ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บริการรับทำเว็บไซต์ทั่วราชอาณาจักร การันตีคุณภาพด้วยลูกค้า กว่า 300 เว็บ

เริ่มโดย thaiwebeasy, 14:09 น. 07 ส.ค 56

thaiwebeasy

บริษัท ดิจิอาร์ต มีเดีย จำกัด
491/12 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
Tel : 074-243821 Fax : 074-366883
Hotline: 084-8598989 , 090-1789889
E-mail :  info@thaiwebeasy.com
เข้ามาดูผลงานของเราได้ที่ www.thaiwebeasy.com  โทรมาสอบถามได้นะค่ะ  ใจดีนิ


thaiwebeasy

นอกจากบริการจัดทำ และออกแบบ จากนักออกแบบมืออาชีพแล้ว  เรายังมีทีมงานฝ่าย support ด้าน seo โดยเฉพาะอีกด้วยจากการการันตีจากลูกค้ามากกว่า  300 เว็บ ในเวลา 3 ปี  สอบถามมาได้ที่  090-1789889  ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

thaiwebeasy

วันนี้มาดูกันว่าการมีเว็บไซต์ส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง
ทำไมต้องมีเว็บไซต์ ?

อินเตอร์ เน็ต (Internet) เป็นระบบการสื่อสารที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และเพิ่มความนิยมขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท องค์กร และธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างมีความจำเป็นที่ต้องมีเว็บไซต์ของตนเอง ให้โลดแล่นอยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันหมายถึงความพร้อมในการเปิดรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ก้าวสู่ความสำเร็จบนโลกของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  ธุรกิจที่ควรมีเว็บไซต์
ไม่ ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท สปา คลินิคแพทย์ ร้านพระเครื่อง ร้านแอร์ ร้านอาหาร / ภัตตาคาร / บ่อตกปลา ร้านติดตั้งผ้าใบ / เหล็กดัด ร้านฮาร์ดแวร์ต่างๆ โรงเรียน/สถาบันกวดวิชา ร้านเสริมสวย โรงพิมพ์ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ สำนักงานบัญชี /ทนายความ ร้านผ้าม่าน โรงกลึง บุคคลทั่วไป ฯลฯ.. ทุกธุรกิจมีความจำเป็นต้องใช้เว็บไซต์ในการประชาสัมพันธ์เพราะค่าใช้จ่ายไม่ สูง แต่ประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าสื่อโฆษณาอื่นๆ
  ประโยชน์ของเว็บไซต์ที่คุณรู้มีอะไรบ้าง ?
•  ช่วยส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันในด้านธุรกิจ
•  ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
•  ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า หรือผู้ใช้บริการเป้าหมายได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และทั่วโลก
•  ช่วยขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ต สร้างรายได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน หรือสำนักงาน
•  สามารถให้บริการต่างๆ ของธุรกิจหรือองค์กรแบบออนไลน์ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
•  ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และทันสมัย ให้กับองค์กร บริษัท และธุรกิจต่างๆ
•  ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ
•  ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณา
•  คอยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการแก่ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอร้านเปิดให้บริการ
 

thaiwebeasy

ข้อดีของการมีเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ
มืออาชีพย่อมทำสิ่งต่างๆด้วยความประณีต ไม่ว่าจะเป็น บุคลิกภาพ การสื่อสาร ซึ่งจะทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือและไว้วางในใจในวงการนั้นๆ การที่เราเป็นมืออาชีพกว่าย่อมได้รับการยอมรับมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า ทุกวันนี้เว็บไซต์ล้วนมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะว่าคนหลายพันล้านต่างก็พากันใช้ Internet กันทุกวี่วัน แม้แต่ธุรกิจก็สามารถประสบผลสำเร็จได้ด้วยการใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมืออีก ตัว วันนี้เราจะมาดูว่า การที่มีเว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ จะทำให้เกิดผลดีอย่างไร ลองมาดูกัน

1. ได้รับความไว้วางใจมากขึ้น
ความไว้วางใจ น่าเชื่อถือ ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆเลย ถ้าหากว่าคุณมีเว็บไซต์ที่ต้องการขายอะไรสักอย่าง หรือการให้บริการอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคุณมีเว็บไซต์ที่ดูดี มีความเป็น Professional คุณก็จะได้รับความไว้วางใจมากขึ้นครับ ถ้าหากว่าเว็บของคุณลุกโลว์มาก ลูกค้าก็คงจะกังขา ไม่กล้าซื้อของ หรือว่าจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรอก

2. ผลการค้นหาในเว็บค้นหาดีขึ้น

การทำเว็บ ไม่ใช่แค่สักเขียนโค้ดให้พอเป็นกระษัย เราต้องคำนึงถึง SEO Friendly ด้วย การที่ทำเว็บอย่างเอาใจใส่ พิถีพิถัน จะทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นมิตรกับเว็บค้นหาต่างๆ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้เว็บของเราได้ติดอันดับดีๆในเว็บดังๆเช่น Google ได้ ถ้าติดอันดับดี คนก็จะเข้าชมเว็บเราเพิ่มมากขึ้นนะครับ ผลต่อเนื่องก็คือ คุณก็จะมีโอกาสได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

3. ดีไซน์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การออกแบบเว็บที่ดูดี ก็จะทำให้คนจำได้ และอยากจะใช้บริการกว่าเว็บไซต์ที่ออกแบบพอแต่ให้เสร็จๆถ้าเว็บเราดีเราก็อาจจะเปลี่ยนจากแค่คนเข้าชม มาเป็นผู้ใช้บริการบริการของเราก็ได้

4.  ทำให้เกิด First Impression
ความประทับใจในครั้งแรก มันสำคัญมากนะ ถ้าเราประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เราก็อยากจะดูเนื้อหาข้างในว่า มีอะไรให้น่าติดตามด้วยหรือเปล่า แต่ว่าถ้าหากเราไม่ประทับใจในครั้งแรกแล้ว เนื้อหาข้างใน เราก็พลอยจะไม่อยากจะเปิดดู อย่าลืมว่าเว็บไซต์เดี๋ยวนี้มีให้ดูเป็นล้านๆเว็บ ถ้าเว็บเราไม่ได้เจ๋งจริง เค้าก็พร้อมจะปิดได้ทุกเมื่อ เพื่อไปดูเว็บอื่น

5.  เว็บของคุณมีสิทธิ์ถูกกล่าวถึงเยอะ
ถ้าเว็บไซต์ของเราเจ๋ง คุล ดูมืออาชีพ คนก็พูดถึง แม้กระทั่งในวงการออกแบบเอง เราจะเรียกว่าเป็นเว็บไซต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือเรียกให้ดูหรูหราเป็นภาษาอังกฤษว่า Inspiration website นั่นเองครับ แหม ถ้าเว็บเราได้ขึ้นแท่นขนาดนี้แล้ว ใครๆต่างก็อยากจะเข้ามาชมเว็บไซต์ของเราแน่ๆ เป็นการเพิ่ม traffic ให้เว็บเราด้วย

6.  ดีไซน์อยู่ได้นาน
การออกแบบที่ดี จะทำให้ไม่เอาท์ง่ายครับ ยิ่งเว็บที่ได้รับความเอาใจใส่เป็นอย่างดี ดีไซน์นั้นจะอยู่ได้หลายปีเลย ดูยังไงก็ยัง Look good ไม่ตกเทรนด์ ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมานั่งดีไซน์ใหม่ให้เสียเวลา และเสียตังค์เพิ่มโดยเปล่าประโยชน์

7.  ทำให้โชว์งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เว็บไซต์ที่ดี ต้องมองปุ๊บรู้ปั๊บว่าเรากำลังทำเว็บเกี่ยวกับอะไร ขายอะไร บริการอะไร (นอกเสียจากว่าคุณกำลังทำเว็บแนวอาร์ต อินดี้)  การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีนั้น จะเอาใจใส่ถึงเมนูนำทางผู้ใช้งานด้วย เมนูนำทางนี่ก็สำคัญนะ ถ้ามีเมนูที่ดูเข้าใจง่าย คนใช้งานก็พึงพอใจ แต่ถ้าเว็บดูใช้งานยุ่งยากสลับซับซ้อน ดีไม่ดี คนใช้งานจะพาลออกจากเว็บไปดื้อๆเลยก็ได้ ดังนั้นตรวจสอบเว็บของคุณดูว่า ออกแบบดีหรือป่าว

8. อยู่เหนือคู่แข่งมากขึ้น
จะเป็นอย่างไร ถ้าเว็บไซต์ของคุณผงาด โดดเด่นในวงการ อย่างน้อย ก็ทำให้กิจการของเราดูน่าสนใจมากกว่าของคนอื่นแน่ๆ ยิ่งพอกิจการเราโดดเด่น คู่แข่งก็ยิ่งอยากจะปรับปรุงตาม แต่เสียใจ เพราะเรานำหน้าเค้าเรียบร้อยแล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่า เดี๋ยวนี้แม้กระทั่งจะกินข้าวในแต่ละมื้อ หลายๆคนยังค้นหาจาก Internet เลยว่าจะไปกินที่ไหนดี การมีเว็บไซต์ที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่ดูดีแต่เปลือกนอกเท่านั้น เนื้อหาของเราก็ต้องตอบโจทย์ผู้เข้าชมด้วย ดังนั้น จำไว้ว่า เนื้อหาของเราควรจะได้รับการอัพเดทอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่า อัพเดทล่าสุดเมื่อสองปีที่แล้ว แบบนี้ก็ไม่ไหว

