ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รถไฟฟ้ารางเบา..ทางเลือกเพื่อมวลชนปลอดมลภาวะ

เริ่มโดย Mr.No, 21:07 น. 23 ก.ค 56

Mr.No

[attach=1]
เมื่อปีที่แล้วผมเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องข่าวเมืองภูเก็ตกับโครงการนำรถไฟรางเบา (light Rail)  มาใช้เป็นทางเลือกสำหรับขนส่งมวลชนในเมืองภูเก็ต โดยมีการส่งทีมงานจากเกาหลี,ญี่ปุ่นมาศึกษาความเป็นไปได้ แต่หลังจากนั้นก็ปรากฏข่าวคราวเรื่องนี้ก็ค่อย ๆ เงียบลงแม้นจะยังไม่มีการประกาศล้มแต่ก็ถือว่าล่าช้าและยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้


แต่ที่ดูท่าจะแซงหน้าไปกว่าภูเก็ตก็คือ เมื่อ ทาง นายก อบจ.เชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์  ออกมาประกาศชัดว่า เชียงใหม่จะนำระบบรถไฟฟ้ามวลเบาชนิดรางเดียว หรือที่เรียกกันในแบบกว้าง ๆ ว่า พวกรถรางไฟฟ้า (Tram) มาใช้รองรับการขนส่งมวลชนให้แก่เมืองเชียงใหม่ เพราะสะดวก,ปลอดภัย,เงียบ,ปลอดมลภาวะ


และทีสำคัญรถรางไฟฟ้ามวลเบาพวกนี้ถือเป็นการนำเอาเทคโนโลยีในโลกปลอดมลพิษมาใช้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ของเมืองเก่าแก่อย่างเชียงใหม่ได้อย่างลงตัว

รถรางเบารุ่นใหม่แบบไร้สายไฟไฟ้าระเกะระกะในฝรั่งเศส

เพราะรถรางพวกนี้นิยมใช้กันแทบทุกประเทศในยุโรปที่ก้าวข้ามและโยนทิ้งเทคโนแบบเก่าที่สร้างปัญหาและสร้างมลภาวะ โดยถือว่าการจมปลักอยู่กับระบบขนส่งมวลชนที่มุ่งทำลายธรรมชาติและก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษนั้น ถือเป็นเรื่อง Low tech ที่มักโยนให้กับประเทศที่กำลังพัฒนาหรือประเทศที่มุ่งแต่การสร้างและเดินหน้าพัฒนาประเทศแบบไร้ทิศทาง จนสุดท้ายก็จะกลายเป็นเมืองขยะที่รับเอาเทคโนโลยีโยนทิ้งมากองไว้ในประเทศตัวเองจนกลายเป็นเมืองที่รุงรังไปด้วยขยะและวัตถุที่ไร้จิตวิญญาน


ตัวอย่าง โลคั่ลโรด เลียบทางรถไฟ

การพัฒนาบ้านเมืองเราทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องของ "ตามีมา..ยายมาไป"  [/b กล่าวคือกลายเป็นเรื่องของการมุ่งสร้างแต่เรื่องเฉพาะหน้าและมุ่งหาแต่การสรรหาการสร้างนโยบายประชานิยมฉาบฉวยของเหล่านักการเมืองตั้งแต่ระดับตำบลไปยันระดับประเทศ
และแต่ละนโยบายก็ล้วนเป็นการสร้างในเรื่องที่กำหนดเอง..เออเอง โดยที่ไม่เคยถามประชาชนในพื้นที่หรือในประเทศตัวเองแม้นแต่น้อยว่าเสียงส่วนใหญ่จะกำหนดทิศทางและความเป็นไปของบ้านตัวเองอย่างไร ?

ดังนั้น ความหมายของคำว่า "พัฒนา" จึงเป็นการกำหนดนิยามที่ออกมาจากเหล่า "นักการเมือง" ในลักษณะชี้นำสังคม

ในกรณีสงขลา,หาดใหญ่ ซึ่งในอีกไม่นานก็จะกลายเป็น "มหานคร" ตาม พรบ.มหานครในไม่กี่ปีนับจากนี้ ดังนั้นไม่นานก็จะมีการควบรวมความเป็นเมืองเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกันไมว่าจะเป็น น้ำน้อยหรือทางทิศใต้อย่างแถบบ้านพรุ ฯลฯ

