ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดหนังสือพันธมิตรฯ ถึงประธานสภา จี้ถอนวาระ พ.ร.บ.ปรองดองล้างผิด

เริ่มโดย ฅนสองเล, 17:39 น. 30 พ.ค 55

ฅนสองเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   29 พฤษภาคม 2555 18:25 น.   

เปิดรายละเอียดหนังสือพันธมิตรฯ เตรียมยื่นประธานสภาฯ พรุ่งนี้ จี้ระงับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทุกฉบับ พร้อมแจ้งผู้เสนอให้ถอนวาระทันที ชี้เป็นร่างกฎหมายมุ่งล้างความผิดให้กลุ่มบุคคล มีสภาพบังคับไร้ขอบเขต ไม่นิยามความผิดการชุมนุมทางการเมืองให้ชัดเจน ซ้ำก้าวล่วงล้มคำพิพากษาของศาล ทำลายกระบวนการยุติธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ-กฎหมายอาญาหลายมาตรา
       
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นัดชุมนุมคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในเวลา 13.00 น.วันที่ 30 พ.ค. หลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาในเวลา 15.00 น.และพันธมิตรฯ จะยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการระงับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทุกฉบับ โดยมีรายละเอียดของหนังสือดังนี้
       
       ด่วนมาก   
       ที่ พธม. ๐๐๔/๒๕๕๕                                        พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       
                                                                      วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
       
       เรื่อง    ขอให้หยุดยั้งการตรากฎหมายล้างความผิดให้กับนักการเมือง
       กราบเรียน   ฯพณฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
       
       ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษในวันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๕.๐๐ น. -๒๑.๐๐ น. และวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๘.๐๐ น. ตามหนังสือด่วนที่ สผ ๐๐๑๔/ผ ๕๙ ของนายวัชรินทร์ จอมพลาพล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รักษาราชการเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... โดยพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน กับคณะเป็นผู้เสนอให้เป็นวาระเรื่องด่วนลำดับที่ ๒๗ และต่อมาได้ปรากฏว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยและกลุ่มประชาชนในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต่างก็ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกันนั้น
       
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ... ดังกล่าวแล้ว ได้พบประเด็นปัญหาดังต่อไปนี้
       
        ๑.   หลักการและเหตุผลเสนอกฎหมายฉบับนี้ ได้อ้างความสามัคคีปรองดองหรือเพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นนั้น ความเป็นจริงแล้วกฎหมายดังกล่าว กลับเป็นร่างกฎหมายที่มุ่งหวังแต่จะลบล้างความผิดของบุคคลต่างๆ ในอดีต ทั้งๆที่บางคดีมีคำพิพากษาของศาลฎีกาจนถึงที่สุดแล้วถึง 2 คดี ทั้งคดีการกระทำความผิดต่อกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คดีให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ ตลอดจนล้างผลของคดีการมีและใช้อาวุธสงครามในกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาล ลบล้างคดีเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายผู้ชุมนุมจนบาดเจ็บและเสียชีวิต และคดียุบพรรคอันสืบเนื่องมาจากการทุจริตเลือกตั้งของนักการเมืองฯลฯ
       
       ซึ่งการล้างความผิดดังกล่าวในคดีเหล่านี้ไม่สามารถจะนำไปสู่ความปรองดองได้ นอกจากจะตอกลิ่มสร้างความแตกแยกในหมู่คนในชาติให้เลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากจะทำให้กลุ่มนักการเมืองหรือกลุ่มประชาชนบางส่วนที่สนับสนุนรัฐบาลที่ได้กระทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดินนั้นสามารถที่จะได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าผู้ถูกกล่าวหาและนักโทษโดยทั่วไปโดยใช้เสียงข้างมากในสภายกเว้นความผิดได้โดยไม่ต้องสำนึกในความผิดนั้นอีกด้วย อันจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อศีลธรรมอันดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
       
        ๒. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... มีสภาพบังคับที่ไร้ขอบเขต ไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง หรือ คดีใดที่จะเข้าข่ายว่าเป็นคดีทางการเมืองตามเจตนารมณ์ของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
       
