ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คิดอย่างไรกับ พวก สถาบันกวดวิชา

เริ่มโดย Mr.No, 08:55 น. 27 ก.ค 54

Mr.No


ผมตั้งกระทู้นี้เพื่อนำไปสู่การเสวนา เพื่อหามุมมองว่า แต่ละท่านมีความคิดอ่านอย่างไรสำหรับเหล่าโรงเรียนกวดวิชา ดี หรือไม่ดีอย่างไร อยากทราบความคิดเห็นครับ.
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

วสันตฤดู :)

กระทู้ทำนองนี้มีคนถามหลายครั้งแล้วครับ ลองหาอ่านๆดูครับ

ผมว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีครับ..

แต่ผมสงสัยแค่ว่า โรงเรียนสมัยนี้มันห่วยขนาดต้องให้เด็กแห่กันไปเรียนกวดวิชากันมากขนาดนี้เลยเหรอ
หรือ อาจารย์สอนกั๊กๆ แล้วไปสอนแบบละเอียดใน ร.ร.กวดวิชา (ไม่ได้เหมารวมนะครับ)

สมัยนี้เรียนแบบ แก่งแย่ง ชิงเด่น ยัดแต่วิชาการ แต่เรื่องมารยาท จริยธรรม สามัญสำนึก มันน้อยเหลือเกินครับเด็กสมัยนี้
(จากที่ผมประสบพบเจอเด็กเดี๋ยวนี้มานะครับ)

อีกอย่างเด็กอนุบาลเดี๋ยวนี้ เรียนกันหนักหน่วงเหลือเกิน ทั้งเรียนที่ร.ร. และ เรียนพิเศษ
แทบไม่มีเวลาได้เล่น เหมือนเด็กจะขาดธรรมชาติของเค้าไปยังไงไม่รู้



ข้าแผ่นดิน

ขอคุยด้วยความปวดใจด้วยคน
สมัยผมเป็นเด็ก คนที่ต้องเรียนพิเศษ คือคนที่เรียนในห้องแล้วไม่เข้าใจ หรือได้ไม่ครบ เลยต้องไปเติม
ยกตัวอย่าง ในห้องสอน ตั้งแต่ 1 ถึง 10 คนที่ได้ไม่ถึง 10 ก็ไปเรียนเสริม ให้มันได้เท่าเพื่อน
เวลาทดสอบ ทางโรงเรียนก็ออกข้อสอบ 1 ถึง 10 แต่อาจมีพลิกแพลงบ้าง แต่ก็อยู่ในเนื้อหาที่สอน
ซึ่งมันต่างจากสมัยนี้ ในห้องก็สอน 1 - 10 เหมือนเดิม คนที่เรียนไม่ทัน ก็ต้องไปเรียนพิเศษเหมือนเดิม
แต่ปัญหาคือ เวลาทดสอบ มันดันออกนอกหลักสูตร ประมาณว่า สอน 1-10 แต่ออกข้อสอบ 1-15
คราวนี้แหละ ทั้งเด็กเก่งเด็กไม่เก่ง ก็ต้องเรียนพิเศษกันยกใหญ่ เพราะไอ้เจ้า 11-15 มันไม่มีสอนในโรงเรียน
ความลำบากมันก็ตกอยู่ที่เด็กไม่เก่ง ในห้องก็เรียนไม่ทัน แถมต้องมาเสริมไอ้ที่ไม่มีในห้องอีก ผู้ปกครองก็เครียด
ตอนนี้ใครมีลูกก็จะรู้ว่า ลูกเรียน ป.4 แต่เวลาเรียนพิเศษ มันข้ามไปเรียนของ ป.5 แล้ว บางคนก็เรียนของ ป.6
มันจะบ้ากันไปใหญ่ สอนเด็กให้แก่งแย่งแข่งขันกันตั้งแต่เด็ก ถึงจะเก่ง โตขึ้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตยังไง
มันก็เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ บ้านเมืองถึงได้ฉิบหายกันอย่างทุกวันนี้ เบื่อเเล้วขี้เกียจบ่น ไปส่งลูกเรียนพิเศษดีกว่า ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง ส.หลกจริง

