ความใหญ่โต+ความสะดวกสบายโอ่อ่า+ศรัทธาเชิงปริมาณ

[เณรเทือง]

หลายกระทู้ในกระดานลานบุญมีการตำหนิวัดในภาคใต้ว่าไม่โอ่อ่าสะดวกสบาย มีการก่อสร้างที่ไม่สมหน้าสมตา หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ก็ไม่รู้จักสร้าง ต้องให้ภาคอื่นมาชิงตัดหน้าไป
อันที่จริงผมอยากขอเตือนสติ ศรัทธาแบบพอเพียงเป็นสิ่งมีคุณค่ามากในบ้านเรา เพราะปู่ย่าตายายคนใต้เราเป็นอย่างนี้ หลวงพ่อทวดเราจึงศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้ บรรพชนเหล่านั้นของเราอุดมไปด้วยปัญญาต่างมีความรู้ถึงเนื้อในแห่งหลักการศาสนาและมีสติ ไม่ได้ทำบุญเพื่อหวังบุญแบบพร่ำเพรื่อ
แต่ไหนแต่ไรมาวัดในภาคใต้ที่ดำรงอยู่ได้อย่างศักดิ์สิทธิ์หลายๆวัดล้วนมีสิ่งก่อสร้างแต่เพียงเล็กน้อย แต่ขอโทดเถอะครับภิกษุชราเจ้าอาวาสที่กวาดลานวัดอยู่นั้นท่านคือผู้ทรงวิทยาคุณอย่างแท้จริง เป็นที่พึ่งของคนในหมู่บ้านจวบจนท่า่นมรณะภาพ

[ธรรมในใจ]

ไม่เป็นไรหรอกเณรเทือง  เพราะคนที่ตำหนิวัดนะ ปีๆ นึง เข้าวัดกี่ครั้งก็ไม่รู้
ส่วนคนที่เข้าวัดเห็นวัดไหนอยู่แบบพอเพียง ก็ยิ่งชื่นชมในความสมถะของพระท่าน

[ชาร์น]

สาธุ

[เด็กใหญ่]

 เจริญธรรม สติธรรม  ขอทุกท่านสละเวลาฟังธรรมนี้เถิด ท่านอาจเพิ่งได้ฟังครั้งแรก และ อาจชอบฟังหลายๆครั้งต่อไป
http://youtu.be/PKaIFSamJRg

[ผีดำ1]

