนำรุ่น โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 บาท ที่น่าสนใจ

แม้ว่าโทรศัพท์มือถือในช่วงราคาไม่เกิน 2000 บาทจะดูเหมือนจำกัด
แต่ความจริงแล้วในปี 2025 ก็ยังมีหลายรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ดี
แถมบางรุ่นยังรองรับ 4G ใช้แอปยอดนิยมได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย มาดู 5
รุ่นแนะนำที่น่าสนใจในงบนี้กันเลย:

1. ZTE Blade A51s
หนึ่งในรุ่นยอดนิยมของคนที่มองหา โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000
ที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคาในปี 2025 คือ ZTE Blade A51s
รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานทั่วไป เช่น การโทร แชท ดูวิดีโอเบื้องต้น
โดยไม่ต้องลงทุนสูง

สิ่งที่น่าสนใจคือ ZTE Blade A51s มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว แบบ TFT
ความละเอียด 1600 x 620 พิกเซล ดีไซน์จอหยดน้ำให้ความรู้สึกทันสมัย
ใช้งานแอปพื้นฐานได้ลื่นไหล เช่น LINE, Facebook Lite และ YouTube Go
โดยระบบปฏิบัติการเป็น Android 11 ซึ่งถือว่าใหม่พอสำหรับเครื่องระดับราคานี้

ขุมพลังภายในเป็นชิปเซ็ต Unisoc SC9863A แบบ Octa-core ความเร็ว 1.6GHz และ
1.2GHz ทำงานควบคู่กับ RAM ขนาด 3GB และ ROM 64GB รองรับ microSD card
ได้สูงสุดถึง 512GB ถือว่าเหนือกว่ารุ่นทั่วไปในช่วงราคาเดียวกันอย่างมาก

กล้องหลังประกอบด้วยเลนส์หลัก 13MP พร้อมเลนส์จับความลึก 2MP
ช่วยให้การถ่ายภาพดูมีมิติ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5MP
เพียงพอสำหรับการวิดีโอคอลหรือถ่ายเซลฟี่แบบเรียบง่าย

ตัวเครื่องรองรับ 4G LTE ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้คล่อง พร้อมรองรับ Wi-Fi มาตรฐาน
802.11a/b/g/n และ Bluetooth 4.2 มีวิทยุ FM ในตัว พอร์ตชาร์จเป็นแบบ Micro-USB
และยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. สำหรับผู้ที่ยังนิยมใช้อุปกรณ์เสียงแบบมีสาย

ด้านความปลอดภัย ZTE Blade A51s มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
ช่วยให้ปลดล็อกเครื่องได้รวดเร็ว และแบตเตอรี่ความจุ 3200mAh
รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มีข้อควรรู้คือ ซิม 1 จะล็อคกับเครือข่ายทรู
ใช้งานได้ปกติทั้งโทรและเน็ต ส่วนซิม 2 สามารถใส่ค่ายอื่นได้
แต่ใช้งานได้เฉพาะโทรเข้าออก ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ZTE Blade A51s ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในกลุ่ม
มือถือราคาไม่เกิน 2000 ไม่ติดโปร
ที่ให้ฟังก์ชันคุ้มค่าและครอบคลุมการใช้งานพื้นฐานได้อย่างดีเยี่ยม


เข้าชมรายละเอียดสินค้าคลิก ZTE Blade A51s

2. TCL 503
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามในกลุ่ม โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 คือ TCL 503
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีการแสดงผล
รุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว แบบ HD+ ความละเอียด 720 x 1612
พิกเซล ให้ภาพคมชัดในระดับที่เหมาะสมสำหรับการดูวิดีโอหรือใช้งานทั่วไป

TCL 503 ใช้ชิป Octa-core ที่สามารถจัดการกับงานหลายอย่างได้อย่างลื่นไหล
โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับ RAM 3GB และ ROM 64GB
ที่ให้พื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งแอปที่จำเป็น พร้อมทั้งรองรับ microSD card
ได้สูงสุดถึง 1TB
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเสียบ่อย

ระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ Android 14 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดในปัจจุบัน
ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้เต็มประสิทธิภาพ
และมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและความเสถียร

กล้องหลังของรุ่นนี้มีความละเอียด 8MP และกล้องหน้า 5MP
เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอคอลแบบชัดเจน รองรับการเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi,
Bluetooth 4.2 รวมถึงฟีเจอร์ Wi-Fi Direct และ Wi-Fi Display
ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างครบถ้วนทั้งในบ้านและนอกสถานที่

TCL 503 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ใช้งานได้นานตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
และยังมีระบบชาร์จผ่านพอร์ต Type-C
ที่ช่วยให้การชาร์จเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

3. Vivo Y19s 4G
สำหรับใครที่มองหาโทรศัพท์สเปคแรงในราคาจับต้องได้ Vivo Y19s 4G
ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับตามอง
โดยเฉพาะเมื่อซื้อแบบติดโปรจากผู้ให้บริการเครือข่าย
ทำให้สามารถเป็นเจ้าของได้ในงบประมาณไม่เกิน 2000 บาท

รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.68 นิ้ว ให้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มตา
รองรับ Refresh Rate 60/90Hz เพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน
และมีความหนาแน่นพิกเซลที่ 264 ppi เหมาะสำหรับการอ่านข่าว เล่นโซเชียล
หรือดูวิดีโอได้อย่างสบายตา

ภายในใช้ชิปประมวลผล Unisoc T612 ที่ให้พลังเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
และสามารถเลือกระหว่าง RAM ขนาด 4GB หรือ 6GB พร้อม ROM จุใจ 128GB รองรับ
microSD card สูงสุดถึง 2TB ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บไฟล์ รูปภาพ
และแอปพลิเคชันได้แบบจุใจ

ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานคือ Funtouch OS 14 ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐาน Android 14
ช่วยให้เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดได้ทันที พร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียดสูงสุด
50MP และเลนส์เสริม 0.08MP ทำให้การถ่ายภาพในชีวิตประจำวันออกมาคมชัด
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5MP ก็เพียงพอสำหรับวิดีโอคอลหรือเซลฟี่แบบเบาๆ

จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5500mAh
ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ
เหมาะสำหรับคนที่ต้องพกพาออกนอกบ้านเป็นเวลานาน

4. Honor X5b
หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์ในกลุ่ม ราคาไม่เกิน 2000 บาท
แบบติดโปรที่มีดีไซน์ทันสมัยและสเปคครบเครื่อง Honor X5b
ถือเป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าสนใจอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและแบตเตอรี่อึด

Honor X5b มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1612 พิกเซล
ใช้เทคโนโลยี TFT LCD ที่รองรับการแสดงผลสีได้ถึง 16.7 ล้านเฉด และ Refresh
Rate สูงถึง 90Hz
ทำให้การเลื่อนหน้าจอและใช้งานทั่วไปดูราบรื่นและสบายตามากยิ่งขึ้น

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G36 ซึ่งประกอบด้วยซีพียู Octa-core
ความเร็วสูงสุด 2.2GHz พร้อมจีพียู IMG GE8320
ที่สามารถจัดการกับแอปทั่วไปได้ลื่นไหล รองรับทั้งการใช้งานโซเชียล แชท
และดูวิดีโอได้อย่างไม่มีสะดุด โดยมาพร้อม RAM 4GB และพื้นที่จัดเก็บภายใน 64GB
สามารถเพิ่ม microSD card ได้อีกตามต้องการ

กล้องหลังของรุ่นนี้ให้ความละเอียด 13MP พร้อมเลนส์เสริม 0.08MP
ถ่ายภาพได้ชัดเจนในสภาพแสงทั่วไป ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5MP
เหมาะสำหรับการวิดีโอคอลและถ่ายภาพเซลฟี่ในชีวิตประจำวัน

ระบบปฏิบัติการเป็น Android U ครอบด้วย MagicOS 8.0
ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม

จุดแข็งอีกจุดคือแบตเตอรี่ขนาด 5200mAh ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการชาร์จเครื่องบ่อย




5. Xiaomi Redmi A5 (3/64GB)
Xiaomi Redmi A5 เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองในกลุ่ม โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000
บาท แบบติดโปร ด้วยดีไซน์สมัยใหม่และสเปคที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายรุ่น
โดยเฉพาะหน้าจอที่ใหญ่และความละเอียดกล้องที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงราคาเดียวกัน

จุดเด่นแรกคือหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.88 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (720 x 1640
พิกเซล) พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz ซึ่งหาได้ยากในโทรศัพท์ราคานี้
หน้าจอมีความลื่นไหลเป็นพิเศษ เหมาะกับการใช้งานโซเชียล การรับชมวิดีโอ
และการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือแอปต่างๆ

ภายในใช้ชิปประมวลผล Unisoc UMS9230E พร้อม RAM ขนาด 3GB และ ROM ขนาด 64GB
ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานได้อย่างราบรื่น
แม้ว่าเครื่องจะไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำผ่าน microSD card
แต่พื้นที่ที่มีให้ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

ด้านกล้อง Redmi A5 โดดเด่นด้วยกล้องหลังความละเอียด 32MP พร้อมเลนส์ QVGA
เสริมสำหรับช่วยในการจับรายละเอียด ทำให้การถ่ายภาพในสภาพแสงปกติออกมาชัดเจน
มีความคม กล้องหน้าความละเอียด 8MP
เพียงพอต่อการเซลฟี่หรือวิดีโอคอลในชีวิตประจำวัน

ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานคือ Android 15 พร้อม realme UI 6.0
ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหล และมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ใหม่
รวมถึงฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน

แบตเตอรี่ให้มาสูงถึง 5200mAh
รองรับการใช้งานได้ยาวนานทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องพกพาออกไปใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 บาท

การเลือกซื้อ โทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 2000 ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
เพราะแต่ละรุ่นมีข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป นี่คือสิ่งที่คุณควรเช็กก่อนตัดสินใจ:
  • ระบบปฏิบัติการ: แนะนำให้เลือก Android Go เพราะออกแบบมาเพื่อเครื่องสเปกต่ำ
  • รองรับเครือข่าย 4G: ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตรวดเร็วขึ้น
  • ความจุขั้นต่ำ: ควรมี ROM อย่างน้อย 16GB เพื่อให้ติดตั้งแอปพื้นฐานได้ครบ
  • แบตเตอรี่: ตรวจสอบว่าอยู่ในระดับ 2000–3000mAh ขึ้นไป
  • การรับประกัน: เลือกจากแบรนด์หรือร้านค้าที่มีการรับประกันสินค้าชัดเจน

ซื้อโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2000 ได้ที่ไหนบ้าง?

การซื้อ โทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 2000 สามารถทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
โดยมีทั้งร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์ให้เลือกมากมาย
หนึ่งในร้านที่น่าเชื่อถือคือ:

Tree Mobile
  • ร้านค้าชื่อดังที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือราคาประหยัด
  • ให้บริการทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์
  • มีโปรโมชั่น หรือสินค้าราคาพิเศษจำหน่าย
  • สินค้าแท้ รับประกันศูนย์ไทย

สนใจสินค้า และบริการจากทางเว็บไซต์ และร้านค้า Tree Mobile
สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Tree Mobile