ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มีสะพานแต่ไม่มีคลองมีน้ำแต่ไม่มีทางไป...ธรรมชาติรังแกมนุษย์จริงหรือ

เริ่มโดย ฅนสองเล, 22:18 น. 01 ธ.ค 56

ฅนสองเล

[attach=8]

ความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับบ้านเรา เกิดขึ้นกับประเทศไทย เกิดขึ้นกับโลกใบนี้นั้นเชื่อว่าทุกอย่างล้วนมีที่มา มีต้นเหตุสาเหตุแห่งการเกิดเสมอ เรื่องของธรรมชาติก็เช่นเดียวกัน ธรรมชาติก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่มีใครสามารถขัดขวางการเปลี่ยนแปลงหรือแปรเปลี่ยนของธรรมชาติได้

   มนุษย์ยกยอตัวเองว่าเป็นสัตว์โลกที่ฉลาด เป็นสัตว์โลกที่ประเสริฐที่สุด เราจึงนำคำเปรียบเปรยสัตว์อื่นว่าโง่บ้าง เลวบ้าง แต่ความจริงแล้วในโลกใบนี้สัตว์ที่น่ากลัวที่สุดก็คือสัตว์ที่มีชื่อว่ามนุษย์หรือคนนั่นเองว่าไหมครับ วันนี้ปัญหาในประเทศไทยกำลังวุ่นวาย ปัญหาในโลกวุ่นวายล้วนมีต้นตอการเกิดขึ้นมาจากคนทั้งหมดทั้งสิ้น หากพูดเรื่องโลกหรือเรื่องการเมืองก็เป็นสิ่งไกลตัว เป็นสิ่งน่าเบื่อเกินไป พูดถึงธรรมชาติที่ใกล้ตัวเราดีกว่า

   ตามประวัติศาสตร์ที่พอจำความได้ น้ำท่วมหาดใหญ่ปี 31 ปี 43 และปี 53 ในปี 43 หลังน้ำท่วมผมมีโอกาสเข้ามาซื้อของน้ำท่วมได้หลายชิ้นในราคาที่ถูกกว่าตลาด ปี 53 ผมเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยเช่นกันและได้รับเบี้ยน้ำท่วม 5,000 กับเขาด้วย ปี 53 น้ำมาไวไปเร็วแต่ร่องรอยความเสียหายก็มีมากมายมหาศาลเช่นกัน หลังจากปี 53 คนหาดใหญ่เลยอยู่ในภวังค์ของความผวาเข้าหน้าฝนทีนึงก็ห่วงกันแต่เรื่องน้ำท่วม น้ำท่วม

   น้ำท่วมใหญ่อาจมีช่วงเวลาเว้นวรรค 12 ปี 10 ปี 5 ปี แต่น้ำท่วมรายปีนั้นเกิดขึ้นทุกปีมากบ้างน้อยบ้างตามแต่ขนาดขนาดพายุ ปริมาณน้ำฝนและความสามารถในการระบายน้ำ หากถามผมว่าน้ำท่วมเกิดจากอะไร ผมตอบเลยว่ามี 2 สาเหตุคือ น้ำไม่มีที่ระบายและน้ำระบายไม่ทัน หากน้ำมีที่ระบายและระบายทันนั่นหมายถึงว่าโอกาสน้ำท่วมก็จะเป็น 0 ทันที ตัวอย่างที่หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ นั่นคือน้ำไม่มีที่ระบาย น้ำลงจากเขาคอหงส์ก็มาจอดที่ถนนกาญจนวนิชทันที

[attach=1]
หน้าเทคนิคหาดใหญ่น้ำไม่ท่วมแค่ไม่มีที่ไป

   พื้นที่ตรงนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กฤษฎา บุญราช บอกว่าจะมีการของบ ครม.สัญจรซึ่งไม่มาแล้วมาแก้ปัญหาให้ ครม.ไม่มางบก็คงไม่มาตามคำกล่าวของท่าน รมต.ท่องเที่ยวคนบ้านเราหัวใจสุพรรณบอกไว้นั่นแหละครับ จุดนี้มีคนบอกว่าสมัยก่อนนั่นมีสายน้ำเล็กๆ ไหลลงมาแต่วันนี้สายน้ำนั้นหายไปแล้วน้ำเลยไม่มีที่ระบาย การที่สายน้ำหายไปนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะไม่ได้มีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