การปรับปรุงวัดไม่ใช่หมายถึงสร้างวัตถุเช่นโบถ วิหาร หรือพระองค์ใหญ่ๆอย่างเดียว แต่มันรวมถึงทุกๆอย่างที่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน ต้องแจงทั้งหมดไหมถ้าคิดเองได้จะไม่แจงแต่ถ้าคิดไม่ออกก็เขียนถามมาจะแจงให้  การอยู่อย่างพอเพียงนั้นดี  แต่คำว่าพอเพียงในหลวงตรัสไว้แล้วว่า ไม่ใช่ตระหนี่  ประหยัดเกิน  หรือขี้เหนียว และไม่พัฒนาอะไรเลย  แต่ให้ใช้อย่าง
สมเหตุผล  มีมากใช้มากก็คือพอเพียง  มีน้อยใช้น้อยคือพอเพียง  แต่มีเงินทำบุญแล้วไม่พัฒนาอะไรเลยนี่สิ  งง เงินไปไหน  ไฟฟ้า  ถนนในวัดห้องน้ำ ขัน กลอน ต้นไม้ ใบหญ้า  มันบ่งบอกออกมาทั้งนั้นว่าพระและโยมข้างวัดอยู่กันอย่างไร  บ้านสะอาดไม่ต้องแพงก็น่าอยู่ บ้านแพงๆไม่ทำความสะอาดก็ใช่จะน่าอยู่  และคนเข้าวัดบ่อยหรือไม่ไม่ใช่ประเด็น  เข้าบ่อยเข้าไปหาประโยชน์ก็ใช่ว่าจะดีเข้าไม่บ่อยแต่ไปเพื่อทำบุญก็คือดี   และการสร้างใหญ่ ถ้าสร้างอย่างถูกต้องไม่มีนอกในถือว่าคนที่ร่วมสร้างและผู้สร้างได้ทำบุญอย่างที่ใจและทรัพย์พึงพอมีเหลือก็ถือว่าไม่ผิดแต่ถ้าสร้างแล้วโฆษณาว่าทำมากได้มากนั้นจึงถือว่าผิด  และการที่จะว่าใครเรียนธรรมมาน้อยมากคงวัดกันแค่การพิมพ์ข้อความอะไรในนี้ไม่ได้   จึงไม่ขอวัดกันแค่แสดงความเห็นดีกว่า  และบรรพชนทุกภาคก็สอนไว้ดีเพียงแต่บางที่  เขาเป็นเมืองเก่าศูนย์กลางพุทธศาสนามาก่อนจึงมีสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตมา่ก่อน เช่นพระธาตุเมืองคร  หรือเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลอยุธยา และที่กล่าวมาก็ชี้ให้เห็นว่าการสร้างพระใหญ่ๆ หรือเจดีย์ใหญ่ๆมีมานานตั้งแต่ก่อนกาล พอมาถึงยุคเราๆๆก็อยากจะสร้างถาวรวัตถุไว้ให้ลูกหลานดูบ้างให้ได้นึกถึงคนรุ่นก่อนๆเขานับถือพุทธศาสนากันและยอมสละทรัพย์เพื่อทำบุญและได้ร่วมกันสร้างไว้  ส่วนการจะให้ความรู้เรื่องว่าทำบุญแบบไหนถือว่าดีและพอเพียงก็สอนกันไปเชื่อกันไป  ส่วนวัดที่จะจัดแบบวัดป่ามีแต่ต้นไม้ และการสอนธรรมะนั่งสมาธิอันนี้ก็เห็นดี ทำเป็นวัดๆไปในแต่ละภาค  จะให้เป็นแบบนั้นทุกวัดทุกภาคเป็นไปไม่ได้

[เณรเทือง]

กราบเรียนคุณผีดำมาด้วยความเคารพ
ท่านอาจถึงแก่โทสะเพราะกระทู้นี้อาจขัดใจท่าน แต่ผมก็ได้หลีกเลี่ยงแล้วโดยการเปิดกระทู้ใหม่ ไม่ได้ไปหักความเห็นของท่าน อันที่จริงก็ต้องขอบคุณที่ได้แสดงความเห็นแลกเปลี่ยน แต่ผมอยากให้เป็นไปโดยสัมมาทิฐิ คือรู้ชอบ เป็นหนทางเดียวที่เราจะพบจุดร่วมกันได้ด้วยโยนิโสมนสิการ ไม่ว่าสงฆ์ภาคไหน ก่อนอื่นหวังว่าท่านคงทราบกิจของสงฆ์อันควรทำและไม่ควรทำ ดังนี้

      1. นิสัย 4 หมายถึง ต้องอาศัยปัจจัย 4 อย่างในการดำเนินชีวิต คือ
         1.1 บิณฑบาตเป็นกิจวัตร คือ ไม่ประกอบอาชีพใด ๆ นอกจากบิณฑบาตเลี้ยงชีพ
         1.2 ถือผ้าบังสกุลเป็นกิจวัตร คือ นำผ้าที่ทิ้งแล้วมาเย็บเป็นจีวร ต่อมาพระองค์อนุญาตให้รับผ้าที่มีผู้นำมาถวายได้
         1.3 อยู่โคนต้นไม้เป็นกิจวัตร คือ อาศัยอยู่ตามถ้ำ ป่า โคนต้นไม้ จะอยู่ประจำเฉพาะฤดูฝน 3 เดือนเท่านั้น
         1.4 ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า คือ ฉันยาสมุนไพรรักษาโรคตามที่หาได้
      2. อกรณียกิจ 4 หมายถึง สิ่งที่พระสงฆ์ไม่ทำ 4 อย่าง คือ
         2.1 ไม่เกี่ยวข้องกับกามารมณ์
         2.2 ไม่ลักทรัพย์
         2.3 ไม่ฆ่าสัตว์
         2.4 ไม่อวดคุณวิเศษที่ตนไม่มี
ข้อ 1.3 ขอให้คุณผีดำจงท่องจำให้ขึ้นใจนะครับ แล้วไม่ต้องมาตัดสินเองว่าทุกอย่างต้องปรับปรุงตามยุคสมัย

[เณรเทือง]

เจดีย์ชัยมงคล
อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ มังกะยอชวา
พระมหาอุปราชของหงษาวดี ที่ต.หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี
ในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพเข้ามาในขอบขันฑสีมา สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระ
เอกาทศรถผู้เป็นพระอนุชาจึงได้นำทัพไปรับศึก และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของข้าศึก
ทีคอยระดมยิงปืนเข้าใส่พระและพระคชาธาร โดยที่เหล่าแม่ทัพนายกองวิ่งตามพะรองค์มาไม่ทัน
พระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่า
เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์
ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว พระอุปราชของพม่าจึงไสยช้างออกมากระยุทธถีด้วยกัน
ในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลผ่ายฟาดฟันพระอุปราช
ขาดตะพายแล่ง

เมื่อกลับมาสู่พระนครแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษเหล่าทหารที่ตามพระไปไม่ทันตอนกระทำศึก
ยุทธหัตถี ซึ่งมากฏระะเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวิต ช่วงเวลาที่รออาญา
สมเด็จพระพันรัตน พระสังฆราชพร้อมด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัย
ยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่าพระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญ
และเก่งกาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดิน

สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ
และความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น และพระะราชทานนามว่า
"เจดีย์ชัยมงคล"

[ผีดำ1]

สวัสดีครับ เณรเทืองไม่โกรธครับ ชอบแสดงความเห็นต่างๆกันครับ
1.3 อยู่โคนต้นไม้เป็นกิจวัตร คือ อาศัยอยู่ตามถ้ำ ป่า โคนต้นไม้ จะอยู่ประจำเฉพาะฤดูฝน 3 เดือนเท่านั้น
ข้อ 1.3 ขอให้คุณผีดำจงท่องจำให้ขึ้นใจนะครับ แล้วไม่ต้องมาตัดสินเองว่าทุกอย่างต้องปรับปรุงตามยุคสมัย
ใครอยู่แบบนี้บ้างในยุคนี้ พระพยอมก็ไม่ได้อยู่แบบนั้นหรือพระพยอมไม่ดีในวัดของท่านก็สร้างตึกให้คนไปอยู่ไปทำงานเลี้ยงเด็กกำพร้าใช่กิจของสงฆ์ไหม  วัดพระบาทน้ำพุก็สร้างตึกสร้างโรงบาลพระอยู่ในตึกขอถามหลวงพ่อองค์นี้ไม่ดีหรือ  การสร้างเจดีย์ชเวดากองที่พม่าใช้ทองมากมายหุ้มผิดไหมและเมื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆแล้วจะไม่พัฒนาห้องน้ำถนนศาลาให้คนนั่งพักผ่อนเหรอ
หลวงพ่อปัญญา ท่านสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ใหญ่โตใช้เงินหลาย100ล้านไม่ดีใช่ไหม  หรือต้องไปเรียนใต้โคนไม้   หลวงตาบัวอยู่วัดป่าแท้ๆก็ยังอยู่กุฏิไม่ใช่โคนต้นไม้  ที่ท่านเขียนต้องดูด้วยว่ามันปฏิบัติได้หรือเปล่าเด๊่ยวนี้เขาเทศผ่านเน็ตก็มีมากมายอยู่โคนต้นไม้มีไฟฟ้ามีไวไฟล์ให้ใช่ไหม  ถ้ากฏเก่าดีล้วนเขาจะทำสังฆยาณากันทำไมตั้งหลายครั้งมาแล้ว   (ตอนในหลวงทรงผนวชก็ไม่ได้อยู่โคนต้นไม้เป็นนิจเณรเทืองคิดไงละ) เพราะเมื่อก่อนพุทธกาลมันมีแต่ต้นไม่ใหญ่และป่าพุทธเจ้าก็ออกกฏเช่นนั้นแล้วตอนนี้ละมนุษย์ไหนไปอยู่ป่าโดยไม่สร้างอะไรไว้ได้ไหม   การสร้างพระหรืออะไรไม่ต้องเริ่มจากสงฆ์ก็ได้แต่เริ่มจากคารวาสอยากร่วมกันสร้างถวายแต่ก็ต้องไปสร้างถวายในวัดใดวัดหนึ่งไม่ใช่ไปสร้างในห้างใช่ไหม มันก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่สงฆ์ต้องเข้ามาเกี่ยวอยู่ดี

