กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ประภัทร พูนสิน
ผู้วิเคราะห์อาวุโส
ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

[attach=1]

หากท่านเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกหนี้ที่ถูกสถาบันการเงิน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันการเงิน ติดตามทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ คุกคาม หรือประจาน ควรทราบไว้ว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็น

การละเมิดสิทธิของท่าน และเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ที่
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดไว้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 ซึ่งเนื้อหาสาระกำหนดให้ผู้ติดตามทวงถามหนี้ปฏิบัติ ดังนี้

1.   ในการติดต่อลูกหนี้เพื่อติดตามทวงถามหนี้ ให้ดำเนินการได้ภายในเวลา 8.00 - 20.00 น.
ในวันทำการ และ เวลา 8.00 - 18.00 น. ในวันหยุดราชการ ทั้งนี้ ต้องมีความถี่ในการติดตามที่เหมาะสม

2.   ผู้เรียกเก็บหนี้ต้องแสดงตัวต่อลูกหนี้ โดยแจ้งชื่อและวัตถุประสงค์ในการติดต่อให้ลูกหนี้ทราบ และในกรณีที่ผู้เรียกเก็บหนี้พบกับลูกหนี้โดยตรง จะต้องแสดงเอกสารแสดงตนว่าได้รับมอบหมายจากสถาบันการเงินให้ติดตามทวงถามหนี้ด้วย

3.   ไม่ให้เรียกเก็บหนี้จากบุคคลที่สาม เช่น ญาติพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากลูกหนี้หรือเป็นสิทธิตามกฎหมาย

4.   ต้องไม่ใช้ความรุนแรง ข่มขู่หรือคุกคามลูกหนี้ รวมถึงไม่ใช้ภาษาที่หยาบคาย ดูหมิ่นหรือส่อ
ให้เห็นถึงผลกระทบที่มีลักษณะเป็นการข่มขู่ลูกหนี้หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้

5.   รักษาความลับของลูกหนี้โดยไม่เปิดเผยเกี่ยวกับหนี้สินของลูกหนี้ให้บุคคลอื่นทราบ เช่น ไม่ส่งจดหมายที่มีข้อความหรือสัญลักษณ์อันแสดงให้ทราบว่าลูกหนี้มีหนี้สินโดยระบุไว้ด้านนอกซองจดหมาย

นอกจากแนวปฏิบัติที่ ธปท. ได้กำหนดไว้แล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการของ "ร่างพระราชบัญญัติทวงหนี้ พ.ศ. ..." ซึ่งเป็นการคุ้มครองลูกหนี้ตลอดจน

ผู้ค้ำประกันสินเชื่อ โดยในเนื้อหาได้กำหนดบทลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นโทษปรับ หรือโทษจำคุก ในกรณีที่
ผู้ทวงหนี้ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายในขณะนี้ หากท่านได้รับการปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนด้วยตนเองได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร และที่สำนักงานภาคอีก 3 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1213 แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ธปท. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


--------------------------------------------------------------------------------------
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย