ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เพิ่งเห็นศาลรธน.กำหนดนิยามคำว่า ระบอบการเป็นปชต.โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เท

เริ่มโดย paritaz, 10:35 น. 21 พ.ย 56

paritaz

เพิ่งเห็นศาลรธน.กำหนดนิยามคำว่า ระบอบการเป็นปชต.โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เท่ากับ สว.เลือกตั้ง-สรรหา ครึ่งๆ



"สอนรัฐศาสตร์มาตั้งนาน เพิ่งเห็นศาลรธน.กำหนดนิยามคำว่า 'ระบอบการเป็นปชต.โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข' เท่ากับ สว.เลือกตั้ง-สรรหา ครึ่งๆ" อ.สุขุม, รายการเจาะข่าวเด่น, 20 พ.ย. 56

สอนรัฐศาสตร์มาตั้งนาน
เพิ่งเห็นศาลรธน.กำหนดนิยามคำว่า
"ระบอบการเป็นปชต.โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"
เท่ากับ สว.เลือกตั้ง-สรรหา ครึ่งๆ - อ.สุขุม เจาะข่าวเด่นเย็นนี้ 20พย.56


ที่มา  https://www.facebook.com/Sand.Chayika?ref=ts&fref=ts

Puiey2521

ถ้าวันนี้ไม่มี สว.สรรหา พวกมันกินรวบกันในสภาไปแล้ว ยังมองไม่เห็นข้อดีอีกหรือ จะเลือกทั้งหมดก็ได้ แต่ไปแก้คุณสมบัติ สว. ให้เป็นลูก เมีย ผัว กับ สส.ได้ และเป็นได้หลายสมัย แก้ทำไมแบบนี้ สว.มีหน้าที่ บัญญัติกฎหมาย ไม่ได้มาร่วมบริหารประเทศ ของเดิมก็ป้องกันการทุจริตได้ดีอยู่แล้ว กลับมาเปลี่ยนให้มันโกงง่ายขึ้น พอคนไม่เอาก็ไม่พอใจ ใช้เสียงข้างมากลากไป หน้าด้านหน้าทน เวรกรรมคนไทย
ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"

city

..จะเชื่ออย่างไรได้ว่า..สว.สรรหา 40 คนที่คัดเลือกโดยคน 7 คนจะเป็นคนดีจริง(ตรวจสอบไม่ได้..พวกกันหรือปล่าวก็ไม่รู้)..คิดเห็นอย่างไรก็เห็นไปแนวทางเดียวกัน..คิดต่างก็คงไม่ได้รับการสรรหา..ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนแล้วจะแคร์ประชาชนจริงหรือ..

คนเมืองสงขลา

ไม่ได้บอกว่า สว.สรรหาไม่ดีนะครับ
แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนแค่ 7 คน (สงสัยเป็นเทพ) มีสิทธิ์สรรหา สว.ได้เท่ากับ
สว. ที่คนไทยทั้งประเทศเลือกเข้าไป....
จะมีสรรหาก็ได้ครับ  แต่ควรมีโครงสร้าง รายละเอียดที่ดีกว่านี้.....

nonกีฬาสี

อ้างจาก: Puiey2521 เมื่อ 16:08 น.  21 พ.ย 56
ถ้าวันนี้ไม่มี สว.สรรหา พวกมันกินรวบกันในสภาไปแล้ว ยังมองไม่เห็นข้อดีอีกหรือ จะเลือกทั้งหมดก็ได้ แต่ไปแก้คุณสมบัติ สว. ให้เป็นลูก เมีย ผัว กับ สส.ได้ และเป็นได้หลายสมัย แก้ทำไมแบบนี้ สว.มีหน้าที่ บัญญัติกฎหมาย ไม่ได้มาร่วมบริหารประเทศ ของเดิมก็ป้องกันการทุจริตได้ดีอยู่แล้ว กลับมาเปลี่ยนให้มันโกงง่ายขึ้น พอคนไม่เอาก็ไม่พอใจ ใช้เสียงข้างมากลากไป หน้าด้านหน้าทน เวรกรรมคนไทย
แล้วถ้าเกิด สว สรรหาไม่เป็นกลางดิ้นรนซื้อตำแหน่งหรือคนสรรหาเอนเอียงหล่ะ มันก็ไม่ต่างกัน ถ้า สว สรรหาทำงานกับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

Puiey2521

อ้างจาก: nonกีฬาสี เมื่อ 09:58 น.  25 พ.ย 56
แล้วถ้าเกิด สว สรรหาไม่เป็นกลางดิ้นรนซื้อตำแหน่งหรือคนสรรหาเอนเอียงหล่ะ มันก็ไม่ต่างกัน ถ้า สว สรรหาทำงานกับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

แล้วที่ดำรงค์ตำแหน่งปัจจุบันนี้เป็นยังไงหละครับ
ทำดีแล้วโดน "ด่า" ดีกว่าพวกไม่ทำ "ห่า" แล้วด่า "คนอื่น"

คนเมืองสงขลา


เอามาให้อ่าน

คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นแก้ไขที่มา สว. ดังนี้

ประเด็นที่ 2 การแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ พ.ศ....) มีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อให้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่

