กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

การนำรถเข้าประเทศมาเลเซีย ง่ายจริงๆ ครับ
ติดต่อสอบถาม ข้อมูล ได้ที่นี้เลย
http://gimyong.com/talung/index.php?topic=623.0

เจอกระทู้นี้มันส์ดีครับ
จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยไปเหมือนกัน ออกรถเครื่องใหม่มาคันหนึ่งครับรถเครื่อง Kawasaki Ksr คันเล็กๆอ่ะ
เบื่อๆเลยอยากเที่ยว เลยกะว่าจะไปเที่ยวมาเลย์หน่อย ตอนนั้นเรียนโทอยู่ เอาว่ะใกล้ๆก็ปีนังนี้หละ
ไปคนเดียวก็ยังเสียวๆอยู่เลยหาเพื่อนอีกซักคนชวนใครก็ไม่มีใครบ้าไปด้วยเพราะไม่เคยไปแถมไม่รู้ว่าจะทำยังไงบ้าง เข้าอินเทอร์เน็ตนี้หละที่พึ่ง หาข้อมูลพอสมควร บวกกับเข้าไปถามขนส่งพี่แกก็ให้ไปแปลงทะเบียนกับใบขับขี่เป็นภาษาอังกฤษเสียไม่กี่บาท ไม่เกิน 500 และลงทุนทำ Passport 1050 บาท ตกลงชวนเพื่อนได้อีกคนผู้หญิงเพื่อนกันไปลุยแบบมันส์ๆ ไอ้เราก็ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเพื่อนได้ภาษาจีนมานิดหน่อย ก็ยังโอ ขับเข้าด่าน จ็อบ passport แบบมั่วๆเจ้าหน้าที่ก็งงๆ แต่ก็ผ่านมาได้ขับเข้ามาเล่ย์แบบงงๆ ไปได้ซักพักเจอตำรวจไอ้เราก็มั่วๆ มันขอดูเอกสารแบบหน้าเครียดๆ เราไม่กลัวเฮ้ยอั้วเอามาพร้อม ซักพักก็ปล่อยไป เติมน้ำมันก็ ปีโตนาส เติมเองอีกนั้นสิรอตั้งนาน ไมมันไม่มาเติมให้ฟะ ซ้อนสองกันไปเลื่อยๆ ชิวๆ มีเขื่อนเล็กๆ หมู่บ้านข้างทางทำนา ทำสวน ไอ้เราก็งงๆอีก เจริญแต่ก็ไม่ลืมรากเง้า วัฒนธรรมการเพาะปลูกมีการทำขวัญข้าว โหบ้านเรายังหายาก ผ่านเมืองแรก Arong star ลืมบอกไปแผนที่ซื้อมาจากในมาเล่ย์และหาเอาจาก Google บวกกับดูป้ายเอาเอง กะว่ามั่วๆเอา การเดินทางไม่สักแต่ว่าไปถึงจุดหมายหากแต่เราสนุกกับสิ่งที่เราประสบพบเจอหรือไม่อะไรที่เราต้องเจอข้างหน้าการคาดเดาไม่ได้มันถึงจะตื่นเต้น และมีคุณค่าในการจดจำ ถนนเลี่ยงเมืองก็มีไปเจอเอาตอนขากลับ ไปเจอบ้านเก่าสวยงามมากเราก็นึกว่าโรงแรมเห็นมีคนเดินเข้าเดินออกตกลงกลายเป็นซ่องซได้งงอีก สะพานมีแต่เอาแพดีกว่าได้ฟิว ปีนังฮิลเหมือนขึ้นดอยสุเทพสมัยก่อนที่มีรถรางไปนอนหนึ่งคืน ตึกสวยงามของกินเพียบทั้งแขกจีนไทย สรุปสวยงามกลับมาถึงเย็นอีกวงันตูดระบมไปอาทิตย์นึงเต็มๆถ้าไปอีกคงไปซักอาทิตย์ แนวมาก I Love penang

นี่ไง?คนที่ไม่เคยไปนั่งฟังแต่เขาเล่าว่า ไม่เห็นกับตาไม่สนุกหรอกครับ ไปแล้วจะติดใจจริงๆครับ(เหมือนคุณโย่) แต่ต้องมีใจเป็นธรรมด้วยนะ ไม่ใช่อาหารไม่ถูกปากก็เหมารวมว่าไม่ดีทั้งหมด

เขาเจริญกว่าเราเกือบทุกด้านแล้วครับ

เข้ามาอ่านอีกที  ยิ่งอยากไปเข้าไปใหญ่  555+

เข้ามาสนับสนุนให้ท่านที่ยังไม่เคยไปได้ทดลองบ้างครับ เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า อยู่ใกล้แค่นี้ สะดวกสบายมาก ผมขับไปเองเป็นครั้งแรกก็ติดใจ และยังอยากไปอีก อาหารการกินสำหรับผมชอบมาก ที่พักก็มีมากมาย ที่เที่ยวก็มีให้สัมผัส ครั้งที่สองผมไม่ได้เลือกปีนัง แต่ลัดเลาะไปเรื่อยโดยออกที่ด่านปาดังเบซาร์ตั้งแต่ Kuala Perlis, Kuala Kedah, Alor Setar, Pendang, แล้วก็ขึ้นไปสัมผัสฐานเมฆบนยอด Gunung Jerai (หากนั่งรถผ่านบน North-South Highway แถวๆ Gurun ก็จะเห็นเขาที่สูงโดดขึ้นมามากๆ) บนนั้นมีรีสอร์ทที่สวยมากครับ ผมขึ้นไปบ่ายสามโมง อากาศก็เย็นกว่าข้างล่างเพราะสูงเหนือระดับน้ำทะเล (บริเวณรีสอร์ท) ประมาณ 1,000 เมตร กลางคืนคงหนาวดีครับ

แนะนำครับว่าหากจะออกจากประเทศไทยขอให้ออกทางด่านนอกจะสะดวกกว่ามาก เพราะที่ด่านปาดังเบซาร์ เจ้าหน้าที่ศุลกากรของไทยจะไม่คุ้นเคยกับการทำ "ใบขนสินค้าพิเศษ" ซึ่งก็คือหนังสือขอนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร (เพื่อที่กลับมาจะได้ไม่ต้องเสียภาษีขาเข้ากับรถยนต์ของตัวเอง) ผมเสียเวลาไปมาก แต่ที่ด่านนอก เจ้าหน้าที่ของไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว ทำแป๊บเดียวเสร็จครับ

กำลังจะไปอีกครั้งนึงค่ะ  ขับรถไปเอง แล้วจะเอารูปงาม ๆ มาฝากน่ะค่ะ

เคยไปกะทัว ตื่นแต่ตีสี่นัดเจอกันที่รถตีห้า กว่าจะล้อหมุนออกจากหาดใหญ่เจ็ดโมงเช้า (แล้วให้
ตูมารอแต่เช้าทำอะไร) พ้นด่านจังโหลนไปนิดเดียวให้ลงไปแลกเงินกินอาหารเช้า โอ๊ยเกือบเที่ยง
ยังอยู่ไม่ห่างจากชายแดนไทยเท่าไหร่เลย    อยากขับรถไปเองเหมือนกัน ช่วยบอกวิธีเข้าช่องทางด่วน
และเส้นทางหลักคร่าว ๆ ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง

อยากขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวมาเลเซียบ้างครับ อยากสอบเพื่อน พี่ น้องที่มีประสบการณ์ช่วยสอนผมทีครับ

1.การเติมน้ำมัน เคยได้ยินมาว่าดีเซลหาเติมยากนี่มันจริงหรือไม่ครับ แล้วปั้มบ้านเขานี่มีเบนซินกับดีเซลในปั้มเดียวกันเหมือนบ้านเราไหมครับ ส่วนวิธีเติมนี่ยังไงแน่ บางคนบอกไปจ่ายเงิน แจ้งเลขตู้จ่ายน้ำมัน พนักงานเขาจะล็อคอัตโนมัตตามจำนวนเงินเรากดเติมอย่างเดียว แต่บางคนเติมเองแล้วเดินไปจ่าย (ปั้มน้ำมันเรื่องเดียวก็งงเต๊กแล้วครับ)

2.กรอกใบ ตม.ของเขานี่ทำไงครับ ถ้าเราไป5คน ต้องกรอกทุกคนคนละใบ หรือตัวแทนในคณะ1คน1ใบ และการปั๊มพาสปอร์ตนี่ต้องลงไปทุกคนไหมครับ หรือถือรวมไปหลายๆเล่มแค่คนเดียวพอ

3.ทางด่วน ทางไม่ด่วนบ้านเขานี่ยังไงครับ บ้านเรามีแต่ใน กทม. บ้านเขายังไงครับ จ่ายเงินสดหรือรับบัตรจ่ายปลายทาง เห็นบางคนบอกหาซื้อบัตรแบบเติมเงินตามปั้ม (งง งง และ งง+โง่)

4.ฟิล์มนี่กี่เปอร์เซ็นต์แน่ครับ ผู้รู้บางท่านบอก40% บางท่านบอก60% (ท้อจริงๆ)

5.คนขับรถต้องเป็นเจ้าของตัวจริง เช่น ถ้ารถชื่อลูก พ่อห้ามขับ(แม้จะมีใบขับขี่และนั่งอยู่ในรถด้วยกันก็ตาม) ถ้าจะเปลี่ยนกันขับต้องเขียนใบมอบอำนาจให้ขับ จริงหรือไม่ครับ อ่านเจอที่ไหนสักแห่งจำไม่ได้ ผู้รู้หลายสำนักบอกไม่ตรงกัน เราท้อจนไม่กล้าจะไปแล้ว

ยังไงก็ช่วยผมทีครับ 5ข้อ เอาแบบชัดเปรี้ยง ตรงประเด็ด ละเอียดถี่ๆเลยครับ จะเป็นพระคุณยิ่งครับ

เอาจากประสบการณ์นะครับ

1.รถผมใช้น้ำมันกับ NGV อาจไม่ได้ตั้งใจมองดีเซล แต่เท่าที่สังเกตก็เห็นมีทุกปั๊มที่ผมไปเติมนะครับ (แต่อาจสรุปไม่ได้ทั้งหมด เพราะผมอาจไปบังเอิญเติมในปั๊มที่มีดีเซลอยู่ด้วยก็ได้) ส่วนวิธีเติมก็มีทั้งสองระบบครับ หากมี attendant หรือเด็กปั๊มก็บอกกับเด็กได้เลย แต่บางปั๊มที่ไม่มีก็ไปบอกที่ cashier ก่อน บอกหมายเลขหัวจ่ายและจำนวนเงินที่เราต้องการเติม (ประมาณเอาเลยครับ) ทั้งนี้หากเติมเบนซิน รถที่ไม่ได้ใช้ Malaysian plate จะถูกบังคับให้เติมออกเทน 97 เท่านั้นไม่สามารถเติมออกเทนอื่นได้ด้วยเหตุผลของการอุดหนุนราคาน้ำมันให้กับคนในประเทศเท่านั้นครับ (สิบกว่าปีก่อนผมไปเติมประจำเพราะทำงานอยู่ที่สะเดา สมัยนั้นยังไม่ห้ามเลย) เข้าไปคราวหน้าที่จะถึงนี้จะลองไปเติม NGV ดูบ้างแล้วครับ

2.ตม.6 (ถ้าจำไม่ผิด) ต่างคนต่างกรอก ต้องกรอกทุกคนครับ ผมมีลูกอายุขวบเศษผมก็ต้องกรอกแทนให้ลูกผมครับ ส่วนการยื่นเพื่อลงตราประทับหนังสือเดินทางก็ต้องลงไปทุกคนเช่นกันครับ

3.PLUS (Projek Lebuhraya Utara Selatan) สาย E1 เริ่มต้นตั้งแต่เลย Changloon ไปก่อนถึง Jitra เล็กน้อยเรียกได้ว่าหากขับรถผ่านด่านชายแดนไทย-มาเลเซียออกไป ก็ให้ตรงไปเลย โดยไม่ต้องเลี้ยวไปไหน ตั้งแต่ด่านชายแดนผ่าน Changloon แล้วเลยไปจนก่อนจะถึง Jitra เราจะขับอยู่บน federal highway ก่อน แล้วจะเปลี่ยนเข้าไปเป็น PLUS E1 โดยอัตโนมัติ บน federal highway นี้ ถนนหนทางก็จะคล้ายกับระบบทางหลวงที่เรามี คือมีเกาะกลางถนน มีที่กลับรถบนเกาะกลาง มีทางเข้า ทางออกตัดกันกับ highway แต่หากขับบน PLUS E1 เรียบร้อยแล้วให้สังเกตง่ายๆ ว่าไม่มีที่กลับรถกลางถนน การกลับรถต้องออก Exit ไปเลย ระบบจ่ายเงินก็มีทั้งแบบเงินสดและรับตั๋วไปจ่ายที่ทางออก (คล้ายกับระบบที่ใช้บนทางยกระดับบูรพาวิถีหรือต่างระดับเหนือถนนบางนา-ตราด)

4.ไม่มั่นใจครับ แต่ของผมความเข้มต่ำมากอยู่แล้ว

5.ไม่มั่นใจครับ แต่ในความรู้สึก (เน้นว่าความรู้สึกนะครับ) ผมว่าไม่น่าจะใช่ ต้องรบกวนผู้รู้ท่านอื่นครับ

กานต์

เข้ามาตอบ ข้อ 4 กับข้อ 5 ให้ครับผม
4.ฟิล์มตอนนี้ ต้องต่ำกว่า 40 % ครับผม เดี้ยวนี้ JPJ มาเลเซีย ใช้เครื่องมือวัดความเข้มของฟิล์มโดยเฉพาะ เมื่อก่อนวัดด้วยสายตา ครับผม
5.ใครขับก็ได้ครับ ถ้ารถมีใบประกัน กับ ป้ายวงกลม ของ JPJ มาเลเซีย เเต่ต้องมีใบขับขี่ สมาร์ทการ์ด ครับผม

สงสัยสอบถามได้ครับ
http://gimyong.com/talung/index.php?topic=623.0

ในฐานะที่ไปบ่อย ยอมรับว่ามาเลย์เข้มงวดทุกเรื่อง(จะบอกว่าดีหรือไม่ดีล่ะ?) เช่นเรื่องฟิล์มเมื่อก่อนหยวนๆ ตอนหลังผมยอมฉีกฟิล์มฝั่งคนขับออก ไม่อยากมีปัญหาเพราะเรายังอยากไปอีกและไปอีกๆๆๆ
สำหรับคนที่คิดจะขับรถเข้าไป คุณคิดไม่ผิดและไม่ต้องกลัวหรอกครับ ภรรยาผมไปกับผมแค่2-3ครั้งผมให้ลองขับเข้าไปซื้อของที่"ดิวตี้ฟรี"ปรากฏว่าเธอฝ่าฝืนคำสั่งขับเลยไปถึง"อะลอสตาร์"โน่น(ดีที่ไม่โดนลากลงทะเล555)
ขั้นตอนคร่าวๆตามนี้นะครับ(จะบอกตั้งแต่ก.ไก่ไปเลย บางคนไม่เคยทำเองจะได้รู้)
1.เอาทะเบียนรถและพาสปอร์ตไปแปลเอกสารที่ขนส่ง เพื่อจะได้เลขทะเบียนมาทำสติ๊กเกอร์แปะหน้า-หลัง(ถ้ารถยังผ่อนคุยกับไฟแนนซ์ได้)
2.ทำใบขับขี่แบบใหม่ใช้ได้10ประเทศในอาเซี่ยน เอกสารทั้งหมดต้องเอาติดรถตลอดเวลา(2อย่างนี้ใช้เวลาไม่เกิน1-2ชั่วโมง)
3.ถึงด่านนอก(ฝั่งไทย)ขอใบตม.6ที่ด่านมากรอกเอง ไม่รู้ก็ถามเอา หรือจะจ้างเด็กก็ตามใจ
4.หลังจากจ๊อบฝั่งไทยแล้วก็ขับเข้าด่านมาเลย์ได้เลย เมืองไทยไม่เรื่องมาก5555
5.ถึงด่านมาเลย์(เข้าตามช่องเขาจะมีรูปรถบอก)ขอใบฟอร์ม(form)มากรอกเอง คล้ายๆของไทย ไม่รู้ก็ถามเอา
6.หลังจากจ๊อบฝั่งมาเลย์แล้วก็เลื่อนรถไปนิดเดียวจะเจอจนท.ขอตรวจ(แค่เปิดท้ายแล้วปิด)แล้วขับตรงไปอีก100เมตรหาที่จอด
7.จอดชิดซ้ายแล้วถือเอกสารทั้งหมดไปที่หน่วยงานJPJหรือกรมขนส่งมาเลเซีย ถามเขาดูก่อนว่าฟิล์มรถเราผ่านไหม?
8.ถ้าฟิล์มผ่านก็ไปทำประกัน(อยู่ติดกัน)ทำแบบ1เดือนประมาณ800บาท ใช้เข้าออกได้ตลอด1เดือน(ที่จริงทำประกันไปจากหาดใหญ่เลยก็ได้ แต่อยากให้ขนส่งมาเลย์หรือJPJตรวจฟิล์มดูก่อน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ต้องเสียเงินทำประกัน)
9.ทำประกันเสร็จแล้วกลับไปที่JPJอีกที เขาจะออกป้ายวงกลมสำหรับแปะหน้ากระจก ขากลับต้องคืนให้เขา ไม่ว่ากลับทางเบตงหรือโก-ลคหรือสตูลก็คืนที่ด่านนั้นๆ จะเข้าไปอีกค่อยมาแวะขอใหม่
เป็นอันจบขั้นตอนครบถ้วนขับเข้าประเทศมาเลเซียได้อย่างภาคภูมิ กฏจราจรเหมือนเราทุกอย่าง สำหรับเรื่องเส้นทางก็ไม่ต้องวิตกจริต(คนอื่นไปได้เราก็ต้องไปได้สิน่า)ขอแผนที่ตรงที่เราทำประกันนั่นแหละ อยากได้เมืองไหนๆมีแจกให้ฟรีๆ
เมื่อออกจากด่านมาสัก2กม.จะเจอ"คอมแบ็ต"เป็นหน่วยงานที่ตรวจจับได้ทุกกรณี เขาก็ตรวจค้นสิ่งผิดกฏหมายตามระเบียบ ผ่านด่านนี้ไปก็จะเจอปั๊มซ้ายมือ แวะเติมน้ำมันก่อน ที่นี่คุณต้องเติมเอง ขั้นตอนคือจอดช่องที่ว่างแล้วเดินไปจ่ายเงินที่อ๊อฟฟิศ จะเติมเท่าไหร่ก็จา่ยเท่านั้น แล้วมาเติมเองมันจะตัดอัตโนมัติเท่าจำนวนเงินที่จ่าย ออกจากจุดนี้ไปก็เป็นทางซูเปอร์ไฮเวย์ตรงอย่างเดียวจนถึงชายแดนสิงคโปร์(ยาว1พันกิโล) หากจะแวะเมืองไหนก็จะมีทางแยกให้เลี้ยวเข้าเมืองต่างหาก เช่นเราจะไปเมืองปินังก็ขับตรงไปเรื่อยๆผ่านด่านเก็บเงินก็แวะจ่ายจนกว่าจะเจอป้ายบอกว่าpenangอีกกี่กิโล ป้ายบอกทางจะมีตลอด ระหว่างทางมีที่แวะให้กินอาหารให้เข้าห้องน้ำหรือเติมน้ำมันตลอด24ชม.มีเป็นระยะๆตลอดเส้นทาง1พันกิโล(จากหาดใหญ่ถึงปินังราวๆ200กม.)
เมื่อถึงเมืองbutterworthจะีต้องข้ามสะพานไปเกาะปินังอีกที ต้องจ่ายเงินก่อนข้าม7.70เหรียญ(ขากลับไม่ต้องจ่าย)สะพานยาว13กม.เมื่อลงสะพานแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วดูป้ายferryอย่างเดียวเพื่อจะไปหาที่พักย่านถนน"penang road"เพราะที่นี่คือศูนย์รวมหรือกลางใจเมือง จากที่นี่เราสามารถจะไปไหนต่อก็ง่ายหมด จะจอดรถทิ้งไว้ที่โรงแรมแล้วนั่งรถเมล์หรือจะเดินหรือจะขับรถตระเวณชมเมืองเองก็ง่ายหมด ย่านของกินย่านช็อปปิ้งและย่านมรดกโลกก็อยู่แถวนี้
ไปครั้งแรกย่อมขลุกขลักเป็นธรรมดา ค่อยๆศึกษาเส้นทางไปเรื่อยๆ ยิ่งหลงทางยิ่งได้อรรถรส ส่วนขากลับมีให้เลือก2ทาง คือข้ามสะพานเหมือนเดิมหรือข้ามแพ(ferry)แล้วดูป้าย(utara=ทิศเหนือ)คือเส้นทางมาหาดใหญ่ 
เมืองปินังเป็นเมืองที่ถูกตราไว้ในแผนทีีี่โลกนับร้อยปีมาแล้ว แสดงว่ามีประวัติศาสตร์และมีเสน่ห์เยอะมาก ผมไปครั้งแรกพ.ศ.2517นั่งรถบัสไปคนเดียว เดี๋ยวนี้ถ้ามีเวลาก็ยังขับรถไปบ่อยๆ ส่วนตัวยอมรับว่าไม่เบื่อ บางคนไปครั้งเดียวจอด
ใครจะไปวันไหนบอกล่วงหน้าผมยินดีแนะนำที่กินที่เที่ยวสำหรับมือใหม่ทุกท่านครับ

