ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

งานบริการ กับคนยุคไอที

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 14:58 น. 19 ก.ย 56

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ที่มา คมชัดลึก
งานบริการ กับคนยุคไอที
ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : งานบริการ กับคนยุคไอที : โดย...พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

                          มีการบัญญัติศัพท์เฉพาะสำหรับเรียกคนที่เกิดในช่วงเวลาต่างมานานแล้ว เช่น คนยุคเบบี้บูม, คนเจน X, คนเจน Y หรือแม้กระทั่งคนเจน Z ซึ่งหมายถึงคนที่เติบโตมาในยุคสมัย หรือช่วงเวลาที่ต่างกันออกไปนั่นเอง
                          ผู้ประดิษฐ์คำเรียกขานหรือคิดแบ่งกลุ่มคนต่างวัยเหล่านั้น คือนักการตลาดทั้งหลายที่ต้องทำการศึกษาพฤติกรรมของคนแต่ละวัย เพื่อส่งสารข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของตนเองไปให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งเพื่อผลิตสินค้าออกมาให้ตรงกับความต้องการของคนแต่ละวัยด้วย เพราะนักการตลาดเหล่านั้นเชื่อว่าคนแต่ละวัย จะมีพฤติกรรมการบริโภค การใช้ชีวิต และวิธีคิดที่แตกต่างกันออกไป
                          คนที่ถูกกำหนดว่าอยู่ใน เจน หรือ เจนเนอเรชั่น (Generation) X, Y หรือ Z ซึ่งก็เป็นคนที่อยู่ในวัยตั้งแต่ประมาณ 35 ปีลงมา จนถึงวัยที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ถือว่าเป็นกลุ่มคนยุคล่าสุดที่เป็นวัยเริ่มต้นทำงาน เป็นคนที่หากจัดรวมกันก็ต้องบอกว่าเป็นกลุ่มคนในยุคของอิเล็กทรอนิกส์ หรือยุคไอที ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้ามีการศึกษาโดยเฉลี่ยสูงกว่าคนยุคก่อนหน้า
                          คนกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และเชื่อว่าความสามารถจากการศึกษาของตัวเองสามารถนำพาตัวเองให้ก้าวหน้าไปได้โดยไม่มีวันผิดพลาด และถูกมองจากคนยุคก่อนหน้านี้ว่า เป็นกลุ่มคนที่มีความอดทนต่อแรงกดดันต่ำ มีความภักดีต่อตราสินค้าและองค์กรน้อยมาก พร้อมที่จะเปลี่ยนงานเปลี่ยนอาชีพเมื่อได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า หรือเมื่อไม่พึงพอใจงานเดิมที่ทำอยู่
                          คนกลุ่มดังกล่าวยอมที่จะอยู่กับเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาหาข้อมูลต่างๆ มากกว่าที่จะยอมทนฟังคนรุ่นเก่ากว่ามานั่งอธิบายด้วยวิธีดั้งเดิม อีกทั้งยังเชื่อมั่นในข้อมูลที่ตนเองหามาได้จากเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ จนหลายครั้งกลายเป็นโทษต่อตนเองเพราะขาดการไตร่ตรองที่ดี
                          เมื่อรวมเอาความเชื่อมั่นต่อระบบของเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย กับความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองและพึ่งพาตนเองสูง คนกลุ่มนี้จึงพร้อมที่จะทำการติดต่อทางการค้า ธุรกิจ หรือสอบถามข้อมูลข่าวสารใดๆจากเครื่องมากกว่าที่จะติดต่อกับคนด้วยกัน หรือแม้จะติดต่อกับคนก็พร้อมที่จะติดต่อผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์  โดยไม่ต้องพบปะพูดคุยกันซึ่งหน้า
                          องค์กร ห้างร้านต่างๆ จึงเริ่มจัดตั้งหน่วยงานสำหรับทำการติดต่อด้านข้อมูลข่าวสาร ผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสนองตอบคนกลุ่มนี้มากขึ้น แม้จะมีบางส่วนที่ยังต้องใช้คนเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่คนกลุ่มนี้มีความภักดีต่อองค์กรต่ำ และมีความอดทนต่อแรงกดดันน้อย เมื่อต้องเข้ามาทำงานในหน้าที่ซึ่งต้องพบปะติดต่อประสานงานกับผู้คน
                          ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีการสื่อสารด้วยความเข้าใจที่ต่างกันออกไปบ้าง คนกลุ่มนี้จึงพร้อมที่จะลาออกจากงานไปแสวงหางานใหม่ที่รออยู่ หรือแม้แต่พร้อมที่จะออกจากงานไปทั้งที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ 
                          งานบริการสำหรับโลกของคนในยุคนี้ จึงต้องหันมาพึ่งพาเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ปัจจุบันนี้เราจึงเริ่มได้พบเห็นงานบริการที่เคยใช้คนทำเป็นหลักเปลี่ยนมาเป็นเสียงตอบรับจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ถ้าต้องการซื้อสินค้าและบริการ กด 1, ถ้าต้องการชำระค่าบริการ กด 2, ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลของสินค้าประเภทที่หนึ่ง กด 3 ฯลฯ
                          มากกว่าที่จะได้พบกับตัวตนของคนจริงๆ ที่เข้ามาสอบถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองว่า ต้องการใช้บริการอะไรคะ/ครับ ? โลกของคนสมัยนี้เปลี่ยนไปมากจนคนเก่าๆ ที่ยังทำธุรกิจอยู่ต้องปรับตัวตามให้ทัน ใครที่ยังจมอยู่กับความเชื่อและความคิดของโลกยุคเก่า หากไม่หงุดหงิดจนคลั่งใจตายไปเองก็คงจะต้องย้อนยุคกลับไปอยู่กับตัวเองในโลกใบเก่าครับ


----------------------
(ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : งานบริการ กับคนยุคไอที : โดย...พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ)