ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ท่านรู้จักบัตรเดบิต ดีแค่ไหน? (บทความการเงิน)

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 09:50 น. 06 ส.ค 56

ทีมงานบ้านเรา

ประภัทร พูนสิน
ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

[attach=1]

สื่อการชำระเงินเป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบการชำระเงิน ซึ่งมีวิวัฒนาการเรื่อยมาตั้งแต่สื่อการชำระเงินที่ซับซ้อนน้อย เช่น ธนบัตร หรือเช็ค ไปจนถึงสื่อการชำระเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น บัตรชำระเงิน หรือโทรศัพท์มือถือ และในอนาคตสื่อการชำระเงินอาจจะพัฒนาไปถึงขั้นที่ไม่ต้องพึ่งพาสื่อกลางอย่างธนบัตร หรือบัตรชำระเงิน แต่นำข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric) เช่น ลายนิ้วมือ เสียง หรือม่านตา มาประยุกต์เพื่อใช้แสดงตัวตนในการชำระเงินก็เป็นได้

ในยุคปัจจุบัน บัตรชำระเงินถือเป็นสื่อการชำระเงินที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบการชำระเงิน เห็นได้จากจำนวนบัตรชำระเงิน  ต่อจำนวนประชากรของไทยในปี 2555 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 1.1 บัตร/คน นั่นหมายถึง ประชากรในประเทศไทยทุก ๆ 1 คน จะมีการถือครองบัตรชำระเงินอย่างน้อย 1 บัตร ซึ่งหากจะแบ่งประเภทของบัตรชำระเงิน โดยจำแนกตามลักษณะการชำระเงิน เราสามารถแยกออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

1.   ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (Buy now, Pay later) ได้แก่ บัตรเครดิต กล่าวคือ ทันทีที่ผู้ถือบัตรทำรายการซื้อสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต ผู้ถือบัตรสามารถรับสินค้าและบริการได้ทันที โดยที่ผู้ถือบัตรจะชำระเงินให้แก่ผู้ให้บริการบัตรเครดิตในภายหลัง

2.   ซื้อตอนนี้ จ่ายตอนนี้ (Buy now, Pay now) ได้แก่ บัตรเดบิต และ บัตรเอทีเอ็ม กล่าวคือ เมื่อผู้ถือบัตรทำรายการซื้อสินค้าและบริการด้วยบัตรดังกล่าว ยอดเงินในบัญชีเงินฝากที่ผูกไว้กับบัตรจะถูกตัดบัญชีในทันที ด้วยลักษณะการชำระเงินดังกล่าวทำให้หลายท่านเข้าใจว่าบัตรทั้ง 2 ชนิดมีลักษณะการใช้งานเหมือนกันทุกประการ โดยลืมไปว่าบัตรเดบิตมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งนอกจากการใช้บัตรเดบิตเพื่อถอนเงินสด ฝากเงิน โอนเงิน หรือชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านตู้เอทีเอ็มได้เหมือนกับบัตรเอทีเอ็มแล้ว บัตรเดบิตยังสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับบัตร และหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

3.   ซื้อตอนนี้ จ่ายก่อนหน้านี้ (Buy now, Pay before) ได้แก่ บัตร e-money เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้า หรือบัตรซื้ออาหารตามฟู้ดคอร์ท กล่าวคือ ผู้ถือบัตรต้องชำระเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้บริการบัตรดังกล่าวก่อน จากนั้นผู้ถือบัตรจึงสามารถนำบัตรไปซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายได้


ทั้งนี้ การใช้บัตรชำระเงินทั้ง 3 ประเภทถือเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน เพื่อทดแทนการใช้เงินสดที่มีต้นทุนสูง ซึ่งบัตรชำระเงินที่ควรส่งเสริมให้ใช้อย่างแพร่หลาย คือ บัตรเดบิต เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องรายได้ของผู้สมัครเหมือนกับการสมัครบัตรเครดิต สามารถใช้ได้กว้างขวางกว่าบัตรเอทีเอ็ม และที่สำคัญการใช้จ่ายด้วยบัตรเดบิตเป็นการใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดภาระหนี้แก่ผู้ถือบัตรอีกด้วย

จากข้อมูลสถิติการใช้บัตรเดบิตในปี 2555 ซึ่งมีมูลค่า 9,234,000 ล้านบาท เป็นการใช้บัตรเดบิตชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับบัตรมีมูลค่า  93,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 1 ในขณะที่ส่วนใหญ่ยังใช้บัตรเดบิตเพื่อถอนเงินสด และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ (เช่น โอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการ และฝากเงิน ผ่านตู้เอทีเอ็ม) ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4,972,000 และ 4,259,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 53.3 และ 45.7 ของมูลค่าการใช้บัตรเดบิต ตามลำดับ

ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้งานที่ไม่ต่างกับการใช้บัตรเอทีเอ็ม ทั้ง ๆ ที่บัตรเดบิตสามารถใช้งานได้หลากหลายกว่า
เพื่อเป็นการทำความเข้าใจถึงคุณลักษณะเฉพาะของบัตรเดบิต รวมทั้งประโยชน์หรือข้อดีที่แฝงอยู่ซึ่งผู้ถือบัตรเดบิตจะได้รับจากการใช้บริการนั้น ผู้เขียนขอชี้แจงรายละเอียดเป็นรายประเด็น ดังนี้

1.   ไม่ต้องพกพาเงินสด  ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดในการซื้อสินค้าและบริการได้ ทั้งที่ร้านค้าที่รับบัตร และทางเว็บไซต์ที่ขายสินค้าและบริการ เช่น การซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า และการจองตั๋วเครื่องบินผ่านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น นอกจากเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือบัตรโดยไม่ต้องพกพาเงินสดแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่เงินสดจะสูญหาย ในกรณีที่บัตรเดบิตเกิดสูญหายหรือถูกโจรกรรม ผู้ถือบัตรสามารถแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรให้ดำเนินการอายัดการใช้งานของบัตรนั้น ๆ ได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียของเงินในบัญชีจากกลุ่มมิจฉาชีพ

2.   สร้างวินัยในการใช้จ่าย เนื่องจากการใช้บัตรเดบิตเป็นการตัดบัญชีเงินฝากทันทีที่มีการใช้จ่าย ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายเท่าที่ยอดเงินในบัญชีเงินฝากของตนยังมีอยู่ ซึ่งผู้ถือบัตรต้องบริหารเงินฝากที่ตนเองมีอยู่ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในอนาคต และที่สำคัญการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเป็นการใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดหนี้ ซึ่งไม่เหมือนกับการใช้บัตรเครดิต

3.   ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องรายได้ของผู้ถือบัตร โดยทั่วไปในการสมัครบัตรเครดิตผู้สมัครต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน แต่สำหรับการใช้บัตรเดบิตนั้น เพียงท่านมีบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินก็สามารถสมัครใช้บริการบัตรเดบิตกับสถาบันการเงินนั้น ๆ ได้ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีรายได้น้อย หรือไม่มีรายได้ เช่น นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น

4.   ส่วนลด หรือของสมนาคุณจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ปัจจุบันผู้ให้บริการบัตรเดบิตหลายแห่งได้ทำการตลาดในส่วนของบัตรเดบิตมากขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการต่าง ๆ จัดรายการส่งเสริมการขายโดยการเสนอสิทธิพิเศษต่าง ๆ แก่ผู้ถือบัตร เช่น การมอบส่วนลด แต้มสะสมเพื่อแลกของรางวัล หรือผู้ให้บริการบางรายก็มีการเสนอคืนเงิน (cash back) แก่ผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต กล่าวคือ ผู้ถือบัตรจะได้รับเงินคืนตามสัดส่วนของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ตามเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการกำหนด

5.   ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการชำระเงิน หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าธนบัตรที่ท่านใช้อยู่นั้นมีต้นทุนที่มองไม่เห็นอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนการจัดพิมพ์ ต้นทุนการจัดเก็บ ต้นทุนการกระจาย หรือแม้แต่ต้นทุนในการทำลายธนบัตร หากทุกท่านหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น แนวโน้มการใช้เงินสดก็จะลดลงซึ่งเท่ากับเป็นการลดต้นทุนโดยรวมของประเทศอีกด้วย

[attach=2]

แม้ว่าการใช้บัตรเดบิตจะเอื้อประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้ถือบัตร แต่ก็มีข้อพึงระวังที่ควรตระหนักเพื่อป้องกันการสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งจากตัวผู้ถือบัตรเองหรือจากบุคคลอื่น หลายท่านคงได้ทราบข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ เช่น แก็งคอลเซ็นเตอร์ ที่โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงิน และลวงให้ผู้ถือบัตรโอนเงินไปเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ หรือจะเป็นการปลอมแปลงเว็บไซต์ (Phishing) เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความเข้าใจผิดและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น

เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อทางการเงินในลักษณะต่าง ๆ ผู้เขียนมีข้อแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้บัตรเดบิต ดังนี้

-   ขณะกดรหัสผ่าน (password) ที่ตู้เอทีเอ็ม ควรระวังไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็น

-   ไม่จดรหัสผ่านไว้คู่กับบัตรเดบิต และไม่ตั้งรหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดา เช่น เลขซ้ำ วันเดือนปีเกิด หรือบ้านเลขที่ของผู้ถือบัตร

