กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

แถมมีชื่อติดโผรองนายกฯ 40ส.ว.เล็งยื่นร้องศาลรธน. ตีความ'2ล้านล้าน'ขัดม.169

"เพื่อไทย" จัดกระบวนทัพรับศึกเลือกตั้งเขย่า บัญชีผู้สมัคร ส.ส.กันใหม่หลายจุด "ทักษิณ" สั่งโละ "หาญสวัสดิ์" พ้นเขตอิทธิพลเมืองปทุมฯ เข็น "บิ๊กแจ๊ด" ขึ้นชั้น รมต. พิสูจน์ฝีมือก่อนส่งลงสนามเลือกตั้งสังกัด  พท.เต็มตัว ดัน "ลูกโอ๊ค" เปิดซิง ส.ส.สมัยแรกสืบทอดเจเนอเรชั่น "ชินวัตร" รุ่นต่อไป นปช.เชียร์ออกนอกหน้าดูดีกว่า "มาร์ค" เสียอีก "นายกฯปู" แพลมปรับ ครม. อาจมีความจำเป็นขอดูหน้างานพลิ้วไปตามสถานการณ์ที่รออยู่เบื้องหน้า ศึกเงินกู้ 2 ล้านล้านปะทุ กลุ่ม 40 ส.ว.เล็งเป้ายื่นศาล รธน.ตีความขัด ม.169 "ประชาธิปัตย์" จ้องตาไม่กะพริบ หวั่น พท.ตุกติกช่วงชุลมุนลักไก่ดัน ก.ม.นิรโทษ

หลังเกิดกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเร่งให้มีการปรับ ครม.แบบสายฟ้าแล่บภายในเดือน ต.ค.รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้ง ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทยในการจัดทำบัญชีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ออกมาแล้ว

"นายกฯปู" รอหาจังหวะเหมาะปรับ ครม.

เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 6 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า กระแสข่าวที่ออกมาถือเป็นปกติที่อาจจะมีบางตำแหน่งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ ขณะที่ประชาชนที่มีความคาดหวังก็อยากจะให้ปรับเปลี่ยน จึงเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีทุกคนที่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ต้องรอดูจังหวะเวลาและความพร้อมอีกครั้ง

ชี้ไฟต์บังคับก็จำเป็นต้องเปลี่ยน

เมื่อถามว่า จะใช้เวลาประเมินการทำงานของรัฐมนตรีเท่าไร นายกฯกล่าวว่า ตอบไม่ได้เพราะเราอยากจะให้เวลาเพื่อให้มีผลงานออกมาเป็นรูปธรรม โดยหลักแล้วก็อยากให้การทำงานต่อเนื่อง ไม่อยากปรับเปลี่ยนบ่อย แต่บางครั้งอาจมีความจำเป็น ถ้าหากมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ต้องไปว่าที่สถานการณ์หน้างานอีกครั้ง ต่อข้อถามว่า การเข้ารับรักษาอาการป่วยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน จะมีผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมยังแข็งแรงอยู่ และตนได้ส่งดอกไม้ไปให้กำลังใจ พร้อมกับฝาก นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ไปเยี่ยม เชื่อว่าอีกไม่กี่วันอาการคงจะดีขึ้น

พท.ปัด "ทักษิณ" จุ้น ครม.ปู 6

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี พรรคได้ประสานงานกับผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปรับใดๆ ทั้งสิ้น ข่าวดังกล่าวเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง พรรคขอให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ไปทำงานช่วยเหลือประชาชน ที่อ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและ รมว.กลาโหมเป็นแค่หุ่นเชิด ไม่มีอำนาจจริงๆ ในการปรับ ครม.อำนาจจริงๆ อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็ไม่เป็นความจริง นายกฯเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ คนที่ออกมาพูดหวังผลทางการเมือง ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกจินตนาการได้แล้ว อย่าพยายามแม้แต่จะปล่อยข่าวว่าจะมีการยุบสภาก็ตาม

จัดโผบิ๊กขรก.–ตร.ก็โกหกทั้งเพ

นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนที่มีการอ้างว่ามีการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยอ้างว่า รัฐบาลใช้อำนาจไม่เป็นธรรม มีการวิ่งเต้นถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงเรื่องนี้ แต่เป็นการจินตนาการของพรรคประชาธิปัตย์ หากข้าราชการไม่พอใจการโยกย้ายก็สามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ไม่มีใครไปแทรกแซงไม่ว่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณหรือใคร

พท.ขยับจัดโผผู้สมัครรับศึกเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังจัดทำบัญชีผู้สมัครเลือกตั้ง เลือกคนที่มีคะแนนนิยมสูงสุดในแต่ละพื้นที่เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง โดยมีการทำโพลประเมินผลเป็นระยะ เนื่องจากพบว่าบางพื้นที่คะแนน ส.ส.ไม่ดี อาจมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครให้คนอื่นลงแทน หรือต่อรองให้ไปลงในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับกลุ่ม ส.ส.ที่เดินทางไปหาเสมอว่า ให้ขยันลงพื้นที่พบปะประชาชน ขณะเดียวกันก็ได้สั่งให้แคนดิเดตผู้สมัครบางรายที่ได้รับสัญญาใจจาก พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะให้ลงสมัคร ในพื้นที่ที่ไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่พื้นที่ที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยอยู่ ลงทำพื้นที่ของตัวเองแล้ว

โละ "หาญสวัสดิ์" พ้นเมืองปทุมฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน จ.ปทุมธานี ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดงในจังหวัดภาคกลาง มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก หลังจากพรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองไปหลายครั้ง ตั้งแต่เหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 54 การเลือกตั้งซ่อม หลังจาก ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี ลาออกจาก ส.ส.เขต 5 ไปลงสมัครนายก อบจ. แต่พ่ายแพ้ให้ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งการเลือกตั้งนายก อบจ.ก็ไม่ได้ผู้สมัครที่ ส.ส.ปทุมธานีพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนอีก ทำให้แกนนำพรรครวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พอใจมาก ประกอบกับระยะหลัง พ.ต.ท.ทักษิณเกิดความขัดแย้งกับตระกูลหาญสวัสดิ์ ที่มีอิทธิพลมายาวนานในจังหวัด ทำให้เริ่มมีการทาบทามผู้สมัครรายใหม่ลงเลือกตั้งแทน โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 4-5-6

เข็น "บิ๊กแจ๊ด" ขึ้นรองนายกฯ–ลง ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นพ.ต.ท.ทักษิณได้วางตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่จะเกษียณอายุราชการเดือน ก.ย. 2557 เข้ามาดูแลพื้นที่ จ.ปทุมธานี และอาจรวมถึงจังหวัดใกล้เคียง โดย พ.ต.ท.ทักษิณและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะทาบทามให้มาเล่นการเมือง โดยกำลังตัดสินใจว่าจะให้ลงสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือให้ลงสมัคร ส.ส.เขตใน จ.ปทุมธานี เนื่องจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์เกิดที่ จ.ปทุมธานี โดยมีแนวทางที่จะให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก่อน อาจถึงขั้นมอบหมายให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สตช.

"โอ๊ค" เปิดซิงเชียงใหม่–ปาร์ตี้ลิสต์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขยับออกตัวเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง เริ่มลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในเขตจังหวัดน้ำท่วม แสดงความเห็นทางการเมืองตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในเฟซบุ๊ก จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อสานต่อเจเนอเรชั่นชินวัตร อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะให้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จ.เชียงใหม่หรือแบบบัญชีรายชื่อ

นปช.เชียร์ดูดีกว่า "มาร์ค" เสียอีก

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช. กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายพานทองแท้ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีประสบการณ์การเมืองได้มาจากพ่อ แต่ก็อาจเจอแรงต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามว่าจะเข้ามาสืบทอดอำนาจหรือไม่ พูดในแง่ความเหมาะสมก็เหมาะสม เป็นตระกูลนักการเมือง นายพานทองแท้ก็มีจิตใจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นที่รู้จักของประชาชน ถ้าเป็น ส.ส.ก็คงเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ แต่การตัดสินใจอยู่ที่นายพานทองแท้ จะเข้ามาหรือไม่ ถ้าเข้ามาสู่การเมืองก็ยินดี คนในพรรคเพื่อไทยคงไม่มีใครขัด ขนาดสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์มาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 ยังไม่มีใครขัด หากนายพานทองแท้เข้ามา ทุกคนคงยินดี อีกทั้งการแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้นายอภิสิทธิ์ ดูไปแล้วดีกว่านายอภิสิทธิ์เสียอีก ทำเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน ถือว่าความคิด ความอ่านใช้ได้มีเหตุผล

โพลชี้คนยังไม่อยากให้ปรับ ครม.

สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง ความพึงพอใจของประชาชนต่อผลงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และข่าวลือการปรับ ครม. กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ของประเทศ โดยเมื่อถามถึงข่าวการปรับ ครม. พบว่า ร้อยละ 60.9 คิดว่าเป็นเรื่องจริง ร้อยละ 39.1 คิดว่าเป็นข่าวลือ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 56.6 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะปรับ ครม.ในขณะนี้ เพราะเพิ่งปรับมาไม่นาน ควรให้โอกาสรัฐมนตรี ทำงานก่อน นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.4 คิดว่าวัตถุประสงค์หลักต่อข่าวปรับ ครม.เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

จี้นายกฯจัดโผ ครม.ด้วยตัวเอง

สำหรับกระทรวงที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าควรปรับมากที่สุดถ้าหากปรับ ครม. อันดับ 1 กระทรวงพาณิชย์ อันดับ 2 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อันดับ 3 กระทรวงมหาดไทย อันดับ 4 กระทรวงการคลัง และอันดับ 5 กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการปรับ ครม.ในครั้งนี้ว่าจะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลดีขึ้นหรือไม่ ร้อยละ 56.0 คิดว่าเหมือนเดิม ร้อยละ 28.3 คิดว่าดีขึ้น ร้อยละ 15.7 คิดว่าแย่ลง เมื่อถามถึงบทบาทสำคัญในการตัดสินใจปรับ ครม. พบว่า ร้อยละ 70.2 คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรมีบทบาทสำคัญ ตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะเป็นอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว ร้อยละ 29.8 ระบุควรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 69.0 คิดว่ารัฐบาลจะทำงานต่อไปจนครบวาระได้ยาก เพราะผลจากนโยบายพ่นพิษของรัฐบาล ความขัดแย้งทางการเมืองและมวลชน และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นต้น

ชาวบ้านชอบดูข่าวเชิงสร้างสรรค์

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ ข่าวการเมืองแบบใด ที่คนไทยชอบ โดยเมื่อถามว่า ประชาชนชอบข่าวการเมืองแบบใด อันดับ 1 ร้อยละ 50.28 แบบสร้างสรรค์ เชิงบวก เน้นผลงาน อันดับ 2 ร้อยละ 32.40 แบบรวดเร็ว เกาะติดสถานการณ์ อันดับ 3 ร้อยละ 17.32 แบบไม่เครียด เน้นเรื่องความสามัคคี เมื่อถามว่าข่าวการเมืองแบบใดที่ประชาชนไม่อยากให้สื่อนำเสนอ อันดับ 1 ร้อยละ 56.93 การแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม พูดจาหยาบคาย อันดับ 2 ร้อยละ 27.23 การประท้วง การเคลื่อนไหวที่รุนแรง อันดับ 3 ร้อยละ 15.84 ข่าวโคมลอย ข่าวเท็จ เมื่อถามว่า ข่าวการเมืองเรื่องใดที่ประชาชนติดตาม อันดับ 1 ร้อยละ 52.86 โครงการของรัฐบาล การบริหารจัดการน้ำ การจำนำข้าว การกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท อันดับ 2 ร้อยละ 26.43 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร อันดับ 3 ร้อยละ 20.71 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไรกับข่าวการยุบสภา และข่าวการปรับ ครม. อันดับ 1 ร้อยละ 43.21 อยากให้ประชาชนมีวิจารณญาณ ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ อันดับ 2 ร้อยละ 31.34 เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ อันดับ 3 ร้อยละ 12.78 อาจเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังสร้างกระแสทางการเมือง

คิวแก้ ม.68 และ 237 รู้ 7 ต.ค.

สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในสัปดาห์นี้ ไม่เป็นความจริง แม้จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 11 ต.ค.แต่เป็นการพิจารณากรอบการเจรจาเท่านั้น  การพิจารณาแก้ไขมาตรา 190 น่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในช่วงกลางเดือน ซึ่งไม่มีอะไรหนักใจ โดยจะใช้ช่วงเวลาพิจารณาไม่มาก   ส่วนจะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ 237 เข้าพิจารณาต่อเมื่อใดอย่างไร คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาลจะมีการหารือในวันที่ 7 ต.ค.ว่าจะสามารถนำเข้าสู้การพิจารณาทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่

ปชป.ไม่จบจวกนายกฯ เร่งทูลเกล้าฯ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไข รธน.ที่มา ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯว่า นายกฯทราบแล้วว่า ตาม ม.150 ของรัฐธรรมนูญระบุยังมีเวลาอีก 20 วัน แต่นายกฯกลับเร่งทูลเกล้าฯทันทีที่รัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภา ซึ่งไม่เหมาะสมเพราะกฎหมายนี้ยังมีปัญหาถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญฯวินิจฉัย จึงขอตำหนิในกรณีนี้ ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมาสร้างกระแสไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ปล่อยให้มวลชนเสื้อแดงและคนในรัฐบาลคุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ยึดกฎ กติกา ไม่ยอมรับอำนาจศาลก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา แม้จะเป็นอำนาจของสภา แต่ไม่หมายความว่า ไม่ต้องทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดบทบาทการตรวจสอบ ถ่วงดุลการใช้อำนาจ เพราะเสียงข้างน้อยเห็นว่า มีความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้น รัฐบาลควรให้ศาลรัฐธรรมนูญทำตามหน้าที่ ไม่ควรสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนเข้าใจผิดในบทบาท อำนาจ หน้าที่ของแต่ละองค์กร จนเกิดเหตุบานปลายในอนาคต

จับตา พท.ลักไก่ดันนิรโทษ

น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรมของประธานวิปรัฐบาลพบว่า มีการประชุมของพรรครัฐบาลมุ่งนำกฎหมายที่มีปัญหาดำเนินการให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ โดยมีความพยายามผลักดันร่างนิรโทษกรรมเข้าสู่วาระการประชุมแบบกระชั้นชิด เพราะมีพฤติกรรมผิดสังเกตที่เร่งรีบรวบรัด จึงขอเตือนประชาชนให้ร่วมจับตามองและขอเตือนรัฐบาลว่าการยัดเยียดวาระการประชุมที่จะเป็นประเด็นในการสร้างปัญหาทางการเมืองและเกิดความขัดแย้งในสังคม โดยไม่ให้ฝ่ายเห็นต่างได้ตั้งตัว และชัดเจนว่าสภาชุดนี้มีพฤติกรรมเผด็จการ จึงขอให้นายกฯ พิจารณาว่าควรระมัดระวังในการดำเนินการผลักดันเรื่องเหล่านี้ นายกฯควรหยุดสร้างปัญหาอย่าพายเรือให้คนที่สร้างความขัดแย้งต่อไป

วิปวุฒิขวางดัน ม.190 ถก 14 ต.ค.

