ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แจ๊คกี้ วิเคราะห์ ชลบุรี-เมืองทองฯ ต้นฉบับบิ๊กแมตช์!!!

เริ่มโดย ฅนสองเล, 09:25 น. 03 มิ.ย 54

ฅนสองเล

ที่มา สยามกีฬา

[attach=1]


ไทยพรีเมียร์ลีกในเลกแรกใกล้จบแล้วคงไม่ต้องถามหาถึง "แชมป์" ครึ่งฤดูกาลแรก ที่สำคัญเวลานี้ต้องมองข้ามชอตไปยังเลกสองว่า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ จะโกยคะแนนทิ้งห่างอันดับสองได้มากน้อยขนาดไหน


    แม้ว่าดูเหมือนเร็วหากเรารีบตีตน ก่อนไข้ด่วนสรุปว่า "ปราสาทสายฟ้า" จะโกยคะแนนทิ้งและเข้าเส้นชัยแบบมองไม่เห็นทีมก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องเกินความจริงหากเราจะประเมินสถานการณ์จากผลงานการเล่น ของทีมเพียงแค่เลกแรกแล้วโยงไปยังเลกสองในลักษณะอย่างนี้

     
    ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกช็อกโลกหรือนักเตะบุรีรัมย์พลาดท่าตกม้าตาย เชื่อว่ายาก จุดนี้ให้มองข้ามผลงานที่นับเป็นปริมาณไปก่อน เน้นที่คุณภาพคงมองเห็นว่าการบ้านมากมายที่ทีมงานบุรีรัมย์ แก้ไขลุล่วงไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะสมดุลระหว่างเกมรับและรุก...คือรับเสียประตูยาก รุกได้ประตูง่าย ชัยชนะจึงเกิดขึ้นอยู่ต่อเนื่อง เทียบกับปีที่แล้วเห็นชัดเลยว่าต่างกันฟ้ากับเหว
     
    ทุกอย่างก้าวหน้าและเดินข้ามปัญหาสำคัญของทีม อาทิ ยิงยาก ยิงได้น้อย เสมอซะเยอะ ปีนี้ปัญหานั้นถูกกำจัดหมดไป ในทางเดียวกันบรรดาคู่แข่งขันอย่าง "แชมป์ 2 สมัย" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขีดมาตรฐานตัวเองไว้สูงมาก ทำให้การเล่นเพื่อให้ได้มาตรฐานเดิมนั้นเป็นเรื่องยาก แถมมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชสองคนในช่วงสองเดือนแรก ทุกอย่างจึงต้องปรับพอสมควร
     
    เมืองทองฯ ฟอร์มตกจากเดิมไม่ใช่เรื่องแปลกมันคือธรรมชาติของฟุตบอล แต่สำหรับชลบุรี เอฟซี ซึ่งมีความพร้อมในการไล่ล่าแชมป์บวกกับความกระหาย แรงมุ่งมั่นมีมากกว่าเมืองทองฯ ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาบางประการนั่นคือเรื่องของ "ความคงเส้นคงวา"

     
    14  นัดของฉลามชลพวกเขาพลาดท่าเสมอ 4 นัดโดยเฉพาะนัดล่าสุดเป็นเกมดาร์บี้ แมตช์ กับ พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งโดยผลงานที่เป็นมานั้นปกติก็ชนะยากอยู่แล้ว จัดว่าเป็นดาร์บี้ แมตช์ ที่เข้มข้นที่สุดในเมืองไทยเวลานี้ แม้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มก้อนคนทำทีมนั้นมีสายสัมพันธ์ที่ไม่ได้ห่างกันมากมายนัก ทว่านั่นก็เป็นเรื่องที่เราคิดกันไปได้ เพราะเจอกันกี่ครั้ง ไม่ง่ายที่ฉลามชลจะจัดการโลมามหาภัย

    ที่สำคัญฉลามชลพลาดท่าเสมอในจังหวะที่บุรีรัมย์ชนะ ช่องว่างขยับทันที เป็นเกมเสียสองแต้มที่เข้าทางยักษ์อีสานแม้แข่งน้อยกว่า 1 นัดแต่การโดนทิ้งเพิ่มเป็น 8 ถือว่าไม่ใช่เรื่องดี
     
    อย่างไรก็ตามพวกเขาคงต้องลืมเรื่องนี้โดยเร็วเพราะแขกผู้มาเยือนในนัดที่ 15 คือ "แชมป์ 2 สมัย" ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาไต่อันดับขึ้นมายังที่สูงอีกครั้งหนึ่ง นับจากเตะหลุดช่วงแรกไปหลายเกม
     