เห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2550 ร่างขึ้นโดยใช้รัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 เป็นแม่แบบ โดยได้แก้ไขหลักการในเรื่องคุณสมบัติของสว.จากเดิมไว้หลายประการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนเช่นการใช้รัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 กล่าวคือ บัญญัติให้มีสว.สรรหาเข้ามาเป็นองค์ประกอบร่วมกับสว.ที่มาจากการเลือกตั้งในสัดส่วนที่เท่าเทียมเพื่อให้โอกาสแก่ประชาชนทุกภาคส่วนทุกสาขาอาชีพได้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ของสว.ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศได้อย่างรอบคอบ

ทั้งยังได้กำหนดคุณสมบัติของสว.ให้เป็นอิสระจากการเมืองและสส. เช่น ห้ามบุพการี คู่สมรส บุตรของผู้ดำรงตำแหน่งสส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาเป็นสว. พร้อมกับกำหนดเวลาห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองไว้เป็นเวลา 5 ปี เป็นต้น

รัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 กำหนดให้รัฐสภา ประกอบด้วย 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และ วุฒิสภา ให้มีดุลยภาพต่างกัน โดยกำหนดบทบาทของสว.ให้เป็นองค์กรกลั่นกรองการทำงานของสส.และถ่วงดุลอำนาจสส.โดยให้สว.ตรวจสอบถอดถอนสส.ได้ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ให้สว.เป็นอิสระจากสส.อย่างแท้จริง จึงได้บัญญัติห้ามความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันดังกล่าว เพราะหากยอมให้สว.หรือสส.มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ย่อมไม่อาจหวังได้ว่าจะมีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาอันเป็นการขัดกับหลักการดุลและคานอำนาจซึ่งกันและกัน อันเป็นหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญนี้

สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามคำร้องนี้เป็นการแก้กลับไปสู่จุดบกพร่องที่เคยบกพร่องแล้วในอดีต เป็นจุดบกพร่องที่ล่อแหลมเสี่ยงต่อการสูญสิ้นศรัทธาและสามัคคีธรรมของมวลหมู่มหาชนชาวไทย เป็นความพยายามนำประเทศชาติให้ถอยหลังเข้าคลอง ทำให้วุฒิสภากลับไปเป็นสภาญาติพี่น้อง สภาของครอบครัว และสภาผัวเมีย สูญเสียสถานะและศักยภาพแห่งการเป็นสติปัญญาให้แก่สภาผู้แทนราษฎร ทำลายสาระสำคัญของการมีสองสภา

นำพาไปสู่การผูกขาดอำนาจรัฐตัดการมีส่วนร่วมของปวงประชาหลากสาขาหลายอาชีพ เป็นการกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปิดช่องให้ผู้ร่วมกระทำการครั้งนี้ กลับมีโอกาสได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองด้วยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ คือ รัฐธรรมนูญพ.ศ2550 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากการออกเสียงแสดงประชามติของมหาชนชาวไทย

นอกจากนี้การแก้ไขที่มาของสว.ให้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวอันมีที่มาเหมือนกับสส.จึงย่อมเป็นเสมือนสภาเดียวกัน ไม่เกิดความแตกต่างและเป็นอิสระซึ่งกันและกันของทั้งสองสภา เป็นการทำลายลักษณะของสาระสำคัญของระบบสองสภาให้สูญสิ้นไป การแก้ไขที่มาและคุณสมบัติของสว.ให้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองหรือสส.ได้ ย่อมทำให้หลักการตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันของระบบสองสภาต้องสูญเสียไปอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ฝ่ายการเมืองสามารถควบคุมอำนาจเหนือรัฐสภาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดปราศจากการตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกัน อันเป็นการกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เอามาให้อ่าน

ส่วนที่มาของ สว. เป็นแบบนี้ครับ

สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ทั้งประเทศมีจำนวน 150 คน ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 6 ปี โดยห้ามเป็น 2 วาระติดต่อกัน
มีที่มา 2 แบบ คือ มาจากการเลือกตั้ง และการสรรหา
       
ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง
มีจำนวน 76 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในแต่ละจังหวัดๆ ละ 1 คน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเลือกผู้สมัครได้เพียงหมายเลขเดียว ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้รับเลือกเป็น ส.ว. ของแต่ละจังหวัด

ส.ว. ที่มาจากการสรรหา
มีจำนวน 74 คน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาจะดำเนินการสรรหา ส.ว. จำนวนดังกล่าวจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรต่างๆ ในภาควิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาชีพ และภาคอื่นๆที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภา


ส่วนคณะกรรมการสรรหา 7 คนก็ไม่ได้เป็นเทพอะไรหรอกครับ แต่เป็นท่านเหล่านี้

องค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วย

1. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
2. ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
3. ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
4. ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
5. ประธานกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน
6. ผู้พิพากษาในศาลฏีกา ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฏีกาที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกามอบหมาย จำนวน 1 คน
7. ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ที่ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมอบหมาย จำนวน 1 คน

ซึ่งบรรดาท่านเหล่านี้เป็นบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องดำเนินการในตำแหน่งหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม
หากการคัดเลือก สว. (โดยรัฐธรรมนูญกำหนด) จะต้องทำด้วยบุคคล เราจะหาใครที่พอจะมั่นใจได้ว่า
จะทำหน้าที่ได้อย่างซื่อตรงและเที่ยงธรรมได้มากไปกว่าบุคคลเหล่านี้