-   ก่อนใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็มควรสังเกต ช่องสอดบัตร ช่องรับธนบัตร และแป้นกดตัวเลขว่ามีการดัดแปลงใหม่หรือผิดสังเกตหรือไม่ แม้กระทั่งกล่องใส่แผ่นพับที่อยู่ข้างตู้เอทีเอ็มอาจจะมีการติดตั้งกล้องขนาดจิ๋วเพื่อบันทึกรหัสผ่านที่ท่านกดได้

-   หมั่นปรับยอดสมุดเงินฝากเพื่อเป็นการตรวจสอบยอดการทำธุรกรรมทั้งที่เป็นการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม และการซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับบัตร หรืออินเทอร์เน็ต

-   หากซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตไม่ควรทำธุรกรรมดังกล่าวในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เนื่องจากทางร้านอาจติดตั้งโปรแกรมโจรกรรมข้อมูล

-   หากซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ ควรตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ (URL) ให้ถูกต้องก่อนการทำธุรกรรม  เนื่องจากข้อมูลทางการเงินและข้อมูลส่วนตัวที่ท่านกรอกผ่านเว็บไซต์ปลอมนั้น จะตกอยู่ในมือของกลุ่มมิจฉาชีพ

-   หากได้รับการแจ้งว่ามีหนี้สินและเร่งรัดให้ชำระหนี้ดังกล่าว ท่านควรตั้งสติและไม่ควรโอนเงินให้ทันที หลังจากนั้นให้โทรศัพท์ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสถาบันการเงินที่ท่านเป็นลูกค้า


บัตรเดบิตในยุคนี้มีความหลากหลาย และแตกต่างกันอยู่บ้างในรายละเอียดตามรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของแต่ละสถาบันการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ถือบัตรให้ได้มากที่สุด เช่น บัตรเดบิตบางประเภทสามารถใช้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินแทนบัตรโดยสารทั่วไป หรือบัตรเดบิตที่ได้รับความคุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าบัตรเดบิตแบบธรรมดา เป็นต้น ดังนั้น ก่อนสมัครใช้บริการบัตรเดบิตควรศึกษาเงื่อนไข คุณสมบัติ หรือข้อจำกัดของบัตรเดบิตในแต่ละประเภทให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อท่านจะได้ใช้บริการบัตรเดบิตได้อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด

[attach=3]
สายด่วนแบงค์ชาติตอบทุกคำถามเรื่องการเงิน

---------------------------------------------------------------------------------
- จำนวนบัตรชำระเงินในที่นี้หมายถึง บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกอบธุรกิจ บัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงบัตร e-money
- บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
- ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215


Kungd4d

 ส-เขิน ส-เขิน บัตรเดบิตดีกว่าบัตรเครดิสเห็นๆ เพราะว่ามีต้องมีหน้าในภายภาคหน้าครับ  ส-เขิน ส-เขิน

นกฮูกตาโต

ปัญหาของบัตร เมื่อถูกขโมยไปใช้
บัตรเดบิต เงินของท่านจะหายไปจากบัญชี ท่านต้องแจ้งธนาคาร แจ้งความ ตามเรื่องด้วยตนเอง และพิสูจน์ว่าท่านไม่ได้ใช้จริง ทางธนาคารจึงจะดำเนินคืนเงินให้ท่าน 
บัตรเครดิต ท่านเพียงปฏิเสธการจ่ายเงิน ธนาคารจะดำเนินการแจ้งความ และพิสูจน์ว่าท่านได้ใช้จริงหรือไม่ หากท่านไม่ได้ใช้จริงธนาคารก็จะตัดยอดบัญชีออก  โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินจากท่านก่อน
บัตรเครดิต มันมีสิทธิพิเศษมากกว่าบัตรเดบิต  แต่ข้อเสียมันอยู่ที่วินัยการใช้เงินของผู้ถือบัตรเอง


นายไข่นุ้ย

 ส.บายใจ  รอดตัวไปเราทำงาน หาเช้ากินค่ำ ม่ายปัญญาได้ทำ แต่ไม่มีดีกว่า ไม่ต้องมาปวดหัว ส.โบยบิน
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ไม่เคยได้้ใช้

มีของไทยพานิชย์ใบนึง เอาไว้กดเอทีเอ็มมากกว่า เพราะหาที่ใช้เดบิทไม่ได้ เคยซื้อคอมที่พันทิพย์พอจะจ่ายเดบิตมันจะชาร์จ 400 ที่ไดอาน่าแผนกขายรองเท้าก็เห็นใช้ไม่ได้ ตกลงสมัครให้มันกินตังค์ค่าธรรมเนียมเปล่าๆ

winwalk