9.  ดูดีมีระดับ
มันก็แหงอยู่แล้ว การที่มีเว็บไซต์เจ๋งๆ มันก็ทำให้เราดูดีไปอีกก้าว มันทำให้นึกไปถึงว่า เจ้าของเว็บเป็นใครน้า บางทีเว็บไซต์ก็บ่งบอกถึงเจ้าของเว็บได้นะ ประมาณว่า ขนาดเว็บยังขนาดนี้ แล้วเจ้าของจะขนาดไหน

10. มีลูกค้าเพิ่มขึ้น
อย่างที่บอกไปว่า เว็บไซต์ที่ดูดี มืออาชีพนั้น ต้องมีทั้งการออกแบบที่สวยงาม มีการใช้งานที่ง่าย และมีเนื้อหาที่ตอบโจทย์ ดังนั้น ถ้าเว็บไซต์ของเรามีองค์ประกอบเป๊ะ ก็ทำให้ลูกค้าชื่นชอบเว็บเราเพิ่มขึ้น เค้าก็อยากจะติดต่อเรามากขึ้น พอติดต่อเรามากขึ้น ก็หมายถึงงานที่เราจะได้มากขึ้นนั่นเอง



thaiwebeasy

เก็บเอาเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาฝากค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะค่ะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Facebook คือ Social Network ที่มีการเติบโตสูงชนิดที่ทิ้งห่างคู่แข่งที่เกิดก่อนมานานหลายปี หลายๆเว็บไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ตอนนี้ Facebook นับได้ว่าเป็นเว็บไซต์ หรือ community สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ แม้กระทั่งคุณตา คุณยายทั้งหลายในยุคนี้ก็เริ่มหันมาใช้ Facebook กันมากขึ้นแล้ว พูดอีกอย่างได้เลยครับว่า Facebook ได้เปลี่ยน Life style ของคนไทยไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ที่ไหนมีชุมชนใหญ่เกิดขึ้น ก็ต้องมีธุรกิจ และการค้าขายเกิดขึ้น Facebook ก็ไม่ต่างกัน ได้อำนวยความสะดวกให้เหล่าเจ้าของกิจการ เจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ หรือ แม้กระทั่งพ่อค้า แม้ค้าออนไลน์ทั้งหลาย โดยสามารถเปิด Fan Page ให้ธุรกิจตัวเองได้อย่างง่ายๆ หลายคนพอทราบอย่างนี้แล้ว เมื่อมาปรึกษากับทางทีมงาน Ads Now ก็มักจะมีคำถามว่า "ถ้าอยากจะลงโปรโมทหน้าแรก Google จะใช้ Facebook Fan Page แทนหน้าเว็บไซต์จะได้มั๊๊ย?" จริงๆแล้วการที่คุณจะมี Fan Page สำหรับธุรกิจของคุณนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่เหตุผลที่คุณไม่ควรใช้ Facebook แทน Website คืออะไร? เหตุผลมีดังนี้ครับ

1. Facebook นั้นเป็น อนิจจัง อย่างมากครับ – หลายๆคนที่ติดตามข่าวสารคงจะทราบดีว่า Facebook มีการอัพเดตหน้าตา, feature ต่างๆ, หรือกฎระเบียบใหม่ๆอยู่เสมอ ซึ่งคุณไม่มีทางที่จะทราบได้ว่า วันใดความเปลี่ยนแปลงไหนจะมากระทบหน้า Fan Page ธุรกิจของคุณ คุณจึงไม่ควรเอาธุรกิจของคุณไปฝากอยู่บน สิ่งที่ไม่แน่นอน แบบนี้ครับ ลองนึกภาพดูว่า ถ้าคุณลงทุนกับ Facebook ไป 2 ปี มีคน like page คุณ 20,000 คน แต่แล้ววันหนึ่งมีกฎอะไรทำให้ Fan Page คุณหายไป ถ้าคุณไม่มีเว็บไซต์เลย มีแต่ Fan Page บน Facebook เท่ากับธุรกิจบนโลกออนไลน์คุณแทบจะหายไปทั้งหมด

2. Facebook มีปัญหาในการแสดงผลในหลายๆ Case -

ถ้าคนที่ไม่ได้ login อาจจะมีปัญหาในการเข้าชม, กด like, share หรือ comment ไม่ได้ มือถือบางรุ่น บางครั้งจะมีปัญหาในการเข้าชม Application ของมือถือบางรุ่น บางตัว บางครั้งจะมีปัญหาในการเข้าชม ในมือถือ กับในคอมพิวเตอร์และ Tablet การแสดงผลของ Facebook จะไม่เหมือนกัน

thaiwebeasy

สาเหตุที่ หลายๆคนอาจปิดใจกับการสร้างเว็บไซต์
  สร้างแล้วไม่ดำเนินการต่อให้เสร็จ
  รับเงินไปแล้วตามตัวไม่ได้
  ไม่ดูแลหลังการขาย
ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปค่ะ ถ้าเราได้ทำเว็บไซต์แบบมืออาชีพ กับบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพ
มีพนักงานซัพพอร์ต ในทุกๆด้าน ไม่ว่า จะเป็น ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายไอที ฝ่ายติดตามข้อมูล
ฝ่ายให้คำแนะนำ  ปรึกษา หรือสอบถามมาได้ที่ 090-1789889  ยินดีให้คำแนะนำค่ะ



thaiwebeasy

อ่านเจอเลยนำมาฝากค่ะ
คำถาม : ทำไมคนยุคใหม่ควรมีเว็บของตนเอง
คำตอบ : เหตุผลที่เราควรมีเว็บกันก็เพราะสังคมเราเริ่มมีสิ่งเหล่านี้ เหมือนที่บอกว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม Internet ตำบลก็เริ่มเข้ามาแล้ว เปิดใช้ในหลาย ๆ ตำบลอีกหน่อยก็จะมาถึงตำบลของเรา นักเรียนประถมเริ่มเขียนเว็บอย่างอนุบาลลำปาง ส่งผลงานเขียนเว็บได้ที่ 1 ของประเทศ นักเรียนอนุบาลลำปาง แข่งสืบค้นข้อมูลก็ได้ที่ 1 ของประเทศอีก Oppy เปิดสอนที่โยนก ผู้สูงอายุก็เริ่มไปศึกษาหาความรู้กันมากขึ้น ที่จะใช้ประโยชน์จาก Internet ธุรกิจต่าง ๆ ก็เริ่มมีเว็บของบริษัท เพื่อเปิดช่องทางขายสินค้า เช่น bigc.co.th เป็นต้น ร้าน Net หน้าโรงเรียน หรือในหมู่บ้านก็เริ่มเข้ามามากขึ้น เกือบทุกโรงเรียนเริ่มมีการสอนการสืบค้นข้อมูลมากขึ้น โรงเรียนไหนไม่มี ก็จะเริ่มมีปัญหาแล้ว มีการซื้อขายสินค้าผ่าน Internet กันมากขึ้น ท่านอาจเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนในกระบวนการซื้อ หรือการขาย

คำถาม : มีเว็บแล้วได้อะไร
คำตอบ : ประโยชน์ที่ได้จากเว็บคงต้องแล้วแต่ผู้ทำว่า ทำขึ้นมาเพื่ออะไร
1. นักเรียน ทำเพื่อส่งอาจารย์
2. นักศึกษาทำเพื่อหาประสบการณ์ สำหรับการได้งานดี ๆ ในอนาคต
3. พ่อแม่ ทำเพื่อเก็บข้อมูล หรือเผยแพร่สิ่งดี ๆ ให้ชาวโลกรับรู้
4. ปู่ย่า ทำเพื่อแก้เหงา ที่ลูกหลานไม่สนใจ จึงไปหาเพื่อใหม่
5. นักธุรกิจ ทำเพื่อสร้างรายได้ สร้างฐานะ
6. บริษัท ทำเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า หรือองค์กร มีข่าวว่าเว็บอย่างเช่น sanook.com hunsa.com pantip.com มีคนมาติดต่อขอซื้อตั้งหลายสิบล้าน แต่ถ้าไม่ขาย ค่าโฆษณาของป้ายมีค่าบริการป้ายละ 15,000 บาท ต่อเดือนก็มี
เริ่มเกิดเป็นการสร้างธุรกิจที่ไม่ต้องมีที่ดิน หรือพื้นที่ แต่ใครๆก็สามารถ สร้างจนเป็นเถ้าแก่ได้


thaiwebeasy

วันนี้มีความรูเกี่ยวกับการทำเว็บให้ติดอันดับมาฝากกันค่ะ
   เทคนิคและวิธีโปรโมทเวบให้คนรู้จัก วิธีโปรโมทเวบให้ได้ผล

    หลังจากที่เวบไซต์ของคุณมีความพร้อมแล้ว คุณก็สามารถเริ่มการโปรโมทเวบไซต์ของคุณได้ การโปรโมทเวบไซต์ของคุณมีหลายวิธี ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับเวบไซต์ของคุณที่สุดครับ

1.กลยุทธ์เพิ่มคนเข้าเวบด้วย "เสิร์ช เอ็นจิ้น" (Search Engine Strategies) คงต้องยอมรับว่าเกือบ 80% ของคนใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก มักใช้เสิร์ช เอ็นจิ้น ในการค้นหาเวบไซต์ที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นการนำเวบไซต์ของคุณเข้าไปติดอันดับในเสิร์ช เอ็นจิ้น จึงเป็นวิธีที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคุณต้องการจะให้เวบไซต์ของคุณ เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นการปรับเวบไซต์ของคุณให้เสิร์ช เอ็นจิ้น รู้จัก จึงเป็นศาสตร์และเทคนิคที่คุณต้องคำนึง ตั้งแต่คุณวางแผนเริ่มต้นสร้างเวบไซต์ หรือสำหรับบางท่านที่มีเวบไซต์อยู่แล้ว ก็ควรที่จะวางแผนปรับเวบไซต์ของคุณให้เสิร์ช เอ็นจิ้น รู้จักได้โดยเร็ว มีตัวอย่างเวบไซต์เพื่อนผมเวบหนึ่ง หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย   นอกเหนือจากการปรับแต่งเวบไซต์ของเค้าให้ เสิร์ช เอ็นจิ้นรู้จัก แต่ภายหลังจากนั้น เวบไซต์แห่งนั้นก็มีรายได้จากการขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยที่เค้าไม่ต้องทำการตลาดอะไรอีกเลย เพราะเสิร์ช เอ็นจิ้น ได้รู้จักเวบไซต์ของเค้าแล้ว และส่งคนเข้ามาที่เวบไซต์ของเค้าอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

2.การเพิ่มลิงค์ เพิ่มโอกาสคนรู้จักเวบไซต์คุณ (Linking Strategies) การแลกลิงค์กับเวบไซต์อื่นๆ จะช่วยนอกจากจะทำให้คนอื่นๆ มีโอกาสเข้ามาที่เวบไซต์ของคุณได้จากเวบเหล่านั้นแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มจำนวน "เพจแรงค์" (Page Rank) ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่จะช่วยทำให้อันดับของเวบไซต์ของคุณดีกว่าเวบอื่นๆ เมื่อเวบไซต์ของคุณถูกค้นหาผ่าน เสิร์ช เอ็นจิ้น

โดยวิธีการที่จะเพิ่มลิงค์ให้กับเวบไซต์ของคุณ คุณควรไปเพิ่มชื่อเวบไซต์ของคุณที่บริการเวบไดเร็คทอรี่ใหญ่ของโลกเช่น www.DMOZ.com (เวบไซต์ไดเร็คทอรี่ที่ใช้คนจัดการ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก), www.Yahoo.com, www.About.com ถ้าเป็นของไทยก็ Sanook.com ยิ่งถ้าหากเวบไซต์ของคุณสามารถเข้าไปติดอยู่ในเวบไดเร็คทอรี่เหล่านี้ได้แล้วละก็ โอกาสที่เสิร์ช เอ็นจิ้นต่างๆ จะหาเวบไซต์ของคุณเจอ ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งง่ายๆ ที่คุณจะสามารถเพิ่มลิงค์ของเวบไซต์ของคุณ คือการขอแลกลิงค์กับเวบไซต์ต่างๆ ที่คุณอาจจะลองติดต่อขอแลกเปลี่ยนกับเวบไซต์เหล่านั้น นี่อาจจะเป็นวิธีง่ายๆ ที่คุณเริ่มต้นได้ทันที

3. การตลาดผ่านอีเมลช่องทางเข้าถึงลูกค้าที่ต้องใช้ให้ถูก (E-Mail Strategies) การตลาดผ่านอีเมล ไม่ใช่แค่การที่คุณไปซื้อรายชื่อคนมาแล้วส่งข้อมูลไปยังคนเหล่านี้โดยที่คุณไม่ได้เคยรู้จัก หรือได้รับอนุญาตจากคนเหล่านั้นเลย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำ "สแปม" ซึ่งไม่ใช่การตลาดผ่านอีเมลเลย แต่เป็นการสร้างความน่ารำคาญให้แก่ผู้รับมากกว่า ดังนั้นการสร้างระบบการเก็บอีเมลของลูกค้าของคุณเอง  หรือกลุ่มลูกค้าที่อาจจะสนใจรับข่าวสารจากเวบไซต์ของคุณ เป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการส่งข่าวสารของคุณผ่านอีเมลไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น แต่หากในตอนเริ่มต้น ซึ่งคุณยังไม่มีข้อมูลของลูกค้าของคุณเลย คุณอาจจะใช้วิธีไปใช้เช่ารายชื่ออีเมลจากผู้ให้บริการเช่ารายชื่ออีเมล เพื่อส่งไปหาคนเหล่านั้นด้วยความยินยอมจากผู้รับก็ได้ (ลองค้นหาผู้ให้บริการเช่ารายชื่ออีเมลจาก Google.com โดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่า "list broker")

4. วิธีเลือกใช้สื่อเก่า แต่ได้ผลแยบยลนัก (Traditional Strategies) การใส่ชื่อเวบไซต์ในสื่อต่างๆ ที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ (offline) อาจจะช่วยทำให้คนจดจำและดึงคนเข้ามาที่เวบไซต์ของคุณได้ เช่น การใส่ชื่อเวบไซต์ลงในนามบัตร, โบรชัวร์, ป้ายหน้าร้าน, สติกเกอร์ร้านค้า, ถุงใส่สินค้า, เสื้อหรือหมวกของพนักงาน, ป้ายสินค้า หรือแม้แต่การใส่ชื่อเวบไว้ที่ตัวสินค้าเลยก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้คนสามารถกลับมาที่เวบไซต์ของคุณได้อีกเมื่อเค้าเห็นชื่อเวบไซต์ของคุณจากสิ่งเหล่านี้

การเลือกใช้สื่อที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ อาจจะช่วยทำให้คนรับรู้และรู้จักเวบไซต์ของคุณเพิ่มมากขึ้นได้ เช่น ลงในป้ายโฆษณาต่างๆ, ลงในหนังสือ, จดหมาย, โปสการ์ด, วิทยุ หรือแม้แต่ทีวี แต่สื่อจำพวกนี้ มักจะมีค่าใช้จ่ายราคาแพง เว้นแต่คุณได้ใช้สื่อเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชื่อเวบไซต์ลงไปในสื่อเหล่านี้เพิ่มเติม เพื่อให้คนรับสื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้อีกช่องทาง

5.ใช้เงินลงโฆษณา (Paid Advertising Strategies) วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ได้ผลโดยเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรง และรวดเร็ว คือการซื้อสื่อโฆษณาในสื่อที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ เช่น ซื้อตำแหน่งโฆษณารูปแบบตัวหนังสือ หรือแถบโฆษณา (Banner) ในเวบไซต์ หรือการใช้รูปแบบของการทำแนะนำและบอกต่อในการขาย เพื่อที่จะได้ค่าคอมมิชชั่น (Affiliate Program) ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่คุณจะสามารถได้ผลตอบแทนกลับมาที่แน่นอน และเช่นกันกับผู้ที่แนะนำบริการ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากคุณเช่นกัน

6.อีกหลากหลายวิธีที่น่าลอง (Miscellaneous Strategies) วิธีอื่นๆ ที่น่าลองใช้เช่น การโปรโมทเวบไซต์ของคุณในเวบบอร์ดต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งต้องพยายามหาวิธีที่ไปลงโฆษณาตามเวบบอร์ดต่างๆ ในรูปแบบที่น่าสนใจ และเคารพต่อเวบบอร์ดที่เราไปลงด้วย ไม่ใช่ไปลงซะเวบบอร์ดเค้ามีแต่โฆษณาเต็มไปหมด

หรืออาจจะใช้วิธีแจกของ หรือมีบริการฟรีภายในเวบไซต์ของคุณ เพราะปกติคนชอบของฟรีอยู่แล้ว ดังนั้นเวบไซต์ของคุณจะบอกปากต่อปากไปเรื่อยๆ เช่น แจกฟรีอีเมล, บริการดูดวง, แจกตัวอย่างสินค้าฟรี เป็นต้น
จากวิธีทั้งหมดที่แนะนำมา ผมอยากให้คุณลองเลือกดู และลองนำวิธีต่างๆ นำไปใช้กับเวบไซต์ของคุณดูว่า วิธีไหนที่จะเหมาะกับเวบไซต์หรือธุรกิจของคุณ ซึ่งการโปรโมทเวบไซต์ บางรูปแบบ ก็อาจจะเหมาะสมกับบางธุรกิจ ซึ่งทั้งนี้ยังไม่มีหลักตายตัวที่แน่นอนว่า วิธีไหนจะให้ผลดีที่สุดสำหรับแต่เวบไซต์ อย่างนี้ต้องลองแล้วละครับ....!



