ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หนี้หลุด…หยุดสร้างหนี้ แล้วใช้ชีวีอย่างพอเพียง (บทความ)

เริ่มโดย noosky, 11:22 น. 11 พ.ค 56

noosky

นุชนาฎ เกลี้ยงเกิด
ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การใช้โฆษณาการตลาดนำของสถาบันการเงินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น รถแลกเงิน สินเชื่อเงินสด สินเชื่อเอนกประสงค์ เป็นต้น กลายเป็นสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้ประชาชนภาคครัวเรือนส่วนหนึ่งอดใจไม่ไหว จนคล้อยตามคำโฆษณาและเข้าไปติดกับดักหนี้จนบางรายแทบจะหาทางออกไม่เจอ ซึ่งการเป็นหนี้ได้ง่าย ๆ ทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินเกินตัวและอาจเกิดภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวได้

[attach=1]

หากไม่อยากติดกับดักหนี้ ก่อนใช้บริการสินเชื่อทุกครั้งจึงควร "คิดก่อน...ก่อหนี้" กันสักนิด หลัก ๆ ที่สำคัญคือ

-   ต้องไม่หลงก่อหนี้ตามคำโฆษณา
-   ก่อหนี้เมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ และต้องเป็นในจำนวนที่น้อย
-   ควรหาข้อมูลการขอสินเชื่อเปรียบเทียบจากหลาย ๆ แห่งก่อนสร้างหนี้
-   ต้องมีรายได้เพียงพอในการชำระหนี้
-   ที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงเงินกู้นอกระบบ

ทั้งนี้ ยอดหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนที่ปลอดภัยสำหรับการดำรงชีวิต ไม่ควรจะเกิน 50% ของรายได้ในแต่ละเดือน

หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีหนี้สินจำนวนมาก และต้องการหลุดออกจากวงจรหนี้ จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องคิดหาวิธีการจัดการหนี้อย่างเป็นระบบในทันที โดยเริ่มจากการสำรวจตัวเองกันก่อนดีกว่า ว่าเรามีเจ้าหนี้กี่ราย ยอดหนี้ อัตราดอกเบี้ย เงินผ่อนต่องวด จำนวนเท่าไหร่ เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว เรามาขจัด ปัดเป่า และเร่งปลดหนี้ให้หมดเร็วขึ้นกันดีกว่า โดยมีเทคนิคการจัดการหนี้ที่เป็นระบบมาฝากกัน ดังนี้

1. "ตัดและหยุด" ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น รายจ่ายที่เกิดจากการซื้อหวย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ถ้าตัดไม่ได้ ก็ให้ลดจำนวนที่จ่ายลงที่ละนิด เพื่อจะได้มีเงินเหลือชำระหนี้ พร้อมกันนี้ก็ต้องหยุดสร้างหนี้เพิ่มด้วยเช่นกัน

2. "ชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อน" เมื่อได้ชำระหนี้ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว และยังมีเงินเหลือที่สามารถจะนำไปกลบหนี้ได้ ให้นำไปชำระหนี้ก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น ระหว่างหนี้จากการซื้อบ้าน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี กับหนี้นอกระบบ 5 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน เมื่อมีเงินก็ควรชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือนก่อน ถึงแม้ว่า จำนวนที่เป็นหนี้จะไม่สูงมากแต่ดอกเบี้ยที่จ่ายมีจำนวนสูง การชำระต้นเงินลดลงทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยลดลงนั้นเอง

[attach=2]

3. "ยุบ ย้าย รวม" เมื่อเป็นหนี้หลายราย หลายแหล่ง แถมอัตราดอกเบี้ยก็แตกต่างกันมาก เราควรที่จะยุบจากหลาย ๆ แหล่ง แล้วย้ายทุกแหล่งมารวมกันไว้อยู่เป็นที่เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นั่นก็คือ ถ้าเราเป็นหนี้อยู่ 5 ราย แต่ละราย วันชำระเงินก็แตกต่างกันไป ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ ในแต่ละเดือนเราจะต้องคิดอยู่เสมอว่า วันไหนถึงกำหนดชำระรายไหน จำนวนเงินเท่าไหร่ จะเอาเงินจากไหนมาชำระหนี้ ฉะนั้น เราจึงควรหาแหล่งเงินกู้แหล่งใหม่ที่สามารถกู้แล้วได้เงินมากลบหนี้ทั้ง 5 รายนี้ได้ ค่าดอกเบี้ยที่เสียให้แหล่งใหม่ควรมีจำนวนที่น้อยกว่าหรือเท่ากันกับค่าดอกเบี้ยเดิมเป็นดีที่สุด ผลดีที่สามารถรวมทุกหนี้มาไว้ที่เดียวกันได้คือ ทำให้ง่ายต่อการจดจำวันชำระหนี้จาก 5 วันเป็นเหลือเพียงแค่ 1 วัน ทำให้มีสมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้น เป็นต้น

4. "เจรจาประนอมหนี้" ถ้าหนี้ที่เรามีอยู่ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามจำนวนเงินหรือเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดได้ ให้หาวิธีเจรจาขอประนอมหนี้ เช่น ขอลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละงวด หรือ ขอยืดเวลาในการชำระหนี้ เพราะบางอาชีพมีความเสี่ยงเรื่องรายได้ โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรที่รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับ ฤดูกาล และ พืชผลทางการเกษตร เช่น ชาวสวนยาง เมื่อก่อนราคายางมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 180 บาท แต่ปัจจุบันราคายางลดลงเหลือกิโลกรัมละประมาณ 80 บาท

ฉะนั้น การสร้างหนี้ในช่วงที่มีรายได้ดี ก็ควรคำนึงถึงอนาคตด้วยว่า ถ้าเกิดภาวะเช่นนี้ จะมีเงินรายได้เพียงพอต่อการชำระหนี้ในแต่ละงวด และมีเงินเพียงพอต่อรายจ่ายภายในครอบครัวหรือไม่

เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทีดีต่อเจ้าหนี้และตัวเราเอง เราจึงไม่ควร "หนีหนี้" "หนีหน้า" "หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย" และไม่ควรยึดคติที่ว่า "ไม่มี ไม่หนี และไม่ให้" หากท่านไม่สามารถเจรจาประนอมหนี้ได้ ให้นึกถึงคำว่า "ทุกปัญหามีทางออก ถ้าคิดอะไรไม่ออก โทรปรึกษา 1213 กันดีกว่าค่ะ (เฉพาะการเป็นหนี้กับสถาบันการเงินที่ ธปท. กำกับดูแลเท่านั้น)"

[attach=3]

. "ควรมีวินัยในการชำระหนี้" เมื่อถึงกำหนดชำระควรชำระหนี้ให้ตรงตามวันเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด และควรหาช่องทางที่จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น ขายอาหารหรือเครื่องดื่มตอนเย็นหลังเลิกงาน รับจ้างทั่วไป เป็นต้น

6. "ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงและเพียงพอ" ต่อรายได้ที่เรามี นั่นก็คือ มีเงินเท่าไหร่ก็ควรจัดสรรให้ใช้จ่ายให้เพียงพอ ประหยัด และก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไร ต้องคิดทบทวนให้ดี ให้รอบคอบ ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่อยากได้ เช่น ถ้าซื้อรถโดยวิธีผ่อนชำระ ค่าใช้จ่ายที่จะมีเพิ่มขึ้นตามมาด้วย เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน หรือค่าเช่าที่จอดรถ เป็นต้น

ในท้ายที่สุดแล้ว ท่านจะเป็นอีกผู้หนึ่งที่โชคดีที่สามารถขจัด ปัดเป่า หนี้ให้หลุดไปได้ หลังจากนี้ ก็ควรที่จะหันมาเก็บออมสำรองเงินไว้ใช้ยามจำเป็นต่อไป หากท่านมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ในครั้งต่อไปก็พึงระมัดระวังให้ดี และต้องตระหนักว่า หนี้ใหม่ที่จะเกิดขึ้นควรเป็นหนี้ที่ดีและควรก่อ เป็นหนี้ที่ทำให้เรามีรายได้หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะครั้งต่อไปท่านอาจจะไม่โชคดี สามารถขจัดหนี้ให้หลุดได้เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาก็ได้นะคะ

[attach=4]

----------------------------------------------------
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ข่าวสาร-ท่องเที่ยว-สังคมออนไลน์-ซื้อขายอิสระ
โทร 074-214222 Banraonews@gmail.com

readeye40

ปัจจุบันได้มีการออกแบบชิพที่ใช้ใน sbobet ให้ดูดีมีราคามากกว่าเหรียญพลาสติกธรรมดาที่ใช้ใน sbobet ทั่วไป