ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มาร์ค ยืนยันค้าน กม.นิรโทษกรรม พร้อมสู้คดีเพื่อสร้างบรรทัดฐานกระบวนการยุติธรรม

เริ่มโดย ฅนสองเล, 11:44 น. 29 ต.ค 56

ฅนสองเล

(29 ต.ค. 56) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงการที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องว่า ตนขอขอบพระคุณกำลังใจ ความห่วงใยที่ส่งมาให้ และขอให้ความมั่นใจกับทุกๆ คนว่า ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ และยืนยันจุดยืนที่ได้แสดงมาตลอดว่า ตนพร้อมจะต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อจะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพื่อให้ประเทศมีบรรทัดฐานเกี่ยวกับการจัดการปัญหาที่ชัดเจน พร้อมทั้งยืนยันคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด

"ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านนะครับที่ส่งกำลังใจมา หรือว่าได้แสดงออกผ่านทางช่องทางสื่อสารต่างๆ แสดงความห่วงใย แล้วก็เป็นกำลังใจให้กับผมนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนคงเหมือนกันคงไม่มีใครอยากจะต้องตกอยู่ในสภาพอย่างนี้คือตกเป็นจำเลยในข้อหาฉกาจฉกรรจ์อย่างนี้ แต่ว่าผมก็ให้ความมั่นใจกับทุกๆ ท่านนะครับว่า

1. ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ของผม แล้วก็ยืนยันจุดยืนที่ได้แสดงมาโดยตลอดว่า พร้อมที่จะต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรม ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญครับที่กระบวนการยุติธรรม ก็จะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง รวมไปจนถึงคดีนี้จะเป็นคดีสำคัญที่เราอยากให้มันมีบรรทัดฐานที่ชัดเจนว่า เวลาที่มันมีการชุมนุมที่มีการใช้อาวุธ เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายแล้วมีการประกาศใช้กฎหมายตามขั้นตอนแล้ว สรุปแล้วการดำเนินการจัดการกับปัญหาเรื่องแบบนี้จะต้องทำกันอย่างไร
เพราะฉะนั้นผมก็ยังยืนยันในการเดินหน้าต่อสู้คดี แล้วก็ยืนยันว่าคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะมีความพยายามที่บอกว่ากฎหมายฉบับนี้ ก็นี่ไงจะมาให้นิรโทษกรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าสัมพันธ์กันหรือไม่กับกระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประหนึ่งเหมือนกับที่หลายคนวิเคราะห์ว่าต้องการจะบีบให้ทางผม กับคุณสุเทพนั้นหันมายอมรับกฎหมายฉบับนี้"

ก่อนหน้านี้คุณอภิสิทธิ์เคยเขียนไว้ว่า ยอมตาย เพื่อรักษาระบบ แต่ไม่เสียระบบเพื่อรักษาตัวเอง แต่วันนี้เขาจะเอาคุณอภิสิทธิ์เข้าคุกให้ได้นั้น รู้สึกหวั่นไหวหรือไม่

"ไม่ครับ ก็นี่แหละครับคือบทพิสูจน์ครับ เพราะว่าการพูดนั้นหลายคนก็อาจจะบอกว่า จะพูดอย่างไรก็พูดได้ แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นจริงก็เป็นโอกาสในการพิสูจน์ไงครับว่าการพูดที่พูดนั้นพูดจริง แล้วจะทำจริง
ส่วนวันนี้รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการของผมต่อไปนั้นจะขอแถลงข่าวในช่วง 11.00 น. นะครับ พร้อมกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณครับ"

จากการจับอารมณ์ของคนในขณะที่เกิดสถานการณ์ มีการปิดล้อมพื้นที่ มีการขนกำลัง ซ่องสุม ใช้ไม้ไผ่ ยางรถยนต์ มาตั้งป้อมปราการอยู่กลางถนน มีอาวุธ มีคนชุดดำ ในตอนนั้นหากได้เฝ้ามองรัฐบาลอยู่ ก็จะเห็นว่าเสมือนรัฐบาลไม่ใช้ความเด็ดขาด หรือไม่ทำอะไร แต่พอวันที่รัฐบาลใช้มาตรการเพื่อรักษากฎ กติกาของสังคม กลับกลายเป็นว่า ผลในการรักษากฎหมาย รักษาบ้านเมืองในวันนั้น ทำให้คุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ในวันนี้ แม้จะยังไม่เป็นการตัดสินของศาลก็ตาม คุณอภิสิทธิ์รู้สึกอย่างไรเมื่อมองย้อนกลับไปในวันนั้น

"ผมก็คิดว่าสิ่งที่เราได้พยายามตัดสินใจแล้วก็อธิบายกับพี่น้องประชาชนหลายฝ่ายตอนนั้น ก็เหตุการณ์ผ่านมา จริงๆ ก็อยากจะบอกนะครับว่า ผมกับคุณสุเทพนั้นก็ถูกฟ้องแพ่งใน 2 – 3 คดี หลายท่านไม่ทราบ โดยผู้ที่ถูกเผาครับว่า พวกผมไม่ทำอะไร ทำให้เขาถูกเผา เพราะฉะนั้นก็ทั้งขึ้นทั้งล่องครับ แต่ผมถือว่าอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องเป็นความรับผิดชอบไงครับ ที่มากับหน้าที่ แล้วก็การมีอำนาจในการที่จะบริหาร เราก็คิดว่าเราได้เดินในแนวทางซึ่งเคารพกฎหมาย แต่ว่าก็มุ่งมั่นไปสู่การรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง

ซึ่งทราบดีว่าในสถานการณ์อย่างนั้นจะทำให้ถูกใจประชาชน อย่าว่าแต่ทุกกลุ่มเลยนะครับ ก็ประชาชนจะจำนวนเท่าไหร่ก็ตามนั้นเป็นเรื่องยากมาก แต่เมื่อตัดสินใจแล้วต้องรับผิดชอบครับ นี่คือลักษณะของการเมืองที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นเราจึงยืนยันว่า การมาออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่มีความเหมาะสมเลยในการที่จะตัดตอนกระบวนการทั้งการค้นหาความจริง และความรับผิดชอบจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และจุดยืนนี้ก็ยังเป็นจุดยืนของเราที่ชัดเจน"

คำสั่งของอัยการวานนี้เป็นการฟ้องคุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ เป็นส่วนตัวใช่หรือไม่

"ถูกต้องครับ"

หลังจากนั้นก็ต้องไปขึ้นศาลอาญา ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ใช่หรือไม่

"ถูกต้องครับ แล้วก็ผมก็ถึงได้บอกว่ามันเป็นเรื่องที่แปลก และขัดแย้งกันในตัว เพราะว่าคำบรรยายที่เกี่ยวกับพฤติการณ์ทั้งหมดก็บอกว่าผมผิดตรงที่ผมออกคำสั่ง คำสั่งที่ผมออกก็คือตั้ง ศอฉ. ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าคำสั่งตั้ง ศอฉ. นั้นเป็นการออกคำสั่งที่เป็นความผิดส่วนตัวได้อย่างไร ก็นี่แหละครับก็คือความไม่ปกติของการทำคดีนี้"

ศอฉ. เป็นรูปแบบของคณะกรรมการ มีอัยการสูงสุดร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วยหรือไม่

"มีครับ ก็นี่แหละครับ ผมคิดว่าทั้งหมดก็เดี๋ยวจะมีรายละเอียดที่จะพูดคุยในช่วง 11.00 น. กับทางคุณสุเทพ แล้วก็ให้พี่น้องประชาชนที่กรุณาให้กำลังใจ แสดงความห่วงใยมานะครับว่า อย่าหวั่นไหวนะครับ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องเชื่อในแนวทางของการต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรมครับ"

ผลของคำสั่งของอัยการสูงสุดวานนี้ไม่ทำให้คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ เปลี่ยนใจไปสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมใช่หรือไม่

"ไม่(สนับสนุน)แน่นอนครับ ไม่(สนับสนุน)แน่นอน แล้วก็ยิ่งตอนนี้ก็ทำให้ต้องถูกจับตามากขึ้นด้วยซ้ำครับว่าตกลงจะค้านจริงมั้ย ก็ยืนยันว่าค้านจริงๆ ครับ แล้วก็ได้ติดตามต่อแน่ครับ"

ขณะเดียวกันในการประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายล้างผิดวานนี้เป็นอย่างไรบ้าง

"ก็ตามที่เราคาดหมายนะครับ ก็คือว่ามีความพยายามเร่งรัดให้ต้องเห็นชอบกับรายงานของคณะกรรมาธิการเมื่อวานนี้ตอนเช้า ซึ่งความจริงยังมีหลายส่วนที่มีการขอแก้ไข แต่ว่าประธานก็บอก เอาเลย ส่งคำแก้ไขเลย แล้วก็ถือว่ารับรองกันไปเลย แล้วก็ผมทราบว่าพอช่วงบ่าย ช่วงเย็นก็มีการนำรายงานนี้เสนอไปที่ท่านประธานสภาแล้วครับ เป้าหมายนั้นก็คือเพื่อที่จะให้ท่านประธานสภาบรรจุเป็นระเบียบวาระเพิ่มเติมในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่วันพุธ ก็วันพฤหัสฯ"

หมายความว่าจะมีการบรรจุวาระนี้เข้าในที่ประชุมสภาในวันที่ 30 – 31 ตค.นี้ ใช่หรือไม่

"ครับ น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ส่วนเรื่องบรรจุเข้าไปแล้ว การบรรจุเข้าไปก็ต้องเป็นเรื่องที่ไปต่อตามลำดับของเรื่องต่างๆ ที่อยู่ในระเบียบวาระอยู่แล้ว ก็จะอยู่ที่ว่าทางเสียงข้างมากนั้นจะเสนอเลื่อน หรือเปลี่ยนระเบียบวาระในการพิจารณากฎหมายหรือไม่ แล้วก็ถ้าเลื่อนแล้วจะไปอีกขั้นนึงหรือเปล่า คือปกติกฎหมายตามข้อบังคับเลื่อนแล้วมาพิจารณาเลยไม่ได้นะครับ เพราะเขาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกต้องได้มีโอกาสศึกษากันก่อน แต่ว่าถ้าหากว่าจะเลื่อน แล้วก็ขอพิจารณาเลยก็ต้องยกเว้นข้อบังคับข้อนี้"

ขณะที่ยังมีผู้ยื่นแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการฯ อีกหลายคนยังไม่ได้แปรญัตติในชั้นกรรมาธิการฯ  ดังนั้นก็ต้องมาแปรญัตติในวาระ 2 ที่สภา คาดว่าวันที่ 30 – 31 ตค.นี้ จะเสร็จหรือไม่

"เราไม่ทราบครับว่าเขาจะเลื่อนหรือเปล่า ประการแรก แต่ว่าถ้าเลื่อน ก็ต้องพิจารณากันไปครับ แต่ว่าก็มี สส. ที่สงวนคำแปรญัตติเอาไว้เป็นนับร้อยคน แต่อย่าลืมว่า กฎหมายก็สั้นนะครับ มีแค่เพียง 7 มาตรา แต่ว่าเราก็จะทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ครับ ถึงที่สุดครับ"

ปกติแล้วในวันพุธ ที่ประชุมสภาฯ มักจะพิจารณาเรื่องอะไร

"ปกติวันพุธเป็นเรื่องกฎหมายนะครับ แต่ไปเริ่มช่วงบ่าย"

หากพรุ่งนี้มีการเสนอเรื่องนี้เข้าสภา แล้วมีการยกเว้นข้อบังคับ ก็จะสามารถพิจารณาในวันพรุ่งนี้ได้ใช่หรือไม่

"ใช่ครับ"

ฝ่ายรัฐบาลอาจจะงัดไม้ตาย ด้วยการไม่ให้อภัยคนที่สั่งฆ่า คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ ทางหนึ่งก็เพื่อเอาใจคนเสื้อแดง กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต คุณอภิสิทธิ์คิดอย่างไร

"ผมคิดว่าทำ ก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายอะไร คืออย่าลืมว่าที่ทำทั้งหมดนี้ ก็ทำเพื่อให้คุณทักษิณกลับบ้าน แล้วก็เพื่อ 46,000 กว่าล้านนี่ครับ เพราะฉะนั้นผมไม่ได้คิดว่า ที่มาพยายามพูดว่าเป็นเรื่องปรองดอง หรืออะไรนั้นมันเป็นเรื่องสำคัญหรอกครับ คืออะไรที่มันสะดวกกับเขา ที่ให้เขากลับบ้านได้นั้น เอาทั้งนั้นนะครับ เอาทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คือสิ่งที่ต้องเข้าใจนะครับ แล้วก็ผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจ น้ำหนักอะไรกับว่า จะมีการแปรญัตติแล้วก็ลงมติเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นอย่างใดต่อไป"

เนื่องจากเกิดกระแสต่อต้านจำนวนมาก มีคนไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิดแบบนี้ ล่าสุดมีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น และเครือข่ายก็ออกแถลงการณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายฉบับนี้เพราะเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม เป็นการส่งเสริมให้มีการทุจริต คอร์รัปชั่น ในกรรมาธิการฯ บางท่านบอกว่า เท่ากับเป็นการออกใบอนุญาตให้คอร์รัปชั่นได้ เมื่อดูภาพรวมทั้งหมดกับการเคลื่อนไหวนอกสภาตอนนี้คุณอภิสิทธิ์ประเมินอย่างไร

"ผมประเมินไม่เหมือนคุณทักษิณ ที่ว่าค้านไม่ถึงหมื่นคน ผมประเมินว่ามากกว่าหมื่น ผมก็ยืนยันนะครับว่า กฎหมายนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก สังคมไทยถ้าปล่อยกฎหมายฉบับนี้ผ่านได้ 1. เป็นกฎหมายที่กล้ายอมรับว่า ถ้ามีการกระทำทุจริต ให้นิรโทษกรรมเสีย 2. เป็นกฎหมายที่กล้าบอกว่า การที่มีคนจงใจไปฆ่าคน เอาชีวิตคนอื่น รัฐสามารถที่จะไปนิรโทษกรรมให้กับเขาได้ ทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นการไปจงใจกระทำความผิดต่อชีวิตของคนอื่น ไม่ใช่ของรัฐ เป็นกฎหมายที่พูดง่ายๆ ก็คือสามารถที่จะตัดตอนกระบวนการปรองดอง กระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ค้นหาความจริงได้ เพราะฉะนั้นผมเชื่อครับว่าในหลายแง่มุม เมื่อวานนี้ที่มีการแถลงนี้ก็คือจากเครือข่ายที่เขาต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น นั่นเพียงประเด็นเดียวนะครับ เราต้องคิดถึงเรื่องของสิทธิมนุษยชน เราต้องคิดถึงเรื่องอื่นๆ อีกมาก และผมเชื่อว่าถ้าสังคมไม่ยืนหยัดต่อต้านเรื่องนี้ ก็อย่างที่เมื่อวานนี้เขาแถลงข่าวครับว่า ต่อไปนี้ก็คือใบอนุญาตนี่ทุกอย่างเลยนะครับ ไม่ใช่แค่โกงนะครับ ทั้งฆ่า ทั้งเผา ทั้งอะไรต่างๆ สารพัดครับ"

สุดท้ายกฎหมายฉบับนี้จะลงเอยอย่างไร

"อยู่ที่ประชาชนครับ ไม่มีใครสามารถกำหนดล่วงหน้าได้หรอกครับ อยู่ที่ประชาชนว่าจะออกมาปกป้องประเทศชาติบ้านเมืองกับระบบไม่ให้ถูกย่ำยีโดยกฎหมายแบบนี้หรือไม่"

มีการพูดกันไปไกลถึงว่า หากมีประชาชนออกมาคัดค้านกันมาก รัฐบาลอาจจะใช้วิธีออกเป็นพระราชกำหนด เรื่องนี้จะสามารถทำได้เลยหรือไม่

"ก็ถ้ารัฐบาลเห็นว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด รัฐบาลก็ออกมาเป็นพระราชกำหนดนะครับ ผมก็บอกว่ารัฐบาลก็เตรียมไปขึ้นศาลได้เลย"

สมมติว่ามีการออกกฎหมายฉบับนี้เป็นพระราชกำหนด แล้วมีผลทันที พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านได้เลย แล้วยุบสภาหนี จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แบบนี้จะทำได้หรือไม่

"ก็ลองดูสิครับ ระวังกลับมาจะไม่ได้อยู่บ้านก็แล้วกันนะครับ เพราะว่า พรก. เป็นโมฆะขึ้นมาทำไงครับ"

แสดงว่าหากรัฐบาลทำแบบนี้ ก็ต้องมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลใช่หรือไม่

"คือเป็นกฎหมายที่ไม่เข้าข่ายที่จะเป็นการตราพระราชกำหนดเลยครับ"

การออก พรก. นั้นต้องเข้าข่ายว่าเป็นเรื่องที่ฉุกเฉิน จำเป็น เร่งด่วน จำเป็น ป้องปัดภัยพิบัติ

"ครับ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วภัยพิบัติคืออะไรล่ะครับ"

วานนี้เกิดเหตุระเบิดที่ภาคใต้ ทำให้หน่วยเก็บกู้ระเบิดเสียชีวิต คุณอภิสิทธิ์มองว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลนี้อย่างไร

"ก่อนอื่นก็ต้องแสดงความเสียใจ แล้วก็เป็นความสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตไปนั้นก็เป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แล้วก็มีผลงานในการกู้ระเบิดอะไรต่างๆ อยู่ และถือว่าเป็นความสูญเสียอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ยังเป็นตัวสะท้อนครับว่า การแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต้องมีการมาตั้งหลักกันให้ดี เพราะว่าเท่าที่ผมทราบนั้น การพูดคุยในรอบต่อไปก็ยังดำเนินการอยู่ ซึ่งหลักของการที่จะพูดคุยก็ไม่มีปัญหานะครับ คือจำเป็นจะต้องพูดคุย เพียงแต่ว่าเหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับยังไม่มีคำตอบ มันก็ต้องใช้กระบวนการพูดคุยในการที่จะมาเผชิญกับปัญหานี้ ไม่ใช่แยกส่วนไปว่า คุยก็ต้องคุย แต่คุยแล้วก็ไม่ได้มีผลอะไรเลยต่อพื้นที่นั้นก็คงไม่สามารถที่จะเป็นแนวทางที่จะแก้ปัญหาได้ในที่สุดครับ"

เหตุการณ์เมื่อวานนี้ถือเป็นการจ้องโจมตีอย่างชัดเจน มีการวางแผนอย่างละเอียด ขณะที่กำลังมีการเตรียมการพูดคุยอย่างนี้แล้ว ฝ่ายไทยควรจะแข็งกร้าวขึ้นกว่านี้หรือไม่

"คือต้องคิดนะครับ คือผมเคยบอกนะครับว่าความรุนแรงนั้นผมวิเคราะห์ออกมาเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มที่ไม่พอใจการพูดคุย ก็ต้องการจะแสดงให้เห็นว่าไม่เอาด้วยหรอก แสดงศักยภาพของตน กับ 2. นั้นก็คือผมเชื่อว่าอีกส่วนหนึ่งก็กลุ่มเดียวกับที่พูดคุย แต่การกระทำโดยการใช้ความรุนแรงนั้น เหมือนกับเป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองให้กับฝ่ายตนเอง ซึ่งถ้ามันมีหลักฐานที่เป็นกรณีหลัง ต้องเอามาวางกันบนโต๊ะครับว่าทำแบบนี้ไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่อยากจะย้ำนะครับ แต่ว่าปัญหาที่ผ่านมาก็คือเราไม่ค่อยเห็นจุดยืนท่าทีที่ชัดเจนของทางรัฐบาลเองว่า เมื่อยังมีปรากฎการณ์หรือปัญหาในลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ แล้วมีการดำเนินการอย่างไรในเชิงยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีของการพูดคุย ที่จะไม่ให้มันเกิดปัญหาแบบนี้"

หากคุณอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลในขณะนี้จะเดินทางลงภาคใต้ทันทีหรือไม่