   แถวคลองหวะ ห้างโฮมโปร หน้าเหล็กใต้พื้นที่ตรงนั้นมีสะพานแต่ไม่มีคลอง เช่นเดียวกับที่ใหม่ล่าสุดที่ห้างเทสโก้โลตัส เอ็กซ์ตร้า สงขลา วันนี้พื้นที่ของห้างทับสายน้ำเต็มๆ ถ้าจำไม่ผิดป้ายตรงนั้นบอกว่าคลองเขาแก้ว นี่คือตัวอย่างการหายไปของพื้นที่รับน้ำจนทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำไม่มีที่ระบายและน้ำระบายไม่ทันนำมาสู่ปัญหาน้ำท่วมตามมา จุดบอดเหล่านี้เกิดขึ้นทุกพื้นที่ เกิดขึ้นกับทุกจังหวัดในประเทศไทยแล้วทางออกของปัญหานี้จะอยู่ที่ไหนในเมื่อกฎหมายไม่สามารถบังคับได้อย่างจริงจัง

[attach=9]
แถวโฮมโปร คลองหวะ มีสะพานแต่ไม่มีคลอง ในอดีตเขาสร้างสะพานทำไมเมื่อไม่มีคลอง

   วันนี้มีคนถามว่าทำไมหาดใหญ่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วมอีกในเมื่อมีคลองระบายน้ำ ร.ต่างๆ เกิดใหม่มาช่วยคลองธรรมชาติถึง 5 สายแล้ว ถามว่าทำไมคำตอบก็อยู่ที่ 2 ข้อข้างบนอีกนั่นแหละครับ น้ำเท่าเดิม มากขึ้น หรือน้อยกว่าเดิม ก็ล้วนมีโอกาสน้ำท่วมได้ทั้งนั้นเพราะน้ำไม่มีที่ระบายและระบายไม่ทัน ในงบจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านของรัฐบาล (ซึ่งไม่รู้จะไปได้สักกี่น้ำ) หาดใหญ่เรามีโอกาสได้งบ 5-8 พันล้านเพื่อแก้น้ำท่วมด้วย ซึ่งหากได้มาจริงถามว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไหม ตอบได้เลยว่าแก้ได้แต่ไม่ทั้งหมด

   ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาทำให้น้ำเข้าเมืองหาดใหญ่น้อยลงแต่น้ำไปท่วมโซนหาดใหญ่ใน โซนปลายน้ำแถวบางกล่ำแทนจึงถามว่าความพอดีอยู่ที่ไหน ธรรมชาติของน้ำไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำ น้ำเป็นของเหลวที่ไม่อาจปิดกั้นได้เบ็ดเสร็จมีช่องนิดเดียวน้ำก็ไปได้ และหากเก็บกักไว้เป็นปริมาณมากพลังของน้ำก็จะมหาศาลทำลายทุกอย่างที่ขวางกั้นได้ในพริบตาเดียว

[attach=2]
หน้าบิ๊กซี คลองแห ปี 53

[attach=3]
[attach=4]
หน้าโลตัส สงขลา คลองหายไปกลายเป็นคูระบายน้ำ

   ธรรมชาติของน้ำเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ธรรมชาติของมนุษย์เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่า มนุษย์ต่างหากที่เป็นผู้สร้างและทำลายทุกอย่าง เพราะฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นก็อย่าได้โทษธรรมชาติเลยครับ โทษมนุษย์โทษคนนี่แหละครับ ไม่ต้องโทษใคร     

[attach=5]
[attach=6]
ภาพช่วงเวลาใกล้เคียงกันต้นคลองกับปลายคลอง ร.1

[attach=7]

ฟ้าเปลี่ยนสี

 ส.หัว ได้ใจจริง ทะลุถึงหัวใจ  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

ธรรมชาติของน้ำเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ธรรมชาติของมนุษย์เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่า มนุษย์ต่างหากที่เป็นผู้สร้างและทำลายทุกอย่าง เพราะฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นก็อย่าได้โทษธรรมชาติเลยครับ โทษมนุษย์โทษคนนี่แหละครับ ไม่ต้องโทษใคร
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สร้างได้อย่างไร

ถ้าจำได้เมื่อก่อน ก่อนจะเป็นห้างโลตัสก็เป็นคลองอยู่นะ แต่เทศบาลก็อนุญาตให้สร้าง ถึงจะทำคูระบายขนาดใหญ่ก็แล้วเหอะ ทำได้อย่างไรถ้าน้ำท่วม คนแถวนั้นต้องฟ้องใครหรือ ระหว่างห้างกับเทศบาล และเมื่อก่อนนี้พื้นที่ดังกล่าว เทศบัญัติก็ไม่สามารถอนุญาตสร้างได้แต่ก็แก้ให้สร้างได้  ใครๆก็รู้ แต่ก็สร้างได้อีกมีเงินซะอย่าง ใช่หรือไม่
สิ่งก่อสร้างใหญ่ๆมักมากับปัญหาที่แก้ไม่ออก ต้องคอยดูว่าบริเวณนั้นที่ปกติก็ท่วมอยู่แล้ว มันจะท่วมมากกว่าเดิมหรือไม่