    เกมซูเปอร์ บิ๊กแมตช์ในค่ำวันเสาร์ที่ 4 มิ.ย. ระหว่าง ฉลามชล กับ กิเลนผยอง อาจเป็นคนละลักษณะกับสองปีก่อนคือทีมลุ้นแชมป์ต่อสู้กัน แต่ด้วยศักดิ์ศรีของทั้งสองทีม ความเป็นสถาบันฟุตบอลที่ก่อร่างสร้างตัวได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น คุณภาพของโค้ชและนักเตะ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใจให้การต่อสู้เที่ยวนี้เข้มข้น ดุเดือดเหมือนเดิม

    เชื่อว่าชลบุรี สเตเดี้ยม น่าจะทำให้แฟนกีฬาในบ้านเราตื่นตาตื่นใจด้วยบรรยากาศของการเชียร์บอลไทยอาชีพอีกครั้ง
     
    เทียบฟอร์มในซีซั่นนี้ต้องยอมรับว่า "ฉลามชล" มีตัวเลขที่ดูดีกว่า "กิเลนผยอง" คือเล่นในบ้านมา 8 นัดชนะ 7 เสมอ 1 ไม่แพ้ทีมไหน ยิงได้ถึง 26 และเสียแค่ 4 ตรงกันข้ามกับทีมเยือนเล่นนอกบ้านปีนี้ 6 นัด ชนะแค่ 1 เสมอ 2 แพ้ 3 ทำประตูเจ้าบ้านได้ 4 ลูก เสีย 9

    อย่างไรก็ตาม...เมื่อนับสถิติตัวต่อตัวระหว่างสองทีมนี้ในไทยลีกพบ ว่า ฉลามชลกลับตกเป็นรองกิเลนผยอง ทั้ง 4 ครั้งในสองซีซั่นปรากฏว่า ฉลามชลทำได้แค่เสมอ 2 ครั้งแพ้ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งที่แพ้นั้นปรากฏว่าแพ้ขาดโดยเฉพาะในปีแรกที่แพ้คาบ้าน 2-5  ส่วนฟุตบอลถ้วยที่พบกันทั้งชิงไทยคม เอฟเอ คัพและถ้วย ก ชลบุรี ดีกว่าในสนามเป็นกลาง ตัวเลขทั้งสองสามแบบที่คัดเลือกมานี้มีนัยสำคัญบางประการบ่งบอกให้ทราบและ มองข้ามไม่ได้เหมือนกัน
     
    คือผลงานจะเป็นมาอย่างไรต้องลืม...แมตช์ ศักดิ์ศรีแบบนี้คุณภาพคับแก้วด้วยกันทั้งสองทีม เป็นเกมวัดความนิ่งของทีมอย่างแท้จริง ด้วยมาตรฐานที่เท่าเทียมกันแบบนี้ ออกผลได้สามหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ฉลามชล ชนะ เสมอ และแพ้คาบ้าน
     
    เชื่อว่าเราคงได้เห็นเกมที่พร้อมเป็นต้นแบบให้กับทีมฟุตบอลอีกมากมายว่าเขาสู้กันอย่างมืออาชีพได้อย่างไร
     
    นึกภาพการต่อสู้กันระหว่างนักเตะระดับทีมชาติไทยของทั้งสองฝั่ง สุรีย์ สุขะ, ณัฐพงษ์ สมณะ กับ ธีรศิลป์ แดงดา, ดัสกร ทองเหลา หรือนักเตะต่างชาติ เนย์ ฟาเบียโน, คูชิดะ ปะทะ กับ คริสเตียน, ดักโน่ เซียก้า ทุกขุมกำลังไม่แตกต่าง วิธีการเล่นใกล้เคียงกัน ตัดสินกันที่ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้ายและก็ความผิดพลาดโดยส่วนตัว ที่อาจนำไปสู่การเสียประตู
     
    อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นทีมใหญ่ทั้งคู่ และเป็นทีมที่ไม่เน้นเกมรับทั้งคู่ เราจึงอาจเห็นสกอร์ออกมามากกว่า 1 และอาจเป็นอะไรที่ผิดแปลกจากเกมใหญ่ทั่วไปที่มักเกร็ง แต่คงไม่ใช่คู่นี้
     
    อย่างที่ทราบกันนะครับ ชลบุรี ปะทะ เมืองทองฯ กำไรเป็นของวงการฟุตบอลไทย เพราะได้เห็นเกมที่มีสีสัน มีความสนุก บรรยากาศของบอลอาชีพ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นต้นแบบของเกมอันน่าประทับใจ
     
    ผมเชื่อว่า 3 คะแนนถ้ามีเกิดขึ้นคงมีค่าน้อยกว่า 3 คะแนนที่วงการฟุตบอลไทยจะได้รับจากเกมบิ๊กแมตช์อันเป็นต้นแบบบอลระดับมือ อาชีพจากคู่นี้ครับ

  Jackie