"ก็คงจะลงไปนะครับ ถามว่าทันทีไม่ทันทีนั้นผมตอบไม่ได้นะครับว่าเป็นอย่างไร แต่คงไม่ช้าหรอกครับ คงจะไปเป็นกำลังใจให้นะครับ แต่ว่าเข้าใจว่าเมื่อวานนี้นายกฯ ก็อาจจะบอกว่าก็อยู่ในสภาไง"

คุณอภิสิทธิ์ได้เห็นภาพนายสุรพงษ์ กับฮอ นัมฮง จับมือกันที่ปอยเปตหรือไม่

"เห็นในหนังสือพิมพ์ครับ"

มีข้อสังเกตอย่างไรบ้าง

"ก็เป็นห่วงครับ เป็นห่วงกับแนวทางของรัฐบาลว่าจะตั้งรับกับคำพิพากษาที่จะออกมาในวันที่ 11 อย่างไร ในการที่จะรักษาสิทธิ อธิปไตยของประเทศ เพราะดู คือตัวรัฐมนตรีตั้งแต่เข้ามาก็เน้นคำพูดมาหลายคำพูดซึ่งทำให้เราต้องห่วงนะครับว่า อย่างงานนี้ไม่มีทางชนะ แล้วก็อะไรก็ตามความสัมพันธ์ในลักษณะที่เหมือนกับการเอาใจประเทศเพื่อนบ้านนั้นจะสำคัญที่สุด ตรงนี้ครับคือท่าทีที่น่าเป็นห่วง เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้ทางรัฐบาล แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศตั้งหลักให้ดีนะครับว่า การจะกำหนดท่าทีและแนวทางในการที่จะเดินโดยมีคำพิพากษาออกมาทางหนึ่งทางใดก็ตามนั้น ควรจะเป็นอย่างไร"

ถ้าวิเคราะห์จากสิ่งที่รัฐบาลแสดงออก ต่อท่าทีที่มีต่อกัมพูชาขณะนี้ตั้งแต่โทรศัพท์ไปหาทางกัมพูชาหลายครั้ง ล่าสุดเดินทางไปปอยเปตเพื่อพูดคุย ขณะที่ผลการพิพากษาจะเป็นผลดี หรือผลเสียกับประเทศไทยนั้นยังไม่แน่ชัด ตรงนี้เสมือนเราตกเป็นเบี้ยล่างของกัมพูชา คุณอภิสิทธิ์มองอย่างไร

"คือผมนั้นมองว่า มันน่าจะเปรียบเทียบให้เห็นนะครับว่า ทำไมท่าทีของฝ่ายเขาจึงดูนิ่งมากกว่าเยอะนะครับ แล้วก็ทำให้เสมือนกับว่าเขามีความมั่นใจ หรือเขาคิดว่าเขามีความได้เปรียบ ในขณะที่ฝ่ายเรากลับไปแสดงท่าทีในลักษณะที่ไปสอดรับอย่างนั้นเสียอีกก็คือ เหมือนกับเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก็อยากให้ทบทวนตรงนี้ครับ"

สุดท้ายมีความเป็นห่วงจากทางบ้านหลังจากที่วานนี้หลังจากทราบข่าวเรื่องอัยการสูงสุดสั่งฟ้องแล้ว คนรอบข้าง คนในครอบครัว ให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์อย่างไรบ้าง

"ก็พูดคุยกันครับ พูดคุยกันว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร แต่ว่าไม่มีความหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้นครับ ก็บอกว่า คือพูดง่ายๆ ว่า รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ไม่ได้แปลกใจครับ ไม่มีใครแปลกใจครับ"

มี SMS ส่งมาให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพเป็นจำนวนมาก

"ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนึงครับ อย่าหวั่นไหวครับ ต้องยึดความถูกต้องแล้วก็เดินหน้าครับ"

หากคนรักคุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ แล้วต้องการแสดงออกแบบคนเสื้อแดงรัก พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วไปแสดงออกหรือมีพฤติกรรมกดดันศาล หรือมีพฤติกรรมข่มขู่

"อย่าเลยครับ อย่าเลยครับ ผมว่าเราต้องแสดงให้เห็นนะครับว่า กระบวนการในลักษณะนั้นมันไม่พึงกระทำนะครับ ไม่ว่าจะโดยฝ่ายไหนก็ตามครับ"

Puiey2521

ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"