LMG_book

เพราะ มนุษย์เราเห็นแก่ตัว เห็นแค่เพียงประโยชน์ ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงวันข้างหน้า

บีซัง


นกฮูกตาโต

      มันเป็นปกติ ของธรรมชาติ เราอาศัยอยู่บริเวณทางน้ำ เป็นที่ลุ่ม แต่พวกเราก็มาตั้งเมืองตรงจุดนี้
สิ่งที่ควรจะทำไม่ใช้ป้องกันน้ำท่วม แต่จะอยู่กับน้ำท่วมอย่างไรมากกว่า  การป้องกันน้ำท่วมก็เหมือนกับการขัดขวางธรรมชาติ น้ำจะไหลจากที่สูงมาที่ต่ำ เมื่อเราไปกั้นไว้ทางน้ำเดิมไว้ ธรรมชาติก็จะปรับตัว สร้างเส้นทางน้ำขึ้นมาใหม่ แล้วก็จะไหลลงมายังจุดเดิม และอาจจะรุนแรงมากขึ้น  ถ้าจะอยู่กับธรรมชาติ ก็ต้องยอมรับกับมัน เหมือนกับญี่ปุ่นที่สร้างตึกมาเพื่อป้องกันแผ่นดินไหว พร้อมรับมือกับธรรมชาติ เพราะเขาไปอาศัยอยู่ในรอยเลื่อนของโลก 
      สภาพภูมิศาสตร์หาดใหญ่นั้นอยู่บนเส้นทางน้ำ มีภูเขารอบล้อม ที่ตั้งเมืองเป็นแอ่งกะทะ แต่เรากลับพยายามป้องกัน สร้างกำแพงกั้น ขุดคู ขุดคลอง  เปลี่ยนทางน้ำตามธรรมชาติ  แต่ลืมคิดไปว่า เกิดจากเราต่างหากมาสร้างเมืองปิดกั้นการไหลของน้ำ 
    ไม่ใช่เพราะเขา แต่เป็นเพราะเรา พวกเราทุกคน ที่มาอาศัยบริเวณนี้ เมืองมันเติบโตตามประชากร ยิ่งมาอาศัยกันมากขึ้นที่อยู่อาศัยมันก็สร้างมากขี้นตาม  สิ่งก่อสร้างทุกชนิด คือ สิ่งขัดขวางการไหลของน้ำ ถ้าเราไม่อาศัยบริเวณนี้เราก็จะไม่เดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่เราเลือกที่จะอยู่กันที่นี่เอง แล้วไปปิดกั้นธรรมชาติ
    เราใช้วิธีป้องกันกันมาเท่าไร แต่ก็ยังรับมือกับธรรมชาติไม่ได้ยิ่งป้องกันเท่าไร ธรรมชาติก็จะเพิ่มความรุนแรงเพื่อกำจัดสิ่งที่ขัดขวางออกไป   ฉะนั้นหากน้ำมาไม่ควรขวางกั้น แต่เราควรพร้อมรับมือและอยู่กับมัน เปลี่ยนจากเพิ่มการสร้างกำแพงกั้น ขุดคลองระบายน้ำเพิ่ม  เป็นเตรียมพร้อมและ ยอมรับกับธรรมชาติดีกว่าไหมครับ

ฅ ฅน

.


..ใครอนุญาตให้สร้าง ต้องเอาตัวมาประหารหัวสุนัข

ไม่งั้นพวกประชาชนก็ได้แต่บ่นกันไป ปัญหาไม่เคยแก้ได้ น่ารำคาญร้องเรียนกันตลอด

เกาหลี และเมืองจีนประหารไปลาสาแล้ว ส.หลกจริง ส.หลก

ชาวบ้านตาดำๆ

สำหรับผม ผมคิดว่าถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดที่จะทำหรือคิดที่จะหาวิธีแก้ไขผมว่าทำได้นะครับ มันติดอยู่ที่ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหล่านนั้นคิดที่จะหาวิธีแก้ไขหรือคิดที่จะทำหรือเปล่า

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับสำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่แบบยั้งยื่น(ขอย้ำ ความคิดเห็นส่วนตัว)
1.การแก้ไขที่ต้นน้ำ(คลองอู่ตะเภา)
คิดง่ายๆทำยังไงก็ได้พยายามกักเก็บน้ำที่จะไหลลงมาสู่คลองอู่ตะเภาให้ได้มากที่สุดเท่าที่มากได้ เพื่อที่จะให้คลองระบายน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ออกไปให้หมดก่อนแล้วค่อยๆทยอยปล่อยน้ำที่อยู่ต้นน้ำออกมา โดยที่อาจจะสร้างเขื่อนหรือแก้มลิงหรือทางผันน้ำหรืออะไรก็แล้วแต่ที่สามารถกักเก็บรองรับน้ำได้มากๆ ก็จะไม่ทำให้น้ำเอ่อล้นคลอง

2.การแก้ไขที่กลางน้ำ(คลองอู่ตะเภา)
ที่เรารู้ๆกันอยู่ว่าหลังจากน้ำท่วมใหญ่ผ่านพ้นไปได้มีคลองระบายน้ำใหม่เกิดขึ้นมานั้นคือคลองระบายน้ำที่1(คลอง ร.1)ซึ่งก็ช่วยให้หาดใหญ่ของเราพ้นวิกฤตน้ำท่วมได้หลายครั้ง แต่ ณ ปัจจจุบันปริมาณน้ำฝนที่ตกและที่ไหลผ่านคลองอู่ตะเภามีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ผมไม่เข้าใจว่าตอนที่สร้างใหม่ตอนนั้นทำใมไม่คิดที่จะสร้างเผื่ออนาคตไว้เลยหรือไง หรือว่ามีโครงการมาแล้วแต่ไม่คิดจะทำ ถ้าหากตอนนั้นคลอง ร.1กว้างสัก 100 เมตร ลึกสัก 100 เมตร ผมว่าน้ำคงจะไม่ท่วมหาดใหญ่อีกแน่นอน หรืออีกวิธีก็คือขุดคลองระบายน้ำเพิ่มอีกสัก 5-10 คลองอาจจะขุดขนานไปกับคลอง ร.1 หรืออาจจะผันน้ำจากคลองต่างๆไห้ไหลตรงไปลงทะเลเลยโดยที่ไม่ต้องผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ ผมว่าน่าจะช่วยได้เยอะ

3. การแก้ไขที่ปลายน้ำ(คลองอู่ตะเภา)ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบ
เท่าที่ผมได้ดูรูปทำใมต้นคลองกับปลายคลอง ร.1 ต่างกับฟ้ากับเหว ต้นคลองมีคันคลองมีทางให้น้ำไหลเรียบร้อย แต่ทำใมปลายคลองไม่เห็นมีคันคลองหรือทางให้น้ำไหลเลย ปล่อยให้น้ำไหลท่วมที่ดินของชาวบ้านไปอย่างนั้นมันก็แปลกดีเหมือนกัน มันเกิดอะไรขึ้นงบประมาณหมดเหรอครับ? ถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการระบบระบายน้ำปลายคลองให้ไหลระบายดีๆผมว่าน้ำคงจะไม่ท่วมหาดใหญ่แน่นอน หรือไม่ก็อาจจะขุดทางระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกสัก 4-5 ทาง หรืออาจจะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำหรือเครื่องสูบน้ำหรือเครื่องมืออะไรก็ได้ที่สามารถทำให้การระบายน้ำไหลเร็วและระบายน้ำได้ดีขึ้น เท่านี้ก็จะทำให้น้ำไม่ท่วมหาดใหญ่แน่นอน

ทั้งหมดทั้งปวงคือความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออะภัยไว้ด้วยนะครับ

ปล.ผมว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกและมีทางแก้ไข อยู่ที่ว่าคิดที่จะทำหรือคิดที่จะแก้ไขปัญหาที่มีอยู่หรือเปล่า

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: ฅ ฅน เมื่อ 16:00 น.  04 ธ.ค 56
.


..ใครอนุญาตให้สร้าง ต้องเอาตัวมาประหารหัวสุนัข

ไม่งั้นพวกประชาชนก็ได้แต่บ่นกันไป ปัญหาไม่เคยแก้ได้ น่ารำคาญร้องเรียนกันตลอด

เกาหลี และเมืองจีนประหารไปลาสาแล้ว ส.หลกจริง ส.หลก
นี่แหละเรื่องสำคัญเลย รู้ไหมว่าขวางทางน้ำแล้วยังจะให้สร้างอีก พอเวลาแก้กลับทำไม่ได้ เฮ้อ.... ส.โขกกำแพง
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

sin ratsanti

บ้านเราสร้างผังตามเมือง (ไว้ติดตามเก็บภาษี)  แทนที่จะสร้างเมืองตามผัง (เพื่อแก้ปัญหาชุมชน )
หากรู้จักเป็นผู้ให้   โลกใบไหนก็น่าอยู่
ผู้ใดรู้จักการให้     ผู้นั้นจะรู้จักคำว่าพอเพียง
ผู้ใดไม่รู้จักการให้   ผู้นันจะไม่รู้จักคำว่าพอ "โปรดเลิกคบ คนไร้ มารยาท "

takam jaidee

เครื่องไล่หนู ยุง แมลงสาป เพียง 199 บาท 091-7195615
http://www.tuktuktuk.weloveshopping.com