กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายในกรุงลอนดอนอาร์เซน่อลเซิ้งแข้งกับเชลซีแบบเสียบกันมันส์กว่าหาจังหวะยิงประตูก่อนจับมือต้มไข่เจ๊ากันไป 0-0 ไม่เสียสุขภาพทั้งสองฝ่ายส่งให้"ปืนใหญ่"เก็บ 1 แต้มขึ้นมาเท่าลิเวอร์พูลจ่าฝูงแต่เป็นรองลูกได้เสีย

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556

อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี

สนาม : เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม



ประตู :  -

คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 0-0 เชลซี

อาร์แซน เวนเกอร์ยังไม่เคยเอาชนะทีมของโจเซ่ มูรินโญ่เลยตลอด 9 เกมที่ผ่านมาโดยในเกมนี้เขาส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามมีเพียงแจ็ค วิลเชียร์ที่ติดโทษแบนทำให้โทมัส โรซิชกี้ได้ลงมาทำหน้าที่แทนส่วนมูรินโญ่นั้นเลือกใช้บริการของแกรี่ เคฮิลล์กับจอห์น เทอร์รี่ในแผงหลังส่วนกลางสนามนั้นทั้งออสการ์และฆวน มาต้าต้องนั่งดูวิลเลี่ยนและเอแด็น อาซาร์ลงสนามช่วยทำเกมให้เฟร์นานโด ตอร์เรสล่าตาข่าย

ครึ่งแรก

แลมพ์สลองส่องยังติดบล็อค
โอกาสใกล้เคียงครั้งแรกในเกมนี้เป็นของเชลซีที่ต่อบอลกันอย่างช้าๆก่อนแทงไปทางฝั่งซ้ายให้อัซปิลิกวยต้าหลุดไปจนถึงเส้นหลังแล้วตบกลับมาตรงกลางให้แลมพาร์ดยิงจังหวะแรกเลยไปติดบล็อคแบ็คสเปนพยายามตามมาเล่นก็ล้ำหน้าไปเรียบร้อยแล้ว

15 นาทีผ่านยังไร้โอกาสยิง
เกมผ่านมาครบ 15 นาทีแล้วทั้งสองฝั่งยังไม่มีโอกาสยิงกันเลยโดยพยายามเคาะบอลไปมาแต่จังหวะผ่านบอลสุดท้ายหน้าปากประตูยังไม่เฉียบขาดทำให้กองหลังแต่ละฝั่งยังดักเอาไว้ได้ตลอดโดยทั้งคู่ครองบอลได้พอๆกัน

เกมยังตื้อโอกาสแทบไม่มี
ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมากว่า 25 นาทีแล้วทั้งสองทีมยังแทบไม่มีจังหวะทำประตูจะแจ้งกันเลยโดยอาร์เซน่อลมาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกระยะ 40 หลาที่แรมซี่ย์ตักไปในกรอบเขตโทษแต่ก็ไม่มีใครเข้าถึงรวมทั้งจังหวะที่ซานญ่าลากบอลไปตรงกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนผ่านเข้ากลางก็โดนเคฮิลล์ล้มตัวเตะออกหลัง

รามิเรสโขกข้ามคาน
นาทีที่ 27 เชลซีมีลุ้นอีกครั้งเมื่อพยายามทำเกมกันขึ้นมาทางด้านขวาแล้วอิวาโนวิชหยอดจากนอกกรอบเขตโทษมาตรงหลางให้รามิเรสขึ้นโขกคนเดียวทว่าก็ยังกดบอลไม่ลงเหินข้ามคานออกไปเยอะพอสมควร

แลมพ์สซัดชนคานดังตูม
ยิงเล่นยิ่งใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆสำหรับเชลซีเมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 32 แล้วแลมพาร์ดกับอาซาร์ทำชิ่งกันอยู่หน้าปากเขตโทษก่อนทีมเบลเยี่ยมตักบอลมาให้แลมพาร์ดได้ยิงเต็มข้อบอลผ่านมือของเชสนี่ไปแล้วแต่ไปชนคานสนั่นแล้วตกลงมากระทบพื้นไม่เข้าไปในเส้นประตูอย่างน่าเสียดาย

วิลเลี่ยนลากมายิงไม่พ้นเชสนี่
ช่วงท้ายครึ่งแรกอาร์เซน่อลได้บุกเพลินไปหน่อยก่อนที่แรมซี่ย์จะเห็นตอร์เรสเป็นเพื่อนทีมเดียวกันเลยจ่ายไปให้เชลซีได้โต้กลับเร็วมาทางวิลเลี่ยนริมเส้นด้านซ้ายก่อนปีกบราซิลกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วสับทันทีทว่าก็ยังไปเข้าซองของเชสนี่ที่ล้มตัวเซฟเอาไว้

ปืนเอ๋ย...ยิงดอกแรกตอนทดเจ็บ
เหลือเชื่อตริงๆที่จังหวะยิงครั้งแรกของ"ปืนใหญ่"มาเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกซึ่งเป็นโอซิลวอลเล่ย์นอกกรอบระยะราว 20 หลาแต่เคฮิลล์ยังพุ่งทั้งตัวไปบล็อคเอาไว้โดยมิดฟิลด์เยอรมนีพยายามฟ้องว่าบอลโดนแขนแต่ก็ไม่เป็นผล


ครึ่งหลัง

สิงห์รอสวนมีลุ้นตลอด
เริ่มเกมครึ่งหลังมาเชลซียังดักสวนกลับได้น่ากลัวอยู่หลายครั้งแต่ดีเด็ดทีขาดหน้าประตูยังไม่มีเหมือนเดิมโดยจังหวะใกล้เคียงเป็นตอนที่วิลเลี่ยนลากบอลมาจากริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางจะให้รามิเรสทว่าย้อนหลังบอลเลยไปเข้าทางอาซาร์จับบอลยาวเกินไปทำให้ไม่ได้ยิงแล้วบอลออกหลังไปเลย

รามิเรสสังเวยเหลืองคนแรก
เกมผ่านมาครบชั่วโมงแล้วเริ่มมีการเข้าบอลหนักขึ้นเรื่อยๆและจังหวะนี้เป็นคราวของรามิเรสที่พุ่งเข้ายันอาร์เตต้าแบบเต็มๆทำให้นักเตะทั้งสองฝ่ายจะมามุงด้วยความไม่พอใจก่อนที่กรรมการจะควักใบเหลืองให้มิดฟิลด์บราซิลเลี่ยนเป็นของกำนัลคนแรกก่อนวันคริสต์มาส

แลมพ์สส่องไกลอีก
ยังคงเป็นเชลซีที่มีโอกาสมากกว่าอย่างชัดเจนและอิวาโอวิชเปิดบอลมาจากแดนตัวเองให้ตอร์เรสโหม่งตั้งอยู่หน้าปากเขตโทษระยะราว 20 หลาก่อนจะเป็ยแลมพาร์ดวิ่งเข้ามาไม่คิดมากยิงทันทีทว่าเชสนี่ก็ยังล้มตัวรับเอาไว้ได้สบายๆ

ปุด!โปรโขกไฝว้เทพปรือ
เกมเริ่มเดือดปุดๆอีกแล้วโดยเป็นจังหวะทุ่มด้านซ้ายที่กิ๊บบ์สทุ่มมาให้โอซิลก่อนที่อิวาโนวิชจะเหยียดขามาถีบบอลบริเวณหน้าของเพลย์เมคเกอร์เยอรมนีก่อนทั้งสองคนจะมีปากเสียงกันแถมใช้หัวดันกันไปมาก่อนนักเตะทั้งสองฝ่ายต้องเข้ามาห้ามทัพเป็นการใหญ่อีกรอบ

โถ่!หล่อเหลาหลุดยิงออกเฉย
โอกาสทองของเจ้าถิ่นมีขึ้นในจังหวะโต้กลับที่แรมซี่ย์หยอดบอลมาจากกลางสนามให้ชิรูด์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนซัดด้วยซ้ายข้างถนัดทว่าโดนไม่ดีบอลปลิ้นก่อนออกหลังไปอย่างน่าเสียดายทั้งที่เขาน่าจะยิงได้ดีกว่านั้นเยอะ

เช็คช่วยชีวิต!หล่อเหลาหลุดยิงติดบล็อค
นาทีที่ 84 อาร์เซน่อลมีโอกาสเลยเมื่อกิ๊บบ์สได้บอลทะลุช่องจากโรซิชกี้เข้าไปเปิดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ชิรูด์วิ่งเข้ามายิงตามน้ำแต่ต้องชมเช็คเลยที่ปิดมุมได้ไวก่อนบล็อคบอลทิ้งออกหลังไปได้ท่ามกลางความเสียดายจากเหล่าสาวก

อัซปิช่วยสิงห์เคลียร์ทิ้งจากเส้น
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอาร์เซน่อลมาได้ลุ้นอีกจากจังหวะเตะมุมด้านขวาที่เปิดมาทางเสาไกลให้ซานญ่าได้โขกกดลงพื้นแต่อัซปิลิกวยต้าที่ยืนคุมเสาอยู่ยังไม่หลับเตะทิ้งออกหลังไปได้ก่อนที่"ปืนใหญ่"จะได้เตะมุมอีกครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม

ปืนเจ๊าสิงห์ขยับรองฝูง
หลังจากแฟนบอลยืนดูเกมด้วยความเซ็งมา 90 นาทีก็ได้กลับไปนอนฝันดีพร้อมกับการแบ่งแต้มของทั้งสองทีมทำให้อาร์เซน่อลแซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาเป็นรองจ่าฝูงมี 36 คะแนนเท่าลิเวอร์พูลส่วนเชลซียึดอันดับ 4 มี 34 แต้ม


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

อาร์เซน่อล : วอยเซียค เชสนี่ 5, บาการี่ ซานญ่า 5, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ 6*, โธมัส แฟร์มาเล่น 5, คีแรน กิ๊บบ์ส 5, โทมัส โรซิชกี้ 5 , มิเคล อาร์เตต้า 5, เมซุต โอซิล 4, ธีโอ วัลค็อตต์ 4, อาร่อน แรมซี่ย์ 3, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 4
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, นาโช่ มอนเรอัล, คาร์ล เจนกินสัน, ซานติ กาซอร์ล่า, มาติเยอ ฟลามินี่, ลูคัส โพดอลสกี้, นิคลาส เบนด์ทเนอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 5, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 5, แกรี่ เคฮิลล์ 5, จอห์น เทอร์รี่ 5, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 5, รามิเรส 5 , แฟร้งค์ แลมพาร์ด 5, จอห์น โอบี มิเกล 4, เอแด็น อาซาร์ 5(อันเดร ชูร์รเล่ 5 น. 73), วิลเลี่ยน 4(ออสการ์ 5 น. 77), เฟร์นานโด ตอร์เรส 4(ดาวิด ลุยซ์ น. 87)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, แอชลี่ย์ โคล, ฆวน มาต้า, ซามูเอล เอโต้



http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=3&news_id=31991&page=1