ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จักรทิพย์สั่งล่าไต้ก๋งเรือ ส.นาฎยา 7 ปิดคดีใน 84 วัน ด้านอินโดพอใจเปิดทะเลเเล้ว

เริ่มโดย JaY_SoniC, 17:43 น. 10 เม.ย 57

JaY_SoniC

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 เม.ย. 57 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา เรือโท สมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน นายพันโชติ บุญศิริ และ พ.ต.ท.นิเวศ เด่นนินนาท อัยการฝ่ายสอบสวน 1 ได้ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีกรณีลูกเรือประมง ส.นาฎยา 7 รุมทำร้าย และสังหารทหารเรืออินโดนีเซีย 2 นาย ก่อนโยนศพทิ้งทะเล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 57 ที่ผ่านมา ขณะทำการประมงอยู่ในน่านน้ำอินโดนีเซีย โดยมี นายยูยุน กัมฮายุน รักษาการกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย และ นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมประมงแห่งประเทศไทย รวมทั้งตัวแทนผู้ประกอบการประมงใน จ.สงขลา เข้าร่วมฟังการแถลงด้วย

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่า 2 ทหารเรืออินโดนีเซียมีทั้งหมด 8 คน ซึ่งศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 57 ที่ผ่านมา ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมทั้งคดี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยจับได้แล้ว 7 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นลูกเรือ ส.นาฎยา 7 และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ประกอบด้วย นายศรีไพ สุวรรณประภา อายุ 41 ปี ชาว จ.เชียงราย นายแดง ขันมณี หรือ เดช เกตุแก้ว อายุ 48 ปี ชาว จ.มหาสารคม นายสุธี คีรีภพ อายุ 46 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช นายนัดดา คุ้มเอียด อายุ 41 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี นายลำเพียร คันธี อายุ 42 ปี ชาว จ.อุดรธานี นายสุริวงค์ เชื้อหอม อายุ 37 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ และ นายสรสิทธิ์ โสอินทร์ อายุ 36 ปี ชาว จ.เพชรบุรี นอกจากนั้นมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ยังคงหลบหนี คือ นายโอภาส  เจริญพร อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือ ชาว จ.จันทบุรี และเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทางการอินโดนีเซียต้องการตัวมากที่สุด ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามจับกุม โดยขณะนี้พอทราบเบาะแสแล้ว และขอความร่วมมือไปยังญาติอย่าให้ที่พักพิง เพราะ จะมีความผิด และถูกดำเนินคดีด้วย

พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดอีกเผยว่า ในคดีนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 16 คน โดยร่วมกันลงมือฆ่า 8 คน ส่วนอีก 8 คน มีทั้งลูกเรือประมง ส.นาฎยา 7 ลูกเรือที่รับขึ้นมาโดยสารหลังเกิดเหตุจากเรือทัวร์ลำอื่น แต่ไม่มีส่วนร่วมในการฆ่า ซึ่งถูกแยกดำเนินคดี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในจำนวนนี้มี นายวิชัย หรือ ไต๋วิ ดวงเคน อายุ 41 ปี ชาว จ.บึงกาฬ ไต้ก๋งเรือ ส.ทองมา 3 ซึ่งเป็นผู้ที่รับอาวุธปืนอาก้าของทหารเรืออินโดนีเซียแล้วหลบหนีไป จะถูกดำเนินคดีฐานรับของโจร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ดำเนินคดีกับเจ้าของเรือ ส.นาฎยา 7 ในฐานความผิดทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

ด้าน เรือโท สมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เปิดเผยถึงกระบวนการสอบสวนคดีนี้ว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นเรื่องของการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรไทย แต่ผลการกระทำผิดทำบนเรือไทย จึงเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งได้ส่งอัยการฝ่ายสอบสวนลงมาทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ โดยขณะนี้ได้สอบพยานไปแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและพยานวัตถุ เพื่อให้คดีมีความรัดกุมมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้ประสานกับทางการอินโดนีเซีย เพื่อให้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ดีเอ็นเอของผู้ตาย มาประกอบคดีด้วย แต่กระบวนการสอบสวนจะต้องให้แล้วเสร็จภายในเวลา 84 วัน จากนั้นจึงส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ โดยจะส่งมาดำเนินคดีที่ศาล จ.สงขลา

โดยก่อนการแถลงข่าว นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมประมงแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการประมงใน จ.สงขลา รวมทั้ง นางนาฎยา ทองมา เจ้าของเรือ ส.นาฎยา 7 ได้มอบช่อดอกไม้ให้กับ พล.ต.ท.จักรทิพย์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่สามารถคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งล่าสุดทางการอินโดนีเซียยอมให้เรือประมงไทยที่มีใบอนุญาตถูกต้องเข้าไปทำการประมงในน่านน้ำอินโดนีเซียได้แล้ว ขณะที่ นางนาฎยา เจ้าของเรือ ส.นาฎยา 7 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี จนนำไปสู่การคลี่คลายคดี และจับกุมลูกเรือที่ทำผิดได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียงแต่ไต้ก๋งเพียงคนเดียวเท่านั้น

ขณะที่ นายยูยูน กัมฮายุน รักษาการกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย กล่าวว่า คดีนี้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียให้ความสำคัญ และได้แต่งตั้งรัฐมนตรีขึ้นมาดูแล และประสานงานทางด้านการเมือง และกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียพร้อมที่จะส่งหลักฐานต่างๆมาให้ตามที่ตำรวจไทยร้องขอ เพื่อให้คดีสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียและประชาชนชาวอินโดนีเซียพอใจการทำงานของตำรวจไทยที่สามารถคลี่คลายคดี และจับกุมผู้กระทำผิดได้เกือบทั้งหมด แม้จะเหลือไต้ก๋งอีก 1 คน ก็ตาม

ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวลูกเรือประมงทั้ง 7 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบนเรือ ส.นาฎยา 7 เริ่มตั้งแต่ทหารเรืออินโดนีเซีย 2 นาย พร้อมอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ขับเรือมาเทียบ และขึ้นมาบนเรือ ก่อนที่จะควบคุมเรือ รวมทั้งลูกเรือทั้งหมดเอาไว้ รวมทั้งในตอนที่ นายโอภาส เจริญพร ไต้ก๋ง ได้สั่งการให้ลูกเรือช่วยกันจับทหารเรือทั้ง 2 นาย และลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดยใช้ค้อนตีที่ศีรษะ และแทงเข้าที่บริเวณลำคอ ก่อนที่จะโดยศพลงทะเล และขับเรือหลบหนีมากลับประเทศไทย
/////