กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

4 ค่ายน้ำอัดลมกระหน่ำท้ายปี สร้าง "โมเมนตัม" มองไกลบอลโลกปีหน้า

updated: 28 ต.ค. 2556 เวลา 17:23:16 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ตลาด น้ำอัดลม 43,000 ล้านบาท กลับมาคึกคักร้อนแรงอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่แต่ละค่ายต้องออกแรงกระตุ้นยอดและอัดแคมเปญกันอย่าง เต็มที่

หลังจากดีกรีการแข่งขันดูเบาบางลงในช่วงไฮซีซั่นหน้า ร้อนที่ผ่านมา โดยปล่อยให้ "ชาเขียว" เป็นพระเอกอยู่ฝ่ายเดียว เพราะปัญหาด้านกำลังการผลิตที่บรรดาค่ายหลัก ๆ อยู่ในภาวะขาดสต๊อก

ย้อน กลับไปตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา หลังจาก "เป๊ปซี่ โค" บริษัทแม่เข้ามาลงทุนในไทยด้วยตัวเอง ก็เดินหน้าสร้างโรงงาน ทุ่มงบฯเปิดสายการผลิต ล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้เปิดไลน์การผลิตที่ 6 และ 7 และเตรียมเปิดไลน์การผลิตตัวที่ 8 ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตกลับมาเทียบเท่ากับที่ "เสริมสุข" ผู้ผลิตและบรรจุขวดเป๊ปซี่ในอดีตที่เคยผลิตให้

ขณะที่ "โคคา-โคลา" ที่ "ส้มหล่น" ครั้งใหญ่ หลังจากคู่แข่งหลัก "เป๊ปซี่" สะดุดขาตัวเอง และฉวยจังหวะที่เป๊ปซี่ยังไม่พร้อมเข้าไปเสียบแทนตามช่องว่างตลาดและร้านค้า ต่าง ๆ ที่เคยเป็นคู่ค้าหลักของเป๊ปซี่ โดยเฉพาะช่องทางร้านอาหาร แต่ด้วย "ดีมานด์" ที่เกิดขึ้นมหาศาลแบบฉับพลัน ทำให้โค้กก็อยู่ในภาวะ "ไม่พร้อม" ด้านกำลังผลิตเช่นเดียวกัน

ช่วง ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา "พรวุฒิ สารสิน" รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ได้ควงผู้บริหารของโคคา-โคลา และหาดทิพย์ ประกาศทุ่มงบฯ 4,000 ล้านลงทุนเพิ่มกำลังผลิต เพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่เพิ่งช่วงชิงมาได้หมาด ๆ

ไม่แปลกที่การเปิดศึกโปรโมชั่น แคมเปญ ชิงโชคต่าง ๆ จึงมา "ปะทุ" ขึ้นในช่วงเวลานี้

ฝั่งของโค้กอาศัยจังหวะการเปิดตัวโกลบอลแคมเปญ Share a Coke ที่ตอกย้ำแคแร็กเตอร์แบรนด์แห่งความสุข โดยพิมพ์คำพิเศษแสดงความรู้สึกและชื่อเล่นลงบนแพ็กเกจจิ้งเพื่อส่งความ รู้สึกดีๆ ให้แก่กัน ส่งคอนซูเมอร์โปรโมชั่น แข่งสะสมแพ็กเกจจิ้งโค้ก ลุ้นโชคแพ็กเกจทัวร์ชมฟุตบอลโลกที่บราซิล หรือรับบัตรชมคอนเสิร์ตระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ ตลอดเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน พร้อม ส่งคาราวานพิมพ์กระป๋องให้ตนเองหรือคนพิเศษ ตระเวนไปตามจุดต่าง ๆ ทุกภูมิภาคถึงสิ้นเดือนธันวาคม โดยซื้อสินค้าในเครือโคคา-โคลา ครบ 100 บาท บริการพิมพ์กระป๋องได้ 1 กระป๋อง

แคมเปญดังกล่าวถือเป็นกลยุทธ์ที่ ประสบความสำเร็จของโค้กทั่วโลก ด้วยการเจาะไปที่ไลฟ์สไตล์ของคน และเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์โค้กด้วยการทำให้กระป๋องโค้กกลายเป็นของขวัญสุด พิเศษที่คนนำมาหยิบยื่นให้แก่กัน

ขณะที่ "เป๊ปซี่ ไทย" ก็เดินเกม "สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" อย่างเต็มที่ หลังจากทุ่ม 400 ล้านบาท เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสโมสร "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มในระดับภูมิภาค ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา ลาว และบรูไน ก็ส่งบิ๊กโปรโมชั่น "รหัสฝาเป๊ปซี่ ลุ้นเที่ยวฟรี เชียร์แมนยู" ลุ้นบินลัดฟ้าไปเชียร์นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่นสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่15 สิงหาคมถึง 12 พฤศจิกายนนี้ รวมรางวัลกว่า 30 ล้านบาท

งานนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ออกมาชนกับอดีต พันธมิตรอย่าง "เสริมสุข" แบบเต็ม ๆ เมื่อ "เอส" ก็ประกาศผนึกพันธมิตรกับสโมสร "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เพื่อติดจรวดการสร้างแบรนด์โกอินเตอร์ให้เร็วขึ้น พร้อมส่งแคมเปญ "แมน-เอส-เตอร์ ซิตี้ 3 บิ๊กแมตช์ สุดขั้ว" ให้ผู้บริโภคลุ้นโชคไปดูการแข่งขันของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดไตรมาส 4 ถึงต้นปีหน้า พร้อมแพ็กเกจทัวร์และที่พัก ณ ประเทศอังกฤษ

ขณะ ที่ "บิ๊กโคล่า" ที่ดูเหมือนจะเงียบหายไปนานก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อทั้ง 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ต่างส่งโปรโมชั่นลุ้นโชค ในฐานะค่ายเล็กที่สุดก็จำเป็นต้องส่งกิมมิกเร้าใจออกมาประชันเช่นเดียวกัน กับกิจกรรม "ดื่มบิ๊กโคล่า บินไปเลี้ยงยีราฟที่แอฟริกา" พร้อมทริปเที่ยวสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ๆ ของค่ายน้ำอัดลมจากเปรูรายนี้ เป็นการสู้กันแบบถึงพริกถึงขิงแบบไม่มีใครยอมใคร และเชื่อว่าแน่ว่าทั้ง 4 ค่ายต่างมองเกมไปถึง "ฟุตบอลโลก 2014" โดยคาดหวังส่งโมเมนตัมในช่วงปลายปีต่อเนื่องไปถึงปีหน้าที่ทุกค่ายเตรียมส่ง "สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" เข้ามาช่วงชิงแบบเต็มพิกัด บนพื้นฐานที่ไม่มีใครเสียเปรียบด้าน "กำลังผลิต" อีกต่อไป ผลแพ้ชนะขึ้นอยู่กับไอเดียทางการตลาด กิจกรรมที่งัดออกมาใช้ และความแข็งแกร่งของ "แบรนด์" ที่ใครจะสามารถทำได้โดนใจกว่ากัน

ตำแหน่ง แชมป์วันนี้ที่ "โค้ก" สามารถยึดไว้อย่างมั่นคงด้วยส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% จะสั่นคลอนหรือไม่ "เป๊ปซี่" จะสามารถกลับมาทวงแชมป์ได้ภายใน 2 ปีตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ หรือ "เอส" จะยังครองตำแหน่งที่ 2 ในตลาดไว้ได้นานขนาดไหน "บิ๊กโคล่า" ที่ขณะนี้เหมือนเป็น "ม้ารองบ่อน" จะกลับมาสร้างกระแสเป็น "ม้ามืด" ได้เหมือนช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่

ทั้งหมดล้วนน่าติดตามแบบห้ามกะพริบตา วัดกัน "ฟุตบอลโลก" ปีหน้า