เทคนิค75 วิธีโปรโมทโมทเว็บเพื่อเรียกคนดู

เว็บไซต์ของคุณต่อให้ดีสักแค่ไหน คงจะไม่มีประโยชน์ ถ้าขาดการโปรโมทที่ดี เทคนิคต่างๆต่อไปนี้ ลองนำไปใช้ดู นะคะ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ค่ะ

1. ถ้าคุณเพิ่งทำเวบใหม่สดๆเลย ก็เขียนบทความอะไรซักหน่อย แล้วไปส่งที่ Digg, Reddit, และ Now Public
2. สร้าง Yahoo Group เกี่ยวกับเรื่องของเวบเรา
3. สมัคร MySpace แล้วใช้มันช่วยโปรโมท
4. บุ๊คมาร์คเวบเราที่ Del.icio.us และถ้าคุณมีกึ๋นซักหน่อยนะ ก็ใส่ปุ่ม Del.icio.us ไว้ในเวบของคุณด้วย
5. สมัคร Technorati แล้วก็ "claim" Blog ของคุณซะ (อย่าลืมใส่ปุ่ม ไว้ที่เวบ)
6. submit เวบของคุณที่ directories ที่เป็น seach engine friendly แบบฟรีๆ ก็มีเยอะแยะ เช่น Info Vilesilencer
7. ทำแบบสำรวจ นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะโปรโมทแบบ offline (มีใครเคยทำมั้ยง่ะ - -)
8. ไปลงโฆษณาฟรีสำหรับบริษัทของคุณที่ Gumtree
9. ใช้ RSS feeds
10. submit RSS feeds ของเราตาม FeedBurner, Squidoo, Feedboy, Jordomedia, FeedBomb, FeedCat, rssmad, feedirectory, และ Feedboy
11. เขียนบทความที่เกี่ยวกับเวบของคุณ แล้วส่งไปตาม article sites
12. สมัคร StumbleUpon แล้วเรียกเพื่อนๆมาช่วย Stumble
13. สร้างหน้า 404 ของตัวเองไว้ เผื่อว่าคนเข้ามาเจอ error ก็จะ redirect ไปที่อื่นๆที่ดีๆ
14. สร้าง 301 redirect เพื่อจะ redicrect traffic ของคุณจาก non-www มาที่ www

15. ใส่ลิ้งของเวบคุณไว้ใน signature ของเวบบอร์ดที่คุณเป็นสมาชิก
16. บอกเพื่อนๆเกี่ยวกับเวบของคุณ (มันเป็นหารโฆษณาฟรีๆน่ะ)
17. ตรวจคำผิดในเวบของคุณด้วย!
18. เช็คเวบของคุณ browser หลายๆอัน
19. ซื้อโฮสต์ที่ดีพอ ไม่มีใครชอบเวบที่เป็นเต่าคลาน
20. ไม่ต้องกังวลกับ PageRank ไปหาทางโปรโมทดีกว่านะ เดี๋ยว PageRank มันก็ดีตามเอง
21. แจกของฟรี !! คนส่วนมากจะบอกต่อ เมื่อมีของฟรี
22. บอกเพื่อนบ้านของคุณ
23. บอกวิธีที่จะติดต่อคุณให้มากที่สุด msn email yahoo skype เบอร์โทร ที่อยู่
24. ลงโฆษณากับ Craigslist มันฟรี และก็ดีใช้ได้
25. อย่าใช้ Frames
26. Submit เวบที่ DMOZ.org มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย แต่ก็คุ้ม
27. สร้าง Site Map ให้กับเวบของคุณ แล้วส่งให้ Google
28. ทำเสื้อขึ้นสกรีน URL เวบคุณลงไป แล้วก้ใส่มันบ่อยๆด้วย (อืม..คิดได้เนอะ - -")
29. เอาไปให้สาวสวยหุ่นเร้าใจใส่ด้วยซักตัว *-*
30. สมัคร Affiliate program เพื่อขายสินค้าของคุณ หรือว่าถ้าคุณเป็น Publisher ก็โกยเงินกัน!!
31. ในหน้า contact ถามด้วยว่า คุณสนใจจะรับ Newsletter มั้ย
32. ส่ง Newsletter !!
33. เข้าร่วมสัมมนาคนทำเวบ คุณอาจจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆก็ได้
34. หา Blog ดีๆ ดังๆ แล้วก็ไปตอบคอมเม้นไว้ (ใส่ลิ้งเวบคุณด้วยล่ะ)
35. อย่าจ้างคนให้ submit search engines ให้ เสียตังค์เปล่าๆ เพราะอันที่ดังๆมีแค่ Google 50% Yahoo 25% และ MSN 10%
36. ส่งคลิบเข้าพร้อมกับชื่อเวบคุณในคลิบ ที่ YouTube กับ Google Video
37. แจกฟรี e-book แล้วเวบคุณจะเป็นที่ฮือฮา
38. แจก Wordpress Theme, Blogger Theme, หรือ phpLD themes
39. ถ้าคุณขายของที่มีโฆษณาในทีวี เขียนในเวบคุณด้วยว่า "แบบที่เห็นในทีวี"
40. หลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่ไฮโซเกิน เช่น Java หรือ Active x
41. แจกของให้โหลดได้ ระวังลิขสิทธิ์ด้วย
42. เรียนรู้ CSS
43. ตอบคอมเม้น ยิ่งถ้าเป็น Blog ตอบบ่อยๆ
44. ขอให้เวบอื่น หรือ Blogger คนอื่นๆ ช่วย review เวบคุณ หรือว่า สินค้าก็ได้ (แลกกัน review ก็ดี)
45. ใช้ชื่อ page ที่มีความหมาย ไม่ใช่ www.yourdomain.com/pgInfoPages.cfm?cx=50799399822B393BBF95289295A3A10A4F
46. ถ้าคุณจำเป็นจะต้องมี Flash ที่หน้าแรก อย่าลืมใส่ปุ่ม skip ด้วย
47. บอกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หรือ วารสารประจำโรงเรียนเกี่ยวกับเวบของคุณ บางทีถ้าเค้าไม่มีเรื่องจะเขียน หน้าของคุณอาจจะไปโผล่ในนั้นก็ได้
48. จงดังในหมู่คนที่เขียนเรื่องเดียวกัน
49. บริจาคเพื่อการกุศล แล้วส่วนมากเค้าจะใส่ลิ้งแบคให้คุณ
50. ปฏิบัติตามกฏของ W3C standards มันจะช่วยให้คุณอยู่รอดได้ในระยะยาว
51. ทีมกีฬาในโรงเรียน หรือในชุมชน ให้โอกาสคุณเป็น sponsors ในราคาถูกและดี
52. โปรโมทเวบตามบอร์ดต่างๆ แต่อย่าสแปม
53. ขอให้ Blogger เขียนเกี่ยวกับเวบของคุณ โดยแลกกับลิ้งแบค
54. จัดการประกวดแข่งขันขึ้นมาในเวบ
55. ใส่ปุ่ม "ส่งต่อให้เพื่อน"
56. มี site map ในเวบของคุณ เพื่อช่วยผู้เข้าชม และsearch engine
57. ตั้งชื่อที่มีคีย์เวิร์ดตรงๆ ทั้งผู้อ่านและ search engine ชอบ
58. ใส่ปุ่ม FeedBurner ในเวบด้วย คนอ่านจะได้สมัครได้ง่ายๆ
59. Adwords เป็นทางเลือกที่ดี ถ้าคุณใช้มันเป็น
60. ใส่ About Me ใน Blog ผู้อ่านจะรู้สึกว่ามี'คน'ที่กำลังสื่อสารกับเค้า
61. สร้างหน้าเวบ แบนเนอ และโลโก้ไว้บนเวบ เพื่อว่าใครจะเอาไปตีพิมพ์ หรือเอาไปแปะในเวบ
62. ใส่ลิ้งมาที่เวบคุณจาก ebay profile
63. ขอให้เพื่อนของคุณช่วยวิจารณ์เวบแบบตรงๆ
64. E-books ที่มี reseller rights เป็นของแจกที่ดีอย่างนึงสำหรับเวบคุณ
65. submit รูปที่ Flikr
66. แชร์ banner ที่ เวบแลกเปลี่ยน banner
67. ตอบอีเมลล์ของลูกค้าให้เร็ว ไม่มีใครชอบรอ 3-4 วันกว่าจะได้รับคำตอบ
68. Keep It Simple Stupid (KISS) ใช้ CSS ในการวาง layout และ html text อย่าลวดลายมาก
69. อย่าใส่รูปเยอะมากจนเกินไป จะทำให้โหลดช้า
70. ถ้าคุณคิดว่าจะ submit เยอะมากๆ สร้างเมลล์อันใหม่มาเพื่อการนี้ แล้วทิ้งมันไปซะเพื่อลดการ สแปม71. ใส่ Favicon ให้เวบคุณ จะได้โดดเด่นเวลา Bookmark
72. เข้า Yahoo answer แล้วตอบคำถาม พร้อมกับใส่เวบของคุณเปน source
73. อย่าซื้อ traffic มันจะมาแค่วูบเดียว แล้วจากไป
74. ทำความรู้จักกับคนที่อยู่ในวงการเดียวกัน เข้า community เป็นต้น
75. เขียนบทความที่จะมีคนอยากลิ้งถึงมากๆ เช่น บทความนี้ไง