นโยบายขายฝันอย่างที่ตอนนี้เหล่านักการเมืองกำลังขายนโยบาย บ้างบอกจะสร้างถนนมอเตอร์เวย์ อีกเบอร์บอกจะสร้างโมโนเรล ฯลฯ ต่างคนต่างฝัน ต่างคนต่างสร้าง แต่สิ่งทีสำคัญก็คือการจะนำระบบใดมาใช้หรือการสร้างสิ่งใดถือเป็นเรื่องดีแทบทิ้งสิ้น แต่สิ่งที่ควรทำในเบื้องต้นก็คือการให้ภาคประชาสังคมได้มีส่วนเข้ามาร่วมคิดร่วมถกและแสดงความเห็นในฐานะเจ้าของที่แท้จริงด้วยก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไร


อย่างถนนมอเตอร์เวย์ที่ต้องใช้งบประมาณสูงลิ่วเกินกำลังจังหวัด ถ้าจะลดขนาดลงแค่ถนน โลคัลโร๊ด (Local Road) สร้างมันคู่ขนานไปกับทางรถไฟทั้งสองฝั่งไปจนติดชายแดน ก็น่าจะลดงบประมาณลงได้มหาศาล


และที่สำคัญการสร้างถนนดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของรถไฟที่อาจจะเกิดในอนาคตเพิ่มขึ้นได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด



ตัวอย่างโมโนเรล


ตัวอย่างภาพ Ligh Rail ที่มีโครงการสร้างเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ - บางนา

หรืออย่างการสร้างโมโนเรลที่ต้องใช้งบประมาณสูงและที่สำคัญเป็นการขนส่งมวลชนที่ค่อนข้างจำกัด และอาจสร้างปัญหาด้านทัศนียภาพในเชิงการอนุรักษ์รวมทั้งเรื่องของเสียงและทีสำคัญการสร้างจุดเชื่อมโยงต่อขยายค่อนข้างยากและต้องใช้งบประมาณสูง ดังนั้นแค่เส้นทางการเชื่อมระหว่าง บ้านพรุ,หาดใหญ่,ควนลัง เพียงไม่กี่กิโลเมตร

แนวคิดการนำระบบขนส่งมวลชนแบบรางเบาดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า แม้อาจต้องใช้งบประมาณสูงเช่นกัน ทว่าระบบขนส่งมวลชนแบบนี้นับเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ประเทศต่าง ๆ ยอมรับว่าดีที่สุดและสามารถรองรับการเป็นเมืองที่จะผสมผสานระหว่างความเป็นอัตลักษณ์เดิมของเมือง(อย่างสงขลา)และผสานกับความทันสมัยและใช้เป็นพาหนะจูงใจในการนั่งเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองได้ในแบบที่น่าสนใจ

สุดท้ายก็ต้องลุ้นว่า...รถไฟฟ้ารางเบา จะเกิดที่ภูเก็ตก่อนหรือสุดท้ายจะกลายเป็นเชียงใหม่ หรือที่สุดอาจไมได้เกิดสักที่ก็คงเป็นเรื่องของภาคประชาชนที่จะต้องร่วมกันคิดและหาแนวทางในการตกผลึกความเป็นหนึ่งเพื่อสร้างพลังชี้นำให้ภาคการเมืองเห็นว่า "ประชาชนต้องการแบบนี้"   

แต่ถ้าไม่ร่วมคิด..ร่วมสร้าง สุดท้าย...ก็อาจได้โครงการฝันเฟื่องแบบ "ตามีมา..ยายมาไป" และกลายเป็นโครงการร้างทิ้งๆ ขว้าง ๆ อย่างน่าเสียดาย.
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

mix99

เรามีนักเฟ้อฝันโครงการวิลิศมาหราเรื่อยๆเปื่อยๆ แบบนึกๆก็โมเมเป็นโครงการได้เลย เช่นรัฐบาลห่วยๆชุดนี้ เงินเดือน 15000  ค่าแรง 300  รถคันแรก ข้าวเกวียน15000 ตอนนี้เป็นไง คุยไว้ก่อนแล้วผลาญเงินชาติ ไม่พอ กู้  กู้  กู้  น้ำท่วม เลยหากินตามน้ำ  ไปคุยดักคอไว้ก่อนแล้ว  เพื่อหวังผลประโยชน์ที่จะตามมา  เงินผ่อนชาติหน้า ช่างมารดามัน  คนไทยบอกว่าโกงก็ได้ ถ้าตัวเองได้กิน พอกินหมด ก็เริ่มกู้แล้วไง  รถไฟรางคู่ ก็เหลือเฟือแล้วบ้านเราเอาหัวรถจักรดีๆมาใช้ก่อน  อีกสิบปีค่อยเอาใหม่ แต่ไม่ใช่ผลประโยชน์มันน้อย  มีพวกมากก็ช่วยกันลากไป ในสภา นอกสภา ก็จ้างนักเลงหัวหมา ออกมาท้าทายชาวบ้าน จนกลายเป็นรัฐบาลนักเลง  สิ่งเหล่านี้ชาวบ้านเรายังนั่งนิ่งดูดาย  เรายังไม่Chipหายกัน
      หาดใหญ่  ภูเก็ต บ้านเราเอาแค่รถไฟ โมโนเรลแบบ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สิงคโปร์ก็เหลือกินแล้วครับ 3 โบกี้ก็ล่อเอาเกือบ150คนแล้วล่ะ ครับ ลองไปนั่งดู  เวลาสวนน้ำเลิกการแสดงมันอัดกันเป็น200กว่า ยังวิ่งเฉยเลยครับ ลงทุนก็ไม่แพงเว่อร์........บ่นๆ คุยๆ ตามประสาคนไม่ใช่นักการเมืองครับ

mix99

แถมรูป  หัวเดียว เซนโตซ่า

Mr.No

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

knumnoy

ชอบครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เมืองใหญ่ๆ ต้องทำระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ ที่สำคัญต้องศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ อย่าเป็นเหยื่อนักการเมืองขายฝัน

mix99

มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ  ระบบราง ถ้าจัดวิ่งบนถนน นี่คงไม่ไหวในเมืองที่มีการจราจล จราจลนะครับ  รถรามากมายและขับกันแบบเห็นแก่ตัว  ต้องจัดให้ลอยฟ้าอย่างเดียวและครับ จะเป็นรางเดี่ยว รางคู่ ก็ตามแต่งบการลงทุนที่เหมาะสมกับการจราจรหรือกำไร ขาดทุน ระบบรางเดียวนี่ใช้เสาเดียวและเบา ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนัก ราง รถ การบรรทุก  เอาง่ายๆไปดูที่สิงค์ดปร์ เทียบกับ กท.เรา ค่าการลงทุนต่อ กิโลเมตรนั้นแตกต่างกันมากหรือไม่...ก็ว่ากันไปนะครับ

Mr.No

อ้างจาก: mix99 เมื่อ 10:17 น.  25 ก.ค 56
มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ  ระบบราง ถ้าจัดวิ่งบนถนน นี่คงไม่ไหวในเมืองที่มีการจราจล จราจลนะครับ  รถรามากมายและขับกันแบบเห็นแก่ตัว  ต้องจัดให้ลอยฟ้าอย่างเดียวและครับ จะเป็นรางเดี่ยว รางคู่ ก็ตามแต่งบการลงทุนที่เหมาะสมกับการจราจรหรือกำไร ขาดทุน ระบบรางเดียวนี่ใช้เสาเดียวและเบา ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนัก ราง รถ การบรรทุก  เอาง่ายๆไปดูที่สิงค์ดปร์ เทียบกับ กท.เรา ค่าการลงทุนต่อ กิโลเมตรนั้นแตกต่างกันมากหรือไม่...ก็ว่ากันไปนะครับ

สวัสดีครับคุณ mix99

ยินดีที่ได้คุยเรื่องดี ๆ ด้วยเช่นกัน   

[attach=1]

มีคำถามที่ว่า เหตุใดผมจึงคิดว่า พวก Light Rail หรือพวก Street Car น่าจะเหมาะสม ผมขอยกเหตุผลของนักวิชาการฝรั่งและไทยที่พอจะประมวลมาได้ดังนี้ครับ

ความเหมาะสมของStreetcar กับการพัฒนาเมือง ระบบขนส่งมวลชนทางรางมีอิทธิพลโดยตรงต่อการสร้างรูปทรงของเมือง และต่อการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของเมืองและภาค ในขณะที่มีค่าการลงทุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าประเภทอื่นๆ  ดังนั้น  นักผังเมืองส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้า  Streetcar  เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อเป้าหมายในการพัฒนารูปทรงของเมืองและเศรษฐกิจเมืองได้ด้วยปัจจัยที่โดดเด่นดังนี้

  1 ศักยภาพในการลดความจำเป็นการครอบครองและใช้รถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชน

   

       2 สามารถใช้พื้นผิวจราจรร่วมกับยวดยานอื่นๆ สามารถใช้ผิวจราจรร่วมกับพาหนะอื่นโดยที่เมืองไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเวนคืนที่ดินในการสร้างสถานีและสาธารณูปโภคสนับสนุน  เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ายกระดับและรถไฟฟ้าใต้ดิน

3  ใช้โอกาสในการออกแบบก่อสร้างระบบรางเพื่อปรับปรุงกายภาพถนนให้เป็นแบบสมบูรณ์  ซึ่งเมืองจะได้รับทั้งทางเดิน ทางจักรยาน  และทางรถขนส่งมวลชน  พร้อมสถานีรถไฟฟ้าตามมาตรฐานสากล  นอกจากนี้เมืองยังจะได้รับพื้นที่ภูมิทัศน์ที่มีความงดงามอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองและย่านการค้าสำคัญที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านอีกด้วย

4  ลดค่าใช้การเดินทางให้กับประชาชนเมื่อเทียบกับการสัญจรด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล  

5 สร้างระบบการสัญจรและโครงข่ายที่สามารถคาดการณ์ปริมาณการเดินทาง ทิศทางและค่าใช้จ่ายของประชาชนและของเมืองได้
   6.ใช้ผลการศึกษาออกแบบเพื่อการวางแผนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความหนาแน่นรอบสถานีขนส่งเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน เช่น การกำหนดแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีขนส่งและตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เป็นต้น

ทั้ง 4 ข้อ ถือเป็นเรื่องสำคัญครับ เพราะในยุคที่ยุโรปกำลังเผชิญปัญหาเดียวกับเราตอนนี้ กล่าวคือ ปัญหาที่เกิดจากการพุ่งพรวดของคนรุ่นใหม่ที่สร้างเนื้อสร้างตัวและมีรถยนต์ส่วนตัวกันมากจนกระทั่งเกิดปัญหาทั้งด้านการเผาผลาญพลังงาน,อุบัติเหตุจราจร ฯลฯ และจนกระทั่งในบางเมืองของยุโรปเริ่มประสบปัญหาด้านมลภาวะสุขอนามัย สิ่งเดียวที่รัฐบาลของเค้า,นักวิชาการและผู้ที่มีมุมมองในการวางรากฐานบ้านเมืองให้เหมาะและน่าอยู่สำหรับลูกหลานในอีกนับสิบนับร้อยปีข้างหน้าคิดก็คือการพัฒนาระบบรถรางที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับ,อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้แบบ ทุกเพศ,ทุกวัย  การพัฒนาไปพร้อม ๆ
กับการสร้างค่านิยมให้คนรุ่นหนุ่มสาวมองเห็นเรื่องความสุขของชีวิตมากไปกว่าการแสวงหาแต่วัตถุจำพวกรถหรู ค่อนข้างประสบผลสำเร็จ ไม่เฉพาะยุโรป ทว่ามันไปถึง ญี่ปุ่น (เมืองที่ผลิตรถขายคนอื่นแต่คนในประเทศใช้ขนส่งมวลชน)

    Street car ที่มีขนาดเล็กกว่าที่เีรียกว่า Tram นั้น จัดเป็นระบบขนส่งมวลชนระยะสั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนจุดรับจุดจอดได้ตามความเหมาะสม แม้แต่ ผู้เฒ่าผู้แก่สามารถใช้บริการนั่งได้ในระยสั้นโดยไม่ต้องรอสถานีแบบ Fix เหมือนกับพวก รถไฟฟ้าหรือพวก Monorail

ผมมองว่า สงขลา - หาดใหญ่ ที่กำลังจะเป็นมหานคร อยู่ในวิสัยที่น่าจะทำได้ เพียงแต่อย่าปล่อยให้ปัญหาด้านพื้นที่มันเจริญผิดที่ผิดทางเละเทะแบบกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นเป็นบทเรียนที่เราไม่ควรเดินตาม

และประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ การนำระบบแบบนี้มาใช้สอดคล้องกับแนวคิดในการสร้างเมืองเพื่่อเอื้อให้กลายเป็นเมืองสีเขียว และรองรับการปรับวิถีชีวิตคนให้หันมาใช้ระบบ เดิน,จักรยาน, (Park & Ride ) สไตล์เมืองน่าอยู่ตามมาตรฐานอนามัยโลกครับ. ส.สู้ๆ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.