กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ถ้าเราเว้นวรรคประชาธิปไตย  เท่ากับ เข้าไปสู่ระบบเผด็จการ



เมื่อลองศึกษา เปรียบเทียบสถานการณ์การเมือง ปี 2549 กับ ปี 2556 ดูแล้ว จะเห็นได้ว่าแม้มีความต่างอยู่บ้าง ก็ยังมีความคล้ายกันในหลายๆจุด อาทิ บุคคล กลุ่มบุคคล เป็นต้น

ทว่าในครั้งนี้ วาทกรรมทางการเมืองที่สร้างให้เกิดความเกลียดชัง นั้น แตกต่างออกไปตรงที่ว่า กปปส. ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งไม่ให้เกิดขึ้นบ้าง หรือส่อโมฆะบ้าง พร้อมวาดภาพ "ผีเลือกตั้ง"

กล่าวคือ ถ้าคุณไม่ร่วมกับกปปส. คุณเลือกที่จะไป "เลือกตั้ง 2 ก.พ.57 " เลือกที่จะ "ไม่เว้นวรรคประชาธิปไตย" คุณคือขี้ข้าทักษิณ คุณคือเสื้อแดง ไม่รักชาติบ้าง เป็นต้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ กปปส. ไม่เคยวาดภาพให้เห็นคือความจริงที่ว่า ถ้าเราเว้นวรรคประชาธิปไตยแล้ว เราจะกำลังเข้าไปสู่ระบบเผด็จการ ที่ไม่ต่างกับการ "ปฏิวัติรัฐประหาร" ด้วยกำลังมวลชน

เช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ "ผีรัฐประหาร" ที่กำลังจะกลับมาวนเวียน หลอกหลอนให้ประเทศย่ำถอยหลังลงคลองอีกครั้ง


ขอบคุณที่มา  https://www.facebook.com/photo.php?fbid=640736915972443&set=a.444830018896468.98584.419870098059127&type=1&theater

สำหรับผม ไม่ใช่ว่าไม่สนับสนุนการเลือกตั้ง

แต่ถ้าการเลือกตั้ง
  - ยังไม่มีวิธีการที่จะป้องกันการทุจิต โกงการเลือกตั้ง ซื้อเสียง เป็นบันไดให้คนโกงชาติ เข้ามาโกงกินประเทศ โดยอ้างมาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ต้องเลือกมันดีกว่ามั๊ย
  - ถ้าได้เลือกตั้งแล้วได้เป็นหนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน จ่ายคืน 100 ปี ก็ไม่หมด ต้องตกเป็นเมื่องขึ้นของประเทศอื่น อย่างนี้ไม่เลือกตั้งดีกว่ามั๊ย
 
แน่จริงออกกฎหมาย
   - ใครซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทั้งคนซื้อและคนขาย ประหารชีวิตเลย
   - ใครละเว้นปฎิบัติหน้าที่ เห็นคนทำผิดแล้วไม่ลงโทษ ถือว่าร่วมกระทำความผิดด้วย มีโทษจำคุก 10 ปี
   - ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นเดียวกับประชาชน
   - คอร์รับชั่น ถือว่าขายชาติ มีโทษประหารชีวิตอย่างเดียว

แล้วที่ กปปส. จะให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ ล่ะครับ....
สงขลา นี่น่าจะได้ใคร
ผมว่ายิ่งกว่าอีกนะ....
แล้ว 3 จังหวัดล่ะครับ....ไม่ห่วงกันเหรอ
ต้องให้ความรู้กับประชาชนครับ จึงจะลดการซื้อเสียงได้