ต้นข้าว

สมัยนี้การเรียนเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจไปแล้ว  จรรยาบรรณของคนที่เรียกตนเองว่าครูที่เคยมีได้เริ่มหายไปทีละน้อยๆ

cooltarn

ตาลเองก็ทำงานอยู่สถาบันกวดวิชานะค่ะ ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันก็มองออกมาได้ 2 แบบนะ อย่างแรกเลยคือเนื้อหาที่ติวเตอร์สอนส่วนใหญ่ส่วนใหญ่มักจะตรงกับข้อสอบ เพราะเค้าได้นำแนวข้อสอบย้อนหลังหลายๆปีมาศึกษาและปรับประยุกต์ให้เข้ากับเนื้อหาในปัจจุบันให้มากที่สุดก่อนที่จะนำเนื้อหาเหล่านั้นมาสอนเด็ก ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วเนื้อหาจากติวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดที่มากกว่าในห้องเรียนมากพอสมควร ส่วนในแบบที่สองคือเรื่องค่านิยม เด็กบางคนที่สมัครเรียนกับติวเตอร์ต่างๆเพราะเห็นเพื่อนๆเรียนก็เลยเรียนตาม มันเป็นเหมือนแฟชั่นไปแล้ว ตอนสมัครมาจองจนล้นห้องแต่พอมาเรียนกลับมีไม่ถึง 10 คนก็มีนะ และอีกเหตุผลหนึ่งที่เด็กมาสมัครคือ(อันนี้ขอพูดตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมละกันนะค่ะ)มาสมัครแต่ไม่เคยมาเรียนเลย พูดง่ายๆคือเอาการเรียนมาอ้างผู้ปกครองเพื่อตัวเองจะได้ออกไปเที่ยว บางคนมาเรียนก็เพราะนัดเจอแฟน ยิ่งช่วงปิดเทอมใหญ่ส่วนมากจะเป็นเด็กต่างจังหวัดแทบทั้งสิ้น

riddick

อ้างจาก: ว สั น ต ฤ ดู :) เมื่อ 09:21 น.  27 ก.ค 54
กระทู้ทำนองนี้มีคนถามหลายครั้งแล้วครับ ลองหาอ่านๆดูครับ

ผมว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีครับ..

แต่ผมสงสัยแค่ว่า โรงเรียนสมัยนี้มันห่วยขนาดต้องให้เด็กแห่กันไปเรียนกวดวิชากันมากขนาดนี้เลยเหรอ
หรือ อาจารย์สอนกั๊กๆ แล้วไปสอนแบบละเอียดใน ร.ร.กวดวิชา (ไม่ได้เหมารวมนะครับ)

สมัยนี้เรียนแบบ แก่งแย่ง ชิงเด่น ยัดแต่วิชาการ แต่เรื่องมารยาท จริยธรรม สามัญสำนึก มันน้อยเหลือเกินครับเด็กสมัยนี้
(จากที่ผมประสบพบเจอเด็กเดี๋ยวนี้มานะครับ)

อีกอย่างเด็กอนุบาลเดี๋ยวนี้ เรียนกันหนักหน่วงเหลือเกิน ทั้งเรียนที่ร.ร. และ เรียนพิเศษ
แทบไม่มีเวลาได้เล่น เหมือนเด็กจะขาดธรรมชาติของเค้าไปยังไงไม่รู้

ผมเห็นด้วยสุดๆกับสังคมสมัยนี้ ที่เน้นเรื่องเรียนให้ชนะเพื่อน อนาถสุดๆเห็นจะเป็นเรื่องที่ต้องเรียนกวดวิชากันตั้งแต่อนุบาล อะไรมันจะขนาดนั้นครับ เสียธรรมชาติในวัยเด็กจริงๆครับ ยกเว้นเด็กคนนั้นอยากเรียนจริงๆ ไม่ใช่เป็นความต้องการของผู้ปกครอง มันพูดยากน่ะ ก็สังคมเรามีแนวโน้มไปแบบนี้เสียแล้วและจะหนักหน้าเข้าไปทุกวัน เรียนกันจนลืมรากเหง้าของวิถีชีวิตกันหมดแล้ว มีแต่วัตถุนิยม เรียนเพื่อรวย รวยเพื่่อตัวเอง

Probass

ได้ยินจากปากอดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง

ทำไมเด็กต้องมาเรียนพิเศษ ในห้องเรียนครูสอนยังไง

ครูบอกว่า ในห้องเรียน โดนหัวหน้าฝ่าย ให้ส่งแผนการสอนที่ไม่ใช่แผนตายตัวจากปีที่แล้ว  และสรุปผลการสอนในชั้นเรียน  เร่งให้ส่งภายในเวลา  ฝ่ายบริหารหัวหน้า  บ้าจะเอารายงานจากครูผู้สอน  ครูในห้องก็เลย สอนๆแล้วสั่งงานให้เด็กทำ  จากนั้นครูก็รีบปั่นรายงานส่ง เด็กก็ทำงานไป ที่ไม่รู้เรื่องก็ไม่กล้าถาม ใครที่เรียนติวมา ไปเร็วก็ทำได้

ถ้าครูไม่รีบทำงานส่ง   ก็ต้องใช้เวลานอกการสอนในช่วงเย็นหรือวันหยุด  ทำให้เวลาของครูหายไป เมื่อมองเพื่อนครูคนอื่นๆ มีเวลาไปรับสอนพิเศษ ด้วยความที่เงินเดือนน้อย จึงต้องสอนพิเศษ

ทำให้ในห้องเรียนครูบางคนจึงสอนไม่เต็มที่  ไม่ใช่เพราะครูกั๊กวิชา  แต่เป็นเพราะหัวหน้าจะเอารายงาน

เหตุผลนี้ ผมฟังแล้วโดน และเห็นภาพจริงๆ
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

Mr.No

ขอบพระคุณทุกความเห็น...

จริง ๆ อย่างที่บางท่านว่า หัวข้อกระทู้เหล่านี้ มีการตั้งขึ้นบ่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันสะท้อนให้เห็นถึงบริบทของสังคมไทยในศตวรรษนี้ ว่าเราได้มีการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจในสังคม และรากเหง้า รวมถึงวิถีชีวิตของเราไปอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

ผมว่าทุกท่านที่มีลูก นับแต่ยังไม่ทันลืมตา สิ่งแรกตอนนี้ก็คือ เราคิดแต่ แผน ๆ ๆ  แล้ว ก็วางแผน

การวางแผนชีวิตให้ลูกกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาระกิจคนไทยยุคนี้....

เรากำหนดชะตาชีวิตให้พวกเค้า อย่างที่เราเอาตัวของเรา เอาความล้มเหลวในชีวิต เอาความผิดพลาดในชีวิต เอาทุกสิ่งที่เราไม่เคยมี เคยได้ หรือแม้แต่ สิ่งทีเราเคยมี เคยเป็น แล้วยอมไม่ได้ถ้าลูกจะมีชีวิตที่ต่างจะที่เราเป็น  ...ทั้งที่เรายังหาข้อสรุปให้กับตัวเองไม่ได้เลยว่า แท้ที่จริง ที่เรามี เราเป็นนั้น....นั่นนะหรือ คือความสุข และเป็นที่สุดของชีวิต?

เราวางแผนให้ลูกเข้าเนอสเซอรี่ที่ดีที่สุด.... ต่อมาก็คือ อนุบาลที่ดีที่สุด....ประถมสุดยอด..มัธยมยอดนิยม ตามด้วย การเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง   ..นี่คือ สเตปของชีวิตของคนไทย วันนี้.... และส่วนใหญ่ ก็มีกรอบสำหรับลูก เท่านี้....

รูปแบบชีวิตของคนไทย ...ก็เลยมีให้เลือกไม่มากนัก...

ระบบการศึกษาของไทยปัจจุบัน.... ก็ลืมรากเหง้าของเรา แต่กลับไปยึดโยงเอากับ ผลสัมฤทธิ์ทีวัดด้วย วิชาการไม่กี่วิชา....

คนดี คนเก่ง ถูกกำหนดด้วย  การได้เกรดดีในวิชา คณิต อังกฤษ เคมี ชีวะ    เด็กเหล่านี้คือ  พวกเทพ ในสายตาของเหล่าครู และผู้ปกครอง....และในกลุ่มนักเรียนที่แข่งขันกันเอง

เมื่อ อยากให้ลูกเป็นเทพ..... พ่อแม่ ก็ขวนขวาย และยอมทุกสิ่งให้ลูกได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น.... .....เพราะข้อจำกัดระบบการศึกษาไทย ที่ครู 1 คน สอนนักเรียน 30-40 คน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เด็ก เจ๋ง ทุกคน...

กวดวิชา จึงเป็นช่องทางของ คนกลุ่มหนึ่งที่ เล็งเห็นถึงจุดอ่อนของระบบการศึกษาไทย ..... และที่แย่ไปกว่าก็คือมีไม่น้อยที่ครูที่สอนเองในคาบ กลับไปเปิดติวนอกเสียเอง!!!???

สารพัน อ. ทั้ง อ. ก จนถึง อ.ฮ  กลายเป็นเฟรนไชส์ ให้นักธุรกิจเข้าแสวงประโยชน์จาก ข้อบกพร่องของระบบการศึกษาไทย หาเงินเข้ากระเป๋า กันเป็นกอบเป็นกำ....  นี่อาจเป็นสาเหตุให้ อ.ติว หลายท่าน ลาออกจากการเป็นวิศวกร มาเป็นติวเตอร์ เพราะรายได้ดีกว่าแยะ...

