ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 08:20 น. 23 ก.ค 55

ฟ้าเปลี่ยนสี

การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน

[attach=1]

การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน ตามหลักการ เดิมพายุเฮอร์ริเคนที่เกิดในแถบทะเลแคริบเบียนนั้นจะตั้งชื่อนักบุญเป็นภาษาสเปน แต่ต่อมาราวปลายศตวรรษที่ 19 ต่อต้นศตวรรษที่ 20 ก็มีนักพยากรณ์อากาศชาวออสเตรเลียคนหนึ่งชื่อ คลีเมนต์ แรกกี (Clement Wragge) เกิดความคิดในการตั้งชื่อพายุโดยใช้ชื่อคนทั่วไป โดยมี 2 แบบ แบบที่ 1 ใช้ชื่อสตรี ซึ่งเข้าใจว่าต้องการให้ฟังดูอ่อนโยน ส่วนแบบที่ 2 ใช้ชื่อนักการเมือง เพื่อเปรียบเปรยว่านักการเมืองคนนั้นนำความหายนะมาให้เช่นเดียวกับพายุหมุน

เมื่อถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรดานักอุตุนิยมวิทยาในกองทัพอเมริกันซึ่งชอบใจวิธีตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนตามชื่อสตรี ด้วยความคิดถึงก็นำชื่อของคู่รักหรือภรรยาของตนมาใช้เป็นชื่อพายุ

จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2493 ได้มีการตกลงกันว่าให้ตั้งชื่อพายุไล่ตามตัวอักษร A-Z (เช่น Able, Baker, Charlie...) แต่อีก 3 ปีต่อมาก็เปลี่ยนใจเลือกแต่เฉพาะชื่อสตรี (ตัวอย่าง Alice, Barbara...) วิธีการนี้ใช้ไปได้ระยะหนึ่งจนกระทั่งถึง พ.ศ. 2521 (บ้างก็ว่า 2522) จึงได้มีชื่อบุรุษเป็นชื่อพายุบ้าง

จนกระทั่ง พ.ศ. 2543 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่งที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการพายุไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organizations Typhoon Committee) ลุกขึ้นมาจัดระบบการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในแถบนี้ใหม่ (ไม่เอาเฉพาะแต่ชื่อฝรั่ง) โดยแต่ละประเทศ (หรือดินแดน) ได้ส่งชื่อพายุในภาษาของตนมาให้ประเทศละ 10 ชื่อ รวมทั้งสิ้นได้ 140 ชื่อ

ลักษณะทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อน

พายุหมุนเขตร้อนเป็นคำทั่ว ๆ ไปที่ใช้สำหรับเรียกพายุหมุนหรือพายุไซโคลนที่มีถิ่นกำเนิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนแถบละติจูดต่ำ แต่อยู่นอกเขตบริเวณเส้นศูนย์สูตร เพราะยังไม่เคยปรากฏว่ามีพายุหมุนเขตร้อนเกิดที่เส้นศูนย์สูตรพายุนี้เกิดขึ้นในมหาสมุทรหรือทะเลที่มีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 26 หรือ 27 องศาเซลเซียสขึ้นไป และมีปริมาณไอน้ำสูง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มักเคลื่อนตัวตามกระแสลมส่วนใหญ่จากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก และค่อยโค้งขึ้นไปทางละติจูดสูง แล้วเวียนโค้งกลับไปทางทิศตะวันออกอีก พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้หลายแห่งในโลก และมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด บริเวณที่มีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นเป็นประจำ ได้แก่

มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก ทางตะวันตกของลองจิจูด 170 องศา เรียกว่า "ไต้ฝุ่น" เกิดมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน และตุลาคม

มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแถวทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโก เรียกว่า "เฮอร์ริเคน" เกิดมากในเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม

มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ฝั่งตะวันตกของประเทศเม็กซิโก เรียกว่า "เฮอร์ริเคน"

บริเวณมหาสมุทรอินเดียเหนือ อ่าวเบงกอล เรียกว่า "ไซโคลน"

บริเวณมหาสมุทรอินเดียเหนือ ทะเลอาหรับ เรียกว่า "ไซโคลน"

มหาสมุทรอินเดียใต้ ตะวันตกของลองจิจูด 90 องศา เรียกว่า "ไซโคลน"

มหาสมุทรอินเดียใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า "วิลลี-วิลลี"

พายุหมุนเขตร้อนเมื่ออยู่ในสภาวะที่เจริญเติบโตเต็มที่ จะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดชนิดหนึ่งในบรรดาพายุที่เกิดขึ้นในโลก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้นไป และเกิดขึ้นพร้อมกับลมที่พัดแรงมาก ระบบการหมุนเวียนของลมเป็นไป โดยพัดเวียนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเข้าสู่ศูนย์กลางของพายุในซีกโลกเหนือ ส่วนในซีกโลกใต้พัดเวียนตามเข็มนาฬิกา ยิ่งใกล้ศูนย์กลางลมจะหมุนเกือบเป็นวงกลมและมีความเร็วสูงที่สุด

ความเร็วลมสูงสุดที่บริเวณใกล้ศูนย์กลางนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความรุนแรงของพายุ ซึ่งในย่านมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ (ด้านตะวันตก) และทะเลจีนใต้มีการแบ่งตามข้อตกลงระหว่างประเทศดังนี้

พายุดีเปรสชันเขตร้อน (tropical depression) ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางไม่ถึง 34 นอต (63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

พายุโซนร้อน (tropical storm) ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 34 นอต (63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 64 นอต (118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

พายุไต้ฝุ่น (typhoon) ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 64 นอต (118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ขึ้นไป

รายชื่อพายุหมุนเขตร้อนและการนำไปใช้

เป็นรายชื่อพายุที่ก่อตัวทางมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนบนและทะเลจีนใต้ โดยมีประเทศที่อยู่ในภูมิภาคนี้ร่วมกันเสนอบัญชีรายชื่อเอาไว้ทั้งหมด 5 ชุดด้วยกัน ประเทศที่เสนอชื่อมี 14 ประเทศ (และดินแดน) ได้แก่ กัมพูชา จีน เกาหลีเหนือ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

รายชื่อพายุมี 140 ชื่อ นำมาแบ่งเป็น 5 ชุดหลัก ชุดละ 28 ชื่อ โดยไล่เรียงชื่อไปตามลำดับประเทศ (และดินแดน) ที่เสนอมาตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ข้อตกลงคือ

1. เมื่อมีพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางของพายุมากกว่า 34 นอต หรือ 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กลายเป็นพายุโซนร้อน) พายุนั้นจะถูกตั้งชื่อ

2. ชื่อของพายุจะเริ่มใช้ชื่อบนสุดของคอลัมน์หรือชุดที่ 1 ก่อน เช่น เมื่อมีพายุเกิดขึ้นมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางตามที่กำหนดในข้อ 1 เป็นลูกแรก พายุลูกนั้นจะมีชื่อว่า "ดอมเรย"

3. เมื่อมีพายุลูกต่อไปเกิดขึ้นอีก และมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางตามที่กำหนดในข้อ 1 พายุลูกนั้นจะใช้ชื่อที่อยู่ถัดลงมาในชุดที่ 1 เช่น พายุลูกที่ 2 จะมีชื่อว่า "ไห่คุ้ย"

4. เมื่อใช้จนหมดชุดแรกให้ใช้ชื่อแรกของคอลัมน์ที่อยู่ถัดไป เช่น พายุที่เกิดหลังพายุ "จ่ามี" จะใช้ชื่อ "กองเรย" ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ

5. เมื่อใช้จนหมดชุดที่ 5 ให้กลับมาใช้ชื่อแรกของชุดที่ 1 เช่น พายุที่เกิดหลังพายุ "ซาวลา" จะใช้ชื่อ "ดอมเรย"

6. หากพายุลูกใดมีความรุนแรงและสร้างความหายนะมากเป็นพิเศษก็ให้ปลดชื่อพายุลูกนั้นไป แล้วตั้งชื่อใหม่เข้าไปในรายการชื่อแทน

[attach=2]

[attach=3]
หมายเหตุ

1. ^ ใช้แทนชื่อ หลงหวาง (Longwang) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
2. ^ ใช้แทนชื่อ แมมี (Maemi) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
3. ^ ใช้แทนชื่อ กิสนา หรือ กฤษณา (Ketsana) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
4.^ ใช้แทนชื่อ จันจู (Chanchu) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
5. ^ ใช้แทนชื่อ ป้าหม่า (Parma) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
6. ^ ใช้แทนชื่อ รูซา (Rusa) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
7. ^ ใช้แทนชื่อ บิลิส (Bilis) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
8. ^ ใช้แทนชื่อ ซูดัล (Sudal) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
9. ^ ใช้แทนชื่อ ซาวมาย (Saomai) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
10.^ ใช้แทนชื่อ พงซ็อนฮวา (Pongsona) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
11.^ ใช้แทนชื่อ ยันยัน (Yanyan) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
12.^ ใช้แทนชื่อ เถ่งเถง (Tingting) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
13.^ ใช้แทนชื่อ ซ้างสาน หรือ ช้างสาร (Xangsane) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
14.^ ใช้แทนชื่อ มัดสา หรือ มัสยา (Matsa) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
15.^ ใช้แทนชื่อ ฮัวเหม่ย (Vamei) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
16.^ เดิมกำหนดชื่อ รานานิม (Rananim) ต่อมาเปลี่ยนเป็น ฟานาปี (Fanapi) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และเนื่องจากเป็นพายุที่เคยสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ไต้หวันและจีน จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ไร (Rai) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555
17.^ ใช้แทนชื่อ อิมบุโด (Imbudo) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
18.^ ใช้แทนชื่อ นาบี (Nabi) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
19.^ ใช้แทนชื่อ ทุเรียน (Durian) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
20.^ เดิมกำหนดชื่อ หนุมาน (Hanuman) แต่ถูกกรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคัดค้านเนื่องจากเหตุผลทางศาสนา จึงเปลี่ยนเป็น มรกต (Morakot) ในปี พ.ศ. 2545 และเนื่องจากเป็นพายุที่เคยสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ไต้หวัน จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ อัสนี (Atsani) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
21.^ ใช้แทนชื่อ ชาทาอาน (Chataan) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
22.^ ใช้แทนชื่อ โกโด (Kodo) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545

ความหมายและที่มาของชื่อพายุ

[attach=4]

[attach=5]

[attach=6]

[attach=7]

[attach=8]

ที่มา วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อ้างอิง
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2549 คอลัมน์ ท่องเวลา ผ่าอารยธรรม
ตามพายุให้ทัน www.pakxe.com
Worldwide Tropical Cyclone Names NOAA
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ธรรมในใจ

ขอบคุณมาก  ได้ความรู้มากเลยครับ

คนอุตุ

เป็นบทความที่ละเอียดดีค่ะ

แต่ยังมีข้อมูลเก่าที่ไม่ค่อยอัพเดตเท่าไหร่

เช่น มหาสมุทรอินเดียใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า "วิลลี-วิลลี"
อันนี้เรียนตอนประถมค่ะ แต่ตอนมาเรียนอุตุไม่เคยอ่านเจอใน TEXT BOOK เล่มไหนเลย
"วิลลี-วิลลี" จะเป็ฯชื่อที่ใช้เรียกในท้องถิ่นและไม่เป็นสากล ที่เป็นทางการจะใช้พายุไซโคลน

ปล.หนังสือเรียนเมืองไทยโบราณมากค่ะ
ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ

ฟ้าเปลี่ยนสี

อ้างจาก: คนอุตุ เมื่อ 10:23 น.  23 ก.ค 55
เป็นบทความที่ละเอียดดีค่ะ

แต่ยังมีข้อมูลเก่าที่ไม่ค่อยอัพเดตเท่าไหร่

เช่น มหาสมุทรอินเดียใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า "วิลลี-วิลลี"
อันนี้เรียนตอนประถมค่ะ แต่ตอนมาเรียนอุตุไม่เคยอ่านเจอใน TEXT BOOK เล่มไหนเลย
"วิลลี-วิลลี" จะเป็ฯชื่อที่ใช้เรียกในท้องถิ่นและไม่เป็นสากล ที่เป็นทางการจะใช้พายุไซโคลน