มันคือประชาธิปไตยบนความไม่พร้อม สุดท้ายก็เป็นได้แค่การเปลี่ยนชื่อการปกครอง แค่เปลี่ยนชื่อเรียกตำแหน่งของรัฏฐาธิปัตย์ แค่นั้นเอง ที่มาพร้อมกับยาหอมที่เป็นมายาภาพว่าประชาธิปไตยคือการปกครองที่อำนาจเป็นของประชาชน เห็นทุกวันนี้ก็มีแต่อำนาจเลือกตั้งก็แค่นั้น อำนาจถอดถอนไม่เห็นจะใช้ได้จริงยิ่งอำนาจตรวจสอบนี่ยิ่งแล้วใหญ่หาแทบไม่เจอ

ถ้าชาวประชากินไม่อิ่ม ชีวิตของพวกเขาก็จะไม่ปลอดภัย เมื่อท้องยังหิวพวกเขาจะคิดถึงอะไรได้อีกนอกจากปากท้อง ดังนั้นการศึกษาจึงไม่ตามมา เมื่อไม่มีการศึกษาประชาชนก็ด้อยความรู้ มีหรือจะรู้ทันนักการเมือง ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ต้องแก้กันตลอดมาทุกยุคทุกสมัยก็คือปัญหาปากท้องของประชาชน และที่ยังไปไม่ถึงไหนอีกก็เรื่องการศึกษาและความรู้ของประชาชนนั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้เองที่นักการเมืองใช้ควบคุมประชาชนเรื่อยมา สังเกตุได้จากการไม่จริงใจในการแก้ปัญหาปากท้องหรือการยกระดับการศึกษา เราจะไม่เคยเห็นเลยว่าจะมีนักการเมืองคนใดลุกขึ้นมาประกาศว่า มาเถอะชาวประชาเรามายกเรื่องปัญหาปากท้องและการศึกษาให้เป็นวาระแห่งชาติเราจะรวมกันวางแผนและหาทางออกอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม เราจะแก้โง่แก้จนกันอย่างถาวรไปพร้อมๆกันไม่มีหรอก เพราะอะไร??

เพราะความกลัวคืออำนาจในการปกครองอย่างแท้จริง เดิมที่มนุษย์ทุกคนล้วนถูกพันธนาการด้วยความกลัว กลัวในอะไร? กลัวหิว กลัวอด กลัวลำบาก กลัวในกฏหมาย กลัวในการลงโทษ กลัวอันตรายต่อร่างกาย ฯลฯ ซึ่งทุกความกลัวล้วนมีสาเหตุมาจากความไม่รู้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ กลัวที่มืดเพราะเรามองไม่เห็นไม่รู้ว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น กลัวน้ำท่วมเพราะไม่รู้ว่าปีนี้น้ำจะเยอะขนาดไหน กลัวว่าจะทำนาแล้วขาดทุนเพราะไม่รู้ว่าปีนี้ฝนจะตกมากตกน้อยแค่ไหน กลัวไม่กล้าวิจารณ์นโยบายรัฐบาลเพราะไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์พอพูดไปโดนคนอื่นเขาสวนกลับมาจะเสียหน้า กลัวตำรวจตำรวจสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมดแม้สิ่งนั้นจะเป็นการละเมิดสิทธิของเราก็ตามโดยไม่คำนึงถึงสิทธิที่ตัวเองมีเพราะความไม่รู้ในกฏหมายและสิทธิพื้นฐานที่ตนเองมี ฯลฯ และอาวุธที่จะทำลายความกลัวก็คือความรู้ ยิ่งคนรู้มากก็จะยิ่งควบคุมได้ยากไม่สามารถจะเอาเรื่องง่ายๆโง่ๆมาหลอกได้อีก

