ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ปชป.ไม่เปลี่ยนไม่รื้อ ไม่มีความหวัง เลือกตั้งวันไหนก็แพ้ !!

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 11:43 น. 08 ต.ค 56

ทีมงานบ้านเรา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ www.manager.co.th

       แม้ว่าที่ผ่านมาเคยมีการเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เปลี่ยนระบบคิดกันชนิดที่เรียกว่า "รื้อกันยกกะบิ" นั่นคือต้องทำการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ปัจจุบันแบบก้าวกระโดดเท่านั้นถึงจะพอมีอนาคต เพราะหากสังเกตให้ดีจะพบว่าแม้ว่าในเวลานี้จะมีผลสำรวจออกมากี่สำนักทั้งที่ประเภทที่พอเชื่อถือได้ กับประเภท"โพลรับใช้รัฐบาล" ไม่ว่าโพลไหนๆล้วนเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงความล้มเหลวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
       
       แม้ว่าความเห็นของชาวบ้านจะเสื่อมศรัทธาพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จากความล้มเหลวในการทำงาน การบริหารนโยบายที่เกิดความผิดพลาด ทัั้งในเรื่องข้าวของแพง รายได้หด มีหนี้สินเพิ่มขึ้น เริ่มเห็นธาตุแท้มากขึ้นทุกวัน ว่าเนื้อแท้นั้นเป็นอย่างไร ได้เป็นว่า "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ"นั้นมันไปไม่รอด
       
       แต่ก็แปลกที่แม้ว่ารัฐบาลจะ "ขาลง" อย่างไรก็ตาม อย่างผลสำรวจในพื้นที่ภาคอีสานของ "อีสานโพล"จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เพิ่งภาพดังกล่าวออกมาอย่างชัดเจน ว่าความนิยมของรัฐบาลได้ลดต่ำลงทุกด้านและลดลงอย่าง "ฮวบฮาบ" เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเมื่อไตรมาสที่สองและไตรมาสที่หนึ่ง อย่างไรก็ดีทั้งที่ปรากฏการณ์เป็นแบบนี้ นั่นคือขณะที่รัฐบาล ขาลงตกต่ำ แต่กลับกลายเป็นว่าความนิยมกลับไม่ได้ไปเพิ่มที่พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลักแต่อย่างใด เพราะผลสำรวจที่ออกมากลับออกมาน่าเจ็บปวด เพราะความนิยมพรรคประชาธิปัตย์ก็ลดต่ำลงเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
       
       แม้ว่าหากอ้างอิงจากผลสำรวจของ "อีสานโพล" ที่เน้นเฉพาะในภาคอีสานที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงผลจะออกมาว่า "มีคนที่ไม่ตัดสินใจเลือกใคร"เพิ่มมากขึ้น เพื่อมาเคลมในแง่ดีว่าคนพวกนี้ต่อไปจะเทเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคตนั้น เป็นการมองในแง่ดีและเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาจากผลสำรวจที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดทบทวนกันใหม่ได้แล้ว สำหรับคนในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการที่จะอ้างว่า พรรคยังมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นในภาคใต้ และในกรุงเทพมหานครก็อาจจะกล่าวเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่รับรองว่านั่นไม่ใช่เป็นความหวัง แบบมีอนาคตทางการเมือง เพื่อเอาชนะทางการเมือง เอาชนะการเลือกตั้ง ชนะพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร เพราะผลสำรวจทุกครั้งจนยันครั้งล่าสุดก็ยืนยันชัดเจนว่า หากมีการเลือกตั้งในวันนี้ก็ยังแพ้หลุดลุ่ย นี่มันหมายความว่าอย่างไร
       
       อย่างน้อยที่เห็นชัดเจน และสะท้อนเป็นคำตอบแบบตรงไปตรงมาก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่อยู่ในร่มเงาของ สุเทพ เทือกสุบรรณ รวมไปถึงการชี้นำและครอบงำทางความคิดของบรรดาผู้อาวุโสของพรรคนั้น "ขายไม่ออก" หรือหากกล่าวกันแบบถนอมน้ำใจก็ต้องบอกว่า แนวทางและวิธีการขับเคลื่อนพรรคในปัจจุบันยังไม่อาจสร้างความหวัง สร้างความศรัทธาให้กับชาวบ้านได้มากพอ ถึงได้มีข้อสรุปว่าเลือกตั้งเมื่อไหร่ ไม่ว่าเกิดขึ้นวันไหนก็แพ้อีก
       
       อย่างไรก็ดีอาจมีการโต้แย้งกลับมาว่า ไม่จริง เพราะที่ผ่านมาเมื่อวัดจาก "ปริมาณสส."ที่เพิ่มขึ้นทุกครั้ง ก็แล้วยังไงละ ในเมื่อถึงเพิ่มขึ้นแต่ก็แพ้ไม่เป็นท่าทุกครั้ง หรือตะแบงว่า เป็นฝ่ายค้านก็ไม่เสียหายอะไร เพราะมีเกียรติในระบบรัฐสภา หากพูดจริงจากใจก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นแบบนั้นก็ให้ประกาศล่วงหน้าไปเลยว่า "เราจะเป็นฝ่ายค้านอย่างมืออาชีพ"ก็ได้ แต่รับรองว่าไม่ใช่คำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง
       
       ขณะเดียวกันหากมองอีกด้านหนึ่ง หากพรรคประชาธิปัตย์และผู้บริหารและผู้อาวุโสของพรรคยังยืนยันในแนวทางในแบบเดิมที่เดินมาตลอดว่าถูกต้อง ก็เดินต่อไป ไม่เห็นแปลก เพียงแต่ว่าในสายคนนอกที่มองเข้าไปแล้วมันเห็นว่ามันไม่เวิร์ก และเป็นไปได้สูงยิ่งที่ในอนาคตหากชาวบ้านยังมีความรู้สึกกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างในปัจจุบัน โอกาสที่จะเสื่อมถอย จนไม่อาจสร้างความหวั่นไหวให้กับ ระบอบทักษิณ ได้เลย จนกระทั่งกลายเป็นพรรคต่ำสิบ ก็เป็นไปได้
       
       สำหรับนาทีนี้เชื่อว่าหลายคนอยากสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคที่เสนอให้มีการปฏิรูปพรรคประชาธิปตย์เป็นการใหญ่ ในความหมายที่ว่า "ให้รื้อ"กันใหม่หมด แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะแสดงบทบาท "หยุดๆเดินๆ"แปลกๆไปบ้าง แต่เมื่อใช้โอกาสในช่วงที่พรรคกำลงจะมีการประชุมในเรื่องปรับโครงสร้างพรรคกันอีกครั้งเขาก็ "จุดพลุ"ขึ้นมาอีก ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากสังคมอีกครั้ง และหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ไม่ใช่ "ดีแต่พูด" อย่างที่สังคมได้ให้สัญลักษณ์กันไปแล้ว เพราะอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนข้างในว่าจะยินดียอมรับการเปลี่ยนใหม่ เปิดกว้าง จริงๆได้แค่ไหน เพราะน่าจะถึงเวลาต้องทบทวนตัวเองได้แล้ว !!
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

apache

เปลี่ยนก็แพ้ ไม่เปลี่ยนก็แพ้ อลงกรณ์มองไม่ออกหรือ ส.สู้ๆ

เบื่ออ

ถ้าไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรค+ทีม ก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป ลูกพรรคก็จะทยอยหนี เพราะไร้อนาคต กลายเป็นพรรคเล็ก ไม้ประดับ น่าเสียดาย

ถ้าเปลี่ยน "บางที" อาจจะดีขึ้น ถ้าหัวหน้าพรรคคนใหม่ เก่ง

ผีดำ1

คนเลือกน่าจะเปลี่ยนบ้าง อย่าเลือกพรรคที่ขายฝันเอานโยบายโยนเศษเงินให้เรา แล้วเราก็เลือกโดยพูดกันจนติดปากว่าโกงได้แต่ให้พัฒนา ตอนนี้ประเทศจะแย่แล้วยังเลือกพรรคขายฝันอยู่อีก

