กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย ไทยพีบีเอส http://news.thaipbs.or.th

[attach=1]

"สุเทพ" ประกาศรวมกลุ่มผู้ชุมนุมโดยใช้ชื่อ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. เพื่อกำจัดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ระบอบทักษิณ" โดยเตรียมแผนปฏิบัติการเข้าพื้นที่ อาคาร B ศูนย์ราชการทั้งหมด และในวันที่ 1 ธ.ค.จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล

วันนี้ (29 พ.ย.56) เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุม ได้ปราศรัยบนเวทีบริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยได้ประกาศรวมกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ชื่อว่า "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" หรือ กปปส. เพื่อกำจัดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ระบอบทักษิณ" โดยมีนายสุเทพ เป็นเลขาธิการกลุ่ม กปปส.

พร้อมกันนี้ยังมีอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. กลุ่มนักวิชาการนำโดย ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาตร์ หรือ นิด้า อ.ชัยวัฒน์ ธีรพันธ์  กลุ่มประชาชนนักธุรกิจสีลม,เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย  และเครือข่ายกลุ่ม สหภาพแรงงาน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ สรส. ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้เปิดประเด็นแรก คือ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ กติกาให้ประเทศไทยที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ด้วยการกำจัดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ระบอบทักษิณ"  และให้อำนาจประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 โดยมองว่ารัฐบาลไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน และรัฐบาลปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญจึงหมดความชอบธรรม 

นอกจากนี้ ทางกลุ่ม กปปส.ให้ถือวันที่ 1 ธ.ค.เป็นวันประกาศชัยชนะ โดยจะมีการเคลื่อนขบวนและแผนปฏิบัติการ โดย กลุ่ม กปปส.จะทำโดยเปิดเผยและไม่ใช้กำลังรวมถึงความรุนแรง นายสุเทพ ยังได้เปิดเผยแผนปฏิบัติการโดยคืนนี้ (29 พ.ย.56) จะเข้าพื้นที่ ศูนย์ราชการ อาคาร B อย่างสมบูรณ์เด็ดขาด และจะไม่เปิดให้ข้าราชการเข้ามาทำงานตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป รวมถึง ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) ทางกลุ่ม กปปส. เข้าไปยังพื้นที่ของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.56 นายสุเทพ ได้ประกาศเป็นวันชัยชนะของกลุ่มโดยจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกระทรวง ทบวงกรมต่าง ๆ

ชนะครึ่งเีดียว

ยังไม่เต็มร้อย 

ยังไงมันก็ไม่ยอม