ข้อจำกัดของนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเรียน เช่นเรียนอ่อน...เรียนไม่ทันเพื่อน ฯลฯ หลายคนจำยอมเพราะผู้ปกครองจำไปเรียนกวดวิชา ด้วยหวังว่าจะช่วยให้ลูกหลานตน เรียนดีขึ้น หรืออย่างน้อยเวลาใครถามว่าลูกเรียนที่ไหนก็บอกได้ไม่อายชาวบ้านว่า ฉันก็ให้ลูกไปติวกับ อ. นั่น อ.นี่ เหมือนกัน....

แต่ไอ้ลูกตัวดี ....แต่หัวไม่ดี เพราะไม่ชอบ ติวอย่างไรมันก็ไม่กระดิก เพราะมันไม่ชอบ และไม่ทันเพื่อน ...ดังนั้น ต่อให้ ศาสตราจาย์ทีว่าแน่ ...ก็แพ้ เด็กที่ไม่เรียน... เพราะขนาดในห้องติว...มันก็หลับ!!  และที่สำคัญมันหลับได้ดีกว่าในห้องเรียนเพราะมีแอร์...แถม ครูไม่ด่า

ดังนั้น...เด็กที่ประสบผลสำเร็จจริง ๆ ส่วนใหญ่มักเป็นเด็กที่มีพื้นฐานดี....และมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาให้ตนเองเก่งขึ้น...พูดง่าย ๆ ก็คือ เด็กต้องอยากเรียนเอง...ไม่ใช่ยัดเยียดให้เรียน!

แต่ให้ตายเถอะ...บางครั้ง เด็กที่อยากเรียนก็มี แต่เพียงเพื่อ...ได้ไป  และได้บอกกับเพื่อน ๆ ว่า ตูก็ไปติวมาแล้ว...!!??

ค่านิยมไทย.... ดี ๆ กำลังสูญหาย เพราะรากฐานการศึกษาที่ผิด... คิดแต่ด้านเศรษฐศาสตร์ และเดินตามรอยเสรีนิยมแข่งขันมากเกินไป  ทำให้คนไทย แข่งกันทุกด้าน...เราจึงขาดความสุนทรีย์...ขาดความเอื้อเฟื้อ..ขาดความรักในมนุษย์ และที่สำคัญ เราขาด จิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ กลายเป็น การแก่งแย่งเข้าทุกที

กล่าวเช่นนี้คงไม่หนักไป... เพราะหลายครั้งพิสูจน์แล้วว่า  คนไทยศตวรรษ ยิ่งเรียนสูง...ยิ่งเอาเปรียบ  ยิ่งรวยมาก..ก็ยิ่งเอาเปรียบมาก และที่สุดคือ  ยิ่งฉลาดมาก...กลับโง่(ในการเป็นคน)มากขึ้นทุกที
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

ลูกพระจอม

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง กับความคิดเห็นของคุณ  Mr.No  เด็กเดี่ยวนี้ยิ่งฉลาดมาก แต่ยิ่งโง่  (ในการเป็นคน)  ผมจะจำไว้

ประโยคนี้ จะไว้สอนลูกสอนหลานภายภาคหน้า

เด็กบ้านๆ


นี่แหละ กระบวนการทำลายเชิงสร้างสรรค์ในระบบทุนนิยม

อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ไม่อยากจะคิด  ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ

orachorn

ทุกอย่างมีอุปสงค์ และอุปทาน จุดประสงค์ของพ่อแม่ก็คืออยากให้ลูกเรียนเก่ง และเรียนคณะ และมหาวิทยาลัยดี ดี ก็คืออุปทานให้โรงเรียนติว ไม่ติวเขาก็อยู่ไม่ได้ ไม่ติวเด็กบางคนก็ไม่เข้าใจ เลยต้องมีควบคู่ ทุกอย่างก็มีติว เพียงจะเสียเงิน หรือไม่เท่านั้น ผู้ใหญ่สอบบรรจุก็ติว เปปทีนก็ติว แบนด์ก็ติว อาจารย์ที่ดีก็นัดเด็กติว พ่อแม่ก็ติว ติวไม่ได้ก็ไปหาผู้รู้ ก็คือโรงเรียนติว

Man in wide

ส่วนตัวผมว่าไม่ดี เพราะมีการเชื่อมโยงและผลประโยชน์กับกับโรงเรียน  เช่น กรณีใครไปเรียนที่สถาบันนี้จะสอบเข้าได้ หรือได้คะแนนสูง และเป็นไปตามนั้นจริงๆ  ที่สำคัญพ่อแม่ต้องหาเงินมาเพื่อให้ลูกได้ไปเรียนกวดวิชาเพื่อให้ทัดเทียมคนอื่น (คนรวยไม่มีปัญหา)