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว.ชลบุรี เลขานุการวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190 และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และ 237 วิปวุฒิสภายังไม่ได้พูดคุยกัน ตามข่าวที่ออกมาว่ารัฐบาลจะเสนอให้พิจารณาวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันประชุมวุฒิสภาตามปกติ ตนจะประสานแจ้งไปยังฝ่ายรัฐบาลว่าคงไม่ได้ อาจเกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นมาอีก และโดยส่วนตัวเห็นว่ามาตรา 190 ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบพิจารณาตอนนี้ คงต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นที่มา ส.ว.ที่ยังรอการวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญ และขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้นำร่างฯขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว คงต้องรอดูว่าผลจะออกมาอย่างไรก่อน แต่ตนยังเชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ จะเสร็จภายในสมัยประชุมนี้

"ยะใส" อัด กวป.รับใบสั่งมาป่วน

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงกรณีกลุ่มสื่อวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เคลื่อนไหวกดดันให้นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาออกกรณีลูกชายไปเรียนต่อต่างประเทศแต่ยังรับเงินเดือนสำนักงานว่า เป็นการกดดันที่ได้คืบจะเอาศอกมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือองค์กรศาล และการเคลื่อนไหวของ กวป. เป็นการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลรวมทั้งการเคลื่อนไหวยังเป็นไปตามการส่งสัญญาณของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ระบุว่า วันที่ 8 ต.ค. จะมีขบวนการล้มรัฐบาลผ่านองค์กรอิสระ หากเสื้อแดงจะตรวจสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรเลือกปฏิบัติ

งานรำลึก 37 ปี 6 ตุลาคึกคัก

เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะกรรมการ 14 ตุลาเพื่อประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ร่วมกับมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย สมาคมญาติและวีรชน 14 ตุลา 16 ร่วมจัดงานรำลึก 37 ปี 6 ตุลา โดย บรรยากาศในช่วงเช้าเป็นพิธีรำลึกและสดุดีวีรชน ด้วยการตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 19 รูป ก่อนที่ตัวแทนฝ่ายต่างๆ อาทิ นายจรัญ ดิษฐาอภิชัย ประธานคณะกรรมการ 14 ตุลาเพื่อประชาธิปไตยสมบูรณ์ ญาติวีรชน 6 ตุลา อดีต 16 ผู้ต้องหา 6 ตุลา เครือข่ายเดือนตุลา มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย สหภาพ สหพันธ์แรงงาน และตัวแทนองค์กรชาวนา กล่าวสดุดี พร้อมกับประกาศเจตนารมณ์ ก่อนที่นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ทยอยกันวางพวงมาลา ณ ประติมานุสรณ์ 6 ตุลา 2519

"สุรชัย แซ่ด่าน" ดอดร่วมกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากในงานจะมีนิสิต นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมงานแล้ว ยังมีนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำ กลุ่มแดงสยาม ผู้ต้องขังในคดีหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่พึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา และนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) มาร่วมงานและวางดอกไม้ร่วมรำลึกและสดุดีวีรชนอีกด้วย นายจรัญกล่าวว่า การจัดงานนี้สะท้อนให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงประชาธิปไตย แม้ว่าจะผ่าน 2 เหตุการณ์ที่เป็นประชาธิปไตยมาแล้ว แต่ขณะนี้ยังถือว่าประชาธิปไตยนั้น ยังแคระแกร็นไม่สมบูรณ์ แต่สิ่งที่ได้คือประชาชนมีเสรีภาพ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการ แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคมไทย คนไทยไม่ควรละเลยหรือละความพยายามแก้ปัญหา ควรเอาบทเรียนเหตุการณ์ทั้ง 6 ตุลา และ 14 ตุลามาเป็นประสบการณ์

ปะทุอีกรอบเงินกู้ 2 ล้านล้าน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกล่าวถึงกรณีที่นายคำนูน สิทธิสมาน ส.ว. สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม หรือโครงการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท อยากให้กลุ่ม 40 ส.ว.พิจารณาว่า พ.ร.บ.กู้เงินฯ เป็นประโยชน์ในการวางอนาคตให้ลูกหลานเป็นประโยชน์กับประชาชน ทุกวันนี้ก็เห็นแล้วว่าการรถไฟของไทยไม่มีการพัฒนาเราต้องมีการสร้างอนาคตให้กับป

แหล่งที่มา : http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30136&page=1

   อะจ๊ากกกกก