ถามสิว่าในขณะที่คนส่วนใหญ่ในสังคมกำลังดีใจและฝันเพ้อไปกับนโยบายประชานิยมแบบฉาบฉวยจะมีใครคิดมีใครคัดค้านไหมว่าสิ่งที่รัฐทำอยู่มันจะก่อปัญหาใหญ่ตามมาก็ไม่มีเพราะอะไร เพราะไม่ได้เรียนเศษฐศาสตร์ไม่ได้เรียนกฏหมายไม่ได้เรียนรัฐศาสตร์กันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการที่รัฐจะประกาศขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน เป็น 15,000 ต่อเดือน การเลิกเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนน้ำมันจนทำให้กองทุนน้ำมันติดลบอยู่ถึง 22,000 กว่าล้านจนเป็นเหตุให้ต้องขึ้นราคาน้ำมันตามมา เมื่อค่าแรงในการผลิตสินค้าและบริการและค่าเชื้อเพลิงในการผลิต ค่าเชื้อเพลิงในการขนส่งสินค้าสูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นมาเป็นเงาตามตัว และคาดว่าจะทำให้ SME เจ๊งกันกว่า 80,000 ราย และทำให้คนงาน SME ตกงานกันอีกเป็นหลักแสน หรือแม้แต่การแจกบัตรเครดิตให้เกษตรกร ที่มีวงเงิน 50,000 บาทซึ่งชาวบ้านหลายคนก็ยังขาดความเข้าใจคำว่าเครดิตอยู่ สุดท้ายมันก็จะวนไปตกที่อิหรอบเดียวกับบัตรเครดิตพลังงานอีก คือเอาไปใช้ๆ จนไม่รู้ว่ามันต้องจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อไม่มีเงินจะคืนก็ไปเป็นหนี้จะในหรือนอกระบบก็ตาม สุดท้ายมันจะจบยังไง ปีนี้ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้ พอประชาชนไม่มีปัญญาปลดหนี้ อีก 4 ปีข้างหน้าจะมีนโยบายพักชำระหนี้หรือยกหนี้ให้ถ้าเลือกพรรคเดิมเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหน่ะหรือ?? สุดท้ายมันก็คือ "การเอาเงินภาษีของประชาชนมาซื้อเสียงประชาชน หรือคือการซื้อเสียงโดยใช้อำนาจรัฐ" โดยตั้งชื่อกระบวนการนี้ให้หรูและดูดีขึ้นว่ามันคือ "นโยบายประชานิยม"

ถ้ามันยังเป็นอยู่แบบนี้เรายังจะวางใจในระบบที่มันบิดเบี้ยวนี้อยู่ได้หรือ ไหนละอำนาจของปวงชน มันอยู่ที่ไหน อยู่ในวินาทีของการกาบัตรแล้วหย่อนลงหีบอย่างนั้นหรือ?? ถ้าสิ่งที่เราต้องการจะกำจัดต้องการจะปฏิรูปเหล่านี้มันเผด็จการ แล้วสิ่งไหนละคือเสรีประชาธิไตย
-คือการใช้อำนาจเงินซื้อเสียงส่วนใหญ่ในสภา การควบรวมอำนาจสภาทั้งบริหารและนิติบัญญัติหรือการพยายามจะควบรวมสถาบันตุลาการอย่างนั้นหรือ??
-คือการรวบอำนาจรัฐสภาทั้งสภาบนสภาล่าง ทั้งที่สภาบนมีอำนาจหน้าที่ในการถ่วงดุลย์และตรวจสอบสภาล่าง แล้วนำเอาอำนาจที่ตนควบรวมไว้มาออกกฏหมายเพื่อคนคนเดียวอย่างนั้นหรือ??
-คือการที่ผู้แทนของปวงชนที่ถูกเลือกเข้าไปทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในสภาอันเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศออกมายอมรับอย่างหน้าไม่อายว่าทำตามคำสั่งของนักโทษจากต่างแดน อย่างนั้นหรือ??
-คือการที่ผู้มีอำนาจบริหารผู้มีอำนาจนิติบัญญัติออกมายอมรับว่ารับคำสั่งมาจากคนคนเดียวกันอย่างนั้นหรือ??

ถ้าหากเสรีประชาธิปไตยมันเป็นเช่นนี้ ผมก็จะบอกว่า ก็ไม่เห็นมันจะต่างอะไรตรงไหนกับระบอบเผด็จการที่ทุกอำนาจการตัดสินใจใดๆมาจากคนๆเดียว แล้วมันจะดีไปกว่าระบอบเผด็จการตรงไหนกันคับ??

พรรคเดียวที่ได้อำนาจรัฐย่อมหนีไม่พ้นการใช้อำนาจแบบเผด็จการ  เหมือนหลายๆยุคที่ผ่านๆมา

ประชาธิปไตยก็คือการเลือกตั้ง
คนที่ได้รับจากการเลือกตั้งคือตัวแทนของประชาชน
และที่สำคัญต้องทำความเข้าใจ
ประชาธิปไตยคือ ตัวแทนในสภาต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่
ดังนั้นการทำงานที่บอกว่าต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ จึงไม่ใช่พวกมากลากไป

มิฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยก็เดินไปหน้าไม่ได้ รัฐบาลทำงานไม่ได้

ถ้าไม่พอใจรัฐบาลก็สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

และนี่ไงที่เป็นหนทางที่ฝ่ายที่ออกมาประท้วงจะได้เปลี่ยนรัฐบาล ไม่ใช่ปิดกั้นการรับสมัคร
และบอยคอดไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบไม่เข้าใจในประชาธิปไตย ของบางพรรคการเมือง

ไหนบอกและโอ้อวดว่า มวลมหาประชาชนทั้งประเทศเห็นด้วย จึงไม่ยอมลงสมัครรับเลือกตั้ง

แทนที่จะได้พิสูจน์ให้รู้ไปเลยว่า มวลมหาประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนจริงหรือไม่

กลีดกันไม่ลงสมัครและห้ามพรรคอื่นสมัคร หมายความอื่นไม่ได้นอกจาก  ขี้แพ้ชวนตีนั่นเอง

ใครไม่เห็นด้วย ทุบเลย

                      " เกือบร้อยปีแล้วที่บ้านเมืองเรานำระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมาบังคับใช้     ล้ม ลุก คลุก คลาน ยื้อ แย่ง ยึด ยุบ ยั้ว เยี่ยะ  และยิง          ทั้ง ๆ ที่เป็นระบอบที่สากลที่สุดแล้ว และเป็นประจักษ์แล้วว่าระบอบนี้เลวน้อยที่สุด.... ( เพื่อนไม่คบถ้าไม่ใช่ระบบนี้ ) การใช้มือข้างมาก หนึ่งสิทธิ์ หนึ่งเสียง   ยาก ดี มี จน โลโซ ไฮโซ แหลงใต้ แหลงกลาง แหลงแขก   ลาวเหนืออิสานขะแมร์  ภาคไหน ๆ   ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน   พรรคไหนได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนเสียงส่วนมาก  ก็เข้ามาเป็นตัวแทนในการบริหารประเทศ    วาระของทุกรัฐบาลในการบริหารมันมีไม่เกิน 4 ปี   ไม่มีรัฐบาลชุดไหนต่ออายุได้ถ้าไม่ผ่านการเลือกตั้ง    ผู้มีสิทธิ์ทั้งประเทศเกือบห้าสิบล้านคน     คงจะต้องฉลาดบ้างไม่ต่ำกว่าครึ่งนึง  ให้มันรู้ไปว่าบ้านเมืองจะล่มจมด้วยระบอบการปกครองนี้    ยอมรับว่าทุกคนในชาติต้องการเห็นความสุข ความเจริญ ความรักสามัคคีของคนในชาติ     หาทางป้องกันการคอรัปชั้นทั้งนักการเมือง และระบบราชการ   ปฎิรูปทุกมิติของบ้านเมืองต้องมีแน่่      แต่กฏกติกา และมารยาทต้องควบคู่กันไป.................        

เพราะนี่คือประเทศไทย......อะไรที่ดีๆ มาใช้กับคนไทย บรรลัยหมด  เพราะอะไรครับ.....
เพราะเรายึดติดกันหรือเปล่า....
จริงๆ มันเรื่องชิงอำนาจ ของคนไม่กี่คนนี่ครับ (น่าจะรู้นะครับว่าใคร)
แต่ทำให้ประเทศ และประชาชนเสียหาย
ผมว่า....เวรกรรมตามสนองนะครับ  สำหรับบ้านนี้เมืองนี้ เพราะทำกันไว้เยอะ

อ้างถึงเพราะนี่คือประเทศไทย......อะไรที่ดีๆ มาใช้กับคนไทย บรรลัยหมด  เพราะอะไรครับ.....
เพราะเรายึดติดกันหรือเปล่า....
จริงๆ มันเรื่องชิงอำนาจ ของคนไม่กี่คนนี่ครับ (น่าจะรู้นะครับว่าใคร)
แต่ทำให้ประเทศ และประชาชนเสียหาย
ผมว่า....เวรกรรมตามสนองนะครับ  สำหรับบ้านนี้เมืองนี้ เพราะทำกันไว้เยอะ

อะไรที่ดีๆ ที่เข้ามาครับ เราติดยึดอะไรครับ ใครชิงอำนาจ ครับ
ถามว่า หัวสมองคนไทยทุกวันนี้แยกไม่ออก เหรอครับ ตำรวจจับปล่อยเพื่อรีดเงิน ได้ดีเพราะพี่ให้ ฯลฯ  มาจากใครไอ้หัวแถวที่มัน โกงกิน 12 ปี แสนๆล้านนั้นเงินใคร โกงประเทศชาติไหนไป  บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีเวรกรรมหรอกครับ มีแต่คนไม่ดีได้ปกครองประเทศ  ตามพระกระแสรับสั่งไง  หัวสมองไม่รู้  หรือครับว่า ไอ้นี่โคตรโกงบ้านโกงเมือง ฆ่าได้เมื่อขัดผลประโยชน์ มันทำไว้เยอะตามที่คุณว่านั่นแหละความเลววิบัติของชาติไงครับ

  คุณเป็นใครวะ ผมทนกระทู้คุณมาหลายกระทู้แล้วครับ คุณไม่รู้ถึงความเลวที่ตระกูลชินวัตรมันทำเหรอครับ เลือกตั้งใหม่ มันก็โกงใหม่ ประเทศชาติจะพังพินาศกันอยู่แล้ว เค้าถึงต้องปฎิรูปงัยครับ พิมพ์ภาษาไทยได้แสดงว่าพอมีการศึกษาอยู่บ้าง ไม่น่าโง่นะครับ อยากคุยยาวๆส่งข้อความมาหลังไมค์เลยครับ เดี่ยวจัดให้

ทนเหลี่ยมไม่ได้ แต่ทนเทือกได้ ยังงั้นเหรอ จะเอาสภาประชาชนฟาสซิสต์ ให้เทือกเลือกแทนคุณเหรอ แล้วแน่ใจแล้วนะ ว่าประเทศไม่ฉิบหาย เพราะคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ ที่นำโดยท่านเืทือกที่มีประวัติทุจริตยาวนาน ไม่่มีผลงานอะไร นำพรรคแพ้เลือกตั้งมา 20 ปี ฝักไฝ่เผด็จการทหาร ให้ลูกรุกป่าสงวน
   
แฟร์ที่สุดคือ การเลือกตั้งครับ อย่ามาโทษคนนั้น คนนี้ซื้อเสียง เพราะเห็นเลือกกันที่ไรก็ซื้อกันทั้ง 2 ฝ่าย

ส่วนตัวผมอยากได้คนดีๆ ที่ไม่ใช่ทั้ง พท หรือ ปชป แต่ถ้ามีคนดีจริง ก็เลือกพรรคไหนก็เลือก

การพัฒนาประชาธิปไตยแม้แต่ในอเมริกาเองยังใช้เวลา 200 ปี กว่ามาถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยต้องรอให้คนมีคุณภาพ มีการศึกษามากกว่านี้ ถึงจะได้รัฐบาลในอุดมคติที่ "คนดี"ต้องการ แต่ตอนนี้ต้องอดทน และใช้เวลา ไม่มีทางลัดแน่นอน
การจะพลิกฝ่ามือเป็นไปไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป

คุณภาพของรัฐบาล สะท้อนถึงคุณภาพประชาชนครับ แต่การใช้วิธีแบบล้มกระดานแบบเทือกทำอยู่ ทำให้ประเทศเดินถอยหลังลงคลอง

ตีเหมือนที่ตากใบเลย 

อ้างจาก: ลำคาญคนดี เมื่อ 21:35 น.  28 ธ.ค 56
การพัฒนาประชาธิปไตยแม้แต่ในอเมริกาเองยังใช้เวลา 200 ปี กว่ามาถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยต้องรอให้คนมีคุณภาพ มีการศึกษามากกว่านี้ ถึงจะได้รัฐบาลในอุดมคติที่ "คนดี"ต้องการ แต่ตอนนี้ต้องอดทน และใช้เวลา ไม่มีทางลัดแน่นอน
การจะพลิกฝ่ามือเป็นไปไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป

คุณภาพของรัฐบาล สะท้อนถึงคุณภาพประชาชนครับ แต่การใช้วิธีแบบล้มกระดานแบบเทือกทำอยู่ ทำให้ประเทศเดินถอยหลังลงคลอง

" แหลงดีจัง  บ่าวนี้ "   

อ่านไปอ่านมาก็คือมี2ฝ่ายต่างความเชื่อ ก็เชื่อกันไป แต่ผมเห็นทักษิณประกาศว่าคนจนจะหมดประเทศมา(ตอนนั้นผมก็เลือกทักษิณเพราะผมยังอ่อนทางการเมือง)10กว่าปีแล้ว ยังทำไม่ได้เลย เที่ยวนี้ลองเชื่อสุเทพสัก3ปี ถ้าไม่ดีค่อยพิจารณาคนใหม่ หรือคนที่เชื่อทักษิณ จะลองเชื่อต่ออีกสัก5-10ปีก็เชื่อไป นี่ความเห็นผมไม่ว่าใคร และใครก็ไม่ต้องมาว่าผม ถ้าคุณคือคนที่มีใจรัก ประชาธิปไตยพอ เชิญตามสบายในความเชื่อ

ขอคนดีๆสักคนที่ไม่ใช่ คนเดิมๆ ปชป หรือ พท. จะกาให้

ไม่เอาทั้งเทือก หรือ เหลี่ยม เพราะขี้โกงทั้งคู่ ตลก เมื่อคนประวัติโกงมายาวนาน มาชี้หน้าว่าอีกฝ่ายโกง
อยากได้พรรคที่สาม ถ้ามีคนดีๆ หรือแค่พอใช้ได้ จะำกาให้แน่นอน

อ้างจาก: ลำคาญคนดี เมื่อ 21:35 น.  28 ธ.ค 56
การพัฒนาประชาธิปไตยแม้แต่ในอเมริกาเองยังใช้เวลา 200 ปี กว่ามาถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยต้องรอให้คนมีคุณภาพ มีการศึกษามากกว่านี้ ถึงจะได้รัฐบาลในอุดมคติที่ "คนดี"ต้องการ แต่ตอนนี้ต้องอดทน และใช้เวลา ไม่มีทางลัดแน่นอน
การจะพลิกฝ่ามือเป็นไปไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป

คุณภาพของรัฐบาล สะท้อนถึงคุณภาพประชาชนครับ แต่การใช้วิธีแบบล้มกระดานแบบเทือกทำอยู่ ทำให้ประเทศเดินถอยหลังลงคลอง

ไม่ลองเสนอแนวคิดซักหน่อยเหรอท่าน