       นอกจากนี้ การบัญญัติเอาไว้ในมาตรา ๕ ที่ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูป ก็มีความไม่ชัดเจน และกินความกว้าง ครอบคลุมกระทบไปถึงองค์กรต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไม่มีข้อจำกัด
       
       เพราะคำสั่งของ คปค. มีทั้งประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งมีการตรากฎหมายเป็นจำนวนมาก ประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ลงประชามติไปแล้ว ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศและคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งได้ดำเนินการเลือกตั้งไปแล้วหลายครั้ง ฯลฯ หากการบัญญัติกฎหมายให้บุคคลสามารถอ้างผลกระทบมาลบล้างคำสั่งหรือประกาศ หรือการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ดังกล่าวได้ ก็จะเป็นการทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายและความไม่สงบเรียบร้อยและทำลายกระบวนการการตรากฎหมายทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
       
       ๓.   การร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ... ได้ก้าวล่วงไปถึงการล้มล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ล้มล้างคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำลายระบบการถ่วงดุลตรวจสอบของศาลเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง อันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและนิติธรรมจนหมดสิ้น และเป็นการนำทรัพย์สินที่ตกเป็นของแผ่นดินโดยคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคืนกลับไปให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตรอย่างไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม
       
       ๔. ร่าง พรบ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....นั้นได้พบว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหลายประการ อันได้แก่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภาที่ทำลายคำพิพากษาของศาลอันไม่ได้เป็นไปตามหลักนิติธรรมอันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราที่ ๓ ทำให้บุคคลไม่ได้เสมอกันในกฎหมายอันเป็นการกระทำที่ขัดกันต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๓๐
       
       นอกจากนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลหลายคนยังได้รับประโยชน์โดยตรงจากพระราชบัญญัติดังกล่าวอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างไม่สุจริตอันเป็นการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๒๒ อีกทั้งยังเป็นการทำลายลบล้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถผูกพันรัฐสภา ไม่สามารถผูกพันคณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอื่นของรัฐอันเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๖ อีกทั้งยังขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๓๐๙ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ อีกด้วย
       
       ๕.   พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา เพราะนอกจากจะเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว ยังเข้าข่ายกระทำความผิดฐานทำให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล อัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานสอบสวน หรือของเข้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗, ๑๙๑, ๑๙๒ อีกประการหนึ่งด้วย
       
       นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวยังเป็นการล้างความผิดให้กับผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาที่มีโทษร้ายแรง อาทิ ความผิดฐานการก่อการร้าย ความผิดฐานดูหมิ่นอาฆาดมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ความผิดฐานก่อจลาจลวางเพลิง เผาทรัพย์ หรือต่อสู้ขัดขวางหรือฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ อันมีกฎหมายที่มีไว้เพื่อคุ้มครองความสงบสุขของบ้านเมือง และประโยชน์สาธารณะ การลบล้างความผิดโดยผลของกฎหมายดังกล่าวนี้ จึงเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้บุคคลกระทำความผิด ละเมิดต่อกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และทำลายความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และทำลายขื่อแปของบ้านเมืองจนหมดสิ้น
       
       การอ้างว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวนี้ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเรียกร้องและไม่เคยต้องการให้มีการออกกฎหมายให้มีการนิรโทษกรรม เพราะแม้ว่าในความเป็นจริงคดีที่มีการกล่าวหาแกนนำและผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นต่างเป็นการกลั่นแกล้งและยัดเยียดข้อหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ภายใต้อำนาจทางการเมืองของนักการเมืองทุกยุคอย่างอยุติธรรมก็ตาม แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังเลือกหนทางในการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไปเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
       
       เพราะกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลตลอดจนคำพิพากษาของศาลคือบทพิสูจน์ในการแสวงหาความจริงได้มากกว่าการกล่าวหาทางการเมืองหรือการกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นหากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้กระทำความผิดก็จะได้รับการพิสูจน์ในคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรมและยังสามารถฟ้องร้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการยุติธรรมทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไปได้ ในทางตรงกันข้ามหากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นผู้กระทำความผิดจริงก็ต้องสมควรได้รับบทลงโทษตามคำพิพากษาเช่นกัน
       