[fm105วัดป่าบ้านตาด]

สวัสดีครับ เณรเทืองไม่โกรธครับ ชอบแสดงความเห็นต่างๆกันครับ
1.3 อยู่โคนต้นไม้เป็นกิจวัตร คือ อาศัยอยู่ตามถ้ำ ป่า โคนต้นไม้ จะอยู่ประจำเฉพาะฤดูฝน 3 เดือนเท่านั้น
ข้อ 1.3 ขอให้คุณผีดำจงท่องจำให้ขึ้นใจนะครับ แล้วไม่ต้องมาตัดสินเองว่าทุกอย่างต้องปรับปรุงตามยุคสมัย
ใครอยู่แบบนี้บ้างในยุคนี้ พระพยอมก็ไม่ได้อยู่แบบนั้นหรือพระพยอมไม่ดีในวัดของท่านก็สร้างตึกให้คนไปอยู่ไปทำงานเลี้ยงเด็กกำพร้าใช่กิจของสงฆ์ไหม  วัดพระบาทน้ำพุก็สร้างตึกสร้างโรงบาลพระอยู่ในตึกขอถามหลวงพ่อองค์นี้ไม่ดีหรือ  การสร้างเจดีย์ชเวดากองที่พม่าใช้ทองมากมายหุ้มผิดไหมและเมื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆแล้วจะไม่พัฒนาห้องน้ำถนนศาลาให้คนนั่งพักผ่อนเหรอ
หลวงพ่อปัญญา ท่านสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ใหญ่โตใช้เงินหลาย100ล้านไม่ดีใช่ไหม  หรือต้องไปเรียนใต้โคนไม้   หลวงตาบัวอยู่วัดป่าแท้ๆก็ยังอยู่กุฏิไม่ใช่โคนต้นไม้  ที่ท่านเขียนต้องดูด้วยว่ามันปฏิบัติได้หรือเปล่าเด๊่ยวนี้เขาเทศผ่านเน็ตก็มีมากมายอยู่โคนต้นไม้มีไฟฟ้ามีไวไฟล์ให้ใช่ไหม  ถ้ากฏเก่าดีล้วนเขาจะทำสังฆยาณากันทำไมตั้งหลายครั้งมาแล้ว   (ตอนในหลวงทรงผนวชก็ไม่ได้อยู่โคนต้นไม้เป็นนิจเณรเทืองคิดไงละ) เพราะเมื่อก่อนพุทธกาลมันมีแต่ต้นไม่ใหญ่และป่าพุทธเจ้าก็ออกกฏเช่นนั้นแล้วตอนนี้ละมนุษย์ไหนไปอยู่ป่าโดยไม่สร้างอะไรไว้ได้ไหม   การสร้างพระหรืออะไรไม่ต้องเริ่มจากสงฆ์ก็ได้แต่เริ่มจากคารวาสอยากร่วมกันสร้างถวายแต่ก็ต้องไปสร้างถวายในวัดใดวัดหนึ่งไม่ใช่ไปสร้างในห้างใช่ไหม มันก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่สงฆ์ต้องเข้ามาเกี่ยวอยู่ดี

ลองฟังท่านดูจะเข้าใจอะไรมากขึ้นเทศน์24ชั่วโมง แต่ท่านอรหันต์แล้ว ยังไงก็ขอยืนยันให้ยึดตามธรรมวินัยและพระไตรปิฎกอย่างเคร่งครัดดีที่สุด กันมารเข้ามาแอบแฝงทำความเสื่อมเสียให้กับศาสนาและหาเงินหาทองเข้ากระเป๋าโดยอาศัยผ้าเหลือง บาปไม่ต้องพูดถึงมากกว่าฆราวาสธรรมดาหมื่นแสนเท่าพันทวี