ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สัญญาณเตือนโรคไต พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง !

เริ่มโดย siritidaphon, เมื่อวานนี้ เวลา 14:18

siritidaphon

สัญญาณเตือนโรคไต พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง !

โรคไตถูกเรียกว่า "ภัยเงียบ" เพราะในระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน ทำให้คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวจนกระทั่งการทำงานของไตลดลงไปมากแล้ว การรู้เท่าทัน สัญญาณเตือน และ พฤติกรรมเสี่ยง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันไตวาย


1. สัญญาณเตือนโรคไตที่ต้องระวัง (ไม่ควรมองข้าม)

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของไตโดยละเอียด:

A. ความผิดปกติของการขับถ่ายปัสสาวะ
ปัสสาวะเป็นฟองผิดปกติ: ฟองเยอะคล้ายฟองเบียร์ หรือฟองไม่ยุบง่าย บ่งชี้ว่ามี โปรตีน (ไข่ขาว) รั่วออกมาทางปัสสาวะ

ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน: ต้องลุกขึ้นปัสสาวะตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป (ในผู้ใหญ่วัยปกติ)

ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีสีผิดปกติ เช่น สีน้ำล้างเนื้อ หรือสีขุ่นมาก

ปัสสาวะออกน้อยลง อย่างเห็นได้ชัด หรือรู้สึกปัสสาวะขัด แสบ

B. อาการบวมและภาวะน้ำเกิน
ใบหน้าและหนังตาบวม: มักสังเกตได้ชัดเจนที่สุดในช่วงเช้าหลังตื่นนอน

ขาบวม เท้าบวม ข้อเท้าบวม: เมื่อลองใช้นิ้วกดบริเวณหน้าแข้งค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วมีรอยบุ๋ม

น้ำหนักเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ (จากภาวะน้ำคั่ง)


C. อาการทั่วไปจากของเสียคั่ง

อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ซีดผิดปกติ

เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะในช่วงเช้า

มีรสขมในปาก หรือไม่สามารถรับรสอาหารได้ตามปกติ

คันตามผิวหนัง โดยไม่มีผื่น (เกิดจากการสะสมของของเสียในร่างกาย)

ปวดหลัง ปวดบั้นเอว บริเวณสีข้าง (อาจเกิดจากนิ่ว หรือกรวยไตอักเสบ)


2. พฤติกรรมเสี่ยงที่ควร "เลี่ยงด่วน" ก่อนทำลายไต

พฤติกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่างเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนไทยเป็นโรคไตเรื้อรัง:

พฤติกรรมเสี่ยง                              ผลกระทบต่อไต                                     วิธีหลีกเลี่ยง

กินเค็มจัด (โซเดียมสูง)   เพิ่มความดันโลหิต ทำให้ไตต้องทำงานหนักในการขับเกลือและน้ำส่วนเกิน   ลดการปรุงรส เลี่ยงอาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส

กินหวานจัด/มันจัด         เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคไต   ลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม ขนมหวาน และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ซื้อยา/สมุนไพรกินเอง   ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน) และสมุนไพร/อาหารเสริมที่ไม่ทราบส่วนประกอบ อาจ
ทำลายเนื้อไตโดยตรง   ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาใด ๆ ติดต่อกันนานเกิน 7 วัน

กลั้นปัสสาวะบ่อย   เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจลุกลามไปยังไตและทำให้เกิดไตอักเสบ   ควรรีบเข้าห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะ

ดื่มน้ำน้อยเกินไป         ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น มีโอกาสเกิดนิ่วในไต และทำให้ไตทำงานหนัก   ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6−8 แก้วต่อวัน (ยกเว้นผู้ป่วยโรคไตที่แพทย์สั่งจำกัดน้ำ)

สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จัด   สารพิษทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดฝอยในไต ทำให้การกรองของไตเสื่อมลง   งดสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

ไม่ควบคุมโรคประจำตัว   โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างดี จะทำลายไตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว   กินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไปพบแพทย์ตามนัด และตรวจค่าเลือด/ปัสสาวะสม่ำเสมอ