       ดังนั้นหากนักการเมืองและกลุ่มการเมืองทุกกลุ่มรู้จักคำว่า "เสียสละ" และยึดหนทางดังกล่าวนี้ สังคมก็จะเกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องต่อไปในอนาคต และระบบกระบวนการยุติธรรมก็จะยังรักษาเอาไว้ได้ ความปรองดองจึงจะบังเกิดขึ้นอย่างแท้จริงและยั่งยืน
       
       ปัญหาสังคมในวันนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการกล่าวหาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ หากมีดำเนินการล้างผลความผิดในอดีตทั้งหมดโดยที่ไม่มีการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด ก็จะทำให้ผู้ที่กระทำความผิดไม่สำนึกผิด สังคมก็จะไม่ได้รับบทเรียน และการกระทำผิดเหล่านั้นก็จะสามารถเกิดขึ้นต่อไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าทวีคูณ
       
       หากการกระทำผิดกฎหมายสามารถล้างความผิดได้เพียงเพราะใช้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้ตามร่างกฎหมายเช่นนี้ การทุจริตก็จะสามารถทำได้มากกว่าเดิม ใช้วิธีการชุมนุมด้วยความรุนแรงและอาวุธสงครามร้ายแรงกว่าเดิม เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธและใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามได้มากกว่าเดิม เพียงเพราะว่าคนเหล่านั้นมีนักการเมืองเป็นพวกของตัวเอง สังคมก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็นกลียุค บ้านเมืองไร้ขื่อแป เพราะผู้ถืออำนาจคือผู้ที่ไม่มีวันได้รับบทลงโทษเมื่อได้กระทำความผิดทุกครั้งไป
       
       การกระทำเช่นนี้ได้ย่อมไม่ใช่หนทางของระบอบประชาธิปไตยแต่ประการใด แต่กลายเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจประชาชนมาโดยการเลือกตั้งที่ออกกฎหมายตามอำเภอใจเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง หากทำเช่นนั้นได้สังคมก็จะยิ่งมีความแตกแยกร้าวฉานไปยิ่งกว่าเดิม การต่อสู้บนท้องถนนนอกรัฐสภาก็จะเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น และไม่สามารถปกครองได้ด้วยหลักนิติรัฐอีกต่อไป
       
       จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงขอเรียนมาเพื่อให้ท่านได้ดำเนินการระงับ หยุดยั้งการพิจารณาหรือการให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... ทุกฉบับ และแจ้งให้ผู้ที่เสนอวาระดังกล่าวถอนวาระดังกล่าวต่อไปเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม ตลอดจนแจ้งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหยุดการกระทำผิดกฎหมายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นต่อไปเสียโดยทันที ทั้งนี้เพื่อผดุงไว้ซึ่งหลักการปกครองบ้านเมืองที่ถูกต้อง เพื่อความสงบสุขและความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอย่างแท้จริง
       
       จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา
       
                                                                             ขอแสดงความนับถือ
       
                                                                   พลตรี   จำลอง    ศรีเมือง    นายพิภพ ธงไชย
       
                                                                 นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
                                                                    แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       

puiey

สนับสนุนพันธมิตรฯ ด้วยคนครับ และเรียกต้องให้หยุดการเสนอกฎหมายล้างผิดครับ
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

ใครยิงสนธิ200นัด

ไหน ตอบมาซิ ใครยิง สนธิ 200 นัด ... จะเอาคำตอบชาตินี้หรือชาติหน้า ??? 
 
วันนี้ 6 มิถุนายน 2555 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์

ก่อนออกมาแถลงว่า  ถ้าพรรคเพื่อไทย ผลักดันพ.ร.บ.ปรองดอง  พันธมิตรฯ เคลื่อนพล แน่นอน

ตอนหนึ่งของการแถลงข่าว แกนนำคนดัง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ร้องถามว่า


"ช่วยหน่อยได้ไหม ช่วยกรุณา รื้อฟื้นคดี ที่ผมโดนยิง 200 นัด ขึ้นมาหน่อยได้ไหม ช่วยเถอะ ขอร้องเถอะ หรือว่าจะรอให้ผมโดน อีก 200 นัด ผมว่าอย่ามาเก่งกับประชาชน หาให้หน่อยได้ไหม


สมัยพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ยอมทำ สมัยพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ยอมทำ ถ้าจะรักษากฎหมาย ให้มันมีมาตรฐานหน่อยได้ไหม อย่ามาอวดเก่งกับประชาชนที่ไม่มีอาวุธ หลักฐานมีอยู่แล้วว่าผมโดนยิง 200 นัด


ถ้าจริงใจ จริงจัง เต็มใจ ก็รื้อคดีนี้ขึ้นมาเลยทันทีเลย แล้วหาออกมาให้ได้ ว่าใครลอบยิงผม ไม่ยากครับ เพราะผลการสอบสวน มันอยู่ในระดับหนึ่งที่สามารถจะชี้ตัวคนได้แล้ว สำนวนการสอบสวนของเก่าก็มี รื้อคดีสักหน่อยสิครับ อย่านั่งเฉย"






นี่คือ การบ้านข้อใหญ่ถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์



นั่นคือ ใครเป็นคนบงการลอบยิงเขากว่า 200 นัด ขอให้รัฐบาลสอบสวนและเปิดชื่อผู้บงการเพราะจากพยานหลักฐานของตำรวจน่าจะเปิดเผยได้แล้วว่า ใครคือผู้กระทำ และใครคือผู้บงการ ?
   ....................................
   

สนธิ หรือ โกตั๊บ  หมุนเข็มนาฬิกา กลับไป
   

ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลาประมาณ 05.45 น. ขณะที่เขา กำลังเดินทางโดยรถส่วนตัว โตโยต้า แวลไฟร์ ไปยังสถานีโทรทัศน์ ASTV เพื่อจัดรายการในตอนเช้าเหมือนปกติ


ปรากฎมีกลุ่มคนไม่ทราบจำนวน ขับรถ อีซุซุ ดีแม็กซ์ 2 ประตู สีบรอนซ์ทอง ตามประกบ และได้ใช้อาวุธปืนยิงล้อรถของนายสนธิ ทำให้ยางล้อแตก แล้วใช้อาวุธปืนเอเค 47 เอชเค 33 เอ็ม 16 และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 รัวยิงกระหน่ำเข้าไปในรถของนายสนธิ แล้วขับรถหนีไป โดยใช้ถนนเทเวศร์ เจ้าหน้าที่นับปลอกกระสุนปืนได้ 84 นัด และลูกระเบิดเอ็ม 79 ขนาด 40 มม. ที่ยังไม่ระเบิด 1 นัด
   

นายสนธิ ถูกกระสุนบริเวณคิ้ว, หน้าอก และแขน ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระแต่อาการไม่บาดเจ็บมากนัก
   

เหตุการณ์ลอบยิง ผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว  แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
 

...................................



จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ปัจจุบันรอบตัวของ"สนธิ" มีบอดี้การ์ด ดูแลรักษาความปลอดภัยหลายคน
   

ยิ่งเวลาอยู่ในที่ชุมนุม ชายฉกรรจ์ จะล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นพิเศษ
   

การเดินทางจะต้องมีรถคุ้มกัน ทั้งรถนำและรถตามประกบหลัง


เขาพลาดอีกไม่ได้แล้ว 
.....................................



บนอาคาร บ้านพระอาทิตย์   สนธิ สั่งให้เอาเสื้อ กางเกง และถุงเท้า เปื้อนเลือด ในวันที่เขาถูกลอบยิงมาใส่กรอบกระจก
   

เสมือนเตือนตนไม่ให้ประมาท  และเตือนให้หาคนก่อเหตุมาลงโทษ
 

...................................
   

แล้วใครกันเป็นคนบงการและลอบยิง ...โกตั๊บ
   

สนธิ ก็รู้ คำตอบ


แกนนำพันธมิตรฯทุกคนก็รู้   


ตำรวจ ก็รู้


นักข่าวก็รู้
 

คนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็รู้


แต่เรื่องนี้ทุกคนเล่นบทแกล้งโง่  !!!


...................................


คำตอบอาจต้องรอชาติหน้า ตอนบ่าย ๆ  !!!