ถ้าเพิ่งขับรถไปครั้งแรก แนะนำว่าไปค้างคืนดีกว่า เมื่อชอบและชำนาญเส้นทางแล้วต่่อไปจะไปเช้ากลับดึกๆก็ได้ ผมก็ทำแบบนี้ ไปเช้ามื่ดวันอาทิตย์ไปถึงไม่เกิน8โมงกิน"ติ่มซำ"ร้านประจำ ไหว้พระเดินเที่ยวและหาซื้อของเสร็จกลับถึงหาดใหญ่4-5ทุ่ม (ด่านปิด5ทุ่ม)

เมื่อตอนเด็กๆไม่เกิน 15 ปี ผมไปทุกๆปี อยู่บ้านปู่แถว ansun rd. ไปเช้งเม้งที่ปีนัง มีของกินอร่อยเยอะแถว gurney plaza ดูวิวคนและวิวสถานที่ ผมชอบผังเมืองของปีนังนะครับ สวยและเป็นระเบียบเรียบร้อย หาดใหญ่เราน่าจะเลียนแบบนะ

ขอยกไปตั้งกระทู้ใหม่นะครับ"ปินัง"ไข่มุกตะวันออก

เมื่อวานไปมาที่่ jitra ตอนกลับไม่ได้คืนป้ายวงกลมที่มาเลย์ จะเป็นอะไรไหม

ขอบคุณ ขอบใจทุกๆท่านเป็นอย่างสูงครับที่ช่วยอธิบายได้อย่างดี ขอบคุณด้วยใจจริงๆครับ

อ้างจาก: 1000นาม เมื่อ 20:45 น.  20 มี.ค 53
ผมว่าคุณแมวคิดไปเองว่าคงจะลำบากมาก ลองขับรถเข้าไปและทำตามกฏระเบียบของเขาที่ดูว่า"เคร่งครัดเหลือเกิน" จริงๆแล้วไม่ยากเลย(แต่รถต้องมีเล่มทะเบียน) เมื่อได้เข้าประเทศเขาแล้ว จะรู้ว่าทำไมเมืองไทยถึงได้เป็นฝ่าย"ตามหลัง"มาเลเซีย และคงถูกทิ้งห่างไปอีกนาน
1.ความเป็นระเบียบ ถนนหนทาง,ที่จอดรถ,เรื่องเวลารถเมล์เข้า/ออก
2.ทุกคนเคารพกฏหมาย อาชญากรรมน้อยมาก ในเมืองหาตำรวจยาก
3.การศึกษาที่เท่าเทียมกัน และแข่งกันเรียน
4.บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน สลัมมีแต่น้อยเหลือเกิน
5.คนสารพัดเชื้อชาติอยู่ร่วมกันได้แบบไม่น่าเชื่อ
แต่ข้อเสียก็มี สำหรับผมที่ไปบ่อยๆ อาหารสะอาดกว่าของเรา มีเยอะกว่าของเรา แต่รสชาติของเราเข้มกว่า
แค่นั้นเอง
ทำไมผมจึงเชียร์ให้ไปเที่ยวมาเลเซีย เพราะอยากใ้ห้ไปเห็นแล้วมาวิจารณ์คนของเรา อย่ามัวแต่ทะเลาะกัน คิดถึงเรื่องความเจริญของชาติบ้าง อย่างน้อยให้ดูมาเลเซียเป็นตัวอย่าง
ประกันชั้น3ครับ ไม่ใช่พรบ.เขาบังคับให้ทำซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับเรา ชนแล้วไม่ต้องหนี

ถามหน่อยครับ มาเลเซียมีพวกมาเฟียเหมือนไทยป่าวครับ ประมานว่า คิวแท็กซี่

ขอแนะนำอีกทางเลือกค่ะ

เคยนั่งรถตู้ประจำทางไปปีนังค่ะ   เที่ยวละ 250 บาท ไป-กลับก็ 500 บาทเท่านั้น
ถ้าอยากจะไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ค่ะ  หรือจะจองที่พักแถวๆ  Komtar ก็ได้ ค่าใช้จ่ายประมาณ 1100 บาท นอนได้ 3 คน (ไม่รวมอาหารเช้า)  อาหารเช้าก็เดินไปตรงข้ามโรงแรม จานละ 35 บาท เองค่ะ

ตอนที่ไปคราวนั้นก็ซื้อตั๋วรถตู้ประจำทาง แล้วให้ัเขา จองโรงแรมให้เลย มี service charge ค่าโรงแรม 100 บาทค่ะ

ส่วนถ้าจะไปสถานที่ท่องเที่ยววัดเต่า วัดพม่า หรือไป Gorgetown ก็ไปขึ้นรถเมล์ ที่ kOmtar ได้เลย ค่ารถถ้าจำไม่ผิดแค่ 1.6 เหรียญมาเลย์ แต่ถ้าจะ shopiing แถวๆ komtar ก็เดินไปซื้อได้เลย

แถมถ้าไปวัดเต่าตอนเช้าๆ ก็จะเจอตลาดนัดด้วยนะจะบอกให้

ตอบ"เด็กทิ้งพระ" มาเฟียในมาเลย์มีแน่นอนครับ แต่ไม่ร้ายแรงเหมือนบ้านเรา มีทั้งมาเฟียคิวแท๊กซี่ มาเฟียยาเสพติดและมาเฟียคุมบ่อนคุมซ่อง แต่ไม่น่ากลัวเทียบกับเมืองไทยพวกนั้นระดับ"เด็กๆ"
เคยอ่านเจอในพันทิพ วัยรุ่นสาวไปเที่ยวมาเลย์สิงคโปร์คนเดียวแบบแบ๊คแพ็ค เจอแท๊กซี่โขกราคาถามคันไหนก็แพง เธอไม่ลดละเดินถามไปเรื่อยจนเจอตำรวจยืนหน้าห้างฯแล้วตำรวจก็พามาเจรจาได้ราคาปรกติ เธอว่าเรื่องราคาแท๊กซี่ไม่น่ากลัว เธอกลับกลัวจะเจอเรื่องอื่นๆกลางทาง แต่ไม่มีเลยแม้แต่จะพูดลวนลาม
ถ้าถามผมว่าคนของเขาจิตใตดีกว่าเราไหม?ผมไม่ต่างกันหร็อก แต่ที่เขาไม่ค่อยได้แสดงสันชาตญาณโหดๆ เพราะเขากลัวกฏหมายที่เอาจริงมากกว่า ของเราขนาดหลักฐานพยานพร้อมส่งเข้าคุกแล้ว...มันยังแหกออกมาก่อคดีซ้ำๆได้55

เคยไปครั้งแรกตอนอยู่ ป6 ตอนนั้นคุณพ่อ-คุณแม่พาไปเที่ยว ชอบเมืองเค้ามากๆ
ปัจจุบันผมมีลูกอยู่ ม2 แล้วครับ กะจะไปอีกซักครั้ง เข้ามาเก็บข้อมูลครับ
  ผมกะจะเอารถเข้าไปเหมือนกัน แต่เนื่องจากติดไฟแนนซ์ และโทรไปคุยกะทางไฟแนนซ์
ก็ได้คำตอบว่าไม่อนุญาติให้นำรถเข้า ใครเจอเคสลักษณะเดียวกะผมแล้วขอได้บ้างครับ
ของผม ธนชาติครับ!!

น่าไปเที่ยวครับ