กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ตอนนี้ไม่มีใครที่ไม่พูดถึงเรื่องการแต่งงานของสาวเมย์  พิชญ์นาฏ สาขากร  กับว่าที่เจ้าบ่าว  สารวัตรโจ้ พ.ต.ต.ธิติสรรค์ อุทธนพล  เพราะเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ กลบกระแสม็อบไปชั่วขณะ  ไม่ใช่เพราะแต่งฟ้าแลบอย่างเดียวเท่านั้น  แต่ดันมาเงิบกันเมื่อรู้ว่าสารวัตรโจ้นั้นมีครอบครัวมาก่อน  อีกทั้งสาวเมย์ก็รู้อยู่เต็มอก ว่าเมื่อก่อนอยู่ในฐานะอะไร และตอนนี้มาอยู่ในฐานะอะไร

แต่จะว่าไปแล้วเรื่อง "ผู้ชาย" ของเมย์  พิชญ์นาฏ  ก็ไม่ธรรมดาพอๆกับเพื่อนสาวในแก๊งค์เพราะตลอดเวลากว่า 10 ปีที่สาวเมย์ทำงานในวงการบันเทิงเธอก็เกี่ยวผู้ชายมามากหน้าหลายตา  แถมแต่ละคนโปร์ไฟล์เริ่ดๆทั้งนั้น  เริ่มตั้งแต่สมัยเข้าวงการใหม่ๆโดยมีฉายาเก๋ๆว่า "ซูฉีเมืองไมย" เมย์ก็คบกับหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกนามว่า "โอ๊ค" ที่พร้อมทั้งรูปทรัพย์และทุนทรัพย์  แต่ก็หวานกันได้ไม่นานเพราะจู่ๆก็มีภาพหลุดเมย์ กับนักหวดเทนนิสมือหนึ่งของไทยอย่าง "บอล ภารดร  ศรีชาพันธุ์" ออกมาให้แฟนๆงงกันไปหมดว่าคนนี้ตรงสเปกยังไง  แต่ถึงบางอ้อก็ตรงที่ว่ามีเฟอร์รารี่ให้นั่งฟรีทุกวันนี่เอง

หลังจากนั้นสาวเมย์ก็ยังเพิ่มความฮอตเว่อร์ด้วยการแอบเจอกับ "บรู๊ค" ดนุพร ปุณณกันต์ นักการเมืองชื่อดังและสามีคนปัจจุบันของกบ สุวนันท์  แต่นั่นแค่ตัวฆ่าเวลาเพราะต่อมาเมย์ก็กลายเป็นคู่จิ้นกับ "แดน" วรเวช ดานุวงค์  เพราะเล่นละครด้วยกันจนหนุ่มโอ๊คหึงข้ามประเทศ  สาวเมย์ก็หาได้แคร์เลิกเป็นเลิก  เดินหน้าหาความรักครั้งใหม่จนมาพบกับ "ไพรด์" วุฒิศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์  ทายาทธุรกิจนำเข้ารถยนต์  ออกสื่อด้วยกันหลายงานสวีทหยดแต่จู่ก็เงียบหายเลิกกับไวแบบ3จี

ส่วนหนุ่มคนล่าสุดนั้นสาวเมย์หันกลับมากินเด็กตามเพื่อนสาวอย่างอั้ม พัชราภา  เพราะไปคว้าเอาไฮโซหนุ่มรุ่นน้อง "ปาล์ม" ฐณส หงสนันทน์ ที่อายุห่างกันถึง 5 ปี แถมยังมีข่าวว่าอาจจจะลั่นระฆังวิวาห์  แต่ผ่านไปไม่กี่เดือนเมย์ก็ฉายเดี่ยวออกงานพร้อมบอกว่าโสดสนิทอีกแล้วแบบฝ่ายชายยังงงว่าเลิกกันตอนไหน  จังหวะนี้เองที่สารวัตรโจ้  เข้ามาเสนอตัวรักษาหัวใจสาวเมย์ด้วยความรัก (และเงินมหาศาลจริงๆ) แถมยังมีรถหรูให้เมย์นั่งไม่ซ้ำคันอีกต่างหาก

งานนี้ไม่รู้จะว่ายังไง  รู้แต่ว่าความรักครั้งนี้จะเป็นรักครั้งสุดท้ายของ "เมย์  พิชญ์นาฏ" จริงหรือเปล่า???

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล้วงลึก "สารวัตรโจ้" เจ้าบ่าวโคตรรวยของ "เมย์ พิชญ์นาฏ"

ดูต่อ http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=6&news_id=32699&page=1