ตร.รวบคนร้ายงัดบ้านยกตู้เซฟจิ้งหรีดขาว ได้คืน9แสน

[ฅนสองเล]

โดย เนชั่นทันข่าว 22 พ.ย. 2553 16:53 น.

กรณีที่มีคนร้ายบุกเข้างัดบ้านเลขที 29/1427 ถนนเมนหลักหมู่บ้านซอย 5 หมู่ 2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนางสาวสุรางค์ ผิวอ่อน อายุ 36 ปี หรือ จิ้งหรีดขาว นักร้องลูกทุ่ง และนางเอกลิเกชื่อดัง โดยคนร้ายงัดบ้านแล้วรื้อค้นทรัพย์สินก่อนยกเอาตู้เซฟที่มีเครื่องเพชร มูลค่ากว่า 1 ล้านบาทหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 พ.ย.53 ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้าวันนี้(22พย.53) เวลา 11.00 น. ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายไพโรจน์ บุญเรือง อายุ 41 บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 1 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ พร้อมด้วยของกลาง แหวนเพชร เครื่องเพชรและทองรูปพรรณ อีกจำนวนหลายรายการ ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว

    พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า จากกรณีที่คนร้ายบุกเข้างัดบ้านพักของ นางสาวสุรางค์ ผิวอ่อน หรือจิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ นั้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งชุดสืบสวนออหาข่าวอย่างเร่งด่วน และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่รวมทั้งพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของหมู่ บ้านทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือนายไพโรจน์ บุญเรือง อายุ 41 ปี มีบ้านพักอยู่ที่ หอพักอุษณีย์อพาร์ทเม้นท์ ซอยเพชรเกษม 92/2 แขวงบางแค เขตบางแค กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุมตัวนายไพโรจน์ฯ ได้ที่หอพักพร้อม ทำการตรวจยึดของกลางได้จำนวนหลายรายการรวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 900,000 บาทเศษ

    นายไพโรจน์ฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองคือคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์(ตู้เซฟ) ที่บ้านของนักร้องดังจริง เนื่องจากบ้านดังกล่าวไม่มีคนอยู่ จึงได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปลักทรัพย์ และนำทรัพย์ที่ได้ใส่ถุงกระสอบแล้วนำขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีออกหน้าหมู่ บ้าน ไปที่บ้านพักเขตบางแค จากนั้นได้เปิดตู้เซฟ แล้วนำทรัพย์สินที่ได้ไปขาย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดังกล่าว

    ด้าน นส.สุรางค์ ผิวอ่อน หรือจิ้งหรีดขาววงศ์เทวัญ ที่เดินทางมาดูหน้าและทรัพย์สินของตนเอง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นสาติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ตาม กฏหมาย และยังสามารถติดตามทรัพย์สินของคนเองกลับคืนมาได้จำนวนกว่า 90เปอร์เซนต์ แต่ตนเองยังเสียดายสร้อยข้อมือเพชรที่ตนเองสะสมมาตั้งแต่อายุ 16 ที่คนร้ายนำไปขายแล้ว แต่เชื่อว่าตำรวจคงสามารถติดตามคืนมาได้ จึงอยากขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านไว้ในที่นี่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะขายบ้านนั้น ตอนนี้ตนเองคงไม่ขายแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ยังสามารถให้ความ คุ้มครองตนเองได้