อีกเว็บไซต์นึง ที่ไปเจอมา และอยากเอามาแนะนำกัน

1. Add ทุก Search Engine ทั้งไทย-เทศ
2. ใช้บริการ Webring คือการลิ้งกันเป็นวงแหวนสำหรับเวบที่มีเนื้อหาคล้ายกันที่ www.webring.org
3. หมั่นบันทึก ตามเวบบอร์ดต่างๆ เช่น แสนสุข , สนุก , หรรษา , พันธ์ทิพย์ จะทำให้คนเห็นมากขึ้น
4. แลกลิ้งกับเวบไซด์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน หรือใช้บริการ link exchange เช่น www.linkexchange.com
5. ลงโฆษณาตามเวบไซด์ดังๆ
6. แนะนำเวบคุณกับไทยรัฐ เดลิเวบ
7. ประชาสัมพันธ์ผ่านหน้า AddUrl ตามเวบไซด์ต่างๆ ที่พบ
8. สมัครจัดอันดับเวบไซด์กับเวบไซด์ดัง ๆ ของไทย
9. ประชาสัมพันธ์ผ่าน News Group หรือติดประกาศตามป้ายรถเมล์
10.แจกสติ๊กเกอร์ หรือเสื้อที่มี url ของคุณกับผู้ใช้ หรือแนะนำเวบคุณกับวารสาร

thaiwebeasy

26 ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ให้ยอดวันละหมื่นห้า
เคล็ดไม่ลับ การสร้างเว็บไซต์ให้ผู้เข้าชมติดใจเว็บไซต์คุณ
หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด คุณจะประสบความสำเร็จภายในหนึ่งปี ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นภาษาไทย ยอดน่าจะได้ประมาณ 2000 คนต่อวัน หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่เชื่อนั่นแหละดี เราจะได้พิสูจน์กันไปพร้อมๆกันเลยว่า อีกหนึ่งปีข้างหน้า ยอดเว็บของเราจะพุ่งถึง 2000 คนต่อวัน จริงหรือเปล่า? ลองมาทำตามไปพร้อมๆกันเลยครับ (บทความนี้ เน้นถึงการทำเว็บไซต์ที่เหมาะกับ Search Engine และดึงผู้เข้าชมจาก Search Engine เป็นหลัก)

A) เตรียมตัวให้พร้อม:

    เตรียมตัวคุณให้พร้อม และเตรียมเนื้อหาให้พร้อม เนื้อหาของเว็บไซต์สำคัญกว่าชื่อโดเมนเสียอีก ถ้าหากคุณคิดชื่อโดเมนได้ แต่ไม่มีเนื้อหา คนเข้ามาก็จะรู้สึกแย่กับเว็บคุณ แล้วก็จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลย! ทางที่ดี ควรจะเผื่อเนื้อหาไว้ให้พร้อมซัก 100 หน้าเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญๆก็อย่างเช่น About Us หรือ Company Profile, Contact Us, Privacy Policy, Terms of Agreement เป็นต้น และถ้าเป็นไปได้ ต้องเป็นเนื้อหาที่หาที่ไหนไม่ได้ ตรงมาอ่านที่เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น จะเยี่ยมมากๆ

B) ชื่อโดเมน:

    ต้องเน้นให้ จำง่าย, พิมพ์ง่าย ยิ่งพยางค์น้อย หรือน้อยตัวอักษรได้เท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าจะให้ดีมี keyword สำคัญๆของคุณอยู่ในโดเมนด้วยยิ่งดี แต่บางคนก็คิดว่า ชื่อโดเมนที่มี keyword อยู่ด้วยนั้น "Out" ไม่ทันสมัย เชยระเบิดระเบ้อ นั่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบเป็นการส่วนตัว อย่าง SEO-Thai นี่จะถือว่ายาวก็ได้ สั้นก็ได้อีก หรือชื่อที่ไม่มีความหมายอย่าง Google ใครจะคิดว่าจะดังเปรี้ยงปร้างขนาดทุกวันนี้ นั่นขึ้นกับหลักง่ายๆที่ว่า ของดีเสียอย่าง ใครๆก็อยากได้ เพราะฉะนั้น เตรียมเนื้อหาของคุณให้ดี เอาเวลาคิดชื่อโดเมนเก๋ไก๋ไปทำเนื้อหาดีกว่าครับ

C) ออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ใช้ง่าย และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย:

    ง่ายไว้ก่อน ดีที่สุด ! ดีทั้งกับ Spiders และดีทั้งผู้เข้าชม, ดีกับ Spiders จะทำให้คนค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย และทำให้มีคนเข้ามามาก และเมื่อเข้ามาแล้วเว็บไซต์ใช้งานง่าย ทำความเข้าใจง่าย เนื้อหาก็ดี โดเมนจำง่าย ใครจะไม่เข้ามาอีก :) คุณอาจจะถามไปอีกว่า ง่ายน่ะ ง่ายยังไง เว็บของผมไม่เห็นจะใช้งานยากตรงไหนเลย? ผมมีวิธีทดสอบสองวิธีครับ

    วิธีแรก ให้ลองนึกไปถึงวันแรกๆที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เนต ความรู้สึกในวันนั้น คุณคงจำได้ว่า มันเงอะๆงะๆไปหมด ปุ่มไหนคืออะไร จะไปหน้าอื่นต้องทำอย่างไร รู้สึกว่ามันมีปุ่มอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมด เอาง่ายๆ Mouse ยังใช้ไม่คล่องเลย! จริงมั้ยครับ? ลองนึกไปถึงวันนั้น แล้วดูเว็บของคุณอีกทีว่า ถ้าคุณในวันนั้นมาเข้าชมเว็บคุณ จะรู้สึกอย่างไร?

    วิธีที่สอง เป็นวิธีทดสอบโดยใช้อาสาสมัคร โดยคุณจะต้องหาคนที่ไม่เคยใช้เว็บของคุณเลย จะเป็นคนที่ใช้อินเทอร์เนตคล่องอยู่แล้ว หรือจะเป็นมือใหม่หัด Serve Net ก็สุดแท้แต่ ขอให้มีเขายินดีมาเป็นตัวทดสอบเป็นใช้ได้ การทดสอบก็ง่ายๆ โดยการที่คุณตั้งโจทย์ให้ผู้ทดสอบทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณเช่น อาจจะให้ลองเลือกซื้อของ หรือหาบทความที่มีอยู่ในเว็บ และคุณนั่งดูอยู่ข้างหลัง ดูอย่างเดียวนะครับ ห้ามแนะนำใดๆทั้งสิ้น ดูว่าเขาใช้งานได้คล่องเหมือนคุณหรือเปล่า? ถ้าไม่เกิน 20 นาทีก็ถือว่าผ่านครับ :)

    อีกอย่างก็คือต้องพยายามจัดเนื้อหาของหน้าแรกให้ตรงกับกลุ่มคำ หรือข้อความในหัวข้อหลักของเว็บ มันจะมีความจำเป็นเมื่อ search engine ส่ง bot มาสำรวจเว็บของคุณมันจะได้รู้สึกว่าเว็บของคุณมีเนื้อหาไปในทำนองเดียวกับ meta-tag หรือ title จริงๆ

    ความเร็วอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง การทำให้โหลดเร็วเข้าว่าเพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้เว็บขาดความน่าสนใจไป มันอยู่ที่ว่าคุณจัดสรรหรือคัดเรื่องเด่นแค่ไหนเข้ามาลงหน้าแรก

D) ขนาดของข้อมูลในแต่ละหน้า (File Size):

    ยิ่งเล็กยิ่งดี แต่กำลังพอดีจะดีที่สุด :) ถ้าเนื้อหามีน้อยก็ควรใส่รูปภาพประกอบ ตกแต่งให้สวยงาม แต่ถ้าเนื้อหามีมาก ถ้าใส่ไว้ในหน้าเดียวอาจจะทำให้โหลดข้อมูลนานเกินไป ควรจะทำการแบ่งเป็นหน้าๆ ตั้งชื่อแต่ละหน้า ตามหัวข้อของหน้านั้นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของไฟล์มากจนเกินไป ควรจะแบ่งให้อ่านแล้วรู้เรื่อง ไม่ใช่แบ่งซอยยิบเกินไป หวังให้โหลดเร็ว อย่างนั้น Search Engine ชอบ แต่คนไม่ชอบ เข้ามาแล้วอาจจากไปลับก็ได้ ควรให้พอดีๆ

