กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

เรื่องนี้คนที่ผิดมากสุดคือบรรดาคนไปตักบาตรนี่แหละเห็นว่าไม่ถูกก็ยังไปตักกันอยู่ได้จะทำบุญยังมักง่ายขับรถไปวัดยังไม่ลงทุนเลย

พระหากินกับศพก็เยอะ เรียกว่า พระกินผี โยมกรรมการวัดกินพระ 

เวรกรรม ไม่กลัวปาบกันเลย

มองได้สองมุม อาจจะเปนเพราะว่าพระมาจากตามวัดที่ไกลๆๆ มาจากแถวสนามบินก็มี

นั่งสองแถวมาลงที่ตลาดโก้งโค้ง แล้วยืนรอบิณฑบาตร เอากระสอบมาใส่ ประมาณ1ชั่วโมง ก็นั่งสองแถวกลับวัด

เด๋วนี้ใส่พระที่บิณฑบาตรผ่านหน้าบ้าน ทุกวัน 

พระเดี๋ยวนี้(ส่วนมาก) ออกบิณฑบาตโดยไม่หวังที่จะเอาอาหารมาประทังชีวิต จุดประสงค์ที่ออกบิณฑบาตพระท่านหวังที่จะรับเงินทองมากกว่า เดี๋ยวนี้หาพระที่มีจิตใจบริสุทธิ์นั้นหายากมากๆ อีกอย่างพระบางรูปที่บวชนานๆท่านคิดว่าเป็นพระที่บริสุทธิ์ทั่งพรหมจรรย์และจิตใจนั่นหรือ โบราณบอกขิ่งยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดร้อน กระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน ปัจุบันพระยิ่งบวชนานๆยิ่ง........................ (บางรูปครับไม่ใช่ทุกรูป แต่ก็ส่วนมากครับ)