ฝันที่เป็นจริง

ขายฝันไม่เห็นแปลก

ถ้าฝันนั้นเป็นจริงได้

สิ่งที่เขาฝัน ดีไม๊ล๊ะ

และถ้าทำได้ คงไม่ใช่ฝัน

dj cop

                     " แม้จะเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งมาเก่าแก่ที่สุด   ในบรรดาพรรคการเมืองของไทยในปัจจุบัน   เคยเป็นทั้งรัฐบาล และฝ้ายค้านมาแล้วหลายสมัย      แต่ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์มากเท่าใดในการแข่งขันในเวทีการเมือง     จุดขาย ความจูงใจ แนวคิดพัฒนา การบริหารบ้านเมืองที่ผ่านมา    ไม่สามารถมัดใจคนส่วนมากของประเทศได้    ดีที่ยังมีด้ามขวานให้ถือ  ไม่งั้นคงตกทะเล  ออกทะเลไปแล้ว...    คงยังไม่สายจนเกินไปที่จะมีแนวความคิดที่จะปรับปรุงพรรคในทุก ๆ มิติ    เปิดใจเปิดพรรครับฟังความคิดเห็นของแฟนคลับ   ที่หวังจะเห็นพรรคกลับมาเป็นความหวังของชาติเหมือนเดิม    ตัดตอนระบบเครือญาติ พินัยกรรม มรดกทางการเมืองออกไป   สรรหาคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ  มีวิชั่นก้าวไกลมาทำงานให้กับพรรคให้มาก และหลากหลายสาขาอาชีพ     ถ้าไม่คิดที่จะกล้าเปลี่ยนแปลงพรรค    ก็คงลุ้นยากที่จะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาอีกต่อไป....... "    ส.โบยบิน ส.โบยบิน ส.โบยบิน ส.โบยบิน ส.โบยบิน

hnomhnam


Bush

                   ใกล้หมดสภาพ  ถ้าไม่เปลี่ยน ไม่รื้อ  พ.ท. ก็นั่งยิ้ม นั่งตดบายใจได้อีกนาน

                   ถึงว่าสิ   ยกมือในสภา เสียงมักจะหายไป 30 กว่าเสียง บ่อย ๆ เริ่มมีลางแล้ว



                           วันที่ให้ประชาชน ไปส่ง ส.ส. เข้าสภา   ส่วนหนึ่่งก็ไปนั่งในสภาแล้ว

                                    เพราะไม่เอาด้วยกับการเมืองนอกสภา ส.อืม

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: Bush เมื่อ 10:58 น.  14 ต.ค 56
                   ใกล้หมดสภาพ  ถ้าไม่เปลี่ยน ไม่รื้อ  พ.ท. ก็นั่งยิ้ม นั่งตดบายใจได้อีกนาน

                   ถึงว่าสิ   ยกมือในสภา เสียงมักจะหายไป 30 กว่าเสียง บ่อย ๆ เริ่มมีลางแล้ว



                           วันที่ให้ประชาชน ไปส่ง ส.ส. เข้าสภา   ส่วนหนึ่่งก็ไปนั่งในสภาแล้ว

                                    เพราะไม่เอาด้วยกับการเมืองนอกสภา ส.อืม
จริงครับ  เฮ้อ..... ส.แลบลิ้น
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

Bush

         
สื่อคู่แข่งเขาวิเคราะห์  ก็เป็นแนวเดียวกับเมเนเจอร์  ข้างบน

           หลายต่อหลายครั้งที่ "อลงกรณ์ พลบุตร" ส.ส.เพชรบุรี และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ ส.ส. ในพรรคกลุ่มหนึ่ง มีแนวคิดที่จะปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลที่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเลิกที่จะเดินตามพรรคเพื่อไทย และต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ย่ำอยู่ที่เดิมจนเริ่มถอยหลัง และต้องไม่อิงแอบแนบชิดกับอำมาตย์ รวมไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร ให้หลุดพ้นจากภาพการนิยมระบอบเผด็จการ

เพื่อผลักดันให้พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

จนมีการออกแบบ "พิมพ์เขียวปฏิรูปประชาธิปัตย์" เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง ยุทธศาสตร์ รวมไปถึงคณะกรรมการบริการพรรค

แต่สุดท้ายก็ถูกปิดปาก ด้วยการรับข้อเสนอ แต่ต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น และไม่ควรออกไปพูด หรือออกไปสื่อสารผ่านช่องทางอื่น