E) เนื้อหา:

    ทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ โดยการตั้ง Keyword เป็นตัวตั้ง ยกตัวอย่างเช่น เว็บของคุณขายต้นไม้ส่งในประเทศ คุณอาจจะเลือก "ไม้ประดับ" หรือ "ไม้มงคล" เป็น Keyword แล้วทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เลือกไว้ แล้วคอย Update อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่า "ไม้มงคล" หรือ "ไม้ประดับ" ของคุณจะออกดอกออกผลให้ได้ชื่นชมแน่ๆ

F) จำนวน Keyword และการจัดวางตำแหน่งในแต่ละหน้า:

    แน่นอนว่า ถ้าคุณอยากให้ Search Engine หาคุณพบด้วย Keyword คำไหน แต่ไม่มีคำนั้นๆในเว็บไซต์ของคุณเลย จะเป็นไปได้หรือ? และถ้ามีมากจนล้นเลยยิ่งแล้วใหญ่ (Spam) Search Engine เกลียดนัก ถือว่าดูถูกความสามารถกันอย่างร้ายแรง คุณต้องระวังให้จงหนักเลย ทางที่ดีควรจะมีไม่เกิน 5% ต่อจำนวนคำทั้งหมดในหน้านั้น (ไม่นับ Tag HTML) แต่ถ้าจำเป็นจะต้องมี Keyword คำนั้นๆมากๆ เพราะเหตุการณ์บังคับ ก็ควรจะใช้มุขเดิมคือ แบ่งเป็นหลายๆหน้า หรือหาเนื้อหาอื่นๆมาเพิ่ม ลดทอนจำนวน Keyword นั้นลง

G) การเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่นๆ:

    เชื่อมโยงถึงเว็บไซต์ใหญ่ๆ ด้วย Keyword ในหน้านั้นเป็นการอ้างอิงให้ผู้เข้าชมเชื่อถือ แถมยังอ้างให้ Search Engine รู้ด้วยว่าเราเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆได้ง่ายยิ่งขึ้น (Ralate Link) เพราะเว็บไซต์ใหญ่ๆนั้น Search Engine รู้จักดีอยู่แล้ว เมื่อเราอ้างถึงเว็บไซต์นั้นๆ Search Engine จะสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณ กับ Keyword ที่คุณ link ออกไป เปรียบเหมือนการแนะนำตัวกับ Search Engine เว็บไซต์ของเราอยู่หมวดหมู่ไหนนั่นเอง

H) โครงสร้างของการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของคุณ (Cross Links หรือ Link Structure):

    cross links ก็คือ links การเชื่อมโยงข้อมูลภายใน website ของเรานั้นเอง ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหาร คุณอาจจะต้องมีการเชื่อมโยงไปยัง หน้า แอปเปิ้ล หรือ ผักผลไม้อื่นๆ หรืออะไรก็ตามที่ชื่อพ้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกหน้า แต่ถ้าคุณขยันและมีเวลาพอละก็ ผมแนะนำให้คุณทำ link ในคำทุกคำที่สามารถ link ได้ แต่ต้องไปหาหมวดหมู่หรือหน้าที่เกี่ยวข้องนะครับ และที่สำคัญมากๆ ทุกหน้าควรมี link ไปหน้าแรกเสมอ ห้ามลืม เด็ดขาด!!!

I) ได้เวลาออนไลน์:

    ถ้าคุณมีทุนทรัพย์เพียงพอ คุณควรเลือก Hosting ที่มี IP ให้สำหรับคุณคนเดียว ไม่ควรเลือกแบบ Virtual Host แต่ถ้าเบี้ยน้อย หอยน้อย เลือก ็Host ราคาถูกๆ แต่ไม่ค่อยล่ม ก็พอได้อยู่ เมื่อมี Hosting แล้ว เนื้อหาพร้อมแล้ว link sturcture ทำได้นวลเนียนดีแล้ว ก็ออนไลน์ออกสู่โลกกว้างได้เลยครับ และขอให้จำไว้เลยว่า ถ้าไม่พร้อม อย่าเพิ่งออนไลน์เด็ดขาด นอกเสียจากคุณไม่แคร์ และคุณมีวินัยเพียงพอที่จะเพิ่มเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมแนะนำให้คุณใจเย็นๆ รอให้พร้อมก่อนดีกว่าอยู่ดี

J) Submit:

    ได้เวลาของการโฆษณาแล้วครับ ขั้นตอนนีคือการเอาเว็บของคุณไป submit ตาม search engine ต่างๆ เท่านี้แหละครับ อย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับการจัดอันดับในเร็ววันครับ คอยตรวจสอบบ้างสัปดาห์ละครั้งก็พอ

K) ตรวจสอบและติดตามผล:

    ทำได้โดยการวิเคราะห์ log ครับ ไม่ต้องไปสนใจข้อมูล graphics ที่สวยงามแต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร ทำนอง "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ไม่เอาครับ logs file คือสิ่งที่เราต้องการ อย่าลืมดูว่า logs มีข้อมูล referer หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ย้าย hosting ดีกว่าครับ ถ้าคุณอ่าน Logs File ไม่เป็น ผมแนะนำให้คุณจ้างโปรแกรมเมอร์ มาจัดส่วนตรงนี้ให้คุณดีกว่า บอกความต้องการเขาไปว่า อยากให้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ Log File ให้แสดงผลออกมาในแบบคุณอ่านรู้เรื่อง หรือหาๆเอาใน internet นี่แหละครับ ของฟรี ดีด้วย ยังมีอีกเยอะ เพียงแต่คุณจะหามันเจอหรือเปล่าเท่านั้นเอง

L) เอาอกเอาใจ Spider ให้มากๆเข้าไว้:

    ให้คุณคอยดูว่า มีแมงมุม (Spiders) มีล่าเหยื่อ (เนื้อหา) ของคุณไปติดหรือยัง? หมายความว่า Search Engine ส่ง Bot หรือ Spider เข้าไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณไปหรือยัง ตรวจสอบง่ายๆด้วยการใช้คำสั่ง site:www.seo-thai.com โดยเปลี่ยนจาก seo-thai เป็นชื่อโดเมนของคุณเอง เท่านี้ คุณก็จะได้รู้ว่า แมงมุมฮุบเหยื่อยัง :) ถ้ายัง ต้องรีบมาตรวจแล้วว่าผิดกฏของ Search Engine บ้างหรือเปล่า? โครงสร้าง Link ดีหรือไม่อย่างไร มีเว็บอื่นสร้าง link มาหาคุณบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มีเลย คุณก็ต้องหาพันธมิตรให้ได้ ไม่งั้นเว็บของคุณก็จะกลายเป็นเว็บร้างแน่ๆ

M) จัดหมวดหมู่ให้เรียบร้อย เน้นเข้าใจง่าย ใช้ง่ายเป็นหลัก:

    พยายามจัดหมวดหมู่ของ keyword ให้เป็นเรื่องเดียวกับ topic ของมันครับ ไม่มีอะไรมาก :)

N) Links จากเว็บประเภทเดียวกัน:

    ในกรณีที่เว็บของคุณได้รับการ index บน www.dmoz.org แล้ว ให้คุณพยายามขอแลก link กับเว็บในหมวดหมู่เดียวกัน ถ้าเขาไม่ยอมรับแลกก็ไม่เป็นไร ขอกับเว็บอื่นก็ได้ ใครก็ได้ที่ยอมรับการแลกกับเรา เน้นให้พยายามแลก link กะเว็บที่ค่อนข้างจะมีการ update อย่างต่อเนื่อง

O) เนื้อหาๆๆ:

    ควรจะมีหน้าที่มีเรื่องที่เด่นๆ ในแต่ละวัน โดยถ้าเป็นบท ความยาวๆ หน่อยจะดีมาก อย่าพยายามลงในเรื่องที่มีคนสนใจน้อย หรือเรื่องที่มันกว้างเกินไป อันนี้คุณต้องกลับไปค้นหนังสือวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเรียงความมาอ่านสักหน่อยก็จะดีครับ เขียนให้อ่านง่ายๆไว้ก่อน สำนวนภาษาเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ก็ฝึกกันได้ ขอให้เขียนทุกวันเป็นใช้ได้ เมื่อครบปีแล้ว คุณลองกลับมาอ่านบทความแรกๆที่คุณเขียน คุณจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทีเดียว

P) ลูกเล่น ต่างๆ:

    พยายามหลีกเลี่ยงลูกเล่นแปลกๆ ที่อาจจะสร้างความ สนุกให้ท่าน แต่นั่นอาจจะสร้างความรำคาญให้แก่คนที่เข้ามาชมก็เป็นได้ พยายามให้มันดูกลางๆ ไม่จืดหรือหวือหวาจนน่ารำคาญ

Q) Link จากเว็บพันธมิตร:

    ข้อนี้จะต่างจากข้อ N ตรงที่อาจจะเป็น Link ที่ไม่ได้มาจากเว็บในประเภทเดียวกัน แล้วจำเป็นที่จะต้อง Link กลับไปหาเว็บนั้นๆด้วย เรียกง่ายๆว่า "การขอแลก Link" นั่นเอง อันนี้ผมแนะนำว่าคุณจำเป็นต้องเลือกสักหน่อย อย่า Link ไปสะเปะสะปะ เพราะถ้า link ปลายทางเป็น เว็บโป๊ ละก็ ภาพลักษณ์ของเว็บของคุณก็จะถูกมองเป็นเว็บแนวๆนั้นทันที เสียทั้งหน้าตา และ Search Engine ก็จะงงกับเว็บคุณอีกด้วย

R) บริการเสริม:

    เพิ่มบริการเสริมที่จำเป็นอย่างเช่น "ส่งเว็บนี้ให้เพื่อน" กระดานสนทนา หรือจดหมายข่าว เป็นต้น เท่านี้ก็แทบจะเพียงพอแล้ว อย่าเพิ่มลูกเล่นอื่นๆที่ไม่จำเป็น เพราะนั่นอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการจ้างทำเว็บของคุณสูงจนเกินจำเป็น แถมยังเปล่าประโยชน์อีกด้วย

S) อย่ายัดเยียดโฆษณา!:

    ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการโฆษณาสักหน่อย อย่ายัดเยียดจนดูน่าเกลียด ต้องทำให้ดูแนบเนียนประมาณว่า ผู้เข้าชมได้รับชมโฆษณาไปโดยไม่รู้ตัว อย่างนั้นได้ยิ่งดี โปรดระลึกไว้เสมอว่า ผู้ชมเข้าเว็บของคุณเพราะต้องการเนื้อหา หรือ สินค้าที่ต้องการ ไม่ใช่ "โฆษณา"

T) เพิ่มเนื้อหา หรือ สินค้า บ่อยๆและสม่ำเสมอ:

    ควรเพิ่มเนื้อหา หรือบทความอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเว็บไซต์เลยทีเดียว

U) เรียนรู้เรื่อง Logs:

    หลังจากเปิดดำเนินการได้ 30-60 วัน ก็ได้เวลาที่จะต้อง ทำตัวเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลกันแล้วครับ ข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์ก็ควรจะนำมาจาก Log Files นั่นเอง คุณควรจะคอยดูว่าผู้เข้าชมใช้ Keyword คำไหนเข้ามาสู่เว็บคุณ อาจจะเป็นคำที่คุณไม่ได้เตรียมไว้ (Optimize) ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณควรจะ Optimize เพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้าชม มักจะใช้คำว่า "orange citrus fruit" แต่ว่าคุณเตรียมเนื้อหาไว้สำหรับคำว่า "oranges" ฉะนั้นคุณควรจะเตรียมเนื้อหาสำหรับคำว่า "citrus" และ "fruit" แล้วก็ทำ Cross Links ถึงกัน

V) การกะระยะเวลา:

    เมื่อทำให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมแล้ว ไม่ได้ทำให้คุณหมดหน้าที่ไป เพราะคุณยังคงต้องเฝ้าประคบประหงม เว็บของคุณให้ติดอันดับต่อไปอีก เหมือนขี่หลังเสือไม่อาจจะลงได้ การะวิเคราะความเป็นไปก็ยังค้องต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะครับว่า กว่าที่ keyword ของคุณจะไปประกฎใน search engine อาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน เช่นถ้าคุณต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของ คุณปรากฏอยู่ใน search engine ในตอนต้นปี คุณอาจจะต้องทำ web ให้เสร็จก่อนหน้านั้นถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย

W) เพื่อนและพันธมิตร:

    ในโลกความเป็นจริงคุณต้องมีเพื่อนหรือทำความรู้จักผู้คน ในโลกอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน คุณควรจะทำความรู้จักผู้คน โดยการเข้าที่กระดานสนทนา หรือ กระดานข่าวในเรื่องที่คุณสนใจ แต่ว่ากระดานสนทนาเกี่ยวกับ SEO ในบ้านเรายังไม่เห็นมี คุณต้องหากระดานสนทนาของประเทศ เช่น http://www.searchengineworld.com เป็น และเมื่อคุณเข้าไปแล้ว ก็ใช่ว่าควรจะอ่านอย่างเดียว คุณควรจะสมัครสมาชิก รับจดหมายข่าว แสดงความเห็นหรือสอบถามบ้าง อย่าลืมว่ากระดานข่าวไม่ใช่แค่เข้าไปแล้ว อ่านๆ อย่างเดียว แต่กระดานข่าวตอบคำถามคุณได้

X) อย่าลืมจดบันทึกไอเดียเด็ดของคุณ:

    หากคุณเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆทุกวัน นั่นอาจจะทำให้คุณต้องใช้สมองจนเครียดพอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นบางครั้งคุณอาจจะคลายเครียดโดยการเปลี่ยนกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น ออกไปเดินเล่น อาบน้ำ แต่เมื่อหลังจากการคลายเครียดแล้ว บางครั้งรายระเอียดที่คุณพยายามคิดมาตั้งนาน ก็พลันหายไปพร้อมกับความเครียด!! ผมแนะนำว่า คุณควรจะจดบันทึกไอเดียของคุณเอาไว้ทุกครั้งที่นึกออก หรือก่อนจะออกไปพัก หรือถ้าคุณมีเครื่องบันทึกเสียงก็ยิ่งดี มันจะช่วยคุณได้ในกรณีที่ไอเดียของคุณหลั่งไหลออกมาจนคุณจดตามไม่ทัน คุณอาจจะพูดๆๆ ใส่เครื่องบันทึกเสียง แล้วค่อยกรอกลับมาฟังใหม่ รับรองไอเดียเด็ดของคุณจะไม่สูญหายไป

Y) ตรวจสอบผลการ Submission เมื่อผ่านไปได้ 6 เดือน:

    กลับไปดูว่าผลการ Submission กับ Search Engine ต่างๆ หรือ Directory ต่างๆ อย่างเช่น ODP นั้น Index เว็บไซต์ของคุณให้หรือยัง? ถ้ายัง คุณต้อง ReSubmit ไปอีกครั้ง คราวนี้จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะคุณมีเนื้อหาหรือสินค้ามากกว่าเดิม 180 หน้าแล้ว :)

Z) พยายามสร้างเนื้อหาที่ Search Engine ชอบ ทุกๆวัน:

    เนื้อหาที่ Search Engine ชอบเป็นอย่างไร? อธิบายง่ายๆก็คือเนื้อหาที่มีการคัดกรองมาอย่างดี มีบทนำ มีเนื้อหา มีบทสรุป เน้นในสิ่งที่ควรเน้น มีจำนวนคำต่อหน้าที่พอเหมาะ มีการอ้างอิงถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับความนิยม (มีจำนวน Link มาหามาก) ไม่ทำผิดกฏของ Search Engine ไม่ใช้ ลูกเล่นหรือ HTML ที่ซับซ้อนจนเกินกว่าที่ Search Engine จะเข้าใจได้ (Search Engine ไม่ฉลาดเท่า Browser)
    จะว่ายากก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นักที่จะทำให้ได้ครบทุกข้อ แต่ถ้าคุณคิดเนื้อหาไป แล้วก็ Optimize ไปด้วย ผมรับรองว่ายากแน่ๆ คุณควรจะคิดเนื้อหาให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นให้ทำเว็บไซต์ด้วย HTML Code ง่ายๆก่อน แล้วจึง Optimize เป็นอันดับสุดท้าย ถ้าคุณทำได้ครบ สิ้นปี คุณจะมีจำนวนหน้าที่คุณภาพคับแก้ว เกือบ 400 หน้าทีเดียว!