ปล.หนังสือเรียนเมืองไทยโบราณมากค่ะ
ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ

ครับผม ขอบคุณมากน่ะครับ
ที่หามาดูดีที่สุดแล้วครับ นอกนั้นข้อมูลเก่ากว่านี้อีกครับ ฮ่าๆๆๆ

หนังสือเรียนเมืองไทยโบราณมากค่ะ

น่าจะสังคยานาใหม่ได้แล้วน่ะครับท่าน ภาษาปะกิด ไม่ค่อยถนัดครับ
ก็คอยศึกษาจากผู้รู้ที่แปลบทความจากภาษาอังกฤษมาอีกที ครับท่าน
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: คนข้างพลาซ่า เมื่อ 13:25 น.  23 ก.ค 55
ครับผม ขอบคุณมากน่ะครับ
ที่หามาดูดีที่สุดแล้วครับ นอกนั้นข้อมูลเก่ากว่านี้อีกครับ ฮ่าๆๆๆ

หนังสือเรียนเมืองไทยโบราณมากค่ะ

น่าจะสังคยานาใหม่ได้แล้วน่ะครับท่าน ภาษาปะกิด ไม่ค่อยถนัดครับ
ก็คอยศึกษาจากผู้รู้ที่แปลบทความจากภาษาอังกฤษมาอีกที ครับท่าน
ขอบคุณมากครับท่าน มีเยอะ ค่อยเอาออกมา
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

คนอุตุ

พายุหมุนเขตร้อนก่อตัวได้อย่างไร

จากข้อเขียนใน Facebook ของ ดร.วัฒนา กันบัว ผู้เชียวชาญด้านอุตุฯทะเล

จะต้องมีอุณหภูมิน้ำทะเลที่ร้อนขึ้น (อย่างน้อย 26.5 ° C [80 ° F]) ในน้ำทะเลที่มีความลึกอย่างน้อย 50 เมตร และเมื่อเปรียบพายุเป็นเครื่องยนต์ น้ำทะเลที่อุ่นก็เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงของพายุ

กับบรรยากาศเบื้องบนน้ำทะเลที่เย็นรวดเร็วและนำพาความชื้นลอยขึ้นจากผิวหน้าน้ำทะเล มันมีลักษณะกระบวนการอย่างเดียวกับการก่อตัวของพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งจะช่วยให้ความร้อนที่เก็บไว้ในน้ำทะเล มีการปลดปล่อยเพื่อเข้าไปเลี้ยงพายุหมุนเขตร้อนให้แรงหรือเติบโตขึ้น

ความชื้นของบรรยากาศตอนกลางของชั้นโทรโพสเฟียร์ (5 กิโลเมตร [3 ไมล์]) อากาศในระดับกลางจะแห้งไม่เอื้อต่อการช่วยให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการเกิดฝนฟ้าคะนอง

บริเวณที่พายุหมุนเขตร้อนจะเกิดได้จะต้องมีระยะทางไม่น้อยกว่า 500 กิโลเมตร [300 ไมล์] จากแนวของเส้นศูนย์สูตร สำหรับการฟักตัวของพายุในเขตร้อน แรงเหวี่ยงของโลกมีความสำคัญต่อการเกิดของพายุหมุนเขตร้อน บริเวณที่มีค่าแรงเหวี่ยงของโลกเป็นศูนย์อย่างเช่นที่บริเวณเส้นศูนย์สูตรโอกาสที่จะเกิดพายุหมุนเขตร้อนยากมาก หรือมีโอกาสน้อยมากจนไม่เกิด

ลักษณะอากาศก่อนหน้าที่จะเกิดพายุหมุนเขตร้อน อากาศแนวนอนจะนิ่งๆ แต่จะมีการไหลเวียนของกระแสอากาศในแนวดิ่งในลักษณะการพัดเข้ามาหรือลู่เข้าอย่างเพียงพอ พายุหมุนเขตร้อนไม่สามารถสร้างตัวเองได้ จะต้องมีองค์ประกอบ หรือสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาระบบจนเกิดและกลายเป็นพายุ จำเป็นต้องมีการหมุนเวียนของกระแสอากาศขนาดใหญ่ในลักษณไหลเข้าหาศูนย์กลางในระดับต่ำ (low level inflow)

ค่าลมเฉือนในแนวดิ่งมีค่าต่ำ (น้อยกว่าประมาณ 10 m / s [20 น็อต 23 mph]) จากพื้นผิวโลกจนถึงชั้นบนของบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ ลมเฉือนในแนวตั้งจะมีค่าความแปรปรวนของลมอย่างมากตามความสูง คือยิ่งสูงลมยิ่งแปรปรวนมาก ลมเฉือนแนวดิ่งที่มีค่ามากจะทำลายการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน และสามารถป้องกันไม่ให้เกิดพายุหมุนเขตร้อน แต่ถ้าพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นแล้วลมเฉือนตามแนวตั้งขนาดใหญ่สามารถทำให้พายุอ่อนกำลังลงหรือทำลายพายุหมุนเขตร้อนโดยไปรบกวนระบบของการพาความร้อนรอบๆศูนย์กลางของพายุหมุนเขตร้อน

ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ

ปล.หลักการการเกิดเป็นเช่นนี้ แต่ในความเป็นจริง พายุเกย์ก็ก่อตัวในน่านน้ำตื้น (อ่าวไทย)
และพัฒนาตัวได้ดีมากด้วย และมีพายุที่เกิดในละติจูต่ำกว่า 5 องศา(ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้)

ฟ้าเปลี่ยนสี

ครับผม ขอบคุณมากครับ

ท่าน ดร.วัฒนา กันบัว ผู้เชียวชาญด้านอุตุฯทะเล ก็ติดตามท่านอยู่เหมือนกันครับ

เว็บนี้ ท่านดูแลอยู่ไหมครับ เข้ากันไปศึกษาได้น่ะครับ

http://www.marine.tmd.go.th
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

คนอุตุ

อ้างจาก: คนข้างพลาซ่า เมื่อ 08:31 น.  24 ก.ค 55
ครับผม ขอบคุณมากครับ

ท่าน ดร.วัฒนา กันบัว ผู้เชียวชาญด้านอุตุฯทะเล ก็ติดตามท่านอยู่เหมือนกันครับ

เว็บนี้ ท่านดูแลอยู่ไหมครับ เข้ากันไปศึกษาได้น่ะครับ

http://www.marine.tmd.go.th

ใช่ค่ะ เป็นอาจารย์นักเรียนอุตุฯ ด้วย

ถ้าสนใจเกี่ยวกับทะเล เข้าไปติตามที่ facebook ดร. หรือ ที่เพจ ของศูนย์อุตุฯก็ได้ค่ะ

ฟ้าเปลี่ยนสี

อ้างจาก: คนอุตุ เมื่อ 09:28 น.  24 ก.ค 55
ใช่ค่ะ เป็นอาจารย์นักเรียนอุตุฯ ด้วย

ถ้าสนใจเกี่ยวกับทะเล เข้าไปติตามที่ facebook ดร. หรือ ที่เพจ ของศูนย์อุตุฯก็ได้ค่ะ


facebook ของท่าน ดร.วัฒนา กันบัว

https://www.facebook.com/Wattanakanbua

facebook ของ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81/262998937086323

เข้าไปศึกษา มีข้อมูลที่น่าสนใจให้ศึกษาเยอะเลยครับ  ส.หัว
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

SammieChinmai

เมื่อวานถ้าใครที่ตาม twitter เรื่อง ไต้ฝุ่น Vicente ขู่คำรามที่ฮ่องกง มีประเด็นดราม่าเล็กๆ ซึ่งผมได้ลงไปคลุกฝุ่นด้วย คือเรื่องการเตือนภัยพายุที่นั่นซึ่งอาจจะดูแปร่งๆ ขัดกับเข้าใจที่เราร่ำเรียนมา ไว้ถึงห้อง + build อารมณ์ได้แล้วจะเล่าให้ฟังครับ