สุดท้ายทุกอย่างก็เงียบไป



เมื่อถึงคราวที่มีการนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ของ "วรชัย เหมะ" ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าสู่สภา และมีเสียงคัดค้านจากพรรคประชาธิปัตย์ และมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน ที่เสนอโดยกลุ่มญาติผู้สูญเสีย

"อลงกรณ์" ที่มีโอกาสพบกับ "บ.ก.ลายจุด" อย่าง "สมบัติ บุญงามอนงค์" นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย จึงได้มีการพูดคุยกันถึงแนวคิดการปฏิรูปประเทศไทยและปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์

ต่อมา "อลงกรณ์" ก็ได้มีแนวคิดเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเนื้อหาคล้ายกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน ที่มีเงื่อนไขให้ปลดปล่อยผู้ที่ถูกจองจำ และต้องเอาผิดผู้ที่สั่งการ ซึ่งเจ้าตัวระบุเองว่า หากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วย ก็พร้อมที่จะเสนอในนาม ส.ส.

สุดท้ายก็โดนที่ประชุมพรรคเบรกหัวคะมำ ด้วยเหตุผลที่ว่า หากจะให้พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม รัฐบาลจะต้องถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งหมดออกจากสภาเสียก่อน


ซึ่งก็เป็นเงื่อนไขที่เป็นไปได้ยาก...




จนกระทั่งวันที่ 6 สิงหาคม ที่มีการจัดเวทีผ่าความจริงแบบโต้รุ่ง ของวันที่ 7 สิงหาคม เพื่อให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ "ชวน หลีกภัย" อดีตหัวหน้าพรรค นำมวลชนกว่า 2,000 คน เดินเท้าจากบริเวณใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ มุ่งหน้าไปยังรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ "วรชัย" ด้วยความฮึกเหิม

ขณะที่ "อลงกรณ์" สร้างความแตกต่างอีกครั้ง ด้วยการนั่งอยู่ในสภา โดยมิได้เข้าร่วมเดินขบวน เพราะให้เหตุผลว่าการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จะต้องทำหน้าที่ในสภา

ไม่ใช่การทำหน้าที่เดินขบวนบนท้องถนน



ล่าสุด "อลงกรณ์" ออกมากระทุ้งพรรค ผ่านทางทวิตเตอร์ อลงกรณ์ พลบุตร @alongkornpb กับการเสนอแนวทางปฏิรูปยกที่ 2 ในวันที่ 6 ตุลาคม ก่อนวันที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค 1 วัน กับข้อความที่ว่า

ยก 2 ปฏิรูป (1) พรุ่งนี้บ่าย คณะ กก.บริหารพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมเรื่อง "การปฏิรูป ปชป." เป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับปรับโครงสร้างพรรคใหม่

ยก 2 ปฏิรูป (2) พรุ่งนี้จะรู้ว่าคณะ กก.บริหารพรรค ปชป. กล้าปฏิรูปหรือไม่ หรือยังติดหล่มแนวทางการเมืองแบบเก่าๆ ที่ทำให้พรรค ปชป. แพ้มา 21 ปีติดต่อกัน

ยก 2 ปฏิรูป (3) แม้การประชุมคณะ กก.บริหารพรรคเดือนก่อนจะสรุปผลเห็นชอบในหลักการต่อรายงานการปฏิรูปพรรคที่คณะทำงานเสนอ แต่ก็ทำเอาเลขาฯ พรรคเกือบลาออก

ยก 2 ปฏิรูป (4) การคัดค้านการปฏิรูปพรรค ปชป. กลายเป็นเรื่องตลกของคนภายนอกเพราะมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมคนในพรรค ปชป. บางคนบางกลุ่มจึงขัดขวางการปฏิรูป

ยก 2 ปฏิรูป (5) ข้อเสนอปฏิรูปเมื่อ 13 เม.ย. ได้รับการขานรับทั่วประเทศเพราะ ปชช. ต้องการเห็น ปชป. เปลี่ยนแปลงสู่ทางเลือกที่ดีกว่าไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย

ยก 2 ปฏิรูป (6) การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพรรคให้ทันสมัยก้าวหน้ายึดมั่น ปชต. จะสร้างความเชื่อถือศรัทธาใหม่เพื่อลบล้างภาพทุจริต, ดีแต่พูดและอิงแอบเผด็จการ

ยก 2 ปฏิรูป (7) น่าจะคิดได้แล้วว่าทำไม 2-3 เดือนมานี้รัฐบาลบริหารผิดพลาดหลายเรื่องโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจปากท้องของแพงแต่ความนิยมของ ปชป. ก็ไม่ดีขึ้น

ยก 2 ปฏิรูป (8) พรุ่งนี้เป็นยก 2 ของการปฏิรูปพรรค ปชป. แต่ก็อาจเป็นยกสุดท้ายของผมของเลขาฯ พรรคของกลุ่มปฏิรูปหรือของคนบางคนบางกลุ่มในพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เป้าที่ล็อกไว้เห็นชัดเจนว่า "อลงกรณ์" จะสื่อถึงอะไร



กระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ยอมรับการปฏิรูปพรรค เพียงแค่ให้เพิ่มกรรมการบริการพรรค จาก 19 คน เป็น 25 คน เพิ่มรองหัวหน้าพรรค จาก 3 คน เป็น 5 คน โดยให้ที่ประชุมใหญ่เลือกรองหัวหน้าภาคต่างๆ และให้อำนาจหัวหน้าพรรค ในการเลือกเลขาธิการพรรค

แถมในที่ประชุมยังมีการต่อว่าต่อขาน "อลงกรณ์" ที่มักจะเสนอ หรือเรียกร้องผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กบ่อยครั้ง และขอให้มาพูดคุยกันในพรรคเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ตอบโจทย์ที่ "อลงกรณ์" ตั้งไว้ว่า ทำอย่างไรพรรคจึงจะทันสมัย ทำอย่างไรพรรคจึงจะชนะการเลือกตั้ง อย่างที่ไม่เคยชนะมา 21 ปี ทำอย่างไรจึงจะกู้วิกฤตศรัทธากลับคืน

แต่ "อลงกรณ์" ก็ต้องแพ้ในที่สุด



สุดท้าย กลุ่มคอนเซอร์เวทีฟในพรรค ก็ยังคงยึดหลักการของตัวเอง ไม่พยายามที่จะพาพรรคเดินไปข้างหน้า คิดเพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ได้รับความนิยมจากแฟนคลับอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวในสภา การทุ่มเก้าอี้ การแสดงปฏิกิริยาประท้วงในที่ประชุมจนประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย

ไม่ว่าจะเป็นท่าทีในการขึ้นเวทีผ่าความจริง กับคำพูดที่หยาบคาย ตั้งแต่ลูกพรรคไปจนถึงหัวหน้าพรรค

ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากกลุ่มแฟนคลับพวกฮาร์ดคอร์ จนคิดไปว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศ จึงไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อรักษามวลชนกลุ่มนี้เอาไว้ แต่ไม่เพิ่มยอดจากกลุ่มผู้เบื่อหน่ายการเมืองแบบเดิมๆ

กลุ่ม ส.ส.หนุ่ม-สาว ที่พอจะเป็นความหวังว่าเป็นกลุ่มยังบลัด ที่คิดว่าจะมาช่วยกันพัฒนาพรรค แต่กลับเดินตามรอยที่วางเอาไว้เป๊ะ!!!

ดังนั้น คนที่จะอยู่ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ จะต้องเป็นสปีชี่ส์เดียวกัน ที่จะต้องนิยมชมชอบไปในทางเดียวกัน เพราะใครที่เห็นต่างไปจากคนในพรรค จะกลายเป็นเอเลี่ยนสปีชี่ส์ทันที

เพราะความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ที่ใครต่อใครหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี หากหยิบยกขึ้นมาปรับปรุงที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น แต่ตรงกันข้าม การเสนอไอเดียใหม่ กลายเป็นตัวประหลาด จนถูกโยงไปถึงขนาดว่า "อลงกรณ์" จงใจเลื่อยขาเก้าอี้หัวหน้าพรรค

ถ้าอย่างนั้นพรรคที่มีอายุอานามกว่า 60 ปี ไม่มีวันหลุดพ้นกับวังวนที่ตัวเองสร้างขึ้น

สุดท้าย กลายเป็นการขังตัวเองอยู่ในถ้ำต่อไป...