ขั้นตอนทั้งหมด 26 ขั้นตอนนี้ ถ้าทำตามทั้งหมดแล้วรับรองว่าคุณจะเพิ่มยอดผู้เข้าชมให้คุณได้แน่นอน อยู่ที่ว่าคุณจะทำเต็มที่แค่ไหน? ตั้งใจอย่างต่อเนื่องแค่ไหน? อย่างน้อยๆก็ 500 - 2000 คนต่อวัน และหากคุณเพิ่มเนื้อหาดีๆ วันละ 4-5 บทความ หรือถ้าเว็บของคุณขายสินค้า คุณก็ควรจะมีรายละเอียดสินค้าแบบละเอียดในทุกๆสินค้าที่คุณขายบนเว็บของคุณ นั่นอาจจะทำให้ยอดผู้เข้าชมพุ่งไปถึง 15000 คนต่อวันก็เป็นได้ ขอให้คุณโชคดี และมีความสุขกับการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณ

ด้วยความปราถนาดี  www.thaiwebeasy.com
อยากให้ทุกธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน


margin



thaiwebeasy

นำมาฝากต่อเลยค่ะ  เว็บดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ต่อจาก วิธีทำเว็บให้ดีทำอย่างไร

หัวข้อนี่อาจจะไกล้เคียงกับหัวข้อ "การทำเว็บให้ดีทำอย่างไร" ใครยังไม่ได้อ่านลองกลับไปอ่านนะค่ะ ตอนนี้ขอเข้าเรื่องเลยและกัน การทำเว็บไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะยากตรงทำให้ดีค่ะ

เว็บหากท่านทำไม่ดีแล้ว ทุกๆสิ่งทุกๆอย่งที่สร้างมาก็เสียไปโดยใช่เหตุ สำหรับหลายๆท่านที่ต้องการหาคนทำเว็บ ออกแบบเว็บไซต์ หรือ หาคนดูแลเว็บไซต์ รวมไปถึงการปรับแต่งเว็บ อยากจะขอแนะนำให้ทราบในหลายๆเรื่อง ซึ่งที่จริงจะแนะนำให้กับทางลูกค้าทุกๆรายอยู่แล้วสำหรับเรื่องเหล่านี้

เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะค่ะ
บางท่านอาจจะมองว่าขอแค่มีเว็บก็พอ แต่นั่นไม่ใช่ความจริงค่ะ หากท่านมีเว็บไซต์แล้วก็เหมือนหน้าตาของบริษัทหรือ ธุรกิจของท่านค่ะ ทำเว็บให้สวยให้ดี จะช่วยให้ท่านมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นไป

หากแต่บริษัทใหญ่ๆดังๆมีเว็บไซต์ แต่เว็บของท่านเข้าไปแล้ว ดูเหมือนแค่คำว่า (มีเว็บ) เว็บของท่านก็จะไม่มีความหมายอะไรเลยกับธุรกิจของท่าน แต่หากเว็บไซต์พร้อมด้วยข้อมูลที่ลูกต้องการ ย่อมหมายถึงความใส่ใจในการให้บริการด้วยส่วนหนึ่ง อาจจะไม่ทั้งหมดนะค่ะ

ต่อมาก็เรื่องหน้าตาของเว็บไซต์ก็มีส่วน หน้าตาดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ใช่ว่าจะสวยแล้วจะดีไปหมดนะค่ะ บางสิ่งบางอย่างอยากให้กระทำตามความสมควร หรือ ความเหมาะสมจะดีที่สุดค่ะ เพราะหากท่านทำเว็บออกมาสวยหรูแล้ว แต่ไม่มีคนเข้าชม เพราะปัญหาหลายๆอย่าง สิ่งที่ท่านออกแบบมาก็ไม่มีความหมายอยู่ดี

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การจัดวางขององค์ประกอบ ของหน้าเว็บไซต์ต้องเหมาะสม ใช่ว่าอยากใส่ก็จะใส่ อยากวางตรงนี้ก้จะวางนะค่ะ สิ่งนี้สำหรับเราแล้วจะต้องแนะนำสิ่งที่เหมาะสมให้กับลูกค้าก่อน แต่หากลูกค้าบางท่านยังดื้อดึง อยากได้ทางเราก็ทำให้ได้ ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำให้นะ อิอิ
ในส่วนนี้การแนะนำ จะอยู่ในวงของประสบการณ์ของทีมงานผู้พัฒนา เพราะอาจจะได้พบได้เจอและได้อ่าน ศึกษาข้อมูล ความเหมาะสมกับการ ออกแบบ และ เขียนโปรแกรมด้วยความชำนาญ ที่แต่ละทีมมีครับ อยู่ที่เขาจะแนะนำหรือไม่เท่านั้นเอง อิอิ

สำหรับเว็บไซต์ที่ดี อาจจะมองไปยังส่วนของโปรแกรม ในส่วนของ Error ต่างๆ เว็บบางเว็บจะใช้ javascript และเว็บเหล่านั้นมักจะมี error ที่มองไม่เห็นหากการใส่ script ไม่ถูกต้อง ในส่วนนี้หากเป็นไปได้ก็ควรที่จะไม่มี error แต่สำหรับ warning อาจจะหนีไม่ได้ที่จะไม่มีเลย

โครงสร้างของ code รวมไปถึงการจัดเก็บไซต์ต่างๆบนเว็บของท่าน ส่วนนี้สำหรับทางทีมเราแล้วจะมีการวางรูปแบบไว้เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน สำหรับโปรแกรมเมอร์ แต่สำหรับหัวข้อนี้ ไว้จะอธิบายอีกครั้งจากประสบการณ์ในการเข้าไปแก้ โปรแกรมของบางเว็บ ที่ไม่มีการวางระบบระเบียบของไฟล์ให้ดี

ทางเราหวังว่าจะเป็นบทความที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอื่นๆ หรือ ลูกค้าต่างๆ และ ช่วยให้ท่านเข้าใจว่าการออกแบบที่ดีนั้นไม่ยาก อยากให้ทุกท่านได้รับความรู้ไปพร้อมๆกันนะค่ะ


thaiwebeasy

ประโยชน์ของเว็บไซต์มีมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจ
ประโยชน์ของเว็บไซต์ในในแวดวงธุรกิจ
เว็บไซต์สามารถประยุกต์เข้ากับธุรกิจได้อย่างลงตัว

และสามารถสร้างมูลค่ารายได้อย่างมหาศาลในธุรกิจ และการค้าทุกประเภททุกแขนงในอนาคตอันใกล้นี้

จะเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ออนไลน์

1 ) ใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน

เนื่องจากข้อได้เปรียบของเว็บไซต์ที่ออนไลน์อยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงใน 365 วัน

โดยไม่มีวันหยุด และประการสำคัญทุกคนในโลกนี้สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา

เพียงแต่จะทำอย่างไรจึงจะให้คนจากทุกมุมโลกเข้าถึงได้ และเว็บไซต์ดังกล่าว

ควรเป็นเว็บไซต์มาตรฐาน ( ไม่ใช่เว็บไซต์แจกฟรีทั่วไป ซึ่งไม่แน่นอนจะถูกปิดเมื่อใดก็ได้ )
2 ) ใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ธุรกิจให้คนทั่วไปได้รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เว็บไซต์สร้างแบรนด์ได้เช่นกัน คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และรู้จักสินค้าของท่านมากขึ้น ซึ่งนับวันความสำคัญของเว็บไซต์ต่อธุรกิจในยุคโลกาภิวัฒน์จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ ธุรกิจใดไม่มีเว็บไซต์ก็จะเป็นธุรกิจที่ล้าหลัง ตกยุคไปสุดท้ายก็ต้องยุติลง การมีเว็บไซต์ในทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องมีทุนมากมายอย่างแต่ก่อน มีทุนหลักพันก็สามารถทำได้ และไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมได้ เพียงคุณมีพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์เล็กน้อยก็สามารถทำได้แล้ว คุณสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ หรือเถ้าแก่ออนไลน์แบบง่ายๆ แต่ต้องมีหลักการและเรียนรู้ระบบพอสมควร ร้านค้าออนไลน์ส่วนบุคคลหรือคนเดียวทำเองมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ล่มสลายเลิกร้างไปทุกวันเหมือนกัน เหตุเพราะขาดความรู้ความเข้าใจ คิดอยากจะทำก็ทำ เห็นเขาทำแล้วขายได้ดี แต่หารู้ไม่ว่ากว่าเขาจะขายดีได้ เขาต้องผ่านการเรียนรู้ฝึกอบรมมาสารพัดล้มลุกคลุกคลาน ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคมากมาย แต่สมัยนี้การทำร้านค้าออนไลน์ง่ายขึ้น สามารถลดความเสี่ยงต่อการเจ๊งได้ เพราะมีที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยงมากมายคอยแนะนำ แต่ส่วนมากคนไทยเราไม่นิยมใช้ ฉายเดี่ยวคนเดียว ผลออกมาก็คือ ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งขณะนี้ก็มีให้เห็นทุกวัน เปิดเว็บไซต์ได้ระยะหนึ่ง ขายไม่ได้แล้วก็ถอดใจออกไปจากระบบไหนๆก็ลงทุนแล้ว ทำไมไม่เลือกการลดความเสี่ยงในเมื่อมีทางให้เลือก???www.thaiwebeasy.com


thaiwebeasy

บริษัท ดิจิอาร์ต มีเดีย จำกัด
491/12 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
Tel : 074-243821 Fax : 074-366883
Hotline: 084-8598989 , 090-1789889
E-mail :  info@thaiwebeasy.com
เข้ามาดูผลงานของเราได้ที่ www.thaiwebeasy.com  โทรมาสอบถามได้นะค่ะ  ใจดีนิ