พระสงฆ์ (ความหมาย) สงฆ์ หรือ สงฺฆ ในภาษาบาลี แปลว่า หมู่
เช่นในคำว่าภิกษุสงฆ์ แปลว่า หมู่ภิกษุ ใช้ในความหมายว่า ภิกษุทั้งปวงก็ได้
พระสงฆ์ หมายถึง สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ซึ่งฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วเลื่อมใส สละเรือนออกบวช
ถือวัตร ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่พระบรมศาสดาสั่งสอนและกำหนดไว้ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน
พระสงฆ์ จัดเป็นรัตนะหนึ่งในจำนวนรัตนสามหรือพระรัตนตรัย  ซึ่งได้แก่พระพุทธรัตน พระธรรมรัตน พระสังฆรัตน  พระสงฆ์ ได้แก่ ภิกษุ ในพระพุทธศาสนา สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสละเรือนออกบวชตามพระพุทธเจ้า หลังจากได้ฟังคำสั่งสอนแล้วเกิดความเลื่อมใส ต้องการจะได้บรรลุธรรมตามพระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ ปฏิบัติตามธรรมและวินัยที่กำหนดไว้เฉพาะสำหรับภิกษุ จำนวน ๒๒๗ ข้อ บางครั้งเรียกว่า สงฆ์  ซึ่งพระสงฆ์ รูปแรกของโลก คือ พระอัญญาโกณทัญญะ
ในทางพระพุทธศาสนาแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น ๒ ประเภท คือ สมมติสงฆ์ และพระอริยสงฆ์
สมมติสงฆ์ คือ สงฆ์โดยทั่วไปที่เป็นหมู่ของภิกษุ เรียกว่าพระสงฆ์ หรือสมมติสงฆ์ สงฆ์โดยสมมติ
เพราะว่าเป็นภิกษุตามพระวินัยด้วยวิธีอุปสมบทรับรองกันว่าเป็นอุปสัมบันหรือเป็นภิกษุขึ้น
เมื่อภิกษุหลายรูปมาประชุมกันกระทำกิจของสงฆ์ก็เรียกว่า สงฆ์
พระอริยสงฆ์ หมู่ภิกษุชนที่ได้ฟังเสียงซึ่งออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าหรือได้ปฏิบัติตามธรรมะ
ได้ความรู้พระธรรม  คือ ความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน จนถึงได้บรรลุโลกุตตรธรรม
ธรรมะที่อยู่เหนือโลกตามพระพุทธเจ้า ซึ่งพระอริยสงฆ์คือคู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ ๘ บุรุษ ได้แก่คู่ มรรค - ผล
๐ พระโสดาบัน   ๑ คู่  ๒ บุรุษ คือ พระโสดาปฏิมรรค ๑ พระโสดาปฏิผล ๑
๐ พระสกทาคามิ ๑คู่๒ บุรุษ คือ พระสกทาคามิมรรค ๑ พระสกทาคามิผล ๑
๐ พระอนาคามิ   ๑ คู่  ๒ บุรุษ คือ พระอนาคามิมรรค ๑ พระอนาคามิผล ๑
๐ พระอรหันต์     ๑ คู่  ๒ บุรุษ คือ พระอรหัตมรรค ๑ พระอรหัตผล ๑
อริยบุคคล คือ บุคคลผู้ประเสริฐ เป็นผู้ละสังโยชน์ หรือกิเลสที่ผูกมัดสัตว์ไว้ในภพหรือผูกพันสัตว์ทั้งหลายไว้กับทุกข์ได้ ใครละได้น้อยก็เป็นอริยบุคคลชั้นต้น เมื่อละได้มากเป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงขึ้น ใครละได้หมดก็เป็นพระอรหันต์
สังโยชน์ ๑๐
๑.   สังกายทิฏฐิ ความเห็นว่าร่างกายเป็นของตน
๒.   วิจิกิจฉา ความสงสัยในผลกรรม การเวียนว่ายตายเกิด
๓.   สีลัพพตปรามาส การเชื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์
๔.   กามราคะ ความติดใจในกามารมณ์
๕.   ปฏิฆะ ความขัดเคืองใจ
๖.   รูปราคะ ความติดใจในรูป เช่น สิ่งล้ำค่าสวยงาม
๗.  อรูปราคะ ความติดใจในสิ่งไม่มีรูป  เช่น คำสรรเสริญ
๘.   มานะ ความยึดถือว่าตัวเป็นนั่นเป็นนี่ ติดในยศศักดิ์
๙.   อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต  ไม่สงบใจ
๑๐. อวิชชา ความไม่รู้อริยสัจ ๔
ลำดับพระอริยบุคคล
๑.  พระโสดาบัน ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๓ ได้ ยังต้องกลับมาเกิดอีก แต่ไม่เกิน ๗ ชาติแล้วจะบรรลุนิพพาน คือ
ได้เป็นพระอรหันต์
๒.  พระสกิทาคามี ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๓ ได้ และจิตคลายจากราคะ โทสะ โมหะ ได้มากขึ้น จะเกิดอีกเพียง
ครั้งเดียวแล้วจะบรรลุนิพพาน
๓.  พระอนาคามี ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๕ ได้ บรรลุชั้นนี้แล้วจะเลิกการครองเรือน หันมา ประพฤติพรหมจรรย์
ละสังขารแล้วจะไปเกิดในพรหมโลก
๔.  พระอรหันต์ ละสังโยชน์ได้ทั้ง ๑๐ ข้อ เมื่อละสังขารแล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก คือ นิพพาน
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ หรือปฏิเวธธรรม ทำให้ได้บรรลุ มรรคผล นิพพาน ตั้งแต่ ชั้นต้นไปตามลำดับ ดังนี้
๑.  โสดาปัตติมรรค คือ มรรคอันให้ถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน เป็นเหตุให้ละกิเลส สังโยชน์ ในข้อที่ ๑ - ๓ ได้
๒.  โสดาปัตติผล คือ  ผลแห่งการเข้าถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน
๓.  สกทาคามิมรรค คือ มรรคที่มีคุณธรรมสูงกว่าพระโสดาปัตติมรรค ทำให้ละกิเลส ข้อ ๑ - ๓ ได้ และราคะ โทสะ
โมหะ ในจิตเบาบางมากแล้ว
๔.  สกทาคามิผล คือ ผลที่พระสกทาคามิผลพึงเสวย เพราะทำให้ ราคะ โทสะ โมหะ เบาบางลง
๕.  อนาคามิมรรค คือ มรรคที่ละกิเลสอย่างหยาบ ข้อ ๑ - ๕ ได้
๖.  อนาคามิผล คือ ความสุขที่พระอนาคามีได้รับเพราะละกิเลสอย่างหยาบได้ ผู้บรรลุพระอนาคามีแล้วจะบวช
ไม่มีใครอยู่ในเพศฆราวาสเลย
๗.  อรหัตมรรค คือ ญาณเป็นเครื่องละกิเลสอย่างละเอียด หรือสังโยชน์ ข้อ ๖ - ๑๐ รวมทั้งข้อ ๑ - ๕ ได้โดยสิ้นเชิง
๘.  อรหัตผล คือ  ผลที่พระอรหันต์พึงได้รับเพราะละการยึดมั่นถือมั่นในกิเลส
มรรค คือ  ญาณที่ทำให้ละสังโยชน์ได้ขาด เป็นทางให้เข้าถึงความเป็นอริยบุคคล
ผล คือ  ผลที่เกิดสืบเนื่องจากการละกิเลสได้ด้วยมรรค หรือ ธรรมารมณ์อันพระอริยะพึงเสวย ที่เป็นผล
เกิดเอง ในเมื่อกิเลสสิ้นไปด้วยอำนาจมรรคนั้น ๆ
นิพพาน คือ  สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว
ที่บรรลุคุณธรรม ๘ ข้อนี้ ตั้งแต่พระโสดาปัตติมรรคขึ้นไป เรียกว่า พระอริยบุคคล หากบรรพชาเรียกว่า พระอริยสงฆ์

เห็นด้วยทุกประการ เสริมนิด นักต้มตุ๋นในผ้าเหลืองกีเยอะ เรียกว่าลัทธิจานบิน...

อ้างจาก: ควรเดิน เมื่อ 11:45 น.  04 ก.ย 56
ยืนรับบาตร น่าจะผิด

ควรนั่ง หรือวิ่ง มากกว่า

หวังในใจลึกๆว่า การปฏิรูปประเทศไทย โดยพลังประชาชน จะเกิดขึ้นได้ และ ต้องการจะเห็นการปฏิรูปในวงการศาสนา ยกตัวอย่าง พ.ร.บ. กิจการคณะสงฆ์ไทย พ.ศ.2535 นั้น ในบางมาตรา อาจจะไม่เอื้ออำนวยในสถานการณ์ในปัจจุบัน ต้องมีการร่างเพื่อแก้ไข ปฏิรูปให้ดีขึ้น ลดการคอร์รัปชัน การติดสินบน การวิ่งเต้น ใช้เส้นสาย ควรปรับปรุงโครงสร้างคณะสงฆ์ไทยเสียใหม่ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล พิจารณาตามความรู้ ความสามารถ วางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับหน้าที่และงานที่รับผิดชอบ โดยมองภาพรวมเป็นหลักอย่างมีวิสัยทัศน์ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ ยุทธศาสตร์ วิธีการและขั้นตอนการปฏิบัติในศาสนพิธี ให้ดูเรียบง่าย แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ นิกายเถรวาท เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยสืบต่อไป

พวกญาติโยม พิธีกร และ มัคทายก นั่นแหละตัวดี นำลาภมายั่วความโลภให้พระสงฆ์ บางที่ยุให้สงฆ์แตกสามัคคีกันเสียอีก คนพวกนี้ต้องตกนรกขุมอเวจีแน่ เพราะทำอกุศลกรรมหนัก สาธุ...

สมัยผมบวชหากไม่เห็นโยมยืนอยู่หน้าบ้านก็จะไม่หยุดบางครั้งโยมต้องวิ่งตามไปใส่บาตร
พอมาพักหลังแกให้หลานมานั่งเฝ้าไว้

แล้วที่เดินธุดงค์ธรรมชัย ในป่า...คอนกรีต ผิดมั้ยน่ะ ธุดงค์ จริงๆแล้ว ต้องอยู่ป่าไม่ใช่หรือ?

วัดพระธรรมกาย กับ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นวัดพี่น้องกัน ธัมมชโย เคยบริจาคให้ 30 ล้าน เป็นเงินสนับสนุนจากทักษิณและลัทธิจานบินแดง พี่น้องเอ้ย...ตาสว่างสักทีน่ะ

กฏแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ
มันเป็นเช่นนั้นเอง...

โอออ บางอย่างคาดไม่ถึงจริงๆหรือนี่ 

ตลาดทุ่งเสาก็ยืนรับบาตรเหมือนกัน จะ8โมงก็ยังตักบาตรได้นะสมัยนี้ 

ถามว่าพระยืนรอบิณฑบาตรผิดหรือไม่  ผมว่าไม่น่าจะผิด แต่ถามว่าเหมาะสมหรือไม่  ผมว่าไม่เหมาะสมและไม่สำรวมมากกว่า  ต้องดูที่เจตนาของพระแต่ละรูป  ถ้าพระรับสิ่งของที่ญาติโยมนำมาถวายไปใช้เพื่อบริโภคเพื่อความอยู่รอดในการเผยแผ่ศาสนาก็เป็นการได้บุญทั้งผู้ให้และผู้รับ  แต่ถ้าพระนำสิ่งของที่ญาติโยมนำมาถวาย เอาไปใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์ของผู้นำมาถวายมันก็เป็นบาปแก่รับคือพระนั่นเอง   ศาสนาบางครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่ที่นักบวชอย่างเดียว  ประชาชาชนทุกคนมีส่วนในการทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญและอยู่คู่ประเทศชาติได้นานๆ

ผมก็เป็นคนนึงที่ได้ชื่อว่า นับถือศาสนาพุทธ...แต่ผมเองก็อยู่ห่างวัด แบบ ไม่ค่อยได้เข้าวัด....แต่ผมก็ยังศรัทธาในศาสนานี้นะ....แต่..........ผมสงสัยอย่างนึง (ไม่รู้ว่าจะบาปไหม) คือ
        หน้าที่ของพระ....เท่าที่ผมรู้คือ ทำนุบำรุง เผยแพร่ รักษาไว้ซึ่งศาสนาประมาณนี้นะ ไม่ครบอย่าว่ากันนะ แต่ที่สงสัยคือ ท่านทำอะไร  อย่างไร  เพื่อให้ได้บรรลุหน้าตามที่บัญญัติไว้....
       คือ ก็เห็นส่วนใหญ่สวดมนต์ ทำวัตรเช้า - เย็น แต่ก็เฉพาะพระ....ครั้นจะมีเทศนาบ้างก็เฉพาะวันพระ (4 ครั้งต่อเดือน) ด้วยความเคารพ หากมีทุกวันผมต้องขอโทษด้วย อย่างที่บอก ผมยังห่างไกลวัดนัก
       แล้วถามว่า ผมคาดว่าจะเป็นอย่างไร
       น่าจะแบบ...มีเทศน์ให้ฟังทุกวัน มีเปิดรับเยาวชนคนพื้นที่ เข้าเรียนศึกษาวิชาจากพระ ไม่ใช่คาถาอาคมนะ วิชาแบบ การจัดโต๊ะหมู่เอย ฝึกบทสวดบทนำ ในพิธีทางศาสนาต่าง ๆ เอย แต่ก็นั่นแหละ เปิดแล้วคนจะไปเรียนไปศึกษาไหม เพราะผมเองก็นาน ๆ ๆ ๆ  ที ถึงจะไปวัด....
         มันคงต้องอาศัยหลาย ๆ คน หลาย ๆ ฝ่ายที่จะช่วยกัน สนับสนุน กัน สร้างกิจกรรมระหว่างวัดกับชาวบ้านแบบเรา ๆ ให้มากขึ้น...ไม่ใช่ รออายุมากแล้วค่อยไปวัด
       เอาเป็นว่า แค่นี้ดีกว่า มากไปเดี๋ยวกลายเป็นลบหลู่....แต่ด้วยใจ ผมยังบอกได้เต็มปากว่า ยังนับถือศาสนาพุทธ ครับ

พระธรรมวินัย คือ ตัวแทนของพระพุทธองค์
ส่วนพิธีกรรมเป็นเพียงองค์ประกอบ อย่าเข้าใจผิด
พุทธศาสนาแท้ เน้นเรื่อง ไตรสิกขา ไม่เน้นพิธีกรรม

มันอยู่ที่ว่าคนที่เขาใส่บาตรใช้ให้ยืนรอไม่ บางทีแกงเรียบร้อยแล้ว แต่ข้าวแค่จะสุกให้รอสักเดียวไหนๆก็อยากทำบุญ พระเองก็คงเข้าใจเจตนา ไหนๆแล้วก็รอสักเดียว

เทศกาลเข้าพรรษา สมัยนี้ กลายเป็น เทศกาลแหกกฏพระธรรมวินัยไปเสียแล้วหรือ? 

บางวัดมีแม่ครัวประจำวัด พระไม่ต้องไปบิณฑบาตร.

วัดไหนหนอ? แม่ชีเป็นแม่ครัวป่าว?