ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ถ่มถุยทางวิชาการ ระวังน้ำลายรดหน้าตัวเอง!

เริ่มโดย เมธาพ่อคนตาสว่าง, 08:57 น. 17 ก.ค 55

เมธาพ่อคนตาสว่าง



นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ และพวก รวมตัวกัน แล้วตั้งชื่อเท่ๆ ว่า "นิติราษฎร์"

1.อุตส่าห์ตั้งชื่อ "นิติราษฎร์" อ้างว่าเป็นนักนิติศาสตร์เพื่อประชาชน

แต่บทบาทการเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร?

มีกรณีไหนบ้าง ทำเพื่อช่วยเหลือประชาชนจริงๆ?

เปรียบเทียบกับสภาทนายความ ที่ทำงาน ฟ้องคดี ขึ้นศาล สู้คดี ให้คำปรึกษาชาวบ้านที่มีปัญหากฎหมาย ถูกฟ้อง ถูกกลั่นแกล้ง ช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจนมาอย่างยาวนาน สม่ำเสมอ เขายังไม่อวดอ้างตัวเองว่า "เพื่อราษฎร" อย่างพร่ำเพรื่อเช่นนี้เลย

2.การแสดงทัศนะทางกฎหมายของนักนิติศาสตร์กลุ่มนี้ เข้าทางผลประโยชน์และการเคลื่อนไหวของระบอบทักษิณอย่างชนิดที่เข้าตาคนทางไกล

หลายครั้ง หลายความเห็น ล่วงขึ้นไปกระทบถึงสถาบันเบื้องสูง
ไม่บังควรอย่างยิ่ง

3.ล่าสุด กลุ่มนิติราษฎร์จัดแถลงข่าว ช่วงชิงพื้นที่สื่อ นำโดยนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล โจมตีทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ

เสนอให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ!

อ้างว่า ควรจะให้มีคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาทำหน้าที่แทน โดยมี 8 คน มีที่มาประกอบด้วย มาจากสภาผู้แทนราษฎร 3 คน วุฒิสภา 2 คน และคณะรัฐมนตรี 3 คน!

4.การนำก๊วนออกมาแสดงความเห็น ฉวยโอกาสทางการเมืองในช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ถูกใจคนเสื้อแดงขณะนี้ โจมตีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ด้วยแนวคิดความเห็นที่พิกลพิการ ขัดแย้งกับแนวทางความเห็นทางวิชาการที่ตนเองเคยแสดงไว้ต่อสาธารณะอย่างชนิด "หน้ามือ-หลังตีน" ไม่ควรจะถูกนับรวมว่าเป็นการแสดงความเห็นทางวิชาการ

หรือจะนับเป็น "การถ่มถุยทางวิชาการ"?

ถ้าอย่างนั้น น้ำลายก็ดันรดหน้าตัวเองซะด้วย!

ข้อเสนอที่ว่าให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และให้มีคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ มีองค์ประกอบที่ให้มาจากคณะรัฐมนตรี 3 คน สภาผู้แทนราษฎร 3 คน และวุฒิสภา 2 คนนั้น ก็เท่ากับให้พรรคการเมืองที่กุมเสียงข้างมากสามารถกำหนดตัวตุลาการได้กลายๆ

รัฐบาล เลือก 3 คน

สภาผู้แทนฯที่รัฐบาลครองเสียงข้างมาก อีก 3 คน (ย่อมเป็นของรัฐบาลอย่างน้อย 2 คน)

แค่นี้ รวมกันก็เกินครึ่งหนึ่งแล้ว!

แบบนี้ นักการเมืองก็ยึดครองทั้งนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการด้วยเลย

กินรวบ!

แนวคิดนี้ มันช่างต่างจากแนวคิดของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ สมัยที่เคยเขียนหนังสือ "รู้ทันทักษิณ" วิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณ บทความ "โครงสร้างและกลไกในรัฐธรรมนูญกับอำนาจของนายกฯ ทักษิณ"

ตอนนั้น บอกถึงความเลวร้ายของการที่ฝ่ายบริหารสามารถเข้าไปครอบงำ แทรกแซง หรือส่งคนเข้าไปอยู่ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2540 ไว้เป็นฉากๆ เช่น

"...นอกเหนือจากกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจของฝ่ายบริหารจะมีปัญหาแล้ว กระบวนการในการสรรหาบุคคลเข้าสวมตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญก็มีปัญหาเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากการสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครั้งหลังๆ ที่กรรมการสรรหาในส่วนที่มาจากพรรคการเมือง ล้วนแล้วแต่เป็นคนจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทั้งสิ้น โดยไม่มีผู้แทนจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านเข้าร่วมเป็นกรรมการเลย

และโดยสัดส่วนของจำนวนผู้แทนพรรคการเมืองที่อยู่ในกรรมการสรรหา หากผู้แทนพรรคการเมืองร่วมกันออกเสียงคัดค้านผู้สมัครคนใดก็ตามที่สมัครเข้าดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระอื่น เช่น ป.ป.ช. หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ย่อมยากเย็นหรือกระทั่งว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้สมัครผู้นั้นจะผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาไปได้

กลไกและกระบวนการคัดเลือกที่เปิดช่องให้การเมืองเข้าแทรกได้เช่นนี้ ย่อมเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กุมอำนาจทางการเมืองอย่างยิ่ง

โดยกลไกและกระบวนการคัดเลือกเช่นนี้ เราย่อมคาดหมายได้ว่า ในอนาคตผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยเฉพาะอำนาจบริหาร ย่อมต้องเป็นบุคคลที่อย่างน้อยที่สุด พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลไม่คัดค้าน มิพักต้องกล่าวถึงว่า บุคคลดังกล่าวจะเป็นบุคคลที่รัฐบาลส่งเข้าไปในองค์กรอิสระหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ผู้ซึ่งทรงอำนาจทางการเมืองอย่างนายกรัฐมนตรีต้องการ

ก็เมื่อคนในองค์กรตรวจสอบ (องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ) สัมพันธ์กับองค์กรที่ถูกตรวจสอบ (รัฐบาล) เสียแล้ว เราย่อมคาดหมายผลการตรวจสอบการใช้อำนาจบริหารหรือตัวบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางบริหารในอนาคตได้ว่าจะเป็นเช่นใด

กลไกการตรวจสอบที่บกพร่อง หรือที่มีช่องโหว่ให้นักการเมืองเข้าแทรกได้ดังเช่นที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ย่อมเป็นปัจจัยโดยอ้อมส่งให้นายกฯทักษิณ ทวีอำนาจขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย...

...ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนกลไกในส่วนนี้ ในอนาคตองค์กรอิสระย่อมจะกลายเป็นกลไกที่ช่วยเสริมสถานะของนายกฯ ให้มั่นคงหนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีกโดยไม่มีข้อกังขา

โครงสร้างและกลไกในรัฐธรรมนูญที่สร้างความเข้มแข็งให้กับนายกรัฐมนตรีมากขนาดที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ เป็นโครงสร้างและกลไกที่สมควรปรับเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน เพราะประวัติศาสตร์สอนให้เราระมัดระวังอยู่เสมอว่า อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งในบ้านเมืองมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะอำนาจเด็ดขาดของผู้ปกครองนั้น ไปด้วยกันไม่ได้กับการปกครองโดยกฎหมายเป็นใหญ่

และอำนาจเด็ดขาดนั้นย่อมจะย้อนกลับมาทำร้ายประชาราษฎรไม่วันใดก็วันหนึ่ง!"

มาวันนี้... สุดยอด...

ไม่ต้องถามแล้วว่า นิติราษฎร์เป็นทาสใคร?

สารส้ม

http://www.naewna.com/politic/columnist/2382




วิชาการ

จนวันนี้..ผมยังไม่เห็นจะมีนักวิชาการคนไหนกล้าตอบโต้นิติราษฏร์ ในปมวินิจฉัย
มองซ้าย

มองขวา

มองไปมองมา

จะเข้าวันที่ 3 แล้ว ไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ จาก กูรู กูรู้ ในเชิงวิชาการทางด้านกฏหมายทั้งหลายในทร้วยส์แลนนี้ มีแต่กูรู้บ้างไม่รู้บ้าง หลายตัวในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมา ตระโกนใส่ร้าย วรเจตน์ ตามสันดาน ที่เขาบ่มเพาะกันมาตาม DNA พรรค

"รับจ้าง"

"ขี้ข้าทักษิณ"

"เนรคุณประเทศ" (ฮาอิบอ๋าย)

ไม่รักเบื้องบน (อันนี้ฮาสุด)

สุดแต่ว่าจะป้ายสี...

ไม่มีซักตัว ขอย้ำไม่มีซักตัว จริง ๆ ในพรรคประชาวิบัติ

ที่กล้าออกมา"ถกปม" ที่ อ.วรเจตน์ ถาม

"คำต่อคำ" " ประโยคต่อประโยค"

พร้อมทิ้งปมคำถามไว้มากมาย กับคำวินิจฉัยของ ตลก

อ้อ...มีบวรศักดิ์ หลุดมาตัวนึง แต่ก็ไม่มีอะไรเลย ..

มีบ้างมั้ยอะที่ ตอบโจทย์ที่ วรเจตน์ ถาม ? ? ?

ไม่เอานะ ไปไหนมา สามวาสองศอก

ถามอย่างตอบอีกอย่าง

หรือถามอย่าง แฉไปด่าเรื่องอื่นแทน เห็นในพรรคแมลงสาป ดิ้นกันอย่างกับเจอไบก้อน ยี่ห้อ นิติราษฏร์ฉีด

วรเจตน์ เขาพร้อมรับฟัง และเขาก็พร้อมจะยอมรับ หากมันมีตรรกะของเหตุและผล

อย่าได้ถ่อยเถื่อน ส่งหมาไปลอบกัด อีกหละ

เถียงไม่ออกทีไร เห็นลอบกัดทุกที

มีมาตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2519 แล้ว ประเทศสาระขันธ์นี้

วิชาการ

คณะนิติราษฏร์ คือกลุ่มเดียวจริงๆที่อยู่ตรงข้ามเผด้จการ แต่ไม่ใช่แดง ที่สื่อนำข่าวมาลงตลอด ข้อเสนอขอนิติราษฏร์เป้นข้อเสนอที่ส่วนมากเป้นสากลครับคือ ทั่วโลกยอมรับ

จึงไม่มีสื่อหรือไอ้พวกกากเดนเผด้จการกล้าที่จะออกมาคัดค้านอย่าเต็มที่

ยกเว้นพวกที่ตาบอดเรื่องเดียวที่กล้าออกมาแบบหมาบ้าคือ เรื่องบทบาทและอำนาจสถาบัน ที่นิติราษฏร์เสนอ เอะอะก็ล้มเจ้า ๆๆ แบบขาดสติ ขาดข้อมูล

wareerant

ฟังแล้วเศร้า คงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจคณะราษฎร์และคนความเห็นข้างบนได้แล้ว

น่าสลดใจ

เสื้อแหก

 "เสนอให้ยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ! อ้างว่า ควรจะให้มีคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาทำหน้าที่แทน โดยมี 8 คน มีที่มาประกอบด้วย มาจากสภาผู้แทนราษฎร 3 คน วุฒิสภา 2 คน และคณะรัฐมนตรี 3 คน!"
- ความคิดบ้าๆๆ นี้คือกินรวบประเทศไทยแท้ๆๆ ฝ่ายบริหารก็เป็นเพื่อไทย ฝ่ายนิติบัญญัติก็เป็นเพื่อไทย ถ้ามาตั้งคณะตุลาการฯก็เป็นเพื่อไทย อะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนคิดแบบนี้ก็อันตรายต่อประเทศ
- ความคิดของผม ฝ่ายบริหารมาจากนักการเมือง ฝ่ายนิติบัญญัติประธานรองประธาน น่ามาจากบุคคลภายนอก ไม่มาจากนักการเมือง ศาลรัฐธรรมมญู หรือคณะตุลาการฯ น่ามาจากบุคคลภายนอกเหมือนกัน ให้คานอำนาจกันให้หมดทั้ง 3 องค์กร..

เมธาพ่อคนตาสว่าง


ถามนิติเรดหัวกระบวย แก้รัฐธรรมนูญแล้วประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไรครับ

มาตราไหนที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นคุณต่อประชาชน ไอ้สัตว์ตัวที่นั่งข้าง ๆ

ที่แท้ลูกะโปกไอ้สมศักดิ์ ไม่เจียมแต่สถุน