ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พท.ลุยศาลรธน. ถอดถอน ฟันอาญาม.157

เริ่มโดย itplaza, 10:58 น. 22 พ.ย 56

itplaza


รู้ต่อสู้กับใคร-ขู่เล่นงานกลับ ขุนค้อนบรรจุญัตติซักฟอก ปชป.ยื่นคำขาดขอถล่ม3วัน

"จารุพงศ์" พร้อมแกนนำเพื่อไทย ออกแถลงการณ์โต้เดือดศาล รธน. ฉะอ้างหลักนิติธรรมมั่ว ใช้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญแทรกแซง ฝ่ายนิติบัญญัติ เปรียบเหมือนทำรัฐประหาร ซ่อนรูป ขู่ยื่นถอดถอน-เล่นงานอาญากลับ พท.โดดป้องนายกฯไม่มีสิทธิถอนร่างคืน "ขุนค้อน" โอดอะไรจะเกิดก็เกิด พ้อไม่รู้จะทำตามยังไง ส.ว.รุมตำหนิตีความขยายอำนาจ คปท.ลุยชง ป.ป.ช.ฟันอาญา "ยิ่งลักษณ์" และพวก ปชป.-กลุ่ม 40 ส.ว.รอซ้ำดาบสองยื่นถอดถอน 312 ส.ส. ส.ว. รัฐบาลหวังกฤษฎีกาชี้ทางแก้เกม ปธ.สภาฯ ยอมบรรจุญัตติซักฟอก "มาร์ค" สั่งลูกพรรคหาข้อมูลจัดหนัก "กรณ์" แฉมีกดบัตรแทนกันอีกแล้ว

การเมืองไทยยังไม่คลายวิกฤติ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ขัดมาตรา 68 วรรคสอง แม้จะไม่ยุบพรรค ล่าสุดพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ตอบโต้รุนแรง ขู่เข้าข่ายดำเนินคดีอาญาและถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญได้

คปท.ชง ป.ป.ช.ฟันอาญา "ปู"

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายอุทัย ยอดมณี เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีอาญา  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภารวม 312 คน ที่เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต โดยนายอุทัยกล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาทำความผิดชัดแจ้ง ดังนั้นเพื่อให้หลาบจำไม่ปฏิบัติตนทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้ ป.ป.ช.เร่งดำเนินคดีอาญากับบุคคลดังกล่าวทันที

กลุ่ม 40 ซ้ำยื่นถอด 312 ส.ส.–ส.ว.

ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ตัวแทนกลุ่ม 40 ส.ว. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายวันชัยกล่าวว่า วันที่ 22 พ.ย. กลุ่ม 40 ส.ว.จะไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการถอดถอน ส.ส. ส.ว. 312 คน ที่เสนอและเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ถือว่ามีใบเสร็จเป็นหลักฐานน่าเชื่อถือได้ว่า ส.ว. ส.ส. 312 คน ได้กระทำความผิดแล้ว เชื่อว่า ป.ป.ช.จะเร่งวินิจฉัยโดยเร็ว เพราะมีพยานหลักฐานจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชัดเจนและผูกพันทุกองค์กร จึงต้องดำเนินคดีแบบสุดซอยและเหมาเข่งกับ ส.ส. ส.ว. 312 คน ส่วนการดำเนินคดีทางอาญาจะดำเนินการในฐานะภาคประชาชน โดยเอาผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ รวมทั้งใช้เอกสารเท็จ

ปัดจ้องล้างแค้นแค่ให้สำนึก

นายประสารกล่าวว่า ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่การล้างแค้นหรือคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัว แต่ต้องการรักษานิติรัฐ นิติธรรม และต้องการให้เกิดความสำนึกและรับผิดชอบของรัฐบาล จากคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ คือมาตรา 190 และมาตรา 68 ประกอบมาตรา 237 ที่อยู่ในกระบวนการเดียวกัน และอยู่ในข่ายที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว

ฝ่ายค้านเล่นทั้งอาญา–ถอดถอน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกับที่พรรคประชาธิปัตย์เคยท้วงติงมาตลอด จะหารือว่าจะดำเนินการกับสมาชิกรัฐสภา 312 คน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าผู้ใดต้องรับผิดชอบอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะการยื่นถอดถอน และการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ที่มีการทูลเกล้าฯเอกสารเท็จ คาดจะชัดเจนในสัปดาห์หน้า

ขู่ทิ้งไพ่ยุบสภาไม่ได้แก้ปัญหา

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังศึกษารายละเอียดคำวินิจฉัย เพื่อยื่นเอาผิดสมาชิกรัฐสภาและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งยื่นถอดถอนหรือดำเนินคดีทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมาตรา 157 ส่วนจะไปถึงเลขาธิการสภาผู้แทน ราษฎรและเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่นั้น รอฝ่ายกฎหมายพิจารณาก่อน เรื่องนี้นายกฯต้องมีสำนึกขอทูลเกล้าฯถวายคืนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ส่วนที่มีข่าวลือหนาหูว่าอาจจะยุบสภาวันที่ 22 พ.ย. ถือว่าไม่ใช่ทางออก ฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการให้ยุบสภา หากนายกฯเลือกยุบสภาฯจะทำให้ปัญหายุ่งยาก และอยากให้นายกฯออกมาพูดให้ชัดว่า เห็นด้วยกับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะได้ดำเนินคดีข้อหากบฏได้ถูกต้อง

"จารุพงศ์" บอกรู้กำลังสู้กับใคร

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะไม่เปลี่ยนเป้าหมายที่จะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดทิศทางของตัวเอง ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเราจะเดินหน้าต่อไปโดยยึดเอาระบบสากล เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบไม่ใช่ครึ่งใบ ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยังเปิดโอกาสให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติได้อีก รัฐบาลรู้มานานแล้วจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เมื่อถามว่า มีวิธีตั้งรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างไร นายจารุพงศ์ตอบว่า คงไม่ใช้คำว่าตั้งรับแต่จะต้องเดินหน้าด้วย พรรคทราบดีถึงสิ่งที่จะเกิดและวิเคราะห์เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ไว้แล้ว แต่ไม่สามารถพูดได้หมด สถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอด ไม่อยากคาดการณ์เกินไป แต่สถานการณ์ต่อไปนี้จะแหลมคมมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากขึ้น จึงต้องระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น สรุปว่าเรารู้ว่าเรากำลังสู้อยู่กับใคร ประชาชนไม่ต้องห่วง เราจะสู้อยู่ในทางที่ประชาชนอยู่กับเรา

วิปรัฐกั๊ก "ตู่" ชงโหวตวาระ 3 ร่าง 291

ด้านนายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลขอดูรายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าเป็นอย่างไร และจะนัดหารือกับสมาชิกรัฐสภาทั้ง 312 คนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าสมาชิกรัฐสภามีสิทธิเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ส่วนการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เสนอโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ก็เป็นสิทธิเสนอได้ แต่วิปรัฐบาลยังไม่ได้หารือกันว่าจะทำอย่างไร

พท.บีบ "ขุนค้อน" งัดข้อศาล รธน.

ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว โดย นพ.เหวงกล่าวว่า จะทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาให้ทำหนังสือคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. เพราะเป็นการก้าวล่วงเข้ามายึดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ และประธานรัฐสภาโดยสิ้นเชิง ทั้งที่ไม่มีอำนาจทำได้ ถือเป็นรัฐประหารอำพรางรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะการทำตัวเป็นศาลยุติธรรม เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน ด่วนสรุปว่า นายนริศร ทองธิราช ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กดบัตรลงคะแนนแทน ทั้งที่ไม่เคยเรียกไปสอบถาม อาศัยแค่ภาพที่ปรากฏในคลิปวีดิทัศน์ ซึ่งนายนริศรได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่คนในภาพจึงไม่ควรปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญมาก้าวล่วงละเมิดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ

ออกแถลงการณ์งัดข้อศาล รธน.

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กว่า 20 คน ร่วมแถลงท่าทีภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. โดยนายจารุพงศ์อ่านแถลงการณ์ว่า 1. การที่ ส.ส.และ ส.ว. 312 คน ร่วมเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ดังนั้น สมาชิกรัฐสภาทั้งหมดต้องมาจากการเลือกตั้งของปวงชน ดังที่ประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายปฏิบัติกัน และสอดคล้องรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นฉบับประชาชน 2. การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 291 บัญญัติชัดเจนว่า เป็นอำนาจของรัฐสภา มีข้อห้าม 2 ข้อคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ซึ่งการแก้ไขที่มา ส.ว. ไม่เกี่ยวกับข้อห้ามทั้ง 2 ข้อ และศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า รัฐสภาจะใช้อำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราก็เป็นความเหมาะสม เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะดำเนินการได้

ขู่ลุยถอดถอน-ฟ้องอาญา

นายจารุพงศ์กล่าวว่า  3.การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องดังกล่าว โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อยู่ในข่ายถูกถอดถอนหรือดำเนินคดีอาญาได้ กรณีนี้เป็นการที่รัฐสภากระทำไปตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 บัญญัติ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรับรองไว้เอง จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้ได้ 4.ศาลรัฐธรรมนูญอ้างหลักนิติธรรมในลักษณะขยายความเพิ่มอำนาจให้ตนเองมากกว่าที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ คำวินิจฉัยทั้ง 2 ครั้งในปี 55 และ 56 เห็นชัดเจนว่า ไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตราไม่อาจทำได้เลย เพราะถูกขัดขวางโดยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการตีความรัฐธรรมนูญขยายอำนาจของตนเอง ไม่ยอมผูกพันตามตัวอักษร และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

สวดยับมั่วอ้างหลักนิติธรรม

นายจารุงพงศ์กล่าวว่า 5.การอ้างหลักนิติธรรม เป็นการกล่าวอ้างอย่างลอยๆ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ รัฐธรรมนูญ มาตรา 265 ถึง 269 บัญญัติชัดเจนว่า มีความหมายอย่างไร แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็เพิ่มเติมขึ้นใหม่ โดยไม่ดูองค์กรของตนเองว่า กระทำขัดต่อหลักที่อ้างหรือไม่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือตุลาการ 3 คน เคยเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาก่อน และ 1 ใน 3 คน เคยถูกคัดค้านประเด็นนี้จนต้องถอนตัวในการพิจารณาคดีในคำวินิจฉัยที่ 18-22/2555 มาแล้ว แต่คราวนี้ไม่ถอนตัว และอีก 1 คน เคยแสดงความเห็นชัดเจนว่า การลงโทษบุคคลย้อนหลังทำได้ ถ้าไม่ใช่การลงโทษทางอาญา เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหาร 5 ปี ดังนั้นหากตุลาการทั้ง 3 หรือ 4 คนดังกล่าวถอนตัว ผลคำวินิจฉัยจะกลับเป็นตรงกันข้าม 6.การที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขัดมาตราต่างๆในรัฐธรรมนูญนั้น นับว่าเป็นอันตรายที่สุด เพราะเป็นการใช้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ ถ้าอ้างเช่นนี้ การที่มาตรา 309 ขัดต่อมาตรา 3 และมาตรา 6 จะอธิบายอย่างไร เนื่องจากมาตรา 3 กำหนดหลักนิติธรรม มาตรา 6 กำหนดหลักความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ

ฉะศาลแทรกแซงนิติบัญญัติ

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า 7.การที่ศาลรัฐธรรมนูญก้าวล่วงไปวินิจฉัยว่า มีการกระทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาหรือไม่ เป็นการแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติโดยชัดแจ้ง ขัดหลักแบ่งแยกอำนาจ หากศาลรัฐธรรมนูญก้าวล่วงเช่นนี้ได้ สภาก็คงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เลย 8.เมื่อรัฐสภาลงมติวาระ 3 และนายกฯนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ว่า จะทรงเห็นชอบหรือไม่ จนกว่าจะพ้นเก้าสิบวัน และมิได้พระราชทานคืนมา การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องและวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวโดยไม่มีอำนาจ ย่อมกระทบต่อการใช้พระราชอำนาจ และการกระทำในพระปรมาภิไธย

เปรียบเข้าข่ายทำรัฐประหาร

9.การทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา  ถ้ารัฐธรรมนูญบัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบได้ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น แต่หากไม่ได้บัญญัติไว้ ย่อมเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานหรืออำนาจหน้าที่ของรัฐสภา เป็นอำนาจของรัฐสภาโดยแท้ ดังเช่นที่รัฐธรรมนูญในอดีตทุกฉบับก่อนปี 40 วางหลักไว้ การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจะเหมาะสมหรือไม่ ย่อมถูกตัดสินโดยประชาชนในการเลือกตั้ง ถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชน ศาลจะก้าวล่วงไปใช้อำนาจนี้แทนไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการยึดอำนาจประชาชนไปใช้เช่นเดียวกับการรัฐประหาร

เล่นงานเสียงข้างมากผิด ม.157

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระบวนการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้เป็นมติพรรคจะเข้าชื่อเสนอเรื่องถอดถอน แต่ยังไม่ใช่มติ ส.ส.แต่ฟังดูแล้วเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง แนวโน้มจะรวบรวมรายชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาถอดถอนตุลาการเสียงข้างมาก รวมถึงหารือถึงการแจ้งความดำเนินคดีละเมิดพระราชอำนาจตามมาตรา 112
นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกำลังรอคำวินิจฉัยกลาง และคำวินิจฉัยส่วนตนอย่างละเอียด รวมถึงจะหารือกับ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.ในฐานะผู้เสียหายจากการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมฟ้องดำเนินคดี 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากที่วินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เบื้องต้นหารือว่าจะฟ้องข้อหาการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีก้าวล่วงการใช้พระราชอำนาจ เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าถวายแล้ว

ป้องนายกฯไม่มีสิทธิถอนร่างคืน

นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีขอทูลเกล้าฯ ถวายคืนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่มีกฎหมายใดรองรับ ขณะนี้ขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยในการลงพระปรมาภิไธยร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว ตามขั้นตอนหลังจากทูลเกล้าฯถวายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นไป หากพ้น 90 วันไม่ได้พระราชทานคืนมา ตามรัฐธรรมนูญรัฐสภาจะมีมติยืนยันร่างเดิมหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่รัฐสภาลงมติยืนยันแต่อย่างใด

ปธ.สภาฯพ้ออะไรจะเกิดก็เกิด

เมื่อเวลา 14.40 น. ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.รับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญว่า จะเรียกประชุมฝ่ายกฎหมายรัฐสภา โดยจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปชี้แจง เรื่องนี้ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม ไม่รู้จะกังวลทำไม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณา เพราะไม่มีกฎหมายใดรองรับเรื่องนี้ ส่วนที่จะมีการเอาผิดกับข้าราชการฐานปลอมแปลงเอกสารนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่การปลอมแปลงเอกสาร แต่เป็นเรื่องที่ฝ่ายธุรการปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำ เช่น มาตรา 11/1 เปลี่ยนเป็นมาตรา 12 เนื้อหายังคงเดิม ไม่ได้เขียนถ้อยคำเพิ่มแต่ปรับปรุงให้เหมาะสม ประเด็นนี้หารือกับฝ่ายกฎหมายรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว

บ่นพึมไม่รู้จะทำตามยังไง

เมื่อถามว่า จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร นายสมศักดิ์ตอบว่า ทางพรรคกำลังประชุมว่าจะดำเนินการอย่างไร ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกมึนอยู่ว่าจะปฏิบัติอย่างไรหากศาลรัฐธรรมนูญอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ก็อยากให้อ่านมาตรานี้ใหม่ว่า มีอำนาจหรือไม่ เพราะดูแล้วไม่มีอำนาจ เมื่อถามย้ำว่าศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า คำวินิจฉัยผูกพันทุกองค์กร แต่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่ยอมรับ นายสมศักดิ์ตอบว่า ถ้าเป็นคำวินิจฉัยที่ถูกต้องจะผูกพันทุกองค์กร แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย เรื่องนี้ต้องฟังนักกฎหมายทั่วประเทศว่าเห็นอย่างไรบ้าง ทำไมสื่อมวลชนไม่ถามศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจอะไร มาตราไหนพิจารณา

โต้ไม่ขอพระราชทานถอนร่างคืน

นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการขอพระราชทานถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เรื่องนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน ฝ่ายกฎหมายอาจต้องหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะดำเนินการอย่างไร คงต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ จากนั้นประธานรัฐสภาต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทราบว่าประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจถูกกล่าวหาว่าปิดกั้นและเป็นเครื่องมือรัฐบาล ขอร้องพรรคประชาธิปัตย์ให้บอกหัวข้อที่จะอภิปราย เพื่อให้ประธานสภาฯควบคุมการประชุมได้ ถ้าไม่บอกแสดงว่าต้องการอาศัยความได้เปรียบทางกฎหมาย ทำให้การประชุมมีปัญหา เบื้องต้นไม่ควรใช้เวลาเกิน 2 วัน

"เจริญ" ข้องใจเรื่องยังไม่เกิดรู้ได้ไง

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าศาลรัฐธรรมนูญยึดทฤษฎีกฎหมายใดเป็นคำวินิจฉัย การจับประเด็น ส.ส. ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งว่าเป็นสภาผัวเมีย เรื่องยังไม่เกิดจะรู้ได้อย่างไร เป็นเรื่องของอนาคต หลักประชาธิปไตยสิ่งสำคัญคือประชาชน เมื่อเลือกตัวแทนเข้ามาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และอยากขอรายละเอียดที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่ากระทำขัดเจตนารมณ์การร่างรัฐธรรมนูญ 50 เพราะหากอ้างว่ายึดเจตนารมณ์ก็ไม่สามารถแก้ไขหลักหรือกฎหมายใดๆได้ ยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาก็ยึดตามหลักและกฎหมาย คำวินิจฉัยดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาต่อกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ

51 ส.ว.นัดถกเชื่อมีธงอยู่ในใจ

ที่รัฐสภา นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว.ชลบุรี เลขานุการวิปวุฒิสภา กล่าวว่า วันที่ 25 พ.ย. จะนัด 51 ส.ว.ที่ร่วมลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. มาหารือถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด แต่คงไม่ลงลึกถึงขั้นหารือเพื่อปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม กล่าวว่า คงมีการคุยกันเพราะยังงงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และยังไม่แน่ใจว่าต้องปฏิบัติต่อไปอย่างไร แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญมีธงคำตัดสินอยู่ในใจก่อนแล้ว ตนมองว่าคำตัดสินน่าจะหยิบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านมาเป็นธงวินิจฉัย ทั้งคำว่าสภาทาส สภาผัวเมีย ที่เป็นการใช้จินตนาการมากกว่าพิจารณาจากข้อเท็จจริง
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=31329&page=1

นายไข่นุ้ย

นี่แหละพวกพาล ไม่ยอมรับ ดูหน้าสิ...ทั้งทีม   huay.